ผู้เขียน หัวข้อ: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech  (อ่าน 14907 ครั้ง)

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
« เมื่อ: มกราคม 13, 2017, 08:47:01 »
ผมนั่งมองกล่องสายไฟและคอมพิวเตอร์ที่ปรกติมันจะอยู่ที่ท้ายรถสักคันเวลาผมขับ แต่ตอนนี้มันถูกวางกองนิ่งๆมานานแล้ว นานจนผมลืมไปแล้วว่าครั้งสุดท้ายที่หยิบมันมาใช้กับรถตัวเองนั่นมันเมื่อไหร่นะ

ส่วนตัวผมเอง ใช้รถปีละราวๆ7หมื่นกิโลเมตร เดินทางต่างจังหวัดทุกสัปดาห์ ขับแบบเรื่อยๆ ถนนเพชรเกษม กาญจนา พหล มิตรภาพ เอเซียบ้างประปราย รถยนต์เป็นสิ่งที่ผมเรียกว่าขาดไม่ได้ละ ทำแบบนี้มา9ปีแล้ว รวมระยะทางของทุกคันที่ขับเข้าด้วยกัน ก็ราวๆ 6แสนกว่าโล เงินเติมน้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิดเฉพาะการณ์นี้1ล้านหน่อยๆ

ที่ผ่านมาช่วงแรกๆผมใช้พวกรถไฮเทค ไฮเทคที่ว่า มีตั้งแต่เล็กๆน้อยๆอย่างระบบไฟแสงสว่าง ระบบควบคุมเบรค กุญแจKeyless go กลอนประตูแสนซับซ็อน หลังคาไฟฟ้า กล่องควบคุมสารพัดสารพัน เท่าที่จะถูกยัดลงไปได้ในรถคันนึง

แต่สองปีมานี้รถส่วนตัวทีีผมใช้ประจำจะมีCamry ACV 40ตัวไร้ออพชั่น กุญแจไขสตาร์ทอายุ10ขวบ, NewBeetle 2.0ที่อยู่กับผมมา16ปีกับNissan March สองคัน ที่ซื้อป้ายแดงกับมิอสองมา

ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดในสองปีมานี้คือ ไม่ต้องต่อคอมแบบฉุกเฉิน ไม่ต้องพกกุญแจสำรองไร้สายเพราะไม่มีระบบนั้น ไม่ต้องสั่งอะไหล่นอกประเทศแพงๆ ไม่ต้องปีนออกทางหน้าต่างเวลากลอนเสีย หรือปีนออกท้ายรถและที่สำคัญ ไม่ต้องขึ้นยานแม่กลับบ้านตอนสี่ห้าทุ่ม และความน่าเบื่อน่ารำคาญเวลาต้องรื้อรถเอากล่องโง่ๆตัวนึงออกมาซ่อม  เวลาไฟโน่นไฟนี่โชว์ ทั้งๆที่รถก็ไม่ได้เก่าสิบปียี่สิบปี มันช่างดี๊ดีอะไรแบบนี้ ขับรุถแบบไร้กังวล

ผมเชื่อว่าคนที่มีประสพการณ์ขึ้นยานแม่เพียงเพราะอุปกรณ์ไฮเทคโง่ๆตัวนึงเสียจนขับไม่ได้ จะเข้าใจดีว่าเป็นอย่างไร

ไม่รู้ว่าผู้ผลิตรถยนต์จะเข้าใจไหมนะเวลาคนซื้อรถไปใช้ เอนจอยกับอุปกรณ์ไฮเทคได้ไม่นานแล้วพาเอารถเสียกลางทางมันเหนื่อยหน่ายขนาดไหน

เสียงเล็กๆที่ไม่ได้ขอให้ใครเข้าใจครับ ไม่ได้มาโน้มน้าวให้ใครเปลี่ยนรถ ทราบดีว่าคงมีประสพการณ์ต่างกันไป ดีบ้างแย่บ้าง  แชร์ประสพการณ์ให้ฟัง อาจจะไม่พอใจใครก็ขออภัยกดปิดกระทู้ลืมๆไปว่าไม่ได้อ่านแล้วกัน ใครใช้ดีอยู่พอใจอยู่ก็ไม่ผิดอะไรครับ ต่างกรรมต่างวาระ วิถีชิวิตก็ต่างกัน ใครชอบอะไรพอใจอะไรต่าง/ปก็ไม่แปลกครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 14, 2017, 20:46:52 โดย Jae »

