ผู้เขียน หัวข้อ: HR-V กับ CX-3 ควรจะขยับตัวอย่างไรบ้างกับการมาถึงของ C-HR?  (อ่าน 10159 ครั้ง)

ออฟไลน์ GoatGoat

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 895
Re: HR-V กับ CX-3 ควรจะขยับตัวอย่างไรบ้างกับการมาถึงของ C-HR?
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2017, 22:24:50 »
ผมนี่ขาย Juke ทิ้งรอ CH-R แล้วครับ เอาไว้เป็นรถสำรองแต่งขำๆขับเล่น เส้นสายออกแบบได้แรงดี
หลังๆผมว่าดีไซน์ Honda ทำมาจับกลุ่มผู้หญิงยังไงไม่รู้

ออฟไลน์ Dark Overlord

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,804
  • Hail to the darkside
Re: HR-V กับ CX-3 ควรจะขยับตัวอย่างไรบ้างกับการมาถึงของ C-HR?
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2017, 22:45:50 »
รอดู CHR ในไทยว่าจะได้เครื่องยนต์แบบไหน 1.8 Hybrid 122 PS หรือ NA 2.0 144 PS ไม่ต้องห่วง HRV กับ CX3 หรอกครับ เพราะ HRV โกยยอดไปเยอะแล้ว ส่วน CX3 ก้อแคบเกิน คนเลยแห่ไปซื้อ HRV ซะเยอะ

http://www.autoexpress.co.uk/toyota/c-hr/97695/new-toyota-c-hr-hybrid-2016-review
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน 72.4mpg (25.62 กิโลเมตร/ลิตร)

ถ้า TMT เอาเครื่อง hybrid เข้ามา คงน่าสนใจเพราะประหยัดกว่า eco car แต่มองในอีกแง่คนไทยกลัวเครื่อง hybrid เพราะอะไหล่แพง ราคาตกฮวบๆ ส่วนอัตราเร่งก็จะเป็นรอง Honda HRV 0-100 10.62 วินาที แต่ใน web autoexpress บอกว่า C-HR 0-62 mph = 11 วินาที พอวิ่งในไทยเจออากาศร้อนๆคงได้ตัวเลขประมาณ 11 วินาทีกว่า พอๆกับ Subaru XV  :-\

ถ้า Hybrid มา
บอกได้คำเดียว
ไม่ดังไปเลยก็ดับไปเลยยาวๆ แบบไม่มีลุ้นครับ 555
และเมื่อนั้น อาจได้เห็นเครื่องธรรมดาอื่นๆ ตามมา อาจจะ 1800 เพื่อกู้สถานการณ์
ผมว่าคนยังสนเครื่อง 1800 แบบทั่วๆ ไปแบบ HRV มากกว่านะครับ Honda ถึง
เลือกมาใส่แบบว่ามองขาดและไม่สนใจเครื่องขนาด 1500, 2000 เลย

ถ้า TMT กล้าโฆษณาว่า C-HR hybrid วิ่งทางไกลได้ 25 โลลิตร น่าจะขายดีนะครับ ตัวแปรอยู่ที่เครื่องยนต์และราคาขาย  :P

นั่นแหล่ะครับ ผมว่าไม่ดังไปเลยก็ดับไปเลยถ้าคนไทยไม่ชอบไฮบริดจริงๆ  ;D

ออฟไลน์ mothsan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,559
Re: HR-V กับ CX-3 ควรจะขยับตัวอย่างไรบ้างกับการมาถึงของ C-HR?
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2017, 22:54:32 »
รอดู CHR ในไทยว่าจะได้เครื่องยนต์แบบไหน 1.8 Hybrid 122 PS หรือ NA 2.0 144 PS ไม่ต้องห่วง HRV กับ CX3 หรอกครับ เพราะ HRV โกยยอดไปเยอะแล้ว ส่วน CX3 ก้อแคบเกิน คนเลยแห่ไปซื้อ HRV ซะเยอะ

http://www.autoexpress.co.uk/toyota/c-hr/97695/new-toyota-c-hr-hybrid-2016-review
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน 72.4mpg (25.62 กิโลเมตร/ลิตร)

ถ้า TMT เอาเครื่อง hybrid เข้ามา คงน่าสนใจเพราะประหยัดกว่า eco car แต่มองในอีกแง่คนไทยกลัวเครื่อง hybrid เพราะอะไหล่แพง ราคาตกฮวบๆ ส่วนอัตราเร่งก็จะเป็นรอง Honda HRV 0-100 10.62 วินาที แต่ใน web autoexpress บอกว่า C-HR 0-62 mph = 11 วินาที พอวิ่งในไทยเจออากาศร้อนๆคงได้ตัวเลขประมาณ 11 วินาทีกว่า พอๆกับ Subaru XV  :-\

