เข้าใจคนใช้รถญี่ปุ่น ว่าถ้าไม่ Serious กับสมรรถนะและภาพลักษณ์ รถญี่ปุ่นมันน่าใช้

babybigman

คือผมใช้ Honda CRV G4 ซื้อปี 2012 ใช้มาใกล้จะ 1 แสนกิโลแล้ว
-ราคารถ ตอนซื้อ 1.5 ล้าน นิดๆ ถือว่าถูกกว่า รถ Compact Premium ราวๆ 1.0-1.5 ล้าน
-ใช้มา 1 แสนโล เข้าศูนย์ตามระยะ ค่าใช้จ่ายน้อยมาก ทีละไม่ตัง แทบจำไม่ได้ว่าจ่ายไปเท่าไร
-ไม่เคยมีปัญหาอะไรเลยจากระบบของรถยนต์ แม้แต่ครั้งเดียว
-สมรถถนะพอรับได้ เสียงภายนอก เข้ามามากหน่อยไม่เงียบ นุ่มพอได้ เดินทางกับครอบครัวก็สบายดี
ขนสัมภาระสบายๆ
-ล่าสุดโดนก้อนหิน กระจกหน้าแตกต้องเปลี่ยนทั้งบาน มีประกันซ่อมอู่ แต่ถ้าจะใช้อะไหล่แท้ Honda ต้องจ่ายเพิ่มเอง 2 พัน

คือมันใช้แล้วสบายใจ ไม่ระแวง จะปล่อยก็ง่ายๆ

แต่รถ Compact Premium นี่ราคารถซื้อมันแพงไปอาจจะเกือบเท่าตัว คือ 2 เท่านะง่ายๆ

แต่อะไหล่หรือค่าบริการมันจะ 3 เท่าได้นะในแต่ละครั้ง
อย่างเอา w212 ไฟเครื่องยนต์ขึ้น ไม่มีอะไรเสียเลยเข้าศูนย์ไป
แค่ค่าแรงช่าง ตรวจสอบอย่างเดียว 3 พันบาทซะแล้ว
Past History
1995 Honda Civic Sold
1998 Mitsubishi Lancer Sold
2003 BMW 325i Sold
2006 Kia Carnival CEO Sold
2013 E250 CGI Current
2013 Honda CRV 2014 Current
2014 Honda Freed 2014 Current



Koong

คือธรรมชาตของคนเรา ก็มีความอยากแตกต่างกันไป  ถ้ามีเงินมีความสามารถที่จะซื้อได้  หลายคนก็ขอซื้อพรีเมียมคาร์มาใช้ดูสักครั้ง  ทั้งๆที่ก็รู้แหละว่าความคุ้มค่ามันจะน้อยกว่ารถญี่ปุ่น  แต่เพื่อให้รางวัลกับชีวิตก็กช่างมัน 



MacH1

 คหสต. รถ import ยุ่นอย่าง WRX, Forester XT (JDM) ยังน่าเล่นกว่ารถยุโรปเครื่องดีเซล ม้าเหี่ยวๆคับ



mamaman



รถก็แค่ ยานพาหนะครับ

หน้าที่ พาเราไปถึงจุดหมาย โดยคาดหวังว่ามันจะมีปัญหา ถึงมี ก็ ซ่อมจบง่าย สบายกระเป๋า



rotaryman

ของอย่างนี้แล้วแต่มุมมอง แล้วแต่เงินในกระเป๋าครับ



NS

คนซื้อรถยุโรปเขาไม่ได้คิดถึงเรื่องค่าใช้จ่ายมากนักละครับ ผมว่าเขาชอบทั้งภาพลักษณ์และสมรรถนะ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายเขาคงคิดว่ารับได้และเหลือจากที่เตรียมไว้ให้อยู่แล้ว หลายรายเอามาเป็นค่าใช้จ่ายประจำเดือนได้อยู่แล้วแค่จิ้มยุโรปรึญี่ปุ่นเท่านั้น ส่วนคนที่คิดถึงความคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายเป็นหลักใหญ่น่าจะหันมาเล่นรถญี่ปุ่นซ๊ะเยอะผมว่าแบบนี้นะ
จะเลือกรถหรือเมีย....

