ผู้เขียน หัวข้อ: จากกรณีของ Nissan รู้สึกไหมคับว่าการทำรถ Eco car เฟส 2 ยากพอสมควรเลย  (อ่าน 5711 ครั้ง)

ออฟไลน์ e:smart Hybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,705
สวัสดีครับ

จากกรณีของ Nissan Note ที่ตอนแรกบอกว่า จะเข้า Eco car เฟส2 แต่.................
...........พอเปิดตัวมาจริงๆ กลายเป็น Eco car เฟส1 เหมือนเดิมไป

 :'( :'(ความน่าสนใจของ Note หายไปทันทีในสายตาผม เพราะผมคิดว่านิสสันจะสามารถจูน Note ให้ใช้เครื่องเดิมของ March โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ประหยัดและ CO2 ต่ำกว่า 100 จนเข้า เฟส 2 ได้
พอมันกลายเป็น เฟส 1 มันทำให้ตัวเครื่อง ไม่ได้ต่างอะไรจาก March ปี 2010 ผมเลย เผลอๆ วิ่งกันจริงๆ Note อาจกินกว่าเพราะน้ำหนักตัวเยอะกว่าเป็นร้อยกิโลกรัม

มามองดู แสดงว่า ความตั้งใจของนิสสัน ที่ทำเจ้า Note ไม่ได้อยากใช้ภาษีเฟส 1 แต่เนื่องจากจูนรถให้เข้า เฟส 2 ไม่ได้ เลยต้องใช้ประทานบัตรส่งเสริมการลงทุนตัวแรกไปก่อน (ไม่มีวันหมดอายุ)

หลังจากนั้นในตัวถัดไปของ March Almera และ Note จะใช้ของเฟส 2

ผมขอสรุป แนวทางการทำรถ Eco car เฟส 2 เท่าที่ผมเห็นภาพนะคับ ว่า ค่ายรถจะทำรถในลักษณะไหนที่จะเข้า Eco car เฟส 2 ได้ ดังนี้
1. ทำรถน้ำหนักเบา เครื่อง 3 สูบ 1.0-1.2 ลิตร ตัวรถจะเป็น 4 หรือ 5 ประตูก็ได้ แต่ต้องหนักไม่เกิน 1000 กิโลกรัม เช่น Mitsubishi Mirage and Attract เคลมว่าตัวเอง สามารถทำรถ เฟส 2 ได้ตั้งแต่ตัวปัจจุบัน คือ ได้ Co2 ที่ต่ำกว่า 100 โดยไม่ต้องใช้เครื่องฉีดตรง หรือ turbo เข้าช่วยเลย

2. ทำรถขนาด B-car ปกติ น้ำหนักเกิน 1000 กิโลกรัมได้ แต่ต้องใช้เครื่องยนต์รุ่นใหม่ เช่น หัวฉีดตรง ใน Mazda 2 1.3 หรือ turbo ตัวเล็ก (อาจจะทั้งเบนซินหรือดีเซล) ใน Mazda 2 diesel

ส่วนตัวผมชอบแบบ เบอร์ 1 นะครับ เพราะในข้อ 1 เรายังได้ใช้เครื่องหัวฉีดที่ท่อไอดี มีวาล์วแปรผันฝั่งไอดี ซึ่งไม่ซับซ้อน ดูแลง่ายและชอบบุคลิกของ 3 สูบที่แรงบิดรอบต่ำๆ กำลังดีกว่าในเครื่อง 1.2 4 สูบ (ผมขอเทียบเจ้า march กับยาริสนะครับ เจ้าอื่นไม่รู้)

ข้อ 2 ผมกลัวในเรื่องของราคา จะไปไกลกว่า 6 แสน และกลัวเรื่องเครื่องฉีดตรงหรือ turbo ที่อาจต้องดูแลมากกว่า