ถ้า Hybrid มา
บอกได้คำเดียว
ไม่ดังไปเลยก็ดับไปเลยยาวๆ แบบไม่มีลุ้นครับ 555
และเมื่อนั้น อาจได้เห็นเครื่องธรรมดาอื่นๆ ตามมา อาจจะ 1800 เพื่อกู้สถานการณ์
ผมว่าคนยังสนเครื่อง 1800 แบบทั่วๆ ไปแบบ HRV มากกว่านะครับ Honda ถึง
เลือกมาใส่แบบว่ามองขาดและไม่สนใจเครื่องขนาด 1500, 2000 เลย

ถ้า TMT กล้าโฆษณาว่า C-HR hybrid วิ่งทางไกลได้ 25 โลลิตร น่าจะขายดีนะครับ ตัวแปรอยู่ที่เครื่องยนต์และราคาขาย  :P
ยังจำกระแส Prius กับ camry Hybrid ตอนแรกได้ไหมครับ เป็นยังไง
แล้วตอนนี้ความเป็นจริงเป็นยังไง
ถ้าจะบูมคงบูมสักพัก

ออฟไลน์ O_O

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 447
Re: HR-V กับ CX-3 ควรจะขยับตัวอย่างไรบ้างกับการมาถึงของ C-HR?
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2017, 23:18:00 »
Honda sensing พร้อมadaptive cruise control ต้องมาลงในHr-v ถึงจะพอแข่งกันได้ ประมาณ รูปทรงเก่า แต่ออฟชั่นจัดเต็ม

ออฟไลน์ พ่อบ้านสายเที่ยว

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 624
  • ยาเขียวชนิดเม็ดตราใบห่อ แก้ร้อนในกระหายน้ำ
Re: HR-V กับ CX-3 ควรจะขยับตัวอย่างไรบ้างกับการมาถึงของ C-HR?
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2017, 01:27:41 »
เอิ่ม ผมว่า Kick มันตลาดเดียวกับ Ecosport ,W-RV หรือกลุ่ม entry level b suv ไม่ใช่เหรอครับ พอเอาไปเทียบกับ H-RV, C-HR, CX-3 ดูน่าสงสาร Kick ไปเลย

ส่วน C-HR คิดว่าน่าจะนำ H-RV ช่วงสั้นๆ ต่อมา H-RV ก็จะกินยาวจนจบโมเดลด้วยหน้าตาและพื้นที่ภายในที่ถูกจริตคนส่วนใหญ่ คงไม่ต้องรับน้องรุนแรง
ส่วน CX-3 ให้ อันดับ 2 ของตารางไป ไม่มีเหตุผล ความชอบล้วนๆ ลำเอียงสุดๆ
"แตกต่าง" แต่ไม่ "แตกแยก"

ออฟไลน์ Abzolute

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,934
  • สวัสดีคนรักรถยนต์
Re: HR-V กับ CX-3 ควรจะขยับตัวอย่างไรบ้างกับการมาถึงของ C-HR?
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2017, 06:38:45 »
ดีไซน์เลอะๆ เส้นสายไม่เข้ากันหลายจุด เครื่องขุมพลังด้อยกว่าคนอื่น

ผมว่า HRV CX3 facelift ก็ยังสบายๆครับ

คนเค้าชอบกันนะครับ เส้นสายเยอะ วัยรุ่นก็ชอบแบบนี้หมดแหละ

ออฟไลน์ NINENOI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,732
  • Nine & Knight
Re: HR-V กับ CX-3 ควรจะขยับตัวอย่างไรบ้างกับการมาถึงของ C-HR?
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2017, 07:58:45 »
HRV - เลิกลดต้นทุนแล้วหันมาอัดออปชั่นให้คนซื้อก่อนน้ำลายหก

CX-3 - เอา 2.2 มาลงเป้นรุ่นท็อปขึ้นมาอีกตัวล่างๆก็อัดออปชั่นเช่นกัน


มโนนะครับเนี่ย
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น

ออฟไลน์ VORA

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 382
Re: HR-V กับ CX-3 ควรจะขยับตัวอย่างไรบ้างกับการมาถึงของ C-HR?
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2017, 11:55:50 »
เอิ่ม ผมว่า Kick มันตลาดเดียวกับ Ecosport ,W-RV หรือกลุ่ม entry level b suv ไม่ใช่เหรอครับ พอเอาไปเทียบกับ H-RV, C-HR, CX-3 ดูน่าสงสาร Kick ไปเลย