...รถสิคร๊าฟ



ฟง อวิ๋น

เพราะแบบนี้แหละครับ ผมก็เลยยังคงเล่นรถญี่ปุ่นต่อไป

แต่ศูนย์บริการรถญี่ปุ่นก็มักจะมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ดูแลเครื่องยนต์มาให้เรื่อยๆครับ

ถ้าใจแข็งพอ ราคางานเช็คระยะก็ไม่แพงครับ

อย่างล่าสุดผมเอา Fortuner ตัวเก่าไปเช็ค 70,000km

โดนค่าแรงไปพันนึง ค่าน้ำมันเครื่อง กับแหวนรอง รวมกันก็สองพันนิดๆ
แต่สุดท้ายก็ให้เขาล้างแอร์และฆ่าเชื้อในห้องโดยสารไปอีกสองพัน
รวมเป็นสี่พันกว่าบาท (อาจจะรู้สึกแพง แต่กลิ่นในรถดีขึ้นมาก ได้ล้างแอร์รู้สึกสะอาดสดชื่นขึ้น)
Isuzu SLX, Accord G4, Colorado, Hilux Tiger, Lancer I, Triton, D-Max Cab4, TiiDA, Mazda2 I, Mazda2 II, D-Max, Fortuner, Sunny B14, Jazz GK, Accord G9, Mazda2 Sky, GLA200, Yaris, Alphard30, Lancer II, Lander III, Ranger, XL7, Forester SK, Swift, Stargazer, Aion V



Arado_kung

ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ตจว.ไม่ค่อยอยากได้รถยุโรปล่ะครับ ถึงแม้จะซื้อป้ายแดงก็ตามศูนย์ที่อยู่ใกล้ที่สุดก็ 100 กิโล ส่วนรถญี่ปุ่นมีครบทุกยี่ห้อห่างจากบ้านแค่10โลหน่อยๆ. ผมไปสำรวจร้านอะไหล่ดูรถญี่ปุ่นส่วนใหญ่มีของหมด ถ้ารถยุโรปมีเป็นบางรุ่นและบางชิ้น. ส่วนมากต้องสั่งแล้วรอของเอา. พอไปดูพวกอู่นอกรถยุโรปนี่ต้องเป็นรุ่นเก่าๆหน่อยเช่น W124. รุ่นใหม่ๆหาช่างซ่อมเป็นไม่เจอส่วนรถญี่ปุ่นจะเก่าหรือใหม่พวกไม่เกี่ยงทั้งนั้น. ดูๆแล้วถ้าผมอยู่ตจว.ไปเรื่อยๆคงใช้รถญี่ปุ่นดีกว่ามันสบายใจจริงๆ



e:smart Hybrid




lay

เห็นด้วยครับ  และในอนาคต อาจจะมีรถจีนดีดีให้เลือกใช้ด้วย



Slipknot`

มันเกิดมาเพื่อการนี้อยู่ละครับ โดยเฉพาะประเทศนี้



Nonlamer

เห็นด้วยครับเรื่องการบำรุงรักษาและความทนทาน และอย่างผมนี่คือลองขับแล้วก็พอใจมากและก็เพียงพอแต่การใช้งานแล้ว เลยไม่คิดจะไปใช้รถที่ดีกว่านี้



paeybu

นี่แหละที่มันยังขายได้ดีทั้งๆที่ราคาไม่ต่างจากรถยุโรปมากนักในต่างประเทศ



[email protected]

