ผู้เขียน หัวข้อ: เล่าให้ฟัง civic FC 1.8 E กรุงเทพ - สีเกด 5xx โล  (อ่าน 54281 ครั้ง)

ออฟไลน์ imvile

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 609
เล่าให้ฟัง civic FC 1.8 E กรุงเทพ - สีเกด 5xx โล
« เมื่อ: ธันวาคม 13, 2016, 22:26:50 »
อันนี้เผื่อเป็นประโยชน์ + เป็นความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ ต่อ civic fc 1.8 E ใหม่

เรื่องของเรื่องก็คือ เพื่อนได้รถใหม่ แต่ยังไม่เคยขับทางไกลมาก่อน เลยอาสามาเป็นพลขับ กลับจากรับรถที่กรุงเทพให้ พอพ้นรันอิน ได้ป้ายขาวปุ๊ป ก็ขับกลับปั๊ป

1. Remote start
ใช้ได้จริง กดปุ่มล๊อค แล้วกดปุ่ม start ค้างไว้ ไม่ได้เป็นแค่พัดลมเปล่าๆ แบบ prius มี keyless entry (อันนี้ 3 ล่างไม่มี)

2. Ergonomic
ความแข็งเบาะ เทียบไม่ได้เพราะปรกติ E จะเป็นเบาะผ้า แต่คันนี้ได้หนัง aftermarket

2.1 ตำแหน่งที่นั่งคนขับ ดี 6 ทิศทาง ปรับแมน่วลได้ละเอียด เข็มขัดปรับระดับสูงต่ำได้ ไม่ได้ล๊อกไว้เหมือนพวก B segment ขาดก็แค่ดันหลัง แต่ขับทางไกลก็ไม่เมื่อยมาก พนักพิงศรีษะไม่ได้ดันมาก ขอบเบาะสูงเป็นกึ่งบัคเก๊ตซีท พวงมาลัยไม่ได้ลองปรับ ความยาวเบาะกำลังดี ตำแหน่งเบาะก็พอดีสำหรับ sedan ผมยังเลยพ้นวัยรุ่นมาเล็กน้อย ไม่มีปัญหาเรื่องยันตัวเองขึ้น

2.2 พื้นที่วางแขนด้านหน้าอยู่ในตำแหน่งดี ติก็แค่ หากเลื่อนที่วางแขนตรงกลางขึ้นมาทางด้านหน้า จะเสียที่วางแก้วน้ำไป 1 หลุม

2.3 พื้นที่วางขาของคนขับ ค่อนข้างดีหากยืดเหยียดขาตามปรกติ คอนโซลไม่เบียดเข้ามาเท่า fiesta หรือ focus แต่หากตั้งขันเข่าขวาขึ้นมา ตอนเปลี่บนอริยาบท เข่าจะชนคอนโซลกลาง พวก d seg จะไม่เจอปัญหานี้ อีกเรื่องคือตำแหน่งคันเร่ง กับเบรค ความสูงอยู่ต่างกันเกินไปหน่อย จากคันเร่งย้ายมาเหยียบเบรค ค่อนข้างต้องยกขาขึ้นมาสูง อันนี้ศูนย์น่าจะปรับได้นะครับ ไม่ชัวร์ เลยยังไม่นับเป็นข้อเสีย

2.4 พื้นที่วางแก้วเป็นหลุม ลงไปลึกมากกกกที่สุดเท่าที่เคยเจอ เหมาะกับวางขวดมากกว่าแก้ว ในรูปขนาดใส่แก้ว amazon ทรงสูง ยังจมมิดไปเกือบหมด หยิบยาก ลองใส่แก้ว venti Starbuck หายไปทั้งแก้ว ข้างประตูมีที่วางขวดอีกตำแหน่ง แต่อยู่ในตำแหน่งเอียง วางแก้วไม่ได้อีก


 
2.4 เกียร์ เทียบกับตำแหน่งที่นั่งแล้วสูงไปหน่อย ถ้าเป็นรุ่นเกียร์ธรรมดาอาจมีปัญหาได้ นี่เกียร์อัตโนมัติเลยแล้วไป

2.5 ควบคุมแอร์และเครื่องเสียง รุ่นนี้เป็นแบบจอไม่สัมผัส ปุ่มกดไวดี ปุ่มบนพวงมาลัย สไลด์แบบรุ่น el ขึ้นไปไม่ได้ แต่ไม่มีปัญหา ควบคุมพื้นฐานเลื่อนเพลง ปรับเสียง รับ/วางสายได้ครบ แอร์ออโต้ไม่แยกฝั่ง คลำง่าย เย็นไว แต่เย็นแห้งๆ ไม่มีฮีตเตอร์ ไม่เย็นแบบสบายตัวเท่าแอร์ผสม การต่อ usb ที่ใต้คอนโซลทำได้ยากอย่างที่พี่จิมมี่บอกไว้ ส่วนหนึ่งคือที่ครอบ usb เป็นแบบเปิดข้าง สวิงมาฝั่งข้างคนขับ ดังนั้นผู้โดยสารจะเปลี่ยนไม่ได้ เพราะที่ครอบบัง ชิ้นส่วนนี้ผมว่าไม่จำเป็นเลย หากไม่มีที่ครอบ น่าจะพอคลำแล้วเสียบได้