ส่วน C-HR คิดว่าน่าจะนำ H-RV ช่วงสั้นๆ ต่อมา H-RV ก็จะกินยาวจนจบโมเดลด้วยหน้าตาและพื้นที่ภายในที่ถูกจริตคนส่วนใหญ่ คงไม่ต้องรับน้องรุนแรง
ส่วน CX-3 ให้ อันดับ 2 ของตารางไป ไม่มีเหตุผล ความชอบล้วนๆ ลำเอียงสุดๆ

ผมก็ว่าแบบนั้นนะ ตลาดแยกเป็น 2 ระดับแล้วชัดเจน  ตำ่  สูง  แต่.....
ตลาดบนน่าจะขายดีกว่านะ  รถประเภทนี้ไม่เน้นคุ้มค่ามาก ต้องดูดีไว้ก่อน

กลุ่มล่าง เช่น kick Ecosport กลัวจะแย่เอา และกลัวจะหายไปเมื่อเจ้านี่มา

ถึงงานออกแบบจะสุดขั้วสำหรับ CHR แต่มาตลาดก็กระเจิงแน่ๆครับ
มาแนว Juke  แต่ เป็น toyota ทุกคนพร้อมจ่าย  ข้างหลังสบายกว่า Juke
แต่งได้เยอะ เรียกกระแส Aero part ได้แน่ๆ

platform ใหม่ น่าจะได้หลังอิสระ ไม่ใช่คานบิด  จ้าวแรกใน B SUV

HRV ต้องปรับใหญ่มาก  CX3 ต้องปรับมากถึงมากที่สุด

ที่เหลือจ้าวอื่น..........


ออฟไลน์ lexus

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,230
Re: HR-V กับ CX-3 ควรจะขยับตัวอย่างไรบ้างกับการมาถึงของ C-HR?
« ตอบกลับ #38 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2017, 12:18:01 »
ผมว่าhrv cx3 เหนื่อยแน่ๆ แต่!!! ราคาโตโยต้ายังไม่ออก และโตโยต้าไม่มาแบบถูกๆแน่นอน
แล้วถ้าโตโยต้าตั้งราคาระดับ1.099-1.3ล้าน hrv cx3ก็เหนื่อยน้อยหน่อย
แต่ถ้ามาต่ำกว่าล้าน สนุกแน่

ปล.ที่บอกโตโยต้ามาทีหลัง มาตลาดวาย แต่ดูยอดยาริสแล้ว ต้องขอบอกว่ามาทีหลังดังกว่านะครับ
อีกอย่าง chrมาตอนปลายตลาดhrvพอดี คนย่อมชอบของสดใหม่กว่าอยู่แล้ว

ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,620
Re: HR-V กับ CX-3 ควรจะขยับตัวอย่างไรบ้างกับการมาถึงของ C-HR?
« ตอบกลับ #39 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2017, 13:41:38 »
  ตอบรวม  ๆ นะครับ   อ้างถึงคุณ Dark Overlord

  มาทีหลังก็ไม่เหนื่อยหรอก  แต่คู่แข่งเหนื่อยแน่เพราะตลาดรถโดยรวม  ในใจคนซื้อมี TOYOTA  ในตัวเลือกแน่ครับ แต่จะซื้อไม่ซื้อก็อีกเรื่องนึง 
        - ส่วนที่บ้านเราไม่ได้ 4wd   เพราะตลาดหลัก ๆ  เลยบ้านเราคนไม่นิยมซื้อ 4wd  ไม่คุ้มที่จะทำลงตลาด       และน่าจะเป็นที่โรงงานประกอบ  ปัญหาแบบเดียวกับ Nissan  Juke คือขึ้นไลน์ผลิตเป็น 4wd ไม่ได้ติดปัญหาต้องโมดิฟายไลน์พอสมควร ชุด4wd ไม่นำเข้าไลน์ประกอบที่อินโด       แล้วชุด 4wd  มันแตกต่างจากรุ่น 2wd  คือมีการปรับอุปกรณ์มันไม่เหมือนในรุ่น 2wd ที่ทำได้ง่ายเลยเหมือนรถเก๋ง    แต่ 4wd อุปกรณ์บางอย่างของ TOYOTA  มาจากญี่ปุ่น อเมริกา ส่งเข้ามาผ่าน Hino หรือ supllier เจ้าอื่น อีกต่อแล้วค่อยมาโรงงานประกอบ ทำให้ไมมี part ส่งเข้าโรงงานในการประกอบรุ่น4wd   ถ้าไม่ตั้งใจทำรุ่น 4wd แบบจริงจังยังไง ก็ไม่ส่งลงตลาดแน่นอนครับ 
          -  ปัจจัยด้านราคาด้วย ถ้ารุ่น 4wd จะแพงกว่ารุ่นปกติ 1 แสนบาทขึ้นไปต่อรุ่น   โดยปกติลูกค้าบ้านเราและอาเซียนแพงกว่ากัน 1 แสนหรือต่อให้ราคาเท่ากัน    ลูกค้าจะมองรถ 2wd  ไว้ก่อน ไม่เลือกรุ่น 4wd  เพราะเหตุผล งู ๆ ปลา ๆ  บลา บลา อย่างที่เราทราบ  กันดีไม่ต้องสาธยาย
 
