ผู้เขียน หัวข้อ: ถ้าเกิดเหตุการแบบนี้ vsc จะช่วยได้มากน้อยแค่ไหนครับ  (อ่าน 11690 ครั้ง)

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,338
บางที่มักจะโดนตัดหน้า เพราะเราขับรถไม่เร็วมาก  เพราะเค้ารู้ว่าเราเบรกทัน ก็มี ประเทศเราขับรถยากอยู่ ปกติ การขับรถก็จะมีการประเมินความเร็ว
สมุติ มีรถรอจะกลับอยู่ ผมวิ่งขวามาด้วยความเร็ว 120 เค้าจะไม่กล้าออก เพราะเห็นว่ามาเร็ว แต่ถ้า ขับแบบระวังๆ เบามาก่อน พวกออกตัดหน้าเลย คิดว่าเราให้ทาง
โดยเฉพาะถ้า ขับรถคันเล็ก แบบนี้เจอประจำ แต่ถ้าวันไหนขับรถคันใหญ่จะไม่ค่อยมีใครกล้า  ปาดหรือตัดหน้า  ขับเร็วก็ไม่ได้ ขับช้าก็ไม่ดี
คิดว่าคงไม่ใช่กรณีนี้ครับ

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,407
พวกนี้ขี่รถแย่จริงๆครับ ตจว นี่ ขับยากกว่า กทม ซะอีก มีอะไรให้ระวังตลอด ต้องตื่นตัวอยู่เสมอ

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,640
มอเตอร์ไซ ถ้ามันโดนแบนแบบบางประเทศผมคนนึงดีใจมาก
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ tarahlm

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 920
กระทู้นี้ยาว เป็นที่สนใจมีผู้มาออกความเห็นกันเยอะ งั้นขออีกหน่อย

สำหรับทั้งสองสถานการณ์แบบนั้นหรือคล้ายๆกันแบบนี้ จะบอกถึงวิธีที่ผมใช้รับมือกับอตร.ที่จะเกิด
ออกตัวก่อนผมไม่ใช่คนขับรถเก่ง แต่ขับรถมานานจนเริ่มเฒ่าแล้วครับ

สำหรับมือใหม่ การขับรถทางไกลถนนใหญ่ๆ แม้เราจะเป็นคนขับรถค่อนข้างเร็ว ฝึกผ่อนความเร็วลงเล็กน้อย
เวลาผ่านชุมชนหรือรถเริ่มเยอะ เรามักจะลืมตัวครับ มีความเร็วเวลาเกิดกระทันหันจะจัดการกับรถเอาไม่ค่อยอยู่จริงๆ
(เป็นปกติที่ในใจเราถ้าไม่เคยเจอ คิดว่าเอาอยู่) การมีภรรยา-ช่วยฝึกเป็นอย่างดีจนชินเป็นนิสัยไม่ต้องบอกกันแล้ว

แม้รถที่ผมใช้มี ABS ESP/VSC ครบ  แต่เวลาเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มีหลักยึดถือว่า.. ต้องชลอ เบรก ให้หยุดให้ได้ก่อน
ส่วนการหักหลบ ผมจะใช้ในขั้นตอนสุดท้ายที่หยุดไม่อยู่แล้ว
เพราะจะเป็นการหักออกกระทันหันโดยที่เราไม่มีโอกาสมองรถที่วิ่งมาเลนด้านข้างเคียง
(แต่ถ้ารู้ว่ามีรถอยู่เลนข้างๆคู่ใกล้กัน คงใช้เบรกอย่างเดียวครับ)

ดังนั้นท่านที่ตอบมาใช้มือถือพวงมาลัยเกร็ง เหยียบเบรกอย่างเดียว ก็อาจเป็นวิธีการที่ดีวิธีหนึ่ง
เพราะอาจลดการบาดเจ็บอตร.ของคนในรถได้มากกว่า
แต่ขอบอกนะครับ สำหรับมือใหม่นั้นการตั้งใจคิดว่าต้องเลือกชนคนนั้น
ไม่ใช่เป็นเรื่องง่ายๆนะครับ จิตใจคนเราส่วนใหญ่อารี กลัวคนอื่นบาดเจ็บเสียชีวิต
มักจบด้วยการหักหลบจนเป็นข่าวอยู่บ่อยๆมากกว่า

ที่สำคัญในการขับรถ ผมคิดว่าสำคัญมากๆ น่าจะสำคัญมากยิ่งกว่าฝีมือเสียอีก
ในการปกป้องไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ คือ การคาดการณ์(เดา)เหตุการณ์ล่วงหน้า
เดาความคิดคนขับคันอื่น