อยากให้ทุกท่านแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันครับ ว่ารู้สึกกันไหมว่า การทำรถ Eco car เฟส 2 ดูยากกว่าเฟสแรกมาก และท่านอยากให้ค่ายรถเอาเครื่องและตัวถังแบบข้อ 1 หรือ 2 มาขายครับ

ปล...อยากให้รถในเฟส 2 ค่ายรถเหลือรถในกลุ่ม ข้อ 1 ไว้บ้าง ที่เป็นรถ Economy and ecology car จริงๆ เน้นราคาไม่แพงเกิน (3 แสนปลายๆ - 5 แสนกลางๆ ไม่เกิน 6 แสน) และไม่ใช้เทคโนโลยีที่อาจจะจุกจิกในอนาคต โดยเฉพาะเครื่อง turbo ครับ (เปิดทางให้กับคนที่ไม่อยากได้เครื่อง turbo บ้างครับ)

โดยเฉพาะ Toyota ถ้าทำได้อยากให้เอา รถเก๋ง 4 ประตู ที่ไดฮัสสุ ทำให้กับ perodua มาขายแทน Yaris และ Vios ที่เฟส 2 ราคาน่าจะ 5 แสนปลายๆ - 7 แสนกว่าๆ แน่ๆ ครับ

ออฟไลน์ ซิ่งเข้าส้วม

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,150
มันก็ต้องปรับตัวตามโลกครับ ที่มันไม่ผ่านเพราะใช้เทคโนโลยีเก่า 7 ปีมาแล้ว เอาจริงๆ เมืองนอกก็มีเครื่องที่มันผ่านได้แต่ไม่เอาเข้ามาทำด้วยอาจจะเหตุผลด้านต้นทุนการผลิตหรืออะไรก็ตาม

ประเด็นคือเครื่องต้องใหม่กว่าตอนนี้ การลากเทคโนโลยีข้ามเจนมันก็ไม่สมควรที่จะผ่านอยู่แล้ว เพราะประหยัดไม่จริง ตรงนี้เราต้องพัฒนานะครับ ไม่งั้นป่านนี้เราก็ยังใช้เครื่องคาบูเรเตอร์อยู่ ถ้าเราไม่เริ่มใช้เทคโนยีใหม่ๆ จนมันเป็นมาตรฐานแล้วล่ะก็มันจะไม่มีวันถูก แล้วเราก็จะย่ำอยู่กับที่ด้วย

ผมว่ามันไม่ได้ยากมากหรอกครับ 100 g/km เอาเครื่องฉีดตรง 1.0-1.2 ลิตรมาใส่รถขนาด 1 ตันมันทำได้อยู่แล้ว มาสด้า 2 ที่เห็นเล็กๆ นั้นก็ไม่ได้เบามากนะครับ หนัก 1038 เบากว่า Almera แค่ 9 kg เท่านั้นเอง

ออฟไลน์ Weetting

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,971
  • ช่วงล่าง+เครื่องยนต์
ถ้ารถที่จะเข้าเงื่อนไข Eco Phase2   ผมว่ามันค่อนข้างยากเลยนะ  โดยเฉพาะ  Fuel consumption   ที่ว่าไว้  4.3/100 Km    และ  Co2  > 100G/KM

ทำให้ไม่ผลิตเครื่องที่เจ๋งจริงก็เป็น เครื่องแบบใหม่ (ฉีดตรง เทอร์โบ หัวฉีดคู่  แคมแปรผัน  พักลูกสูบ)    หรือไม่ก็เครื่องแบบเก่าลดน้ำหนักรถเอา 

ฉะนั้นเทคโนโลยีที่มากับรถต้องไฮเทคนิดนึงแล้วไปลดต้นทุนพวกวัสดุเอา   หรือไปลงทุนกับพวกสร้างวัสดุที่เบาแต่แข็งแรงแทน 