           - เครื่องเบนซินเทอร์โบ    คล้ายกับคำตอบเรื่อง 4wd   ครับ   ตลาดลูกค้าโดยส่วนใหญ่ไม่ซื้อเครื่องเบนซินเทอร์โบ      คือโดยปกติแล้วรถเก๋งเบนซินถ้าเพิ่มเทอร์โบเฉพาะในส่วนเครื่องยนต์ขึ้นมา    ราคาจะเพิ่มมาอีกประมาณ 1 แสนกว่าบาท     ซึ่งราคา C-HR  มันจะทำตลาดไม่ได้  ลูกค้าไม่นิยม    คือรถเหมือนกันอ๊อพชั่นต่างกันนิดหน่อย แตกต่างกันระหว่างมีเทอร์โบ   คำตอบมันรู้ล่วงหน้าแล้วลูกค้าส่วนใหญ่ในบ้านเราซื้อรถเครื่อง NA  ทั้งนั้นละครับ           มีน้อยที่ตั้งใจจะซื้อรุ่นเทอร์โบจริง ๆ    ยกเว้น ค่ายรถตั้งใจทำจริง  ๆ   ชูให้มันแตกต่างทำเอาไว้เป็นตัว Top สุด  โดยไม่ไ่ด้คาดหวังยอดขายมากนักก็อาจทำได้  แต่เจ็บตััวล่วงหน้าแน่นอน  ไหนจะต้องนำเข้าชิ้นส่วน อบรมช่างในศูนย์ ทำเอกสารใหม่ กระจายไปที่ต่าง ๆ  สต็อกอะไหล่     
ดูเก๋งซีวิคเป็นตัวอย่าง   ขนาดสาวกเขาเยอะแยะนะครับ รถก็สวยมาก แบรนด์เจ้าตลาดรถเลยนะครับ    ลูกค้าที่ซื้อจะมีใครเลือกเครื่องเทอร์โบซักกี่ราย 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 04, 2017, 14:24:43 โดย Auto »

ออฟไลน์ blitzpao

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 738
Re: HR-V กับ CX-3 ควรจะขยับตัวอย่างไรบ้างกับการมาถึงของ C-HR?
« ตอบกลับ #40 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2017, 14:05:04 »
C-HR มากระทบ 3 เพราะ CHR เน้นขับสนุกการออกแบบก็ว๊าวดีไม่ได้เน้นอเนกประสงค์เท่าไหรเอาจริง C-HR ถ้าโปรโมตดีๆ Rebrand Toyota ในไทยได้เลยนะครับ

ออฟไลน์ kittiphat123

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,017
    • อีเมล์
Re: HR-V กับ CX-3 ควรจะขยับตัวอย่างไรบ้างกับการมาถึงของ C-HR?
« ตอบกลับ #41 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2017, 14:15:51 »
HR-V ก็ MC มาสินะครับ โกยยอดไปเยอะสบายแล้ว แค่ CX-3 คง....... ถ้าทำรถนั่งสบายทั้ง5ที่นั่ง ยอดขายคงได้ดีกว่านี้
ส่วนจู๊ค คงใกล้มรณะภาพ กระมังครับ แถมด้วย แอ๊คโค่ เน่าแน่ๆ ยิ่งถ้าพี่โต เปิดราคามา ไม่แพง รับรอง ตายแทบทั้งบาง

ออฟไลน์ Dark Overlord

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,804
  • Hail to the darkside
Re: HR-V กับ CX-3 ควรจะขยับตัวอย่างไรบ้างกับการมาถึงของ C-HR?
« ตอบกลับ #42 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2017, 15:27:54 »
  ตอบรวม  ๆ นะครับ   อ้างถึงคุณ Dark Overlord