สองกรณีนี้ เราต้องเดาว่าจักรยานยนต์เอียงตัดเลนข้ามมาเรื่อยๆแบบนี้ เราจะเลือกทำอะไร?
ขณะเริ่มเห็น(ถ้าเราเห็น) วินาทีนั้นเท้าผ่อนจากคันเร่งทันที แต่ไม่ใช่เหยียบเบรกนะ
(ผมใช้วิธีนี้บ่อยมากๆ เหยียบเบรกค่อนข้างน้อย รถที่ใช้ตอนนี้จะแสนสามหมื่นกิโลแล้ว ผ้าเบรกยังหนาดีอยู่)
เราต้องเดาว่าจักรยานยนต์จะเลือกทางไหน เขาเห็นเราหรือไม่

ก่อนอื่นคิดในใจจากประสบการณ์เราตอนวัยรุ่นที่เคยขี่ ว่าการขับขี่จักรยานยนต์นั้นความระมัดระวังน้อยกว่า
ผู้ขับขี่รถยนต์ที่ต้องยกไฟเลี้ยว มองหลัง/มองข้าง/มองหน้ากะระยะเผื่อชนคันหน้าตอนเหลือบหลัง กระทำเป็นนิสัยก่อนจะข้ามตัดเลน
ขณะที่หลายๆจักรยานยนต์ปื้ดเดียวไปเลยดื้อๆ
ส่วนถ้าเป็นชาวบ้านในตจว.ที่การจราจรรถไม่เยอะ  ไม่ได้ฝึกการระวังบ่อยๆจึงขาดความระวังเป็นนิสัย

ถ้าเขาเห็นเรา เขาจะช้าลง เปลี่ยนเป็นขี่แนวค่อนข้างขนาน เลนข้างเรา รู้ว่ารอให้เราผ่านก่อน
เมื่อผ่านแล้วเหยียบเร่งต่อได้เลย แต่ในใจต้องจ้องเตรียมเหยียบเบรกตลดเวลานะครับ

แต่ถ้าเห็นเขาขับเอียงสีสิบห้าองศามุ่งตัดเลนไม่ช้าลงเลย แสดงว่ามาแน่ครับ เขากะระยะพลาดหรือเผลอไม่เห็นเรา
เริ่มเหยียบเบรกได้เลยครับ
ถ้าเหยียบเบรกแล้วเอาไม่อยู่แน่ ทางเลือกสุดท้ายผมจะหักหลบแต่ไม่มากนะครับคิดว่าพอพ้นแบบเฉียดๆ
แต่ตอนนี้ความเร็วที่หักหลบจะลดลงไปเยอะพอสมควรแล้ว คงช้ากว่าที่เขาทดสอบMoose testกันมากพอควร
ห้ามหักเยอะเด็ดขาดจะแก้ไม่ทัน หักแค่นี้ที่เหลือแล้วแต่บุญกรรมของคู่กรณีครับ

คิดว่าอาจจะเป็นประโยชน์สำหรับมือใหม่ได้บ้าง แต่มือเก่าๆนั้นคงไม่จำเป็นต้องบอกกล่าว


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 14, 2017, 07:17:05 โดย tarahlm »

ออฟไลน์ maxzerker

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 181
    • อีเมล์
กระทู้นี้ยาว เป็นที่สนใจมีผู้มาออกความเห็นกันเยอะ งั้นขออีกหน่อย

สำหรับทั้งสองสถานการณ์แบบนั้นหรือคล้ายๆกันแบบนี้ จะบอกถึงวิธีที่ผมใช้รับมือกับอตร.ที่จะเกิด
ออกตัวก่อนผมไม่ใช่คนขับรถเก่ง แต่ขับรถมานานจนเริ่มเฒ่าแล้วครับ

สำหรับมือใหม่ การขับรถทางไกลถนนใหญ่ๆ แม้เราจะเป็นคนขับรถค่อนข้างเร็ว ฝึกผ่อนความเร็วลงเล็กน้อย
เวลาผ่านชุมชนหรือรถเริ่มเยอะ เรามักจะลืมตัวครับ มีความเร็วเวลาเกิดกระทันหันจะจัดการกับรถเอาไม่ค่อยอยู่จริงๆ
(เป็นปกติที่ในใจเราถ้าไม่เคยเจอ คิดว่าเอาอยู่) การมีภรรยา-ช่วยฝึกเป็นอย่างดีจนชินเป็นนิสัยไม่ต้องบอกกันแล้ว

แม้รถที่ผมใช้มี ABS ESP/VSC ครบ  แต่เวลาเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มีหลักยึดถือว่า.. ต้องชลอ เบรก ให้หยุดให้ได้ก่อน
ส่วนการหักหลบ ผมจะใช้ในขั้นตอนสุดท้ายที่หยุดไม่อยู่แล้ว
เพราะจะเป็นการหักออกกระทันหันโดยที่เราไม่มีโอกาสมองรถที่วิ่งมาเลนด้านข้างเคียง
(แต่ถ้ารู้ว่ามีรถอยู่เลนข้างๆคู่ใกล้กัน คงใช้เบรกอย่างเดียวครับ)