ซึ่งการทำทั้งสองอย่างนี้ก็แลกมาด้วยต้นทุนอย่างเลี่ยงไม่ได้ ฉะนั้นจะมาหวังให้ราคามันถูกคงเป็นไปได้ลำบาก(Case Mazda2)  หรือหากเป็นไปได้ที่จะมีรถทั้งราคาถูก ซ่อมบำรุงถูกและประหยัดน้ำมัน  คันมันก็ต้องเล็กลงและให้เทคโนโลยีเก่าให้ดีที่สุด   แล้วผลลัพธ์มันจะกลายเป็นรถที่เราๆท่านๆด่ากกันทุกวัน ว่ามันอืดบ้าง ออกมาไม่ได้ดีบ้าง  วัสดุเกรดต่ำบ้าง  คันเล็กนั่งกันไหล่เบียดบ้าง     :-X :-X
THE Manual Gearbox Preservation Society
Drive diesel until last day

ออฟไลน์ 6162002

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,089
มันก็ต้องปรับตัวตามโลกครับ ที่มันไม่ผ่านเพราะใช้เทคโนโลยีเก่า 7 ปีมาแล้ว เอาจริงๆ เมืองนอกก็มีเครื่องที่มันผ่านได้แต่ไม่เอาเข้ามาทำด้วยอาจจะเหตุผลด้านต้นทุนการผลิตหรืออะไรก็ตาม

ประเด็นคือเครื่องต้องใหม่กว่าตอนนี้ การลากเทคโนโลยีข้ามเจนมันก็ไม่สมควรที่จะผ่านอยู่แล้ว เพราะประหยัดไม่จริง ตรงนี้เราต้องพัฒนานะครับ ไม่งั้นป่านนี้เราก็ยังใช้เครื่องคาบูเรเตอร์อยู่ ถ้าเราไม่เริ่มใช้เทคโนยีใหม่ๆ จนมันเป็นมาตรฐานแล้วล่ะก็มันจะไม่มีวันถูก แล้วเราก็จะย่ำอยู่กับที่ด้วย

ผมว่ามันไม่ได้ยากมากหรอกครับ 100 g/km เอาเครื่องฉีดตรง 1.0-1.2 ลิตรมาใส่รถขนาด 1 ตันมันทำได้อยู่แล้ว มาสด้า 2 ที่เห็นเล็กๆ นั้นก็ไม่ได้เบามากนะครับ หนัก 1038 เบากว่า Almera แค่ 9 kg เท่านั้นเอง

เห็นด้วยครับ ผมยังแอบหวังให้มันขายไม่ดี  นิสสันจะได้ไปปรับปรุงให้มันผ่านซะ (รู้สึกนิสสัน ไม่ค่อยลงทุนเลย  ใช้เครื่องเก่าลากขาย) - -

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,051
จูนไม่ผ่าน อ่อนแอก็แพ้ไปครับ

ออฟไลน์ Rock N' Rolla

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 309
ความรู้สึกของผมนะ Noteเหมือนยำมาขายจริงๆ มองเผินๆไม่มีอะไรใหม่เลยนอกจากพวงมาลัยกับบอดี้

ออฟไลน์ ps000000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,772
ทำใจครับ รอดูยอดขายละกัน

ออฟไลน์ Fong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,012
  • Make a Choice and Don't Look Back
    • อีเมล์
ผมว่ารถ 2 คันนี้มันรวมกันไม่ได้ครับ

1. รถราคาประหยัด
2. รถที่ประหยัดน้ำมัน รักษาสิ่งแวดล้อม ระบบความปลอดภัยครบ

คือถ้าจะเอาประหยัด ก็ต้องกดต้นทุนทุกอย่างให้ต่ำหมด เครื่องที่ต้นทุนการผลิตไม่แพง ค่า R&D ไม่แพง ตัวรถบางราคาถูก

ถ้าจะเอาประหยัดน้ำมันด้วย co2 ต่ำด้วย ระบบความปลอดภัยครบด้วย สรรถนะดีด้วย ขับดีด้วยอีกต่างหาก มันก็จะแพงครับ อย่าง Mazda2 Diesel