ขึ้นอยู่กับความพอใจและเงินในกระเป๋าเลยครับ ถ้าผมมีเงินเหลือหลายๆล้าน คงเมิน SUV ญี่ปุ่นแล้วไปซื้อ X6 มาขับ รู้ว่าจุกจิกและแพงกว่าแน่นอน แต่เพราะความเท่ล้วนๆ ;D



fishfinger

ช่วงนี้กระทู้แนวนี้มาบ่อยนะ

ตังใครตังมันดีกว่าครับ ไม่ต้องไปวิจารณ์ให้มันมากเรื่อง
แบบนี้คงไม่มีใคร ซื้อรถหรู เรือยอช เครื่องบินส่วนตัวละมั้งครับ



sukhontha

  ก็แล้วแต่คนนะครับ

  ผมมี ยุ่น  ออกป้ายแดง...แต่ใช้เป็นแค่ตัวสำรอง  ขับสัปดาห์ละวันสองวัน

 ใช้จริง ๆ ใช้รถมือสอง  อายุสิบห้าปี.........

  ผมไม่สนใจสมรรถนะ วิ่งไม่เกิน 120 เป็นส่วนมาก

  ผมเน้นความปลอดภัย  แม้ผลทดสอบ ดาวจะเท่ากัน  แต่ผมเชื่อของผม  ว่าคันที่ผมใช้ปลอดภัยกว่า  แค่นั้น....



ps000000

ญาติผมรวยๆหลายคน ก็ เปลี่ยนจาก C Seg Premium

มาเป็น D Seg Japan



Carrera

ผมว่ารถ Japan มันทำหน้าที่ของมัน ทำหน้าที่หลักของรถได้ดีที่สุด  คือ เป็นยานพาหนะ ที่ดี ใช้ง่าย สบายใจ ไม่จุกจิก

เรื่องความปลอดภัย สุดท้ายมันอยู่ที่คนขับ  พอได้ผ่านอุบัติเหตุอะไรมาทำให้คิดได้ว่า  คนนี่แหละ สำคัญสุด  ขับรถระมัดระวัง ขับปลอดภัยตามกฎหมาย คาดเข็มขัดนิรภัย  ผ่านมาหลายปีแล้วก็ยังไม่เกิดอุบัติเหตุครับ

ผมสังเกตจากคนรอบๆตัวหลายคน  ถ้าคนที่พึ่งจะมีรถ ทำงานใหม่ อยากได้อยากมี อยากลอง คันแรกๆ หรือคันที่สอง ส่วนมากจะพยายามไปยุโรป เพราะยังชอบ ยังรักสนุก อยากลองอยู่ ซ่อมไหว มีเวลา แต่สุดท้ายพอผ่านอะไรมามากๆ บางทีการได้ใช้รถคันนึงแบบสบายใจก็เป็นเรื่องดีอีกแบบนึงเลย

บ้านผมคันแรก Accord >> BMW 5>> Camry คันต่อมาก็คิดว่าคงจะ ไม่ New Camry ก็คง Lexus เพราะความทนทาน สบายใจ ไม่จุกจิกนี่มันใช้งานได้สบายใจดีจริงๆครับ  บางทีศูนย์ซ่อมจบ ช่างชำนาญก็มีส่วนทำให้ใช้อย่างสบายใจครับ  ซ่อมแพงถูกไม่สำคัญ  ขอให้ซ่อมจบ  แบบตอนเข้ามาแก้อาการเพราะช่างศูนย์ซ่อมไม่เป็น ไม่รู้จริง แบบตอนใช้ BMW นี่ลำบากครับ เข้าศูนย์มันเสียเวลา รถก็ไม่มีใช้ถ้าต้องจอดทิ้งไว้อีก (เพราะคิวยาว)

เสียดายมากๆจริงๆ ทำไม Lexus บ้านเราถึงทำราคาได้ไม่ดี  ถ้าทำราคาดีๆได้  รถสมรรถนะดีๆ ที่ใช้ได้อย่างสบายใจ มันน่าใช้เลยละ  คือไม่แปลกใจเลย ทำไมแถวอเมริกาถึงขายดี



BenzParagon

ในช่วงเวลาปัจจุบัน (รถสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน)

รถญี่ปุ่น พัฒนามาไกลมาก ครับ

รถยุโรปหรืออื่นๆ ก็พัฒนามาไกลมากเช่นกัน...(ลบ,บวก ?) ครับ ::)

Hybrid Battery Of Mercedes-Benz Thailand https://goo.gl/3nn9sk

มาตรา 157 https://goo.gl/lIGkMt

lim n = 0 , n -> ...