ดังนั้นท่านที่ตอบมาใช้มือถือพวงมาลัยเกร็ง เหยียบเบรกอย่างเดียว ก็อาจเป็นวิธีการที่ดีวิธีหนึ่ง
เพราะอาจลดการบาดเจ็บอตร.ของคนในรถได้มากกว่า
แต่ขอบอกนะครับ สำหรับมือใหม่นั้นการตั้งใจคิดว่าต้องเลือกชนคนนั้น
ไม่ใช่เป็นเรื่องง่ายๆนะครับ จิตใจคนเราส่วนใหญ่อารี กลัวคนอื่นบาดเจ็บเสียชีวิต
มักจบด้วยการหักหลบจนเป็นข่าวอยู่บ่อยๆมากกว่า

ที่สำคัญในการขับรถ ผมคิดว่าสำคัญมากๆ น่าจะสำคัญมากยิ่งกว่าฝีมือเสียอีก
ในการปกป้องไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ คือ การคาดการณ์(เดา)เหตุการณ์ล่วงหน้า
เดาความคิดคนขับคันอื่น

สองกรณีนี้ เราต้องเดาว่าจักรยานยนต์เอียงตัดเลนข้ามมาเรื่อยๆแบบนี้ เราจะเลือกทำอะไร?
ขณะเริ่มเห็น(ถ้าเราเห็น) วินาทีนั้นเท้าผ่อนจากคันเร่งทันที แต่ไม่ใช่เหยียบเบรกนะ
(ผมใช้วิธีนี้บ่อยมากๆ เหยียบเบรกค่อนข้างน้อย รถที่ใช้ตอนนี้จะแสนสามหมื่นกิโลแล้ว ผ้าเบรกยังหนาดีอยู่)
เราต้องเดาว่าจักรยานยนต์จะเลือกทางไหน เขาเห็นเราหรือไม่

ก่อนอื่นคิดในใจจากประสบการณ์เราตอนวัยรุ่นที่เคยขี่ ว่าการขับขี่จักรยานยนต์นั้นความระมัดระวังน้อยกว่า
ผู้ขับขี่รถยนต์ที่ต้องยกไฟเลี้ยว มองหลัง/มองข้าง/มองหน้ากะระยะเผื่อชนคันหน้าตอนเหลือบหลัง กระทำเป็นนิสัยก่อนจะข้ามตัดเลน
ขณะที่หลายๆจักรยานยนต์ปื้ดเดียวไปเลยดื้อๆ
ส่วนถ้าเป็นชาวบ้านในตจว.ที่การจราจรรถไม่เยอะ  ไม่ได้ฝึกการระวังบ่อยๆจึงขาดความระวังเป็นนิสัย

ถ้าเขาเห็นเรา เขาจะช้าลง เปลี่ยนเป็นขี่แนวค่อนข้างขนาน เลนข้างเรา รู้ว่ารอให้เราผ่านก่อน
เมื่อผ่านแล้วเหยียบเร่งต่อได้เลย แต่ในใจต้องจ้องเตรียมเหยียบเบรกตลดเวลานะครับ

แต่ถ้าเห็นเขาขับเอียงสีสิบห้าองศามุ่งตัดเลนไม่ช้าลงเลย แสดงว่ามาแน่ครับ เขากะระยะพลาดหรือเผลอไม่เห็นเรา
เริ่มเหยียบเบรกได้เลยครับ
ถ้าเหยียบเบรกแล้วเอาไม่อยู่แน่ ทางเลือกสุดท้ายผมจะหักหลบแต่ไม่มากนะครับคิดว่าพอพ้นแบบเฉียดๆ
แต่ตอนนี้ความเร็วที่หักหลบจะลดลงไปเยอะพอสมควรแล้ว คงช้ากว่าที่เขาทดสอบMoose testกันมากพอควร
ห้ามหักเยอะเด็ดขาดจะแก้ไม่ทัน หักแค่นี้ที่เหลือแล้วแต่บุญกรรมของคู่กรณีครับ

คิดว่าอาจจะเป็นประโยชน์สำหรับมือใหม่ได้บ้าง แต่มือเก่าๆนั้นคงไม่จำเป็นต้องบอกกล่าว
เห็นด้วยเลยครับ ผมขับมาสิบกว่าปี ที่รอดมาไม่เคยชนเลย
เพราะเดาอาการคันหน้าทุกคันตลอดเวลาครับ แต่จะเครียมากกับพวกที่เดาไม่ได้
ไม่เปิดไฟเลี้ยว ขับกินเลนซ้ายทีขวาทีแบบนี้ทำให้ประสาทกินได้เหมือนกัน

ออฟไลน์ infoman

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 181
กระทู้นี้ยาว เป็นที่สนใจมีผู้มาออกความเห็นกันเยอะ งั้นขออีกหน่อย