ออฟไลน์ Ty ESC

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,786
Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มกราคม 13, 2017, 08:55:24 »
เข้าใจดีเลยครับ

นี่เป็นสาเหตที่ ที่บ้านยังมีปาเจโร่ อายุยี่สิบกว่าปี จอดอยู่
ขับได้ตลอด แค่จั้มแบต น้ำมันไม่หมด บังไงก็สตาร์ทติด

น่าไว้ใจกว่า รถใหม่ๆเยอะ

ออฟไลน์ เต๋า AV

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,393
Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มกราคม 13, 2017, 08:55:54 »
ระบบไฟฟ้ามาก ปัญหายิ่งมากตาม
ผมน่าจะเป็นเหมือน จขกท. ระบบไฟฟ้าแค่ระบบความปลอดภัย ที่เพียงพอ
ไม่ต้องเยอะจนไร้สาระ แบบนักวิจารณ์ ต้องการ

ออฟไลน์ ps000000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,772
Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มกราคม 13, 2017, 09:00:49 »
ก็มีส่วนครับ  :D

ออฟไลน์ dht_tubes

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,641
    • อีเมล์
Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มกราคม 13, 2017, 09:08:07 »
เชื่อได้ว่าคนไทยส่วนใหญ่ในประเทศเรา ที่ไม่ได้มีรายได้มากมาย

คิดเหมือนกับท่าน จขกท.ครับ รถกระบะเจ้าตลาดที่โดนค่อนขอดว่ากั๊กออปชั่นโน่นนี่นั่น จึงขายดีมาตลอด

คนวิจารณ์รถเค้าก้อทำมา หาเลี้ยงปากท้องเช่นกัน

สุดท้ายเลือกรถที่เหมาะกับจริตเรา วัตถุประสงค์ตรงการใช้งานที่สุด เน้นความปลอดภัยน่าจะดีสุดแล้ว อย่างน้อยก้อสำหรับผมคนนึงละครับ

ออฟไลน์ Krongbun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,408
    • อีเมล์
Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มกราคม 13, 2017, 09:08:14 »
 :) ที่บ้านยังใช้ Honda dream รุ่นคุรุสภา อยู่เลยครับ
ที่เคยซ่อมมีแค่ท่อไอเสียรั่วกับเปลี่ยนหัวเที่ยน แล้วก็พวกผ้าเบรค
แค่นั่นเอง  8) 8) 8) เออ ตลกดี

ล่าสุดพี่ชายพ่อขับรถเครื่องคาร์บู (Toyota corolla carburetor)
ไปดับกลางอากาศ ไขนู่นขยับนี่ ติดใช้ได้เฉย
เออ ถ้าไม่คิดเรื่องประหยัดน้ำมัน มันก็ดีเลยน้ะ

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,338
Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มกราคม 13, 2017, 09:17:44 »
อันนี้ผมเรียกทุกข์ของคนรวย คือรถที่คนใช้น้อย เสียใจจุดที่ไม่มีใครคาดคิด เสียงบ่นไม่มีน้ำหนัก คนอื่นไม่เข้าใจเราเพราะเค้าก็ไม่ได้ใช้ แต่ตัวรถภาพลักษณ์ดี ยิ่งมากกระแทกจิตใจ แล้วเค้าก็มามองว่า ขนาดนั้นเชียวเหรอ ไม่น่าจะนะ ซวยมั๊ง

ออฟไลน์ HLRx

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,278
    • อีเมล์
Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มกราคม 13, 2017, 09:27:24 »
ผมขอใช้รถ hi tech ต่อไป เพราะ คันหนึ่ง 120,000 กม. อีกคันหนึ่ง 140,000 กม. ไม่เคยมีปัญหาอะไรแบบ จขกท. เพราะผมดูแลถึง นั่นคือ เข้าศูนย์ตามระยะ แพงกว่าหน่อย แต่ไม่มาสร้างปัญหาให้เราภายหลัง

ออฟไลน์ Pegasus7700

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,815
Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มกราคม 13, 2017, 09:31:23 »
ผมไม่มีปัญหาแบบนั้น. เพราะไม่ปล่อยให้รถมีคงามเสี่ยงแบบนั้น
ชิวิตใช้รถ Europe, Japan อุ่นใจสุด

ส่วน USA แค่เสียวเฉยๆ มี transmission mulfuntion แค่2คร้ง แต่อยุ่ในเมือง หึๆๆ
...ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป...

