โพลล์

Toyota Corolla Altis 1.6J 799,000 THB
39 (46.4%)
Mazda Skyactiv-D 1.5 High Plus L 789,000 THB Sedan
13 (15.5%)
Mazda Skyactiv-D 1.5 Standard 680,000 THB Sedan
7 (8.3%)
Mazda Skyactiv-D 1.5 High Plus L 789,000 THB Hatchback
15 (17.9%)
Mazda Skyactiv-D 1.5 Standard 680,000 THB Hatchback
10 (11.9%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 84

ปิดการโหวต: สิงหาคม 03, 2017, 09:55:40

พี่ๆเพื่อนๆช่วย Vote ระหว่าง Mazda2 Skyactive-D กับ Altis 1.6J นั้งสอง ไม่บรรทุก

ruu

ผมต้องการซื้อรถใช้เดินทาง 2 คนโดยใช้ขับไปเดินทางปีละ 15,000 กม. ครับ ไม่บรรทุกของครั้งละมากๆครับ ต้องการใช้งานในระยะเวลาประมาณ 5-7 ปีครับ
ผมไม่ปรับแต่งรถใดๆครับ ยกเว้นเปลี่ยนผ้าเบรค ยาง โช๊คและสปริงครับ เพื่อความมั่นใจครับ
โดยอยากให้พี่ๆเพื่อนๆ ให้ความเห็นกับหัวข้อดังต่อไปนี้ครับ
  • ความปลอดภัย
  • การทรงตัว
  • วัสดุที่ใช้ในการประกอบ คือผมจะกลัวรถบางรุ่น บางยี่ห้อ ที่ใช้วัสดุ ที่พอใช้งานไปสัก 3-5 ปีแล้ว อุปกรณ์ภายในห้องโดยสาร กรอบและแตกออกครับ
  • ค่าซ่อมบำรุงรถในระยะเวลา 5-7 ปี
ขอบพระคุณพี่ๆ เพื่อนๆ ทุกท่านมากครับ



tnp_super

ผมเลือก Altis 1.6j ครับรถใหญ่กว่าเครื่องใหญ่กว่าถุงลมเยอะกว่า ถึงจะปวดขามากกว่าเพราะเกียร์ธรรมดาก็เถอะ



carenaruk

จิ้มaltisครับโจทย์นี้ ความปลอดภัยถุงลมมาเต็มๆ รถใหญ่กว่า ได้ภาพลักษณ์แถมด้วย



ซิ่งเข้าส้วม

1. Altis ให้ถุงลมมากกว่า ชนะ
2. Mazda2 นิ่งกว่า ชนะ
3. ไม่รู้ แต่โตโยต้าเป็นพลาสติกแข็งคุณภาพต่ำกว่า ก็น่าจะทนกว่าหนังบุนุ่ม
4. Mazda2 ถูกกว่าในช่วง 3 ปีแรก ที่เหลือหมดประกันซ่อมอู่นอกโตโยต้าถูกกว่า



I-PULSE

ถ้าขับนอกเมืองหรือรถไม่ติดมาก ผมขอเลือก altis แต่ถ้าจะต้องเจอรถติดบ่อยๆ คือไป m2 ตัวล่างเพราะไม่เมื่อยขา



kez


  เลือก size รถก่อน  จะเอารถขนาดเล็ก หรือ กลาง



0%

altisออโต้เถอะ

แต่เรื่องภาพลักษณ์เผลอๆmazda2จะดูดีกว่านะ

รถใหญ่กรณีนี้อย่างaltisนี้ไม่ได้ดูดีมีภาษีสังคมเลย



MystogaN

ภาพลักษณ์แทกซี่ปะคับ เอาแบบบ้านๆ คนทั่วไปคิดอะนะ

ปล.Civic มั้ย



wanchai wongsa

ในเมือง mazd2 นอกเมืองทั่วไป altis
Altis Trd 2010,fortuner2.8 4x2 2016,Ranger Wt 2.0bi 4x4 2022



Dark Overlord

จขกท ไม่ได้ถามเรื่องภาพลักษณ์
แต่เห็นหลายคอมเม้นท์ตอบเรื่องภาพลักษณ์
Altis รุ่นปัจจุบันผมว่าภาพลักษณ์ดีเลย เพราะออกแบบมาจะสวยกว่า Camry อยู่แล้ว
Mazda 2 ถ้าไม่ใช่ไฟหน้าตาปีศาจ ดู low ไปหน่อย หน้าตาคล้าย Mirage ดูเหมือน eco car ทั่วๆ ไป
แต่ถ้าไฟหน้าตาปีศาจ ดูดีประมาณ Vios City ครับ ไม่ได้ข้ามรุ่นไป c segment



Nonnics

คู่นี้ altisได้เปรียบครับ segmentสูงกว่า
ห้องโดยสารกว้างขวาง ไม่จุกจิก เดินทาง
ในเมืองและตจว.ขับสบายกว่า .....