สำหรับทั้งสองสถานการณ์แบบนั้นหรือคล้ายๆกันแบบนี้ จะบอกถึงวิธีที่ผมใช้รับมือกับอตร.ที่จะเกิด
ออกตัวก่อนผมไม่ใช่คนขับรถเก่ง แต่ขับรถมานานจนเริ่มเฒ่าแล้วครับ

สำหรับมือใหม่ การขับรถทางไกลถนนใหญ่ๆ แม้เราจะเป็นคนขับรถค่อนข้างเร็ว ฝึกผ่อนความเร็วลงเล็กน้อย
เวลาผ่านชุมชนหรือรถเริ่มเยอะ เรามักจะลืมตัวครับ มีความเร็วเวลาเกิดกระทันหันจะจัดการกับรถเอาไม่ค่อยอยู่จริงๆ
(เป็นปกติที่ในใจเราถ้าไม่เคยเจอ คิดว่าเอาอยู่) การมีภรรยา-ช่วยฝึกเป็นอย่างดีจนชินเป็นนิสัยไม่ต้องบอกกันแล้ว

แม้รถที่ผมใช้มี ABS ESP/VSC ครบ  แต่เวลาเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มีหลักยึดถือว่า.. ต้องชลอ เบรก ให้หยุดให้ได้ก่อน
ส่วนการหักหลบ ผมจะใช้ในขั้นตอนสุดท้ายที่หยุดไม่อยู่แล้ว
เพราะจะเป็นการหักออกกระทันหันโดยที่เราไม่มีโอกาสมองรถที่วิ่งมาเลนด้านข้างเคียง
(แต่ถ้ารู้ว่ามีรถอยู่เลนข้างๆคู่ใกล้กัน คงใช้เบรกอย่างเดียวครับ)

ดังนั้นท่านที่ตอบมาใช้มือถือพวงมาลัยเกร็ง เหยียบเบรกอย่างเดียว ก็อาจเป็นวิธีการที่ดีวิธีหนึ่ง
เพราะอาจลดการบาดเจ็บอตร.ของคนในรถได้มากกว่า
แต่ขอบอกนะครับ สำหรับมือใหม่นั้นการตั้งใจคิดว่าต้องเลือกชนคนนั้น
ไม่ใช่เป็นเรื่องง่ายๆนะครับ จิตใจคนเราส่วนใหญ่อารี กลัวคนอื่นบาดเจ็บเสียชีวิต
มักจบด้วยการหักหลบจนเป็นข่าวอยู่บ่อยๆมากกว่า

ที่สำคัญในการขับรถ ผมคิดว่าสำคัญมากๆ น่าจะสำคัญมากยิ่งกว่าฝีมือเสียอีก
ในการปกป้องไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ คือ การคาดการณ์(เดา)เหตุการณ์ล่วงหน้า
เดาความคิดคนขับคันอื่น

สองกรณีนี้ เราต้องเดาว่าจักรยานยนต์เอียงตัดเลนข้ามมาเรื่อยๆแบบนี้ เราจะเลือกทำอะไร?
ขณะเริ่มเห็น(ถ้าเราเห็น) วินาทีนั้นเท้าผ่อนจากคันเร่งทันที แต่ไม่ใช่เหยียบเบรกนะ
(ผมใช้วิธีนี้บ่อยมากๆ เหยียบเบรกค่อนข้างน้อย รถที่ใช้ตอนนี้จะแสนสามหมื่นกิโลแล้ว ผ้าเบรกยังหนาดีอยู่)
เราต้องเดาว่าจักรยานยนต์จะเลือกทางไหน เขาเห็นเราหรือไม่

ก่อนอื่นคิดในใจจากประสบการณ์เราตอนวัยรุ่นที่เคยขี่ ว่าการขับขี่จักรยานยนต์นั้นความระมัดระวังน้อยกว่า
ผู้ขับขี่รถยนต์ที่ต้องยกไฟเลี้ยว มองหลัง/มองข้าง/มองหน้ากะระยะเผื่อชนคันหน้าตอนเหลือบหลัง กระทำเป็นนิสัยก่อนจะข้ามตัดเลน
ขณะที่หลายๆจักรยานยนต์ปื้ดเดียวไปเลยดื้อๆ
ส่วนถ้าเป็นชาวบ้านในตจว.ที่การจราจรรถไม่เยอะ  ไม่ได้ฝึกการระวังบ่อยๆจึงขาดความระวังเป็นนิสัย

ถ้าเขาเห็นเรา เขาจะช้าลง เปลี่ยนเป็นขี่แนวค่อนข้างขนาน เลนข้างเรา รู้ว่ารอให้เราผ่านก่อน
เมื่อผ่านแล้วเหยียบเร่งต่อได้เลย แต่ในใจต้องจ้องเตรียมเหยียบเบรกตลดเวลานะครับ