0 = 1

?



Teera

ถ้าโจทย์ คือ ถึงที่หมาย เหมือนกัน จริงๆ Eco Car ก็ได้ ทำไมต้องเป็น CRV
เรื่องนี้ผมมองว่า โจทย์ของแต่ละคน ต่างกัน
สมัยหนุ่มๆ ผมขับ A31,EK,Im เพราะโจทย์ของผมคือ ผมชอบแต่งรถ ทั้งสามคัน ปั้นตั้งแต่ Standard เปลี่ยนเครื่อง โมติฟาย พอถึงวันนึง มันก็เบื่อ
เมื่อ 4 ปีที่แล้ว จะเปลี่ยนรถ ตั้งงบไว้ ไม่เกิน 2 ล้าน ไล่มาตั้งแต่ PPV ,CX5,CRV,Accord,Cammry,Teana สรุปไปจบที่  V40 เพราะ มันขับดีกว่า ใกล้ๆ Im ที่ใช้อยู่ ทีแรกก็เก็บ Im ไว้ใช้วันหยุด แต่ สุดท้าย ก็ขาย เพราะ ไม่ได้ใช้
ส่วน เรื่องค่าใช้จ่าย ขับมาแสนสอง ก็เพิ่งงโดน ตอน แสนสองนี่แหละ 4 หมื่นกว่าบาท ก็รับได้นะครับ Service โลละ 3 บาท
ที่ซื้อ เพราะ รถมันขับดี
โจทย์ งบประมาณ การใช้ชีวิต ของแต่ละคน ต่างกันครับ



SM.

ผมว่ามันต่างจิตต่างใจนะ แล้วแต่ใครจะเลือกแบบไหน



Auto

ผมว่ามันต่างกันชัดเจนนะระหว่างรถญี่ปุ่นกับยุโรป   
เพราะสาเหตุความแตกต่างนี้แหละ  รถญี่ปุ่นจึงขายดีกว่ารถยุโรป  และขายง่ายกว่ารถยุโรป     
เพราะคนส่วนใหญ่ในบ้านเรา  รวมถึงผมด้วยคิดถึงค่าซ่อมรถ     คือรถญี่ปุ่นเข้าเช็คระยะหลังหมดประกันแล้วเสียเงิน 2xxx-1x,xxx   บาทนี่ก็แพงสุดแล้วนะ              ของคุณแค่เช็คไฟโชว์โดนค่าแรง 3000 บาท    แน่นอนใครจะไปซื้อครับนอกจากลุ่มคนที่มีเงินถึงและชอบแบรนด์ยุโรปอยู่แล้วเขารับได้             ทั้งที่จริงค่าแรงลบไฟโชว์รถญี่ปุ่นคิด 300-400  บาทเท่านั้นเอง     ชั่วโมงแรงงานก็คนไทยเหมือนกันทำงานในประเทศไทย          แต่แบรนด์รถยุโรปคิดค่าแรงเท่าโน้นนนนนน  มันก็ดูแพง



Starplatinum35

ใช้รถยุโรปต้องมีงบไว้ซ่อมบำรุงเยอะกว่ารถญี่ปุ่นครับ ถ้าซ่อมบำรุงถึงไม่มีอะไรหรอก  แถวบ้านผมสบาย มีศูนย์ MB  อยู่หน้าหมู่บ้าน ขับไป15 km ก็มีศูนย์ bmw ถ้ามีโอกาสซื้อรถใหม่คงเป็นยุโรปอีกครับ เพราะตอนนี้รู้สึกว่าราคารถd seg ญี่ปุ่นโดดมาเรื่อยๆ แล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 12, 2017, 10:48:27 โดย golfieboy »
2015 BMW 525d m sport Project'A stage 1
2012 nissan GT-R R35 GT700+EcuTek +E85 flex fuel
2016 MB CLA 250 AMG
2017 MB E220d AMG
2017 BMW 320d GT