เหมือนที่มีคนกล่าวไว้ว่า "ราคาถูก" "ผลิตงานได้ไว" "คุณภาพสูง"  ทั้งสามอย่างนี้จะไม่ได้ในคราวเดียวกัน จะได้แค่ 2 อย่าง และจะเสียไป 1 อย่างเสมอ
Isuzu มังกรทอง, Accord G4, Colorado, Hilux Tiger, Lancer MK I, Triton, D-Max Cab4, TiiDA, Mazda2 MK I, Mazda2 MK II, D-Max Space, Fortuner, Sunny B14, Jazz GK, Accord G9, Mazda2 Sky, GLA200, Yaris, Alphard30, Lancer MK II, Lander MK III, Ranger MC, XL7, Forester SK

ออฟไลน์ Nikle_pk

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,678
เครื่อง 1.2 ใน march มันไม่ได้ประหยัดเลยนะครับ
ผมใช้อยู่ กินพอๆเครื่อง 1.5 แหละ แต่อืดกว่าเยอะ
My Review !!! New Vellfire 2.5ZG Edition !!!
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=44242.0

ออฟไลน์ Dark Overlord

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,804
  • Hail to the darkside
อย่างที่คุณรถสีเขียวสรุปคำตอบไว้ในคำถามอยู่แล้วครับ
คือ ควรเข้าเฟส 2 โดยที่มีทั้งรถประหยัดน้ำหนักเบาเทคโนโลยี่พื้นฐานราคาถูก
และรถที่นำหน้าด้านเทคโนโลยี่เครื่องยนต์จัดเต็มแบบ Mazda 2
ซึ่งค่ายรถทั่วไปถ้าไม่มีเครื่อง 1.5 เทอร์โบดีเซล ก็ต้องมีเครื่อง 1.5 เบนซิน
ประจำการอยู่ต่อไปครับ

ออฟไลน์ คุณพ่อหาเงิน

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 101
ขอ E-Power เลยครับ :-*

ออฟไลน์ Dark Overlord

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,804
  • Hail to the darkside
ขอ E-Power เลยครับ :-*

ควรอย่างแรง Nissan Thailand อย่างเกิด
ต้องหัดลงทุนแบบ Mazda ครับ หรือจะไปลงทุนที่อินโด มาเลย์ก็ได้
แล้วนำเข้ามาขาย CX5 ประกอบมาเลย์ยังดีงระเบิด

คำถามคือ Nissan ลงทุนอะไรเด่นๆ ในภูมิภาคนี้บ้าง
เห็นที่ยุโรปจัดหนักเหลือเกิน

ออฟไลน์ VORA

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 382
eco car 2....ดูแล้วยากมากๆเลยครับแทบไม่มีโอกาสในโลกแห่งความจริงที่ประเทศไทยเลย
รถต้องขนาดB car ห้ามตำ่กว่านี้,เครื่องประหยัด,แรง,ราคาไม่เกิน 550,000 ,ค่ามลพิษผ่าน,
ต้องหรู....spec นี้ ตัวtop B car ชัดๆ ถ้าเป็นรถmodel ใหม่นี่นึกภาพไม่ออกจริงๆ เหมือนตัวเลข
ภาษียังมาไม่สุด พอกดเครื่องคิดเลข  E power เลย ฟาว

ภาษีสำหรับรถมลพิษตำ่มากกก(รถไฟฟ้า) มาได้แล้วครับ ไม่งั้น eco 2 ไม่น่ารอด

อยากมีรถราคาถูกที่ทุกคนเข้าถึงได้  มาจากการออกแบบ วิศวกรรม Demand ตลาดจริง..