MERCEDES BENZ W212 '12
FORD FOCUS 2.0 Gdi '13
HONDA Civic RS '20
VOLVO XC60 Hybrid Inscription '19
FORD EVEREST 2.0 Bi Turbo '22

ออฟไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,950
    • อีเมล์
Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: มกราคม 13, 2017, 09:52:08 »
ระบบรถสมัยนี้ เค้าก็ทำให้ยุ่งยาก จริงๆอย่างว่าแหละครับ

นี่ล่าสุด มาสด้า2 skyactiv แบ็ตเสื่อม ไฟเตือนว่าแบ๊ตเสื่อมโชว์ ทั้งๆที่มันยังใช้ได้ดีอยู่ ไปวัดค่าต่างๆคือ ถ้ารถทั่วๆไปนี่ ขับต่อได้อีกเกือบปี แต่มาสด้าไม่ได้ ไม่เปลี่ยนคือไฟมันก็ไม่หาย ....

สุดท้ายไปเปลี่ยนมา แต่ไปเปลี่ยนนอก ไฟก็ไม่หาย ต้องกลับมาให้ศูนย์เคลียร์โค๊ดให้ ทางศูนย์แจ้งว่า ถ้าเปลี่ยนนอกจะไม่มีการเคลียร์โค๊ด ไฟจะยังโชว์ และเสียค่าเคลียร์โค๊ดไป 120 บาท ....

บางที เทคโนโลยีล้ำๆ แต่การดูแลรักษา ออกแนว จุกจิกเล็กๆ ก็น่าเบื่อนะ .....

ออฟไลน์ ภูมิใจไหม?

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,144
  • SNK vs Playmore
Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: มกราคม 13, 2017, 09:55:51 »
รถที่ไฮเทค มีฟังชั่นแปลก ๆ

มันไม่เหมาะกับคนมีรถหลาย ๆ คันสลับกันไปมาแบบคุณ Jae นะครับ อิอิ

ออฟไลน์ NoName__???

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,145
Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: มกราคม 13, 2017, 09:56:15 »
มีอยู่คันรถยุค 2000 ขับสบายไม่จุกจิก มีระบบเตือนเท่าที่จำเป็น เตือนเบรคหมด มีเกจ์วัดความร้อน มีเตือนน้ำปัดน้ำฝนหมด ประหยัดเท่า Eco Car แต่แรงกว่ารถหลายๆคัน เราเลยยังใช้คันนี้ต่อไป

ออฟไลน์ prai

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,154
Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: มกราคม 13, 2017, 10:00:20 »
ผมก็ติดใจ Camry 2.4 นะ ผมว่ามันตอบโจยท์อะไรได้หลายๆ อย่าง ถึงไม่สุด แต่เพียงพอกับการใช้ชีวิต เครื่องแรง แอร์หนาว นั่งค่อนข้างสบาย ที่สำคัญทนมาก  นี่ถ้า Lexus ราคาไม่โดดไปจากรถยุโรป ผมคงซื้อมาลองแล้วล่ะว่ามันทนแบบ Camry มั้ย

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,423
    • อีเมล์
Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: มกราคม 13, 2017, 10:01:43 »
ระบบรถสมัยนี้ เค้าก็ทำให้ยุ่งยาก จริงๆอย่างว่าแหละครับ

นี่ล่าสุด มาสด้า2 skyactiv แบ็ตเสื่อม ไฟเตือนว่าแบ๊ตเสื่อมโชว์ ทั้งๆที่มันยังใช้ได้ดีอยู่ ไปวัดค่าต่างๆคือ ถ้ารถทั่วๆไปนี่ ขับต่อได้อีกเกือบปี แต่มาสด้าไม่ได้ ไม่เปลี่ยนคือไฟมันก็ไม่หาย ....