2.6 เบาะนั่งข้างสบายดี ปัญหาเข่าเหมือนคนขับ

2.7 เบาะหลังพื้นที่วางขาดีมาก เทียบเท่าได้กับ j32 เลยทีเดียว ไม่ได้โม้ (เพราะใช้อยู่) ปรับเบาะแบบ สูง173 ขับ (ผมชอบขับแบบเยียดขาด้วย) มานั่งหลังยังมีพื้นที่วางขาเหลือคืบครึ่ง พัฒนาจาก fb/fd ชัดเจนมาก (2 ตัวนั้นสู้ altis ปีเดียวกันไม่ได้เลย) เบาะเอนกำลังดี ศรีษะหากหลังพิง ก็เฉี่ยวๆ พอมือสอดได้ 2 มือแนวนอน เบาะวางตัวแบบจมลงไป ปีกหนาคล้ายรถขับหลังพวก series 3 / c class แต่ เนื่องจากปีกมันทำด้วยพลาสติก เลยให้สัมผัสที่แย่มากนะจุดนี้ นั่ง 2 คนก็รู้สึกได้ เพราะถ้าวางแขนบนที่วางแชนข้างประตู ศอกจะโดนพลาสติกแข็งพอดี นั่ง 3 คนยิ่งรู้สึก เสียดายจุดนี้จริงๆ

3 เครื่องเสียง 4 ลำโพง สู้ fb ตัวถูกที่ 4 ลำโพงเหมือนกันไม่ได้ ข้อดีของเครื่องเสียง honda คือ ปรับแล้วพอฟังได้ ปรับเบสขึ้นเกือบสุด เสียงยังไม่พร่า เบสออกมาพอให้รู้วึกได้ว่าปรับแล้ว แต่ปรับแหลมเกือบสุดไงก็ไม่ใส คงเพราะแค่ 4 ลำโพง (แต่ fb ให้ 4 ลำโพงที่คุณภาพดีกว่า ส่วน fd นี่กากมาก) รถบางยี่ห้อ (เช่น j32) บิด bass +5 ไปไง ก็ไม่ออกมา การตอบสนองไวใช้ได้ ต่อ iphone ทาง usb สามารถแสดงปกอัลบั้มได้ แต่ยังไม่รองรับ andriod car play ต่อ usb ใส่ note 5 นอกจากไม่เจอแล้วยังไม่ชาร์จอีก ส่วนต่อผ่าน bluetooth ก็ควบคุมเพลงได้ แต่ปกอัลบั้มไม่ขึ้น จะ set bluetooth ต้องรถจอดสนิทก่อน เหตุผลเรื่องความปลอดภัย เครื่องเล่น cd ไม่มี จอยังใช้ font นาฬิกาแบบ fb ไม่สวยเลย แต่ตัวอักษรใหญ่ มองชัด รองรับภาษาไทย เปลี่ยนโหมดกลางคืนง่าย แค่กดสวิตช์รูปพระอาทิตย์/พระจันทร์มุมบนซ้ายสุด ตอนกลางคืนไม่ค่อยแยงตา

4. มาตรวัดความเร็ว เป็นรุ่นธรรมดา แต่ขอบวัดรอบแอบมีสีแดงเหมือน turbo rs ตัวเลขยังขึ้นไม่ไวเท่า volvo ที่เปลี่ยน refresh real time กว่า (อันนี้ผมสงสัย hlm ว่าวัด 0-100 ยังไงเอ่ย?) ตัวเลขใหญ่ เหลือบมองง่าย ไม่มี effect แพรวพราว แต่บอกข้อมูลพื้นฐานใช้ได้ ข้อเสียคือไม่มี elapse time กับ ความเร็วเฉลี่ย ขอบทริมด้วยไฟสีฟ้า แต่ไม่ปรับตามการกดคันเร่งเหมือน fb
ข้อเสียเลยของ fc ทุกรุ่น คือมันมีแถบสีขาว ข้างน้ำมัน และเข็มความร้อน เป็นแถบประดับตกแต่ง เรืองแสงธรรมดา แต่มันกลืน จำเคสรุ่น turbo ที่ฮีตขึ้นในเว็บต้องห้ามได้เลย ตอนแรกผมเพ่งนานมากว่าอันไหน คือขีดวัดความร้อนนะ