(ไม่เอา Demand เทียมนะ)


ออฟไลน์ inoros

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 125
เครื่องของนิสสันมีครับHR12DDR(1.2DIG-S)ที่ผ่านเรื่องemission
ขนาดรถก็เป็นปัญหาเรื่องน้ำหนักครับ ต้องลดขนาดตัวรถลงมา
 nissanในไทยยอดขายก็ไม่ได้ดี รุ่นหลังๆอัดออฟชันมาเยอะแต้ขายไม่ได้ ในแง่ธุรกิจมันก็ไม่คุ้มลงทุนมากๆเท่าไรละครับ

ออฟไลน์ Noncyclopedia

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,200
ขายไม่ออกหรอกครับ

ออฟไลน์ MUK

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,999
ผมว่านิสสันต้องกล้ามากกว่านี้ครับ

ออฟไลน์ e:smart Hybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,705
eco car 2....ดูแล้วยากมากๆเลยครับแทบไม่มีโอกาสในโลกแห่งความจริงที่ประเทศไทยเลย
รถต้องขนาดB car ห้ามตำ่กว่านี้,เครื่องประหยัด,แรง,ราคาไม่เกิน 550,000 ,ค่ามลพิษผ่าน,
ต้องหรู....spec นี้ ตัวtop B car ชัดๆ ถ้าเป็นรถmodel ใหม่นี่นึกภาพไม่ออกจริงๆ เหมือนตัวเลข
ภาษียังมาไม่สุด พอกดเครื่องคิดเลข  E power เลย ฟาว

ภาษีสำหรับรถมลพิษตำ่มากกก(รถไฟฟ้า) มาได้แล้วครับ ไม่งั้น eco 2 ไม่น่ารอด

อยากมีรถราคาถูกที่ทุกคนเข้าถึงได้  มาจากการออกแบบ วิศวกรรม Demand ตลาดจริง..

(ไม่เอา Demand เทียมนะ)

ผมว่าสุดท้าย โดยราคาพวก B-car ที่ตีตั๋วเด็กก็จะขายราคาเท่ากับ B-car 1.5 เดิมๆ นะครับ

และอาจเป็นโอกาสของพวก Sub-B car เช่น Celerio หรือ March Mirage และ A-sedan แบบ Brio amaze ที่จะมีที่ยืนในตลาดได้ด้วยราคาที่เป็นกลุ่ม Eco car เดิมครับ

แอบหวังในใจให้ค่ายรถเอา A-car sedan เข้ามาครับ

ผมว่ารถ 2 คันนี้มันรวมกันไม่ได้ครับ

1. รถราคาประหยัด
2. รถที่ประหยัดน้ำมัน รักษาสิ่งแวดล้อม ระบบความปลอดภัยครบ

คือถ้าจะเอาประหยัด ก็ต้องกดต้นทุนทุกอย่างให้ต่ำหมด เครื่องที่ต้นทุนการผลิตไม่แพง ค่า R&D ไม่แพง ตัวรถบางราคาถูก

ถ้าจะเอาประหยัดน้ำมันด้วย co2 ต่ำด้วย ระบบความปลอดภัยครบด้วย สรรถนะดีด้วย ขับดีด้วยอีกต่างหาก มันก็จะแพงครับ อย่าง Mazda2 Diesel

เหมือนที่มีคนกล่าวไว้ว่า "ราคาถูก" "ผลิตงานได้ไว" "คุณภาพสูง"  ทั้งสามอย่างนี้จะไม่ได้ในคราวเดียวกัน จะได้แค่ 2 อย่าง และจะเสียไป 1 อย่างเสมอ

ใช่ครับ ต้องแยกกัน เป็น 2 รูปแบบ แต่อยากให้ค่ายรองๆ เลือกแบบ 1 มากกว่า เพราะยังไงก็สู้ค่ายหลักไม่ได้หรอกคับ

อย่างนิสสันนี่คือ ตัวอย่างเลย

ออฟไลน์ Staples

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,668
ไม่กล้าลงทุน เสี่ยง ก็ตายไป ดู mazda 2 ลงทุนทำ ecophase 2 โดยตรงทั้งเครื่อง 1.5 ดีเซลและ เบนซิล 1.3 ดูยอดขายซะก่อน เขี่ย nissan mitsu ร่วงลงมาละ ความแฟร์ ความฝจถึงมันต่างกัน