แต่ถ้าเห็นเขาขับเอียงสีสิบห้าองศามุ่งตัดเลนไม่ช้าลงเลย แสดงว่ามาแน่ครับ เขากะระยะพลาดหรือเผลอไม่เห็นเรา
เริ่มเหยียบเบรกได้เลยครับ
ถ้าเหยียบเบรกแล้วเอาไม่อยู่แน่ ทางเลือกสุดท้ายผมจะหักหลบแต่ไม่มากนะครับคิดว่าพอพ้นแบบเฉียดๆ
แต่ตอนนี้ความเร็วที่หักหลบจะลดลงไปเยอะพอสมควรแล้ว คงช้ากว่าที่เขาทดสอบMoose testกันมากพอควร
ห้ามหักเยอะเด็ดขาดจะแก้ไม่ทัน หักแค่นี้ที่เหลือแล้วแต่บุญกรรมของคู่กรณีครับ

คิดว่าอาจจะเป็นประโยชน์สำหรับมือใหม่ได้บ้าง แต่มือเก่าๆนั้นคงไม่จำเป็นต้องบอกกล่าว
เห็นด้วยเลยครับ ผมขับมาสิบกว่าปี ที่รอดมาไม่เคยชนเลย
เพราะเดาอาการคันหน้าทุกคันตลอดเวลาครับ แต่จะเครียมากกับพวกที่เดาไม่ได้
ไม่เปิดไฟเลี้ยว ขับกินเลนซ้ายทีขวาทีแบบนี้ทำให้ประสาทกินได้เหมือนกัน

คนเรามักจะขับรถเอาเพลิน บางทีก็ไม่ทันสังเกตุ เพราะมาจากนอก ช่องทางของเรา มองไม่กว้างพอ มองแต่ตรงหน้า ช่องตัวเอง

ออฟไลน์ infoman

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 181
นอกจากระบบแล้ว ระบบช่วงล่างก็สำคัญ แต่ก่อนก็ไม่รู้ว่าโช๊คอัพ ก็เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ Safty ที่จะช่วยชีวิตเราได้

รถที่ช่วงล่างดีเบรกดี ยางดี แม้จะไม่มี ระบบช่วยก็ไม่เสียอาการมาก แต่ที่สำคัญที่สุดคือสติ โดยเฉพาะ ถ้าพักผ่อนไม่พอ
การตอบสนอง ของร่างกายจะช้าลงไปเยอะ การคิดการตัดสินใจจะช้า ถ้าจำเป็น ต้องเดินทาง การแวะบ่อยๆ ดืมกาแฟ
ผ้าเย็นช่วยได้ โดยเฉพาะเทศกาลแบบนี้มักจะดื่ม ตื่นเช้ามาต้องเดินทางกลับ รถก็ติดหนัก พักผ่อนไม่พอ โอกาศเกิดเลยสูง

ออฟไลน์ Cheze_Cake

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 386
    • อีเมล์
กระทู้นี้ยาว เป็นที่สนใจมีผู้มาออกความเห็นกันเยอะ งั้นขออีกหน่อย

สำหรับทั้งสองสถานการณ์แบบนั้นหรือคล้ายๆกันแบบนี้ จะบอกถึงวิธีที่ผมใช้รับมือกับอตร.ที่จะเกิด
ออกตัวก่อนผมไม่ใช่คนขับรถเก่ง แต่ขับรถมานานจนเริ่มเฒ่าแล้วครับ

สำหรับมือใหม่ การขับรถทางไกลถนนใหญ่ๆ แม้เราจะเป็นคนขับรถค่อนข้างเร็ว ฝึกผ่อนความเร็วลงเล็กน้อย
เวลาผ่านชุมชนหรือรถเริ่มเยอะ เรามักจะลืมตัวครับ มีความเร็วเวลาเกิดกระทันหันจะจัดการกับรถเอาไม่ค่อยอยู่จริงๆ
(เป็นปกติที่ในใจเราถ้าไม่เคยเจอ คิดว่าเอาอยู่) การมีภรรยา-ช่วยฝึกเป็นอย่างดีจนชินเป็นนิสัยไม่ต้องบอกกันแล้ว

แม้รถที่ผมใช้มี ABS ESP/VSC ครบ  แต่เวลาเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มีหลักยึดถือว่า.. ต้องชลอ เบรก ให้หยุดให้ได้ก่อน
ส่วนการหักหลบ ผมจะใช้ในขั้นตอนสุดท้ายที่หยุดไม่อยู่แล้ว
เพราะจะเป็นการหักออกกระทันหันโดยที่เราไม่มีโอกาสมองรถที่วิ่งมาเลนด้านข้างเคียง
(แต่ถ้ารู้ว่ามีรถอยู่เลนข้างๆคู่ใกล้กัน คงใช้เบรกอย่างเดียวครับ)