5. เครื่องยนต์ อัตราเร่ง ตอนกระแทกออกตัว ไม่กระชากเหมือน 1.8 ใน fb/fd cvt ยังคงมีอาการรอรอบ แต่ไม่ค่อยเย่อ
ช่วง 0-180 ถ้าขับ d seg 2.0 / c seg 1.6-1.8 / b seg มาก่อน จะไม่อึดอัดเลย ตามตัวเลขพี่จิม 10.58 พอเป็นไปได้ จับเองคร่าวๆ นั่ง 5 คน (หนักรวมน่าจะ 280kg) gasohol 95 ได้ 10 วิเศษ

ข้อเสียคือใน fd เวลากดเต็มมันจะรู้สึกถึงความ v tec นิดๆ ยิ่งลากยิ่งแผด fb เป็น soch แต่ก็ยังพอติดนิสัย tech เปิดมาหน่อย แต่พอเป็นเกียร์ cvt แล้ว รู้สึกว่ามันไม่แผด มันไม่ลั่นเลย มันแช่ รู้สึกเหมือนรอบปลายมันไม่ไหลเท่า ทั้งๆที่พื้นฐานเครื่องเดียวกับ fb

6. เกียร์ cvt
ออกตัวก่อนว่าไม่ได้ขับรถเกียร์ cvt ใหม่ๆ นานแล้ว ไม่เคยขับ altis ใหม่ที่มีแต่คนชมเป็นต้น ที่บ้านมี j32 และเคยขับ eco car ของเพื่อน
รู้สึกว่าเป็น cvt นิสัยโอเคร คือ ถ้าสมมติ j32 เรากดเติมคันเร่งเพิ่ม รอบก็จะค่อยกวาดไปรอ เติมเท่าไหร่ ก็ค่อยๆขึ้นเท่านั้น ถ้ากระแทกเต็มเท้า ก็ค่อยกวาดไปแช่ในรอบสูงสุด

แต่ civic มันมีอารมณ์ kick down เป็น step คือ หากเราเหยียบ 20 % แล้วจะแซง เติมคันเร่งเป็น 50% รอบจะกระตุก ไปที่ 4000 รอบทันที อารมณ์เหมือน kick down เกียร์ลงมาเกียร์นึง มากกว่า cvt กวาดไปจุดที่ต้องการ ถ้าเราเติมเพิ่มไปเหยียบ 80% เกียร์ก็จะกระตุกกวาดไปที่ 6500 รอบ อาการเย่อตอนออกตัว หากไม่ได้กดเต็ม 100% ก็รู้สึกไม่ได้มีจังหว่ะเย่อ อืดอาดอะไร แต่ถ้าเหยียบเต็มที่ ก็จะรู้สึกว่าเกียร์มันอมไว้นิดๆ

7. เบรค พอรวมกับตำแหน่งที่สูงกว่าคันเร่งเยอะแล้ว การที่ระยะฟรีมันน้อย เลยเป็นข้อเสียแทน จะเบรคที ค่อนข้างจะต้องจิก เกร็ง
แต่การเบรคโดยรวมถือว่า linear ดี
มีเบรคแบบเกือบกดเต็มไป 1 ครั้ง abs ทำงานได้ไวดี ความเร็วหน่วงลงใช้ได้ รู้สึกความเร็วลดลงแบบเป็นก้อน ทั้งคัน ไม่มีหน้าทิ่ม ไม่มีเป๋ แต่ยาง kumho ไถลแพร๊ดๆ ไปแล้ว ทั้งๆที่กดไม่สุด

8. พวงมาลัย ยังคงเป็นฮอนด้า ที่ mature ขึ้นมาหน่อย คม แต่ไว ค่อนข้างเบาถ้าเทียบกับรถที่ใช้อยู่เป็นประจำ แต่หนักกว่า fb
on center มีพอหนืดกลางให้รู้สึกได้ แต่ไม่มีช่วงระยะฟรีตรงกลาง ขับทางไกล เครียดนิดหน่อย อยากให้มีระยะฟรีนิดๆ กว่านี้

9. ช่วงล่าง ถือว่าทำได้ดีที่ความเร็วต่ำ ผ่านถนนธนะรัตน์เข้าไป จิม ธอมสัน มีช่วงถนนอุกาบาต ถือว่าซับแรงได้ดีกว่าที่คิด