เลือก Altis j ไม่ต้องลังเลครับ



NONT4477

Altis ก็คือ Altis อะครับ ต่อให้เป็น Taxi ภาพลักษณ์อาจจะด้อยกว่า Civic แต่มันก็ดูดีกว่า B-seg นะ
เอา J มาใส่ล้อ 16 ของตัว G, V ก็ดูดีขึ้นเยอะแล้ว มีให้เลือกเยอะด้วย
ถ้า จขกท จะเลือก ดูที่เกียร์ดีกว่าอยากใช้เท้าซ้ายหรือเปล่า มีผลกระทบกับการใช้งานมากกว่าขนาดรถ
ใช้งานปีละ 15000 ขับในเมืองตลอดเลือกเกียร์  auto จะดีกว่า
Top Gear's Biggest FAN!!! (IN MY House)
I'm NAC1701  ^ ^



nl2br

เทียบ 2 ดีเซลตัวไหนครับ ถ้าตัวท๊อป เป็นผมซื้อ อัลติสดีกว่า
แต่ถ้าเทียบกับ 2 ดีเซลตัวล่าง ผมว่าน่าจะพอเทียบกันได้
2 ตัวล่าง 68xxxx อัลติสตัวล่าง 799xxx
2ดีเซลตัวล่างส่วนลดต่ำๆ ก็ 4-50k อัลติสไม่แน่ใจว่าจะหาส่วนลดได้หรือเปล่า
ตีส่วนต่างไป 150000 ซึ่งเงินส่วนนี้เอาไว้ซ่อม มาสด้า 2 หลังปีที่ 5 เหลือๆ
ส่วนปีที่ 1 - ปีที่ 5 วิ่ง 15000 โลต่อปี มาสด้า 2 อัตราสิ้นเปลือง ประหยัดกว่าอัลติสหลายบาทอยู่นะครับ ส่วนต่างตรงนี้ เอาไว้เซอวิส 0 ละกัน เพราะน่าจะแพงกว่าติส
เปลี่ยนถ่าย นมค หลังจากหมดคูปองคฟรี ก็ 2พันปลายๆ รอบเปลี่ยนพวกกรองเชื้อเพลิง กรองอื่นๆทั้งหลายด้วยก็อาจจะมีเพิ่มแตะๆ 4-5000 บาท ไม่แน่ใจว่าทุกระยะ 40000 โลหรือเปล่า
หรือถ้าเปลี่ยนถ่ายนมค อู่นอกก็ประหยัดได้เยอะครับ
การทรงตัวผมยกให้ 2 เงียบกว่าด้วย
ส่วนความปลอดภัย ให้ติสเพราะถุงลมตั้ง 7 ใบ
บล็อกข่าวไอทีกากๆ >> https://thaimobiletricks.blogspot.com/ << ข่าวมือถือ มือถือรุ่นใหม่



ruu

ขอบพระคุณพี่ๆเพื่อนๆทุกท่านที่ให้คำแนะนำครับ ผมขอความเห็นพี่ๆเพื่อนๆ เพราะตัดสินใจไม่ได้หลายเรื่องครับ
ในเรื่องความมั่นใจในการขับขี่ ระยะเบรค ความเงียบในห้องโดยสาร การเร่งแซง ผมยกให้ Mazda 2 และมาพร้อมกับเกียร์ Auto อีก
ส่วน Altis หากต้องการเกียร์ Auto ราคาจะไปอยู่ที่ 869,000 เลยครับ ซึ่งผมไม่อยากผ่อนครับ อายุเยอะแล้วครับ
แต่ก็มาติดที่ราคาขายต่อ M2 กับ Altis ก็คนละเรื่องเลย สรุปไม่ได้ ไม่ลงตัวสักที

ผมจึงต้องขอรบกวนทุกท่าน ณ ที่นี้ว่า ถ้าขับ 5-7 ปี มองความปลอดภัยเป็นหลัก อุปกรณ์ภายในวัสดุดี ไม่ต้องหาเปลี่ยน หนังหุ้มเกียร์ กลอนประตู
ยางหุ้มเบรคมือ ฝากล่องเก็บของ ฯลฯ ควรเลือกตัวใด เพราะมีรถบางรุ่น บางยี่ห้อ ขับไป 3-4 ปีอุปกรณ์ที่ว่ามากรอบแตกบ้าง หักบ้าง หลุดบ้าง
ต้องหาเปลี่ยน เสียเงินมากวุ่นวายอีกครับ

ด้วยความที่ไม่สนใจภาพลักษณ์ อายุเยอะขึ้นมากแล้ว ผมจึงอยากหารถที่มีความเป็นรถ เช่น เร่งได้แซงพ้น เบรคหยุด เลี้ยวไม่ปัด มากกว่าจะ
สนใจราคาขายต่อ หรือภาพลักษณ์ครับ

ขอบพระคุณทุกท่านอีกครั้งครับ ขอให้