ออฟไลน์ Barracuda

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,395
ผมยังเชื่อว่า nissan ยังไม่อ่อนแอ และไม่แพ้ ไม่งั้นคงไม่ยืนมาได้ขนาดนี้ ที่บ้านเขาเองก็ไม่ได้เป็รองใครเลยนะครับ

ออฟไลน์ xman2029

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,350
    • อีเมล์
พูดตามตรง ชื่อเสียงของ mazda ในไทย ก่อนนำเครื่อง 1.3 และ 1.5 ในมาสด้า 2 มาไทยไม่ค่อยดีเท่าไรโดยเฉพาะด้านความประหยัด ถูกจัดเป็นอันดับท้ายๆเลย แต่ mazda ไทย กล้าเสี่ยงเดิมพันครั้งใหญ่ แล้วผมเป็นไง จากอันดับท้ายๆตอนนี้ มาเป็นอันดับต้นๆ ถ้า mazda สามารถปรับปรุงห้องโดยสารให้ใหญ่กว้างกว่าเดิมเอาให้ได้สัก 90% ของเจ้าตลาด ได้ ผมว่าสู้กับเจ้าตลาดได้สบายๆ

ออนไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,634
ถ้าบอกให้ Nissan ทำเครื่องยนต์ใหม่เลิกใช้เกียร์ สหกรณ์   ต้นทุนคงสูงขึ้นอีกบาน  ลูกค้า NiSSAN เองก็คงรับราคาที่เพิ่มขึ้นมาได้ยาก        อย่าบอกนะว่าจะซื้อคนบ่นคงไม่ไ่ด้ซื้อ    คนซื้อคงไม่ได้มาบ่นในนี้เท่าไหร่หรอกมั้ง 
             หลายคนอยากได้เครื่องดีเซล   เอาเข้าจริงจะมีรถยี่ห้อไหนติดตลาดเท่ากับ Mazda 2 ที่ทำราคาเก๋งดีเซลขาย 7 แสนกว่าบาทแล้วขายได้มั่ง           ค่ายรถยนต์ใหญ่ ๆ ไม่มีใครกล้าทำเลยราคาค่ายใหญ่ทำทะลุ 8 แสนแน่

ออฟไลน์ e:smart Hybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,705
ถ้าบอกให้ Nissan ทำเครื่องยนต์ใหม่เลิกใช้เกียร์ สหกรณ์   ต้นทุนคงสูงขึ้นอีกบาน  ลูกค้า NiSSAN เองก็คงรับราคาที่เพิ่มขึ้นมาได้ยาก        อย่าบอกนะว่าจะซื้อคนบ่นคงไม่ไ่ด้ซื้อ    คนซื้อคงไม่ได้มาบ่นในนี้เท่าไหร่หรอกมั้ง 
             หลายคนอยากได้เครื่องดีเซล   เอาเข้าจริงจะมีรถยี่ห้อไหนติดตลาดเท่ากับ Mazda 2 ที่ทำราคาเก๋งดีเซลขาย 7 แสนกว่าบาทแล้วขายได้มั่ง           ค่ายรถยนต์ใหญ่ ๆ ไม่มีใครกล้าทำเลยราคาค่ายใหญ่ทำทะลุ 8 แสนแน่

ผมขอแค่หัวฉีดคู่ก็พอแล้วครับ

ออฟไลน์ HOMY_DEMIO

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,821
    • อีเมล์
ทำให้ผ่านเฟส 2 ไม่ยากหรอกครับ เพราะเดี๋ยวมันก็มา

แต่ผลิตให้ได้ปีละ 1 แสนคัน ตั้งแต่เริ่มผลิตอีโคคาร์เฟส 1 ในช่วงปีที่ 5-8 มันยากมากกกกกกกกกกก

Nissan ยื่นลงทุนการผลิตอีโคคาร์เฟส 1 ไป 3 รุ่นครับ
และการมี Note มาคือจะทำให้ Nissan สามารถผลิตอีโคคาร์เฟส 1 ปีที่ 5-8
ได้ 1 แสนคันตามที่รัฐฯบังคับครับ