ที่ความเร็วสูง ถือว่านิ่งดี บางช่วงไหลไปถึง 180 ถ้าถนนเรียบ ถือว่านิ่งดี ทริปนี้ไม่ได้เข้าโค้งแรง ไม่ได้แทรก/ปาด (ปรกติก็ไม่ทำ เกลียดพวกนี้) vsa ไม่ได้ทำงาน เลยบอกเรื่องเกาะตอนเข้าโค้งไม่ได้

ที่ทำได้แย่คือ ตอนถนนไม่ดี เป็นลูกคลื่น จะรู้สึกโคลงได้ชัดเจน กับเวลาผ่านสะพาน มันจะมีช่วงรีบาว์นเกินมาครึ่งรอบ คือ พ้นคอสะพาน แทนที่จะยุบลง แล้วหยุดเลย จะมีโมเม้นต์ยุบลงอีกรอบนิดนึง ก่อนจะนิ่ง ถ้าถามผม ก็ต้องตอบว่า f30 รุ่นช่วงล่างธรรมดา ก็คล้ายเจ้านี่เลย

10. เก็บเสียง ไม่ได้ลองรุ่น turbo ที่มีถกเถียงกันว่า วัสดุเหมือนกัน แต่ซับเสียงดีกว่า

แบ่งเป็น
10.1. เสียงเครื่อง แผดกลาง ไม่ทุ้ม แต่ไม่แหลมจนน่าเกลียด ที่ความเร็วเดินทาง ไม่ค่อยได้ยินเสียงเครื่อง แต่ส่วนหนึ่งเพราะที่ cruising speed 110 รอบยังไม่ถึง 2 พันเลย

10.2 เสียงลม ทำได้ดี กว่าจะได้ยินเสียงลอดเข้ามา ก็ 170+

10.3 เสียงช่วงล่าง + ยาง ไม่ค่อยดี ถ้าถามผม ผมว่าดีกว่า fb กระจึ๋งเดียว (ซึ่งนั่นก็ไม่ได้ดีเลย) แต่ผมก็ไม่เคยขับ c seg ตัวอื่นๆเทียบ เคยแต่นั่ง 3 ก็รู้สึกว่าพอๆกัน

11 อัตราสิ้นเปลือง

ไม่ได้จับจริงจัง ไม่ได้คิดจากการเติมน้ำมัน ดูเอาจากคอมพิวเตอร์
ช่วงแรก น้ำมัน e85 เหลือ เซ็ท 0 ขับชานเมือง จากพระราม 2 ออกรังสิต ขับตามการจราจร 60-100 ไปถึงปทุม เปลี่ยนมือ อัตราสิ้นเปลืองหรูมากสำหรับ e85 11.4 km/l
ช่วงสอง เปลี่ยนมือ เติมน้ำมัน gs95  (ยังเหลือ e85 แบบ range วิ่งได้ 40 กว่าโล) ขับแบบตะบี้ตะบัน แต่ไม่ปาด ว่างๆ ก็ขึ้นไป 180 แต่ไม่ค่อยแซง เห็นรถข้างหน้าแต่ไกลก็ผ่อนเอา ไม่เบรกรุนแรง จบทริป จากคอมพิวเตอร์ คำนวณได้ 13.9 km/l เฉียด 14 ไม่เลวเลย เคยกด fiesta ecoboost แบบบู้กว่านี้นิดๆ  ก็ได้ 14 พอๆกัน
ส่วน harrier บู้ไม่เท่านี้ ยังซัดไป 7km/l f30 320i บู้ได้ 11 km/l ส่วน j32 บู้ไม่ไหว

สรุป

ที่ราคาประมาณ 860k ไม่รวมส่วนลด ผมไม่แปลกใจว่าทำไมเจอ civic ใหม่เกลื่อนเมือง หน้าตา อันนี้แล้วแต่ความชอบ แต่ผมว่าไม่น่าเกลียด อาจจะหาความลงตัวของด้านหน้ายากนิดนึง แต่ด้านข้างโอเครแล้ว ด้านหลังหากติดสปอยเล่อร์หน่อยคือจบเลย

ภายใน กว้าง ตำแหน่งเบาะนั่งสบาย อาจจะแหกแข้งขาไม่ได้ ในตำแหน่งคนขับเท่า d seg แต่พื้นที่วางขาเบาะหน้าหลัง กิน d seg gen แล้วไม่ลง ผมว่าในที่สุด civic ก็ชนะ altis ได้ altis อาจจะพื้นที่มากกว่า แต่ตำแหน่งนั่งเหมือนนั่งเก้าอี้นักเรียน ชันๆ ห้อยขาสูง civic ทำใหนึกถึง j32 นั่งแล้วจมๆ ข้อเสียคือปีกข้าง plastic นั่ง 2 คนก็รู้สึกได้