  มาทีหลังก็ไม่เหนื่อยหรอก  แต่คู่แข่งเหนื่อยแน่เพราะตลาดรถโดยรวม  ในใจคนซื้อมี TOYOTA  ในตัวเลือกแน่ครับ แต่จะซื้อไม่ซื้อก็อีกเรื่องนึง 
        - ส่วนที่บ้านเราไม่ได้ 4wd   เพราะตลาดหลัก ๆ  เลยบ้านเราคนไม่นิยมซื้อ 4wd  ไม่คุ้มที่จะทำลงตลาด       และน่าจะเป็นที่โรงงานประกอบ  ปัญหาแบบเดียวกับ Nissan  Juke คือขึ้นไลน์ผลิตเป็น 4wd ไม่ได้ติดปัญหาต้องโมดิฟายไลน์พอสมควร ชุด4wd ไม่นำเข้าไลน์ประกอบที่อินโด       แล้วชุด 4wd  มันแตกต่างจากรุ่น 2wd  คือมีการปรับอุปกรณ์มันไม่เหมือนในรุ่น 2wd ที่ทำได้ง่ายเลยเหมือนรถเก๋ง    แต่ 4wd อุปกรณ์บางอย่างของ TOYOTA  มาจากญี่ปุ่น อเมริกา ส่งเข้ามาผ่าน Hino หรือ supllier เจ้าอื่น อีกต่อแล้วค่อยมาโรงงานประกอบ ทำให้ไมมี part ส่งเข้าโรงงานในการประกอบรุ่น4wd   ถ้าไม่ตั้งใจทำรุ่น 4wd แบบจริงจังยังไง ก็ไม่ส่งลงตลาดแน่นอนครับ 
          -  ปัจจัยด้านราคาด้วย ถ้ารุ่น 4wd จะแพงกว่ารุ่นปกติ 1 แสนบาทขึ้นไปต่อรุ่น   โดยปกติลูกค้าบ้านเราและอาเซียนแพงกว่ากัน 1 แสนหรือต่อให้ราคาเท่ากัน    ลูกค้าจะมองรถ 2wd  ไว้ก่อน ไม่เลือกรุ่น 4wd  เพราะเหตุผล งู ๆ ปลา ๆ  บลา บลา อย่างที่เราทราบ  กันดีไม่ต้องสาธยาย
 
           - เครื่องเบนซินเทอร์โบ    คล้ายกับคำตอบเรื่อง 4wd   ครับ   ตลาดลูกค้าโดยส่วนใหญ่ไม่ซื้อเครื่องเบนซินเทอร์โบ      คือโดยปกติแล้วรถเก๋งเบนซินถ้าเพิ่มเทอร์โบเฉพาะในส่วนเครื่องยนต์ขึ้นมา    ราคาจะเพิ่มมาอีกประมาณ 1 แสนกว่าบาท     ซึ่งราคา C-HR  มันจะทำตลาดไม่ได้  ลูกค้าไม่นิยม    คือรถเหมือนกันอ๊อพชั่นต่างกันนิดหน่อย แตกต่างกันระหว่างมีเทอร์โบ   คำตอบมันรู้ล่วงหน้าแล้วลูกค้าส่วนใหญ่ในบ้านเราซื้อรถเครื่อง NA  ทั้งนั้นละครับ           มีน้อยที่ตั้งใจจะซื้อรุ่นเทอร์โบจริง ๆ    ยกเว้น ค่ายรถตั้งใจทำจริง  ๆ   ชูให้มันแตกต่างทำเอาไว้เป็นตัว Top สุด  โดยไม่ไ่ด้คาดหวังยอดขายมากนักก็อาจทำได้  แต่เจ็บตััวล่วงหน้าแน่นอน  ไหนจะต้องนำเข้าชิ้นส่วน อบรมช่างในศูนย์ ทำเอกสารใหม่ กระจายไปที่ต่าง ๆ  สต็อกอะไหล่     
ดูเก๋งซีวิคเป็นตัวอย่าง   ขนาดสาวกเขาเยอะแยะนะครับ รถก็สวยมาก แบรนด์เจ้าตลาดรถเลยนะครับ    ลูกค้าที่ซื้อจะมีใครเลือกเครื่องเทอร์โบซักกี่ราย

ขอบคุณมากครับ มันมีความแตกต่างมากมายระหว่างโฟร์กับไม่โฟร์นะเนี่ย ถึงว่าไม่มา
แต่เสียดายว่าถ้ามีไว้ เพราะสามารถส่งออกไปออสได้ก็น่าจะมี

ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,620
Re: HR-V กับ CX-3 ควรจะขยับตัวอย่างไรบ้างกับการมาถึงของ C-HR?
« ตอบกลับ #43 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2017, 16:11:08 »
      ตอบนะครับเรื่องทำส่งออกไปออสเตรเลียหรือบางประเทศ  ถ้าเขาจะมี 4wd  หรือ เบนซินเทอร์โบไม่แปลกแต่อย่างใด  ต่อให้ทำรถโรงงานเดียวกันแต่รถขายในประเทศอ๊อพชั่นนึง  ขายต่างประเทศอีกอ๊อพชั่นนึง  สาเหตุหลักก็คือตลาดไงเพราะตลาดบ้านเราลูกค้าไม่นิยม 4wd  และไม่นิยมเบนซินเทอร์โบ
     ยกตัวอย่างง่าย ๆ  เลย  สมัยรถวีโก้ 2.7 4x4 หรือ Fortuner 2.7 4x4    หลังจากไม่ไ่ด้ทำตลาดบ้านเราก็จริงแต่เขาส่งออกขายไปตะวันออกลางและบางประเทศเป็นปกตินะครับ         แต่ในไทยไม่มีขายแล้ว                  เพราะ Part  ชุดขับเคลื่อน 4wd  คานหน้า นำเข้ามาจากโรงงานอะไรซักแห่งนึงในญี่ปุ่น  นำมาพักไว้ที่ Hino Motor thailand  แล้วหลังจากนั้น Hino ก็ส่งขาย part ให้ TOYOTA Thailand   ไปโดยชุดนี้ไม่ประกอบขายรถในประเทศอีก   ไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องภาษีด้วยหรือเปล่านะครับหมายถึงภาษีนำเข้าชิ้นส่วน    คือนำมาผลิตเพื่อการส่งออกอย่างเดียวโดยรถคันนั้นส่งออกไม่ขายในประเทศ    ภาษีนำเข้ากับภาษีเครื่องจักรมันจะได้รับการส่งเสริม
       แล้วก็ Nissan March    บ้านเราผลิตที่โรงงาน บางนาตราด กม 22   รถเขาก็มีรุ่น 4wd  ส่งออกไปญี่ปุ่นนะแต่รุ่นนี้ไม่ขายในไทย         พวก Mazda 2 ก็เหมือนกันมีรุ่น 4wd  เป็นทางเลือกสำหรับขายในญี่ปุ่น   แต่ในไทยจะผลิตขายแค่รุ่นขับล้อหน้าอย่างเดียว   ซึ่งลูกค้าที่จะซื้อ Mazda 2 ขับ 4wd    ในเมืองไทยจะมีซักกี่ราย      ราคาไม่ต้องพูดถึงแค่นี้คนยังบ่นว่า Mazda 2 ดีเซลราคาแพง    ถ้าใส่ระบบ 4wd เข้ามาอีก  ราคาไม่ต้องคุยแล้วล่ะคนที่ซื้อในบ้านเราก็ต้องใจถึงพอสมควรและคงนับจำนวนคนได้เลย 

ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,620
Re: HR-V กับ CX-3 ควรจะขยับตัวอย่างไรบ้างกับการมาถึงของ C-HR?
« ตอบกลับ #44 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2017, 16:17:02 »
  จริง  ๆ คนที่มาเล่นเวป Headlight  หลายคนมันตัวชี้วัดที่ดีอย่างนึงในการกำหนดรถ รุ่นอ๊อพชั่น  จริงอยู่แม้อาจจะไม่ใช่คนส่วนใหญ่ในประเทศ  แต่คนที่มาเล่นเวปนี้หลายคนมีการศึกษารถมาพอสมควร แน่นอนว่าส่วนใหญ่มีรถ มีอำนาจการซื้อ   ลองตั้งคำถามง่าย  ๆ  สำรวจโพลของคนที่เล่นเวปนี้ดูได้ครับ    แค่นี้มัันสะท้อนตลาดและการเลือกรถได้อยู่เหมือนกัน

       1. คนในนี้ปัจจุบันมีใครใช้รถ 4wd บ้าง   เทียบมาแค่นี้ก็รู้แล้วครับ% น้อยกว่าบานตะไท
       2.คนในนี้มีใครใช้รถเบนซินเทอร์โบบ้าง 
       3.คนในนี้มีใครใช้รถที่ถุงลม 7 ใบขึ้นไปบ้าง
       4.คนในนี้มีใครใช้รถที่มีระบบการช่วยทรงตัว ช่วยการขับขี่บ้าง
       5.คนในนี้มีใครใช้รถ Alphard Velfire บ้าง   มันสะท้อนใ้ห้เ็ห็นว่าทำไมเขาไม่ตั้งไลน์ประกอบที่อื่นนอกจากญี่ปุ่น
       6.คนในนี้มีใครใช้รถที่มีระบบ เรดาห์บ้าง
       7.คนในนี้มีใครใช้รถ Landcruiser บ้าง   
       8.คนในนี้มีใครใช้รถเปิดประทุนบ้าง      มันสะท้อนให้เห็นว่ารถพวกนี้มักจะผลิตที่โรงงานในบริษัทแม่นั้นเป็นหลัก