ดังนั้นท่านที่ตอบมาใช้มือถือพวงมาลัยเกร็ง เหยียบเบรกอย่างเดียว ก็อาจเป็นวิธีการที่ดีวิธีหนึ่ง
เพราะอาจลดการบาดเจ็บอตร.ของคนในรถได้มากกว่า
แต่ขอบอกนะครับ สำหรับมือใหม่นั้นการตั้งใจคิดว่าต้องเลือกชนคนนั้น
ไม่ใช่เป็นเรื่องง่ายๆนะครับ จิตใจคนเราส่วนใหญ่อารี กลัวคนอื่นบาดเจ็บเสียชีวิต
มักจบด้วยการหักหลบจนเป็นข่าวอยู่บ่อยๆมากกว่า

ที่สำคัญในการขับรถ ผมคิดว่าสำคัญมากๆ น่าจะสำคัญมากยิ่งกว่าฝีมือเสียอีก
ในการปกป้องไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ คือ การคาดการณ์(เดา)เหตุการณ์ล่วงหน้า
เดาความคิดคนขับคันอื่น

สองกรณีนี้ เราต้องเดาว่าจักรยานยนต์เอียงตัดเลนข้ามมาเรื่อยๆแบบนี้ เราจะเลือกทำอะไร?
ขณะเริ่มเห็น(ถ้าเราเห็น) วินาทีนั้นเท้าผ่อนจากคันเร่งทันที แต่ไม่ใช่เหยียบเบรกนะ
(ผมใช้วิธีนี้บ่อยมากๆ เหยียบเบรกค่อนข้างน้อย รถที่ใช้ตอนนี้จะแสนสามหมื่นกิโลแล้ว ผ้าเบรกยังหนาดีอยู่)
เราต้องเดาว่าจักรยานยนต์จะเลือกทางไหน เขาเห็นเราหรือไม่

ก่อนอื่นคิดในใจจากประสบการณ์เราตอนวัยรุ่นที่เคยขี่ ว่าการขับขี่จักรยานยนต์นั้นความระมัดระวังน้อยกว่า
ผู้ขับขี่รถยนต์ที่ต้องยกไฟเลี้ยว มองหลัง/มองข้าง/มองหน้ากะระยะเผื่อชนคันหน้าตอนเหลือบหลัง กระทำเป็นนิสัยก่อนจะข้ามตัดเลน
ขณะที่หลายๆจักรยานยนต์ปื้ดเดียวไปเลยดื้อๆ
ส่วนถ้าเป็นชาวบ้านในตจว.ที่การจราจรรถไม่เยอะ  ไม่ได้ฝึกการระวังบ่อยๆจึงขาดความระวังเป็นนิสัย

ถ้าเขาเห็นเรา เขาจะช้าลง เปลี่ยนเป็นขี่แนวค่อนข้างขนาน เลนข้างเรา รู้ว่ารอให้เราผ่านก่อน
เมื่อผ่านแล้วเหยียบเร่งต่อได้เลย แต่ในใจต้องจ้องเตรียมเหยียบเบรกตลดเวลานะครับ

แต่ถ้าเห็นเขาขับเอียงสีสิบห้าองศามุ่งตัดเลนไม่ช้าลงเลย แสดงว่ามาแน่ครับ เขากะระยะพลาดหรือเผลอไม่เห็นเรา
เริ่มเหยียบเบรกได้เลยครับ
ถ้าเหยียบเบรกแล้วเอาไม่อยู่แน่ ทางเลือกสุดท้ายผมจะหักหลบแต่ไม่มากนะครับคิดว่าพอพ้นแบบเฉียดๆ
แต่ตอนนี้ความเร็วที่หักหลบจะลดลงไปเยอะพอสมควรแล้ว คงช้ากว่าที่เขาทดสอบMoose testกันมากพอควร
ห้ามหักเยอะเด็ดขาดจะแก้ไม่ทัน หักแค่นี้ที่เหลือแล้วแต่บุญกรรมของคู่กรณีครับ

คิดว่าอาจจะเป็นประโยชน์สำหรับมือใหม่ได้บ้าง แต่มือเก่าๆนั้นคงไม่จำเป็นต้องบอกกล่าว
+1 เหมือนด้วยทุกอย่างเลยครับ
Love Distance with
Chevy Colorado Highcountry

ออฟไลน์ J_Serie5

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,206
ถ้ารถญี่ปุ่นเดิมๆไม่แต่งช่วงล่าง ต่อให้มี vsc , dsc , ระบบช่วยเหลืออื่นๆตอบเลยว่ารอดยากมากครับ ต่อให้ใช้ camry , accord , teana ก็ตาม ถ้าทุกอย่างเดิมๆโอกาสเสียการทรงตัวแล้วลงข้างทางสูงครับ

อุบัติเหตุทางรถยนต์ผมให้น้ำหนักตามนี้
1 สมรรถนะรถ 70%
2 ประสบการณ์ผู้ขับ 20%
3 ระบบช่วยเหลือเช่น VSC , DSC , ระบบอื่นๆที่ช่วยเหลือด้านการทรงตัวของรถ 10%