ออฟไลน์ mothsan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,559
ผมรู้สึกว่านิสสัน ไม่จริงจิงเท่าไหร่ ภายในก็เอาของเดิมมาใช้ เครื่องก็ไม่ลงงบจูนให้ผ่าน เพราะรู้สึกว่าผ่านต้องลงทุนเยอะ
แค่ลองๆ ขายไปก่อน  ของจริง March ใหม่โน้น พอมาร์ชจูนผ่าน ค่อยเอาเครื่องมาใช้กับ Note minorchange

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,338
ผมว่าไม่ยาก แต่ไม่ทำ
ใครว่าต้นทุนเยอะ แต่ผมว่าไม่เยอะมาก แค่เยอะกว่าไม่มี

ถ้าคิดจะผลิตรถสักคัน มัวคิดแต่ต้นทุนมากเกินไป สุดท้ายมันก็พาลขายไม่ได้แทน ส่วนตัวผมไม่เรียกว่าต้นทุน แต่ผมเรียกว่าเสน่ห์ดึงดูดมากกว่า

ชื่อยี่ห้อ ความเชื่อถือไม่ดีมากอยู่แล้ว จะมาคิดค่าโน่นนี่นั่นเยอะ เดี๋ยวก็รู้

ออฟไลน์ Dark Overlord

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,804
  • Hail to the darkside
ผมว่าไม่ยาก แต่ไม่ทำ
ใครว่าต้นทุนเยอะ แต่ผมว่าไม่เยอะมาก แค่เยอะกว่าไม่มี

ถ้าคิดจะผลิตรถสักคัน มัวคิดแต่ต้นทุนมากเกินไป สุดท้ายมันก็พาลขายไม่ได้แทน ส่วนตัวผมไม่เรียกว่าต้นทุน แต่ผมเรียกว่าเสน่ห์ดึงดูดมากกว่า

ชื่อยี่ห้อ ความเชื่อถือไม่ดีมากอยู่แล้ว จะมาคิดค่าโน่นนี่นั่นเยอะ เดี๋ยวก็รู้

ใช่ครับ ผมว่าคิดผิดผลิตรถตลาดๆ บางรุ่นนี่เรื่องใหญ่กว่า
เช่น Pulsar, Celerio, Brio เป็นต้น ทำมาขายได้ยังไง
สู้เอาเงินมาทำเครื่องหรือระบบเจ๋งๆ ที่มีอยู่ในต่างประเทศตอนนี้ดีกว่า
ได้ทั้งการตลาด ได้ทั้งภาพลักษณ์

สามรุ่นที่ว่าไป ในค่ายรถมันไม่มีผู้เชี่ยวชาญที่มีตาดีๆ มองหรือยังไง
ว่าคนไทยไม่ชอบ หน้าตา รูปทรง แบบนี้ เหมือนหลับตาจิ้มมาขาย
Pulsar ที่จริงก็พอโอเค แต่ราคาออกตัวแรงมากไป กับยึดติดโชว์
มูนรูฟเป็นจุดขาย ซึ่งคนสนใจน้อยมาก  :-\

ออฟไลน์ Dark Overlord

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,804
  • Hail to the darkside
พูดตามตรง ชื่อเสียงของ mazda ในไทย ก่อนนำเครื่อง 1.3 และ 1.5 ในมาสด้า 2 มาไทยไม่ค่อยดีเท่าไรโดยเฉพาะด้านความประหยัด ถูกจัดเป็นอันดับท้ายๆเลย แต่ mazda ไทย กล้าเสี่ยงเดิมพันครั้งใหญ่ แล้วผมเป็นไง จากอันดับท้ายๆตอนนี้ มาเป็นอันดับต้นๆ ถ้า mazda สามารถปรับปรุงห้องโดยสารให้ใหญ่กว้างกว่าเดิมเอาให้ได้สัก 90% ของเจ้าตลาด ได้ ผมว่าสู้กับเจ้าตลาดได้สบายๆ