winit2014

ในคำนิยามส่วนตัวคิดว่า รถญี่ปุ่น คือ เหตุผล ส่วนรถยุโรปคือ อารมณ์ ครับ



PKS8

ถ้าเฉพาะภาพลักษณ์อาจจะใช่ครับ แต่สมถรรนะไม่เสมอไปครับ

งบแถวๆสองล้าน WRX ForesterXT ผมคิดว่าสมรรถนะดีกว่า Series1,3 ACLASS GLA เยอะเลยครับ



j@ckie

ราคารถ ราคาอะไหล่ จำนวนศูนย์บริการ เป็นสิ่งที่ทำให้คนส่วนใหญ่เลือกรถญี่ปุ่น



locomotive

ที่อเมริกา ผมไปรัฐแคลิฟอร์เนีย มา ที่นั้นมีแต่รถญี่ปุ่นส่วนใหญ่ Toyota Nissan Honda เยอะมาก โดยเฉพาะ Camry Accord Collora Civic ตัวก่อนและตัวปัจจุบัน เพียบ รองลงมา Benz BMW ส่วนรถอเมริกันพื้นถิ่น Ford Chevvy มีประปาย ยิ่ง ออสเตรเลียกับนิวชีแลนด์นี้ ใช้รถญี่ปุ่นเหมือนบ้านเราเลย กระบะ เพียบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 12, 2017, 11:38:27 โดย locomotive »



0%

ส่วนตัวก็คิดเหมือนกันว่า พวก d seg ญี่ปุ่นนี่มันคุ้มค่าสุดแล้ว ถ้าเทียบสมรรถนะ และ ภาพลักษณ์



babybigman

ช่วงนี้กระทู้แนวนี้มาบ่อยนะ

ตังใครตังมันดีกว่าครับ ไม่ต้องไปวิจารณ์ให้มันมากเรื่อง
แบบนี้คงไม่มีใคร ซื้อรถหรู เรือยอช เครื่องบินส่วนตัวละมั้งครับ

ไม่ใช่อย่างนั้นครับผมใช้รถมา เกือบ 10 คันแล้ว ใช้ 4 ปีขึ้นไปหมด
ผมใช้ BMW มาก่อน

ตอนนี้ใช้ W212 ขับสลับกับ CRV

แต่ถามว่า
คืนนี้ถ้าต้องออกจากบ้าน ขับผ่าน ระยะ 350 กิโลที่ห้ามรถมีปัญหาเด็ดขาด ตอน 2 ทุ่ม - 5 ทุ่มข้ามจังหวัด ปัตตานี ยะลา นราธิวาส
ถ้ามีปัญหากลางทางโจรใต้อาจจะฆ่าผมได้

ผมไม่กล้าขับ w212 แต่ถ้ากลางวันกล้าขับ
แต่กลางคืนเสี่ยงๆ กลับเลือก CRV ไว้ก่อน

เป็นความรู้สึกมั่นใจครับ ไม่ได้บอกว่ารถยุโรบไม่ไดีนะครับเพราะผมก็ใช้อยู่
Past History
1995 Honda Civic Sold
1998 Mitsubishi Lancer Sold
2003 BMW 325i Sold
2006 Kia Carnival CEO Sold
2013 E250 CGI Current
2013 Honda CRV 2014 Current
2014 Honda Freed 2014 Current



เต๋า AV

อย่ายึดติดกับ ศูนย์บริการ
อะไหล่เชียงกง เพียบ ทั้งรถ ญี่ปุ่น กับรถยุโรป
วิ่งหาอะไหล่เองเป็น ยิ่งสบาย
ราคาเป็นมิตรกับกระเป๋าตัง คับ