ต่อให้คุณเป็นนักแข่งรถ แต่ใช้ eco car ,  b , c , d ทุกอย่างเดิมๆจากโรงงาน เจอเหตุการณ์กะทันหันแบบใน clip โอกาสที่นักแข่งจะหักหลบแบบไม่เกิดอุบัติเหตุค่อนข้างยากครับ ยิ่งระดับความเร็วเกิน 120 ขึ้นไปนี่ผมว่าแทบจะ x% เลยที่จะรอด(%น้อยมากๆ)

ออฟไลน์ Jatupon

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 193
จขกท. ใช้ยางติดรถยี่ห้ออะไร รุ่นอะไรครับ แล้วสภาพยางใช้งานมานานมากน้อยแค่ไหนแล้วครับผม

ออฟไลน์ siwakorn

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 395
    • อีเมล์
จขกท. ใช้ยางติดรถยี่ห้ออะไร รุ่นอะไรครับ แล้วสภาพยางใช้งานมานานมากน้อยแค่ไหนแล้วครับผม

BS GR100 ครับ ใช้มาปีกว่าๆเองครับ

ออฟไลน์ Jatupon

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 193
จขกท. ใช้ยางติดรถยี่ห้ออะไร รุ่นอะไรครับ แล้วสภาพยางใช้งานมานานมากน้อยแค่ไหนแล้วครับผม

BS GR100 ครับ ใช้มาปีกว่าๆเองครับ


ขอบคุณครับ  ผมก็ใช้ GR 100 215/60R16 ใน ACV 50  2.0G เหมือนกันครับ ประเด็นเรื่องยางคงตัดออกไปเพราะนี่ก็ถือเป็นยาง  comfort รุ่นที่ดีที่สุดสำหรับ BR ในตลาดเมืองไทยแล้ว

ออฟไลน์ Air_graphic

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 416
    • อีเมล์
มาอ่านอีกทีผมว่า จขกท เลิกโทษตัวเอง กับรถ เรื่อง vsc เถอะครับ
c350e ทำมูสเทส (หักหลบกะทันหัน )ได้ 64kmph เองครับ อันนั้นน่าจะมี vsc นะ

ขนาด พอช 911 ก็ทำได้แค่ 82kmph

ตั้งสติเวลาขับ คาดเข็มขัดทุกที่นั่ง
ถ้าที่ตัดหน้า ไม่ใช่ 10 ล้อ รถพ่วง
ผมว่าจับพวงมาลัยมั่นๆ เบรคสุดแรง ไปตรงๆดีกว่าครับ ด้วยความหวังดี  ไม่งั้นจะเป็นเราและคนที่เรารักที่ต้องเจ็บหนักซะเองครับ

ผมอ่านของคุณแล้วพยามทำความเข้าใจว่า ขนาดเบนซ์กับพอร์ชยังทำมูซเทสได้แค่นั้นอย่าไปหวังมากกับระบบควบคุมการทรงตัวใช่ไหมครับ? โอเคมูซเทสน่ะมันทำให้เห็นลักษณะการทรงตัวในลู่ทดสอบที่ให้เห็นอาการในแค่ช่วงเวลาซึ่งดูจะเป็นลิมิตของช่วงความเร็ว พอชนกรวยคือ Fail ถูกมั้ยครับ แต่..สังเกตมั้ยรถที่ทดสอบและมีระบบควบคุมการทรงตัวมันไม่หมุน ไม่หมุนเพราะอะไร ก็เพราะระบบช่วยพวกนี้แหละมันยังพอทำให้คนขับบังคับรถได้อยู่ และถนนจริงไม่ใช่แค่ลู่กั้นด้วยกรวยสองข้างครับ ยังมีพื้นที่บังคับหลบได้(ตรงนี้คงแล้วแต่ดวงด้วยว่าจะเจอทางแบบไหนนะ) แต่กลับกัน รถที่ไม่มีระบบพวกนี้อยู่เลย เอาแค่หักหลบเร็วๆก็หมุนแบบไม่ต้องลุ้นแล้วครับ

ออฟไลน์ 6162002

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,089
มาอ่านอีกทีผมว่า จขกท เลิกโทษตัวเอง กับรถ เรื่อง vsc เถอะครับ
c350e ทำมูสเทส (หักหลบกะทันหัน )ได้ 64kmph เองครับ อันนั้นน่าจะมี vsc นะ

ขนาด พอช 911 ก็ทำได้แค่ 82kmph

ตั้งสติเวลาขับ คาดเข็มขัดทุกที่นั่ง
ถ้าที่ตัดหน้า ไม่ใช่ 10 ล้อ รถพ่วง
ผมว่าจับพวงมาลัยมั่นๆ เบรคสุดแรง ไปตรงๆดีกว่าครับ ด้วยความหวังดี  ไม่งั้นจะเป็นเราและคนที่เรารักที่ต้องเจ็บหนักซะเองครับ