เครื่อง + เกียร์ ถ้าไม่ปล่อยให้ 1.5 turbo ขโมยซีนพ่อบ้านใจกล้า เครื่อง 1.8 + cvt ตัวนี้ set มาได้ไม่เลวแล้ว ไล่ตาม 3 sky ไหว สบายๆ

ช่วงล่าง + พวงมาลัย ฮอนด้าสไตล์ ถ้าทำใจมาก่อน ก็อยู่กับมันได้ ไม่น่าเกลียด

อุปกรณ์ภายในครบพออยู่ได้ keyless push start จอกลาง บลทูธ มาตรวัด mid vsa ถ้าขาดคืออยากได้ side curtain airbag กับ cruise control

ที่ราคา 860 k เพิ่มมาจาก mz2 diesel top มาอีกนิด (ถ้ารวมสีพิเศษ ไม่รวมส่วนลด ก็จบ 800 + k เท่ากัน) ยิ่งทำให้รู้สึกว่าคุ้ม ไม่ต้องแต่งอะไรเพิ่ม ขณะที่ 3 ตัวล่าง จะขาดไปนิดๆ อาจต้องเล่นตัว core แทนถึงพอจะเทียบกันได้

สวัสดี
J32 since 2011
F30 since 2014
W205 since 2019
ACV70 since 2021

ออฟไลน์ PREM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,090
Re: เล่าให้ฟัง civic FC 1.8 E กรุงเทพ - สีเกด 5xx โล
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ธันวาคม 14, 2016, 00:28:49 »
มีเพื่อนใช้อยู่เหมือนกันครับ แต่เป็น 1.8 EL เห็นด้วยหลายประเด็น
- ชอบตำแหน่งนั่งขับ เตี้ยสะใจ เบาะหน้านั่งสบาย การออกแบบภายในแพรวพราว ทั้งจอกลาง จอหน้าปัด
- เบาะหลังเวลานั่ง 3-4 จะไปเบียดพลาสติก มันแข็งๆ ลื่นๆ รู้สึกแย่จริงๆ
- อัตราเร่งดี เกียร์ CVT นี่ตอบสนองใกล้เคียงออโต้ธรรมดาจนไม่รู้สึกรำคาญ (เวลาขับ J32 จะหงุดหงิดกับความเฉื่อยของเกียร์)
- การเก็บเสียงก็เห็นด้วย แต่คิดว่าเสียงเครื่องเวลากดเต็มดังไปหน่อย เสียงยางดังมาก (รุ่น EL ใช้ยาง dunlop) CX-5 ที่เขาว่าดังๆ ยังเก็บเสียงยางได้เงียบกว่า
- ช่วงล่างเห็นด้วย นุ่มไปนิด โคลงไปหน่อย อยากให้เฟิร์ม+แน่นกว่านี้
- เครื่องเสียง 8 ลำโพงรุ่น EL ไม่รู้เพื่อนผมมันตั้งมายังไง (ไม่ได้เข้าไปดู setting) แต่เปิดดังๆ แหลมบาดหู แต่ชอบ Apple Carplay มาก
- อัตราสิ้นเปลืองขับแบบธรรมดาทั่วไป 110-120 แอบกดบ้างสั้นๆ จากเมืองโคราชไปบัวใหญ่ไปๆ มาๆ หลายรอบ ได้ประมาณ 16 เติม E10 95

โดยรวมได้ขับได้นั่งบ่อยๆ แล้วรู้สึกถูกชะตา ถ้ามองรถกลุ่มนี้อยู่คงเลือก Civic แต่คงเป็นรุ่น Turbo รองท็อปเพราะ 1.8 ยังไม่แรงพอ
แล้วอาจจะไปทำช่วงล่างสักนิดให้มันเฟิร์มขึ้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 14, 2016, 00:31:12 โดย PREM »
2014 Mazda CX-5 2.5 S
2016 Volvo XC60 D4 
2019 Honda Jazz RS+
2020 Volvo V60 T8 Inscription
2022 Mazda CX-30 SP

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 22,814
Re: เล่าให้ฟัง civic FC 1.8 E กรุงเทพ - สีเกด 5xx โล
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ธันวาคม 14, 2016, 07:08:35 »
เพื่อนได้รถใหม่ แต่ให้ จขกท ลองขับให้

ผมไม่เคยเจอแบบนี้เลย อยากบ้างจริงๆๆ  ;D ;D

ออฟไลน์ ps000000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,153
Re: เล่าให้ฟัง civic FC 1.8 E กรุงเทพ - สีเกด 5xx โล
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ธันวาคม 14, 2016, 07:49:24 »

อันนี้เผื่อเป็นประโยชน์ + เป็นความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ ต่อ civic fc 1.8 E ใหม่