   คือคำถามนี้มันสะท้อนให้เห็นว่าภาพตลาดโดยรวมของคนส่วนใหญ่มันไม่ไ่ด้ใช้รถนอกเหนือไปจากรุ่น ๆ ตลาด ทั่ว ๆ  ไปเท่าไหร่เลย       การกำหนดอ๊อพชั่นอะไรต่าง ๆ ออกมาบริษัทค่ายรถมีการวิจัยออกมาแล้วเป็นอย่างดีถึงพฤติกรรมผู้บริโภค    เขาทำรถออกมาคงเน้นตลาดที่เขาขายได้เป็นหลักละครับ          จะมีบางรุ่นที่เขาชูจุดขายหรือแบรนด์เทคโนโลยีไม่หวังยอดขายมากนักก็อีกเรื่องนึง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 04, 2017, 16:25:07 โดย Auto »

ออฟไลน์ Dark Overlord

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,804
  • Hail to the darkside
Re: HR-V กับ CX-3 ควรจะขยับตัวอย่างไรบ้างกับการมาถึงของ C-HR?
« ตอบกลับ #45 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2017, 22:07:32 »
  จริง  ๆ คนที่มาเล่นเวป Headlight  หลายคนมันตัวชี้วัดที่ดีอย่างนึงในการกำหนดรถ รุ่นอ๊อพชั่น  จริงอยู่แม้อาจจะไม่ใช่คนส่วนใหญ่ในประเทศ  แต่คนที่มาเล่นเวปนี้หลายคนมีการศึกษารถมาพอสมควร แน่นอนว่าส่วนใหญ่มีรถ มีอำนาจการซื้อ   ลองตั้งคำถามง่าย  ๆ  สำรวจโพลของคนที่เล่นเวปนี้ดูได้ครับ    แค่นี้มัันสะท้อนตลาดและการเลือกรถได้อยู่เหมือนกัน

       1. คนในนี้ปัจจุบันมีใครใช้รถ 4wd บ้าง   เทียบมาแค่นี้ก็รู้แล้วครับ% น้อยกว่าบานตะไท
       2.คนในนี้มีใครใช้รถเบนซินเทอร์โบบ้าง 
       3.คนในนี้มีใครใช้รถที่ถุงลม 7 ใบขึ้นไปบ้าง
       4.คนในนี้มีใครใช้รถที่มีระบบการช่วยทรงตัว ช่วยการขับขี่บ้าง
       5.คนในนี้มีใครใช้รถ Alphard Velfire บ้าง   มันสะท้อนใ้ห้เ็ห็นว่าทำไมเขาไม่ตั้งไลน์ประกอบที่อื่นนอกจากญี่ปุ่น
       6.คนในนี้มีใครใช้รถที่มีระบบ เรดาห์บ้าง
       7.คนในนี้มีใครใช้รถ Landcruiser บ้าง   
       8.คนในนี้มีใครใช้รถเปิดประทุนบ้าง      มันสะท้อนให้เห็นว่ารถพวกนี้มักจะผลิตที่โรงงานในบริษัทแม่นั้นเป็นหลัก