สุดท้ายไปเปลี่ยนมา แต่ไปเปลี่ยนนอก ไฟก็ไม่หาย ต้องกลับมาให้ศูนย์เคลียร์โค๊ดให้ ทางศูนย์แจ้งว่า ถ้าเปลี่ยนนอกจะไม่มีการเคลียร์โค๊ด ไฟจะยังโชว์ และเสียค่าเคลียร์โค๊ดไป 120 บาท ....

บางที เทคโนโลยีล้ำๆ แต่การดูแลรักษา ออกแนว จุกจิกเล็กๆ ก็น่าเบื่อนะ .....

ลองเอา OBD ต่อกับมือถือ ไปลองดูมั้ยครับ

ออฟไลน์ rojsak2021

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,196
    • อีเมล์
Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: มกราคม 13, 2017, 10:02:42 »
อีซูซุเป็นตัวเลือกที่ดีเลย ไม่ค่อยมีอะไร Hi-tech กว่าจะใส่ cruise control มาให้แทบจะกราบ 5555

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,423
    • อีเมล์
Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: มกราคม 13, 2017, 10:03:38 »
Vigo  MT ตัวล่าง นี ่Low Tech มั้ยครับ
ใช้มา 60000 โล โครตแฮปปี้

ขับเร็วก็ไม่ได้
ขับช้าก็ไม่ดี
กินน้ำมัน ปกติ

ชีวิตมีความสุขมาก  ขับคนเดียว
ล่าสุดก็เอามันไป ขึ้นดอยมา

ออฟไลน์ CJ.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,946
Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: มกราคม 13, 2017, 10:10:46 »
ผมเชื่อว่าคนที่มีประสพการณ์ขึ้นยานแม่เพียงเพราะอุปกรณ์ไฮเทคโง่ๆตัวนึงเสียจนขับไม่ได้ จะเข้าใจดีว่าเป็นอย่างไร

ประโยคนี้ใช่มากๆ ขึ้นยานแม่เพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง และสำหรับผมที่เจ็บพอๆกันคือ ล้างอย่างดีเตรียมตัวเอาออกไปวิ่ง แต่ดันสตาร์ทไม่ติดซะงั้น
2005 Jaguar XJ Super V8
2005 Mercedes-Benz C230 Kom. Sports Coupe
2011 Aston Martin DBS
2013 Jaguar XJL 5.0 V8 Portfolio
2017 Lexus RX200t Premium
2019 Honda CR-V 2.4S
2019 Bentley Continental GT W12
2021 Lexus IS300h Luxury
2021 Mercedes-Benz GLE 350de 4MATIC Exclusive
2021 Porsche 911 Carrera S

ออฟไลน์ Smile

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 51
Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: มกราคม 13, 2017, 10:23:16 »
อ่านเจ้าของกระทู้โพส ผมนึกถึง แต่รถอีซูซูเลย low tech แต่คนนิยมยาวนาน

ออฟไลน์ @MIN

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 475
  • Life is beautiful
Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: มกราคม 13, 2017, 10:25:34 »
สูงสุด คืนสู่สามัญ

ทุกๆ เรื่องในชีวิต เป็นธรรมดา ของคนที่ได้ลองมาหมดทุกอย่าง .. สุดท้ายแล้ว จะชอบอะไรที่เรียบง่าย ไม่วุ่นวาย ..
I have enough of making money. Now I want to make time.

ออฟไลน์ lexus

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,240
Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: มกราคม 13, 2017, 10:41:57 »
ผมมีประสบการณ์ขึ้นยานแม่แบบโง่ๆอยู่ครั้งนึง
จอดรถไว้ในบ้านจู่ๆวันรุ่งขึ้นสตาร์ทไม่ติด ไม่มีเสียงไดสตาร์ทอะไรเลย

เราก็นึกว่าECUพัง เลยเรียกยานแม่พาไป0
สรุปมดขึ้นกล่องรีเลย์ รีเลย์เสีย

*ค่ารีเลย์หลักร้อย **ค่ายานแม่หลักพัน TT

ออฟไลน์ turbofever

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 576
    • อีเมล์
Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: มกราคม 13, 2017, 10:46:14 »
เพราะคนจะซื้ออยากได้ไงครับ  ถ้าเจ้าไหนไม่มี ลูกค้าก็มองว่ากั๊ก มองว่าไม่เท่ไม่ทันสมัย พาลขายไม้ได้อีก