2.7 เบาะหลังพื้นที่วางขาดีมาก เทียบเท่าได้กับ j32 เลยทีเดียว ไม่ได้โม้ (เพราะใช้อยู่) ปรับเบาะแบบ สูง173 ขับ (ผมชอบขับแบบเยียดขาด้วย) มานั่งหลังยังมีพื้นที่วางขาเหลือคืบครึ่ง พัฒนาจาก fb/fd ชัดเจนมาก (2 ตัวนั้นสู้ altis ปีเดียวกันไม่ได้เลย) เบาะเอนกำลังดี ศรีษะหากหลังพิง ก็เฉี่ยวๆ พอมือสอดได้ 2 มือแนวนอน เบาะวางตัวแบบจมลงไป ปีกหนาคล้ายรถขับหลังพวก series 3 / c class แต่ เนื่องจากปีกมันทำด้วยพลาสติก เลยให้สัมผัสที่แย่มากนะจุดนี้ นั่ง 2 คนก็รู้สึกได้ เพราะถ้าวางแขนบนที่วางแชนข้างประตู ศอกจะโดนพลาสติกแข็งพอดี นั่ง 3 คนยิ่งรู้สึก เสียดายจุดนี้จริงๆ




ตอนผมไปลองนั่ง ผมก็ไม่ชอบนะ แต่ เพื่อนผมมันเป็นสาวก ฮอนด้า ไปลองด้วยกัน มันบอกไม่เห็นรู้สึกไรเลย ผมนี่ขรรมแรง

ออฟไลน์ iamwutdy

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 408
Re: เล่าให้ฟัง civic FC 1.8 E กรุงเทพ - สีเกด 5xx โล
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ธันวาคม 14, 2016, 08:37:31 »
ใช้ 1.5 rs

เครื่องดีจริง แรงและประหยัด ไปเขาใหญ่ขับ 120 และขึ้นวังน้ำเขียว ออกปราจีน ทางเป็นเขา และเร่งแซงบ่อย ยังได้ 17 นิด ๆ (เติมกลับจริง)

ช่วงล่างดีกว่า 1.8 พอควร แต่หน้ายังรู้สึกนิ่มไป จั้มสะพานยังมีเหวอบ้าง ถ้าหนืดกว่านี้จะเยื่ยม

เบาะ สบายดีอย่างว่าง คนนั่งหลังไม่ค่อยบ่นเรื่องพลาสติก เพราะส่วนใหญ่นั่งแล้วหลับทุกราย

ระบบจอและเครื่องเสียงเล่นกับมันได้เยอะ ใช้ andriod auto ได้ ก็สะดวก ปรับเสียงพอได้ เบสมีแต่การไล่เสียง และความแพรวพราวยังไม่ดี

สิ่งสำคัญคือ ข้อเสียของมันผมยอมรับได้ และสามารถพัฒนาภายหลังได้ง่าบ

ใช้มาหมื่นกว่าโลก็ชอบครับ และเลือกไม่ผิด

ออฟไลน์ imvile

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 609
Re: เล่าให้ฟัง civic FC 1.8 E กรุงเทพ - สีเกด 5xx โล
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ธันวาคม 14, 2016, 09:13:05 »
เพื่อนได้รถใหม่ แต่ให้ จขกท ลองขับให้

ผมไม่เคยเจอแบบนี้เลย อยากบ้างจริงๆๆ  ;D ;D

ความสัมพันธ์แบบ symbiosis ครับ ผมได้ลองรถใหม่ เพื่อนได้รถขับไปทำงานที่ตจว (ออกศูนย์กรุงเทพ)
J32 since 2011
F30 since 2014
W205 since 2019
ACV70 since 2021

ออฟไลน์ HHHsung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,332
Re: เล่าให้ฟัง civic FC 1.8 E กรุงเทพ - สีเกด 5xx โล
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ธันวาคม 15, 2016, 09:23:14 »
ใช้มารู้สึกว่าต้องไปต่ออีก 3-4 เรื่อง รองบอยู่
- โช็ค สปริง อยากลอง TEiN ไม่รู้ดีหรือเปล่า
- กระจังหน้า ไม่ชอบโครเมียมเยอะๆ เลย
- เครื่องเสียง ฟร้อนดีๆ ซักตัว
- แมค ยาง ขอบ 17

ออฟไลน์ J_Serie5

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,193
Re: เล่าให้ฟัง civic FC 1.8 E กรุงเทพ - สีเกด 5xx โล
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ธันวาคม 15, 2016, 12:30:59 »
ใช้มารู้สึกว่าต้องไปต่ออีก 3-4 เรื่อง รองบอยู่
- โช็ค สปริง อยากลอง TEiN ไม่รู้ดีหรือเปล่า
- กระจังหน้า ไม่ชอบโครเมียมเยอะๆ เลย
- เครื่องเสียง ฟร้อนดีๆ ซักตัว
- แมค ยาง ขอบ 17

