สวัสดีครับ
จากกรณีของ Nissan Note ที่ตอนแรกบอกว่า จะเข้า Eco car เฟส2 แต่.................
...........พอเปิดตัวมาจริงๆ กลายเป็น Eco car เฟส1 เหมือนเดิมไป
ความน่าสนใจของ Note หายไปทันทีในสายตาผม เพราะผมคิดว่านิสสันจะสามารถจูน Note ให้ใช้เครื่องเดิมของ March โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ประหยัดและ CO2 ต่ำกว่า 100 จนเข้า เฟส 2 ได้
พอมันกลายเป็น เฟส 1 มันทำให้ตัวเครื่อง ไม่ได้ต่างอะไรจาก March ปี 2010 ผมเลย เผลอๆ วิ่งกันจริงๆ Note อาจกินกว่าเพราะน้ำหนักตัวเยอะกว่าเป็นร้อยกิโลกรัม
มามองดู แสดงว่า ความตั้งใจของนิสสัน ที่ทำเจ้า Note ไม่ได้อยากใช้ภาษีเฟส 1 แต่เนื่องจากจูนรถให้เข้า เฟส 2 ไม่ได้ เลยต้องใช้ประทานบัตรส่งเสริมการลงทุนตัวแรกไปก่อน (ไม่มีวันหมดอายุ)
หลังจากนั้นในตัวถัดไปของ March Almera และ Note จะใช้ของเฟส 2
ผมขอสรุป แนวทางการทำรถ Eco car เฟส 2 เท่าที่ผมเห็นภาพนะคับ ว่า ค่ายรถจะทำรถในลักษณะไหนที่จะเข้า Eco car เฟส 2 ได้ ดังนี้
1. ทำรถน้ำหนักเบา เครื่อง 3 สูบ 1.0-1.2 ลิตร ตัวรถจะเป็น 4 หรือ 5 ประตูก็ได้ แต่ต้องหนักไม่เกิน 1000 กิโลกรัม เช่น Mitsubishi Mirage and Attract เคลมว่าตัวเอง สามารถทำรถ เฟส 2 ได้ตั้งแต่ตัวปัจจุบัน คือ ได้ Co2 ที่ต่ำกว่า 100 โดยไม่ต้องใช้เครื่องฉีดตรง หรือ turbo เข้าช่วยเลย
2. ทำรถขนาด B-car ปกติ น้ำหนักเกิน 1000 กิโลกรัมได้ แต่ต้องใช้เครื่องยนต์รุ่นใหม่ เช่น หัวฉีดตรง ใน Mazda 2 1.3 หรือ turbo ตัวเล็ก (อาจจะทั้งเบนซินหรือดีเซล) ใน Mazda 2 diesel
ส่วนตัวผมชอบแบบ เบอร์ 1 นะครับ เพราะในข้อ 1 เรายังได้ใช้เครื่องหัวฉีดที่ท่อไอดี มีวาล์วแปรผันฝั่งไอดี ซึ่งไม่ซับซ้อน ดูแลง่ายและชอบบุคลิกของ 3 สูบที่แรงบิดรอบต่ำๆ กำลังดีกว่าในเครื่อง 1.2 4 สูบ (ผมขอเทียบเจ้า march กับยาริสนะครับ เจ้าอื่นไม่รู้)
ข้อ 2 ผมกลัวในเรื่องของราคา จะไปไกลกว่า 6 แสน และกลัวเรื่องเครื่องฉีดตรงหรือ turbo ที่อาจต้องดูแลมากกว่า
อยากให้ทุกท่านแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันครับ ว่ารู้สึกกันไหมว่า การทำรถ Eco car เฟส 2 ดูยากกว่าเฟสแรกมาก และท่านอยากให้ค่ายรถเอาเครื่องและตัวถังแบบข้อ 1 หรือ 2 มาขายครับ
ปล...อยากให้รถในเฟส 2 ค่ายรถเหลือรถในกลุ่ม ข้อ 1 ไว้บ้าง ที่เป็นรถ Economy and ecology car จริงๆ เน้นราคาไม่แพงเกิน (3 แสนปลายๆ - 5 แสนกลางๆ ไม่เกิน 6 แสน) และไม่ใช้เทคโนโลยีที่อาจจะจุกจิกในอนาคต โดยเฉพาะเครื่อง turbo ครับ (เปิดทางให้กับคนที่ไม่อยากได้เครื่อง turbo บ้างครับ)
โดยเฉพาะ Toyota ถ้าทำได้อยากให้เอา รถเก๋ง 4 ประตู ที่ไดฮัสสุ ทำให้กับ perodua มาขายแทน Yaris และ Vios ที่เฟส 2 ราคาน่าจะ 5 แสนปลายๆ - 7 แสนกว่าๆ แน่ๆ ครับ