ผมต้องการรถที่มีแค่แอร์แบคกับABS พอ อย่างอื่นไม่จำเป็น  ถ้ารถไม่ใช่ยี่ห้อหายบ่อย กันขโมยไฟฟฟ้าก็ไม่จำเป็น  เสียทีแบตหมดที วุ้นวายชะมัด

ออฟไลน์ tommaris

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 561
    • อีเมล์
Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: มกราคม 13, 2017, 10:47:44 »
สำหรับคนที่ใช้รถเยอะมากๆ จะเข้าใจว่ารถใช้งาน กับรถขับเล่น
อย่างตัวผมมีความจำเป็นที่ต้องใช้รถในการทำมาหากินในช่วงปีกว่ามานี้
ที่ใช้งานแบบถวายหัวให้ผมเลยคือ vios 07 E M/T
ปีที่ผ่านมาวิ่งเกือบแสนโล ขึ้นเหนือ อีสาน กลาง ใต้ (ทั่วไทยเว้นตะวันออก)
หลักๆ คือเติมน้ำมัน (โซฮอล 91) กับถ่ายน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ (หมื่นโล เกินถึง 15000บ้างถ้าไม่ว่าง)
หัวเทียนหัวละ 60, กรองแอร์ (มีตั้งแต่ 80 บาท) กรองเครื่อง กรองอากาศ
ผ้าเบรคยังหนา จานไม่เคยเจียร์ ยางติดรถวิ่งไป 6 หมื่นกว่า ชุดปัจจุบันวิ่ง 8 หมื่นแล้วมั๊ง (ล้อเดิม ไซส์เดิม)
เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ กับกรองเบนซินตอนแสนโล เปลี่ยนเพราะอยากให้ชัวร์ตามระยะ
ช่วงล่างเปลี่ยนแค่ลูกหมากกันโคลงมั๊ง คู่ 700 เพราะล้างรถแล้วล้วงเข้าไปเจอคราบจารบี

ออฟไลน์ e:smart Hybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,705
Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: มกราคม 13, 2017, 10:59:39 »
เห็นด้วยคับ

ออฟไลน์ meeuwarn

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 938
Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: มกราคม 13, 2017, 11:03:59 »
แต่สองปีมานี้รถส่วนตัวทีีผมใช้ประจำจะมีCamry ACV 40ตัวไร้ออพชั่น กุญแจไขสตาร์ทอายุ10ขวบ,

รุ่นนี้ตอบโจทย์คนใช้งานเลยครับ ไม่เสียง่ายๆ เพราะไม่มีอะไรให้เสีย นั่งสบายด้วย หน้าตาก็ ok 8)

ออฟไลน์ rega

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 388
Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: มกราคม 13, 2017, 11:06:31 »
ใช้รถLow Tech ก็ดีครับ ไม่จุกจิก ดูแลรถตามคู่มือ ถึงเวลาเปลี่ยนตามระยะทาง

ไม่เคยงอแง ไม่มีเสียกลางทาง ใช้มาสิบกว่าปี ระบบช่วยเหลือน้อย ระบบไฟฟ้ามีเพียงแสงสว่างครับ
มีเงาไม่มีตน

ออฟไลน์ Dark Overlord

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,804
  • Hail to the darkside
Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: มกราคม 13, 2017, 11:10:08 »
สำหรับคนที่ใช้รถเยอะมากๆ จะเข้าใจว่ารถใช้งาน กับรถขับเล่น
อย่างตัวผมมีความจำเป็นที่ต้องใช้รถในการทำมาหากินในช่วงปีกว่ามานี้
ที่ใช้งานแบบถวายหัวให้ผมเลยคือ vios 07 E M/T
ปีที่ผ่านมาวิ่งเกือบแสนโล ขึ้นเหนือ อีสาน กลาง ใต้ (ทั่วไทยเว้นตะวันออก)
หลักๆ คือเติมน้ำมัน (โซฮอล 91) กับถ่ายน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ (หมื่นโล เกินถึง 15000บ้างถ้าไม่ว่าง)
หัวเทียนหัวละ 60, กรองแอร์ (มีตั้งแต่ 80 บาท) กรองเครื่อง กรองอากาศ
ผ้าเบรคยังหนา จานไม่เคยเจียร์ ยางติดรถวิ่งไป 6 หมื่นกว่า ชุดปัจจุบันวิ่ง 8 หมื่นแล้วมั๊ง (ล้อเดิม ไซส์เดิม)
เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ กับกรองเบนซินตอนแสนโล เปลี่ยนเพราะอยากให้ชัวร์ตามระยะ
ช่วงล่างเปลี่ยนแค่ลูกหมากกันโคลงมั๊ง คู่ 700 เพราะล้างรถแล้วล้วงเข้าไปเจอคราบจารบี