Tein แพงเกินประสิทธิภาพครับ ดูพวก H drive หรือ Silver น่าสนใจกว่าครับ ถ้าเลือก h drive มี option ตัวปรับโช้คไฟฟ้าในห้องโดยสารให้เลือกด้วยครับ ปรับแข็งอ่อนจากในรถได้เลยแค่กดไม่กี่ที

ยางดีๆเลือกตามงบเลยครับ Michelin Pilot sport4 / Goodyear assymetric3 / Hankook V12 evo2

ออฟไลน์ Dark Overlord

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,583
  • Hail to the darkside
Re: เล่าให้ฟัง civic FC 1.8 E กรุงเทพ - สีเกด 5xx โล
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ธันวาคม 15, 2016, 12:59:44 »
ปีกเบาะหลังที่เป็นพลาสติก นั่งแล้วตัวไหลพิงกับประตูไม่ได้ครับ
ต่อให้มี leg room, knee room ดีแค่ไหน ผมไม่เอาแล้ว
หุ้มหนังก็ไม่หาย เพราะมันมีลักษณะลาดๆ เหมือนสไลเดอร์ หุ้มไปก็ได้แค่นุ่ม

ส่วนตัวผมเอาพวก Altis, 3, CX3 (แอบชอบแม้จะเล็ก) ดีกว่าครับ ตัวหลังนี่ แคบ แต่ก็ยังนั่งได้ตามปกติ

แต่วิธีแก้ก็คงพอทำได้มั้งผมว่า
ดึงแผ่นพลาสติกนั่นทิ้งไปเลย
แล้วให้ร้านเบาะขึ้นรูปเบาะใหม่
ไม่รู้ทำได้มั้ย

ส่วนภายนอก สวยมากครับ Civic ตัวนี้

ออฟไลน์ TrentXWB

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 808
  • เมาไม่ขับ ง่วงไม่ขับ
Re: เล่าให้ฟัง civic FC 1.8 E กรุงเทพ - สีเกด 5xx โล
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2016, 14:46:11 »
ขอบคุณที่อุตส่าห์มานั่งเล่าให้ฟังครับ

ว่าแต่เวลาเข้าออกจากรถ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง รู้สึกว่าต้องออกแรงลุกเพื่อยกตัวขึ้นมากไหมครับ ไปดูคันจริงแล้วรถดูเตี้ย + แบนมากเลยครับ

ออฟไลน์ lexus

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,075
Re: เล่าให้ฟัง civic FC 1.8 E กรุงเทพ - สีเกด 5xx โล
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2016, 15:13:06 »
หืมมม แอร์ไม่มีheaterเหรอครับ???

ปล.อยากเอาcvtแบบaltisมาลงในbody civicจริงๆ ไปลองเทียบมา ฟีลลิ่ง1.8cvtคนละเรื่องเลย
altisดูกดแล้วทันใจกว่า (ฟีลลิ่งนะครับไม่ได้จับเวลา)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 21, 2016, 15:16:08 โดย lexus »

ออฟไลน์ Dark Overlord

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,583
  • Hail to the darkside
Re: เล่าให้ฟัง civic FC 1.8 E กรุงเทพ - สีเกด 5xx โล
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2016, 15:37:44 »
หืมมม แอร์ไม่มีheaterเหรอครับ???

ปล.อยากเอาcvtแบบaltisมาลงในbody civicจริงๆ ไปลองเทียบมา ฟีลลิ่ง1.8cvtคนละเรื่องเลย
altisดูกดแล้วทันใจกว่า (ฟีลลิ่งนะครับไม่ได้จับเวลา)

เห็นเขาว่าตัวเทอร์โบมี
แบ่งชนชั้นกันจริงๆ

ออฟไลน์ imvile

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 609
Re: เล่าให้ฟัง civic FC 1.8 E กรุงเทพ - สีเกด 5xx โล
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2016, 21:32:04 »
ขอบคุณที่อุตส่าห์มานั่งเล่าให้ฟังครับ

ว่าแต่เวลาเข้าออกจากรถ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง รู้สึกว่าต้องออกแรงลุกเพื่อยกตัวขึ้นมากไหมครับ ไปดูคันจริงแล้วรถดูเตี้ย + แบนมากเลยครับ

แหะๆ พอดีถ้าเป็นรถเก๋งผมชอบท่านั่งแนวเตี้ยอยู่แล้ว เลยไม่รู้สึกว่ามันลำบากตอนลุกเท่าไหร่ (ก่อนหน้านี้เคยใช้ celica ไฟกลม/นั่ง sirocco บ่อยๆ)
ถ้าให้เดา ก็คงพอๆกับรถเก๋งสมัยก่อนนะแหล่ะครับ

หืมมม แอร์ไม่มีheaterเหรอครับ???