ผมอ่านของคุณแล้วพยามทำความเข้าใจว่า ขนาดเบนซ์กับพอร์ชยังทำมูซเทสได้แค่นั้นอย่าไปหวังมากกับระบบควบคุมการทรงตัวใช่ไหมครับ? โอเคมูซเทสน่ะมันทำให้เห็นลักษณะการทรงตัวในลู่ทดสอบที่ให้เห็นอาการในแค่ช่วงเวลาซึ่งดูจะเป็นลิมิตของช่วงความเร็ว พอชนกรวยคือ Fail ถูกมั้ยครับ แต่..สังเกตมั้ยรถที่ทดสอบและมีระบบควบคุมการทรงตัวมันไม่หมุน ไม่หมุนเพราะอะไร ก็เพราะระบบช่วยพวกนี้แหละมันยังพอทำให้คนขับบังคับรถได้อยู่ และถนนจริงไม่ใช่แค่ลู่กั้นด้วยกรวยสองข้างครับ ยังมีพื้นที่บังคับหลบได้(ตรงนี้คงแล้วแต่ดวงด้วยว่าจะเจอทางแบบไหนนะ) แต่กลับกัน รถที่ไม่มีระบบพวกนี้อยู่เลย เอาแค่หักหลบเร็วๆก็หมุนแบบไม่ต้องลุ้นแล้วครับ

เห็นด้วยครับ

ประเด็นหลักของ VSC คือมันทำให้รถไม่หมุนครับ  (ลองดูคลิปทดสอบ EuroNCAP เปิดกับปิด ESC สภาพเหมือนในคลิป จขกท. เลย)

เคยมีโอกาสได้ลองในสนาม  ถ้าเราเปิด VSC พอหักไปแล้วหักกลับแรงๆ  หน้ารถมันจะไม่ค่อยยอมมาครับ  (เหมือนมันกลัวด้านท้ายจะแซงด้านหน้า เลยหน่วงไว้แปบนึง)
แต่ถ้าไม่เปิด VSC พอหักกลับ หน้าจะมา แต่ท้ายจะแซงหน้า  สรุป...หมุน แล้วก็เลยตามเลย  คุมอะไรไม่ได้จนมันเกือบจอดอะครับ

ออฟไลน์ tarahlm

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 920
มาอ่านอีกทีผมว่า จขกท เลิกโทษตัวเอง กับรถ เรื่อง vsc เถอะครับ
c350e ทำมูสเทส (หักหลบกะทันหัน )ได้ 64kmph เองครับ อันนั้นน่าจะมี vsc นะ

ขนาด พอช 911 ก็ทำได้แค่ 82kmph

ตั้งสติเวลาขับ คาดเข็มขัดทุกที่นั่ง
ถ้าที่ตัดหน้า ไม่ใช่ 10 ล้อ รถพ่วง
ผมว่าจับพวงมาลัยมั่นๆ เบรคสุดแรง ไปตรงๆดีกว่าครับ ด้วยความหวังดี  ไม่งั้นจะเป็นเราและคนที่เรารักที่ต้องเจ็บหนักซะเองครับ

ผมอ่านของคุณแล้วพยามทำความเข้าใจว่า ขนาดเบนซ์กับพอร์ชยังทำมูซเทสได้แค่นั้นอย่าไปหวังมากกับระบบควบคุมการทรงตัวใช่ไหมครับ? โอเคมูซเทสน่ะมันทำให้เห็นลักษณะการทรงตัวในลู่ทดสอบที่ให้เห็นอาการในแค่ช่วงเวลาซึ่งดูจะเป็นลิมิตของช่วงความเร็ว พอชนกรวยคือ Fail ถูกมั้ยครับ แต่..สังเกตมั้ยรถที่ทดสอบและมีระบบควบคุมการทรงตัวมันไม่หมุน ไม่หมุนเพราะอะไร ก็เพราะระบบช่วยพวกนี้แหละมันยังพอทำให้คนขับบังคับรถได้อยู่ และถนนจริงไม่ใช่แค่ลู่กั้นด้วยกรวยสองข้างครับ ยังมีพื้นที่บังคับหลบได้(ตรงนี้คงแล้วแต่ดวงด้วยว่าจะเจอทางแบบไหนนะ) แต่กลับกัน รถที่ไม่มีระบบพวกนี้อยู่เลย เอาแค่หักหลบเร็วๆก็หมุนแบบไม่ต้องลุ้นแล้วครับ

เห็นด้วยครับ กับประโยชน์ของVSC และแนวคิดเช่นนี้

ออฟไลน์ Lancer

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 372
ช่วยได้ครับ แต่ทั้งหมดอยู่ที่คนขับครับ รถมันก็แค่ส่วนหนึ่งครับ