ตอนนั้นเหมือนมาสด้าเริ่มเอะใจครับ
ว่าทำไมตัวเองไม่ใช่แบรนด์ตลาด เครื่องก็ไม่ได้แรง ไม่ได้ประหยัด
แต่ทำยอดขายได้โอเคเป็นกอบเป็นกำ มีคนตอบรับในดีไซน์ และไม่ได้
รังเกียจตัวแบรนด์ พอมองขาดแบบนั้นก็ทุ่มจัดหนักมาทันที ผลคือสำเร็จ

ส่วนนิสสันคือมาจะดีกับเทียน่า แต่เผอิญเทียน่าไม่ใช่ dna ของรถทุกรุ่น
ของนิสสัน ไม่เหมือนมาสด้าที่มี dna ของทุกรุ่นเหมือนกัน มันจับทางง่ายกว่า
เทียน่าก็มาเปลี่ยนแนวอีก จบกันเลยทีเดียว

คราวนี้จะมาเน้น eco car ควรจะสอย Yaris ให้ร่วงให้ได้ครับ
โมเดล Yaris killer นี่ต้องมาเลย ทำมาโดยเฉพาะ เหมือน Vios/Yaris
ที่ทำมาเพื่อแก้เกม City/Jazz ไม่ต้องไปเอาโมเดลญี่ปุ่นมา แต่ปรากฎว่า
เลือก Note มา ซึ่งเป็นรุ่นที่สร้างมาเพื่อสู้กับ Jazz ที่ญี่ปุ่น ผมเลยสงสัยว่า
มันจะมาสู้กับ Yaris ยังไง และราคาก็ไม่ได้ประกบ Yaris แต่ไปทับกับพวก Jazz
เหมือน Ciaz ที่เปิดตัวมาปุ๊ป บอกว่าจะแข่งกับ City ผมนี่งงเลย ทำไมไม่ไปแข่ง
กับ Almera ตลาดก็ช็อคไปพักนึงตอนเปิดตัว

ยังดี Ciaz กลับมาได้ เพราะมันสวยจริง ยอดเลยมาตอนเดือนหลังๆ ผมยังเชียร์
MG5 ว่าให้ยอดมาได้ เพราะมันดูดีจริง หลายคนก็แอบชอบ แต่ยังไม่กล้าจัด เพราะ
แบรนด์กับเครื่องที่ยังไม่เจ๋งเท่าไหร่


ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,435
เฟส2 ของ Nissan ก็คงเป็น March แหละครับ มาใหม่ทั้งคัน

อีกอย่างกฎเรื่อง eco car เฟส1 มีเรื่องจำนวนการผลิตด้วยนะครับ ผมไม่แน่ใจว่า แต่ละยี่ห้อ ผลิตกันไปถึงไหนแล้ว ถึงที่รัฐบาลบังคับหรือยัง และถ้ายังไม่ถึง จะเป็นยังไง โดนค่าปรับมั๊ย

ออฟไลน์ imvile

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 623
ผมว่าอย่ากลัวทับไลน์กันเลยครับ

ถ้า march เน้นขับสนุก ไม่สนใจพื้นที่ เลือกเครื่องยนต์มาดีๆ กับ note เน้นอรรถประโยชน์ใช้สอย

mz2 กับ jazz ยังขายได้ ทำไม nissan จะต้องกลัวแย่งลูกค้ากันเอง มีโปรดักที่ดีทั้งคู่อยู่ในมือแล้วแท้ๆ
J32 since 2011
F30 since 2014
W205 since 2019
ACV70 since 2021

ออฟไลน์ delete

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,963
    • อีเมล์
ผมเดาว่า นิสสันจะปรับมาร์ช อัลมิร่า (ซึ่งอยู่ในช่วงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนโมเดลเสียที) ให้ลงไปอยุ่ในอีโคคาร์เฟส2 ครับ โดยทำราคาให้ขายต่ำกว่าโนต