ปล.อยากเอาcvtแบบaltisมาลงในbody civicจริงๆ ไปลองเทียบมา ฟีลลิ่ง1.8cvtคนละเรื่องเลย
altisดูกดแล้วทันใจกว่า (ฟีลลิ่งนะครับไม่ได้จับเวลา)

เห็นเขาว่าตัวเทอร์โบมี
แบ่งชนชั้นกันจริงๆ

ผมลองปรับสุดไปที่ 32c (สูงสุดของคันนี้) แล้วมันยังออกเป็นลมเปล่าๆ ไม่ร้อนอ่ะครับ เลยอนุมานเอาว่าไม่มี
จริงๆ ฮีตเตอร์ไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่ แต่ลมแบบผสม มันเย็นๆ นัวๆ สบายกว่า 5555 ท่อต่อจากเครื่องไม่น่าแพง ไม่น่าลดต้นทุนเลย
J32 since 2011
F30 since 2014
W205 since 2019
ACV70 since 2021

ออฟไลน์ iamwutdy

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 408
Re: เล่าให้ฟัง civic FC 1.8 E กรุงเทพ - สีเกด 5xx โล
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2016, 21:37:32 »
ขอบคุณที่อุตส่าห์มานั่งเล่าให้ฟังครับ

ว่าแต่เวลาเข้าออกจากรถ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง รู้สึกว่าต้องออกแรงลุกเพื่อยกตัวขึ้นมากไหมครับ ไปดูคันจริงแล้วรถดูเตี้ย + แบนมากเลยครับ

แหะๆ พอดีถ้าเป็นรถเก๋งผมชอบท่านั่งแนวเตี้ยอยู่แล้ว เลยไม่รู้สึกว่ามันลำบากตอนลุกเท่าไหร่ (ก่อนหน้านี้เคยใช้ celica ไฟกลม/นั่ง sirocco บ่อยๆ)
ถ้าให้เดา ก็คงพอๆกับรถเก๋งสมัยก่อนนะแหล่ะครับ

หืมมม แอร์ไม่มีheaterเหรอครับ???

ปล.อยากเอาcvtแบบaltisมาลงในbody civicจริงๆ ไปลองเทียบมา ฟีลลิ่ง1.8cvtคนละเรื่องเลย
altisดูกดแล้วทันใจกว่า (ฟีลลิ่งนะครับไม่ได้จับเวลา)

เห็นเขาว่าตัวเทอร์โบมี
แบ่งชนชั้นกันจริงๆ

ผมลองปรับสุดไปที่ 32c (สูงสุดของคันนี้) แล้วมันยังออกเป็นลมเปล่าๆ ไม่ร้อนอ่ะครับ เลยอนุมานเอาว่าไม่มี
จริงๆ ฮีตเตอร์ไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่ แต่ลมแบบผสม มันเย็นๆ นัวๆ สบายกว่า 5555 ท่อต่อจากเครื่องไม่น่าแพง ไม่น่าลดต้นทุนเลย

เบาะ Civic เตี้ยจริงครับ ฟังจาก review เมืองนอกเค้าบอกว่า ตำแหน่งการขับเดียวกับ Audi TT

ออฟไลน์ sidlv

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 202
    • อีเมล์
Re: เล่าให้ฟัง civic FC 1.8 E กรุงเทพ - สีเกด 5xx โล
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: ธันวาคม 28, 2016, 08:54:54 »
สำหรับผมถ้า civic gen นี้ ต้องกัดฟันเล่น 1.5 turbo ไปเลย

ขับ fd 1.8 มาหลายปี เลยทำใจซื้อ 1.8 เครื่องเดิม + CVT ไม่ได้  :-\

Moowan

  • บุคคลทั่วไป
Re: เล่าให้ฟัง civic FC 1.8 E กรุงเทพ - สีเกด 5xx โล
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: มกราคม 22, 2018, 13:24:35 »
ใช้ 1.5 Turbo RS อยู่ครับ ชอบมากครับ ใช้ paddle shift ได้ทั้งตำแหน่งเกียร์ D และ S คันเก่าเป็น FD ปี 2007 จะใช้ paddle shift ต้องโยกมาที่ S

ผมปรับเบาะให้ตรงจุดที่รองขาพับยกขึ้นสูง แล้วปรับพนักพิงให้ตั้งค่อนข้างตรง พบว่าทำให้เบาะโอบตัวดีมาก นั่งขับไกลๆก็ไม่เมื่อยครับ เพลินมาก