   คือคำถามนี้มันสะท้อนให้เห็นว่าภาพตลาดโดยรวมของคนส่วนใหญ่มันไม่ไ่ด้ใช้รถนอกเหนือไปจากรุ่น ๆ ตลาด ทั่ว ๆ  ไปเท่าไหร่เลย       การกำหนดอ๊อพชั่นอะไรต่าง ๆ ออกมาบริษัทค่ายรถมีการวิจัยออกมาแล้วเป็นอย่างดีถึงพฤติกรรมผู้บริโภค    เขาทำรถออกมาคงเน้นตลาดที่เขาขายได้เป็นหลักละครับ          จะมีบางรุ่นที่เขาชูจุดขายหรือแบรนด์เทคโนโลยีไม่หวังยอดขายมากนักก็อีกเรื่องนึง
      ตอบนะครับเรื่องทำส่งออกไปออสเตรเลียหรือบางประเทศ  ถ้าเขาจะมี 4wd  หรือ เบนซินเทอร์โบไม่แปลกแต่อย่างใด  ต่อให้ทำรถโรงงานเดียวกันแต่รถขายในประเทศอ๊อพชั่นนึง  ขายต่างประเทศอีกอ๊อพชั่นนึง  สาเหตุหลักก็คือตลาดไงเพราะตลาดบ้านเราลูกค้าไม่นิยม 4wd  และไม่นิยมเบนซินเทอร์โบ
     ยกตัวอย่างง่าย ๆ  เลย  สมัยรถวีโก้ 2.7 4x4 หรือ Fortuner 2.7 4x4    หลังจากไม่ไ่ด้ทำตลาดบ้านเราก็จริงแต่เขาส่งออกขายไปตะวันออกลางและบางประเทศเป็นปกตินะครับ         แต่ในไทยไม่มีขายแล้ว                  เพราะ Part  ชุดขับเคลื่อน 4wd  คานหน้า นำเข้ามาจากโรงงานอะไรซักแห่งนึงในญี่ปุ่น  นำมาพักไว้ที่ Hino Motor thailand  แล้วหลังจากนั้น Hino ก็ส่งขาย part ให้ TOYOTA Thailand   ไปโดยชุดนี้ไม่ประกอบขายรถในประเทศอีก   ไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องภาษีด้วยหรือเปล่านะครับหมายถึงภาษีนำเข้าชิ้นส่วน    คือนำมาผลิตเพื่อการส่งออกอย่างเดียวโดยรถคันนั้นส่งออกไม่ขายในประเทศ    ภาษีนำเข้ากับภาษีเครื่องจักรมันจะได้รับการส่งเสริม
       แล้วก็ Nissan March    บ้านเราผลิตที่โรงงาน บางนาตราด กม 22   รถเขาก็มีรุ่น 4wd  ส่งออกไปญี่ปุ่นนะแต่รุ่นนี้ไม่ขายในไทย         พวก Mazda 2 ก็เหมือนกันมีรุ่น 4wd  เป็นทางเลือกสำหรับขายในญี่ปุ่น   แต่ในไทยจะผลิตขายแค่รุ่นขับล้อหน้าอย่างเดียว   ซึ่งลูกค้าที่จะซื้อ Mazda 2 ขับ 4wd    ในเมืองไทยจะมีซักกี่ราย      ราคาไม่ต้องพูดถึงแค่นี้คนยังบ่นว่า Mazda 2 ดีเซลราคาแพง    ถ้าใส่ระบบ 4wd เข้ามาอีก  ราคาไม่ต้องคุยแล้วล่ะคนที่ซื้อในบ้านเราก็ต้องใจถึงพอสมควรและคงนับจำนวนคนได้เลย

อยากได้ครับ แต่อย่างว่าราคามันกระโดดไปแพงมากก็ไม่ไหว
XV ช่วงที่ราคาหย่อนลงมาต่ำกว่าล้านก็รับยอดขายถล่มทลายเลย
เพราะตลาดขับสี่ราคาไม่แพงมันยังไม่มีใครมาเปิด ถ้าทำขับสี่ที่ราคาไม่แพงออกมา
ขายได้ ผมว่าน่าสนใจครับ เน้นขับสี่แบบเกาะถนนขึ้น หรือขับสี่ไว้ลุยขึ้นเขา
HRV ขับสี่ผมว่าน่าสนใจ เพราะตัวรถมันเอนกประสงค์น่าไปเที่ยวตามเขา
CX3, Juke ขับสี่น่าสนใจตรงที่น่าจะช่วยเรื่องเกาะถนน
CHR ไม่รู้จะไปทางไหน หรืออยู่ระหว่างกึ่งกลาง
ว่าแล้ว XV สมัยราคาถูกมันแจ่มมาก ตัวใหม่สงสัยทับๆ CRV ตัวล่างถึงกลาง  :-X

ออฟไลน์ รักเธอเสมอ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,222
Re: HR-V กับ CX-3 ควรจะขยับตัวอย่างไรบ้างกับการมาถึงของ C-HR?
« ตอบกลับ #46 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2017, 22:17:45 »
ราคาคือปัจจัยหลักแน่ๆครับ ถ้าเปิดมาแพงมากคงเงิบเหมือน REVO แน่ เพราะ HR-V ก็มีจุดเด่นในหลายๆด้านเช่นกัน

ออฟไลน์ h0661036

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 927
Re: HR-V กับ CX-3 ควรจะขยับตัวอย่างไรบ้างกับการมาถึงของ C-HR?
« ตอบกลับ #47 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2017, 13:30:34 »
ผมเดาว่ายอดขายไม่น่าสู้  HRV ได้  อย่างน้อยเรื่องภายในห้องโดยสาร CHR คิดว่าแคบแน่  ออกแบบใหม่หมด ราคาคงตั้งไว้สูง ชะตากรรมคงเหมือน REVO