ใช่ครับ เพื่อนผมเป็นเจ้าของธุรกิจด้วยวิ่งหาลูกค้าเองด้วย
จัด Altis ตัวที่แล้วแบบไม่สนรุ่นอื่นเลย แล้ว upgrade ช่วงล่างแบบ
one make race เลย ลงไปเป็นแสน บอกทำแล้วขับดีกว่า Focus เยอะ
วิ่งทั่วประเทศแป้ปๆ หลายแสนโล ไม่ต้องกังวลว่ารถจะไปเจ๊งที่ไหน ทนมาก
แถมเกาะยังกับตุ๊กแก พี่แกวิ่ง 150 อัพตลอด
ส่วนรถครอบครัวใช้ Pajero sport ไว้วิ่งในเมือง  ;D

ออฟไลน์ Trigger-Happy

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 383
  • I am different
Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: มกราคม 13, 2017, 11:39:28 »
นี่คือเหตุผลหนึ่งที่ผมไม่สนใจออพชั่น จะดูแค่เครื่องแรง ช่วงล่างดี เน้นขับมัน ขับสนุก นอกนั้นวิทยุจะเป็นแบบหมุนหาคลื่น แอร์ลูกบิด หรือกระจกมือหมุนก็รับได้ ;)
รถทุกคันดูดีเมื่อมีผมขับ

ออฟไลน์ ภูมิใจไหม?

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,144
  • SNK vs Playmore
Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: มกราคม 13, 2017, 11:42:47 »
นี่คือเหตุผลหนึ่งที่ผมไม่สนใจออพชั่น จะดูแค่เครื่องแรง ช่วงล่างดี เน้นขับมัน ขับสนุก นอกนั้นวิทยุจะเป็นแบบหมุนหาคลื่น แอร์ลูกบิด หรือกระจกมือหมุนก็รับได้ ;)

กระจกไฟฟ้าโคตรจำเป็นเลยครับ ตอนที่จะเปิดกระจกฝั่งคนนั่งน่ะครับ

ถ้าไม่มี ผมจะรับไม่ได้สุด ๆ

ออฟไลน์ alpha14

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,109
Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: มกราคม 13, 2017, 11:55:47 »
บางทีขับรถที่ไฮเทคมากๆระบบอะไรเยอะไปหมด บางครั้งก็จิตตก ยิ่งได้ข้อมูลในเน็ตมากมายเมื่อไหร่จะถึงคิวเรา วิตกต่างๆนาๆยิ่งไปไกลตจว.นี่กลัวตายกลางทางมาก ยิ่งค่าซ่อมแพงหูฉี่นี่ทำให้นอยด์ไม่น้อย ทำให้บางครั้งรถที่กลางๆไม่ฟลูออฟชั่นขับแล้วสบายใจกว่าจริงๆ

ออฟไลน์ TrentXWB

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 831
  • เมาไม่ขับ ง่วงไม่ขับ
Re: ชีวิตดี๊ดีเมื่อหันมาใช้รถLow Tech
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: มกราคม 13, 2017, 11:59:11 »
ตามนั้นครับ

มาร์ชประจำผม S M/T ไฟฟ้าในรถมีแค่ไฟหน้าปัด กับไฟเก๋ง

ไฟข้างนอกมี ไฟหน้า ไฟเบรก ไฟเลี้ยว แค่นั้น

เวลาจอดรถแอ๊วสาวลำบ๊ากลำบาก ต้องเอื้อมไปหมุนกระจก อายสาวเลยครับ  ;D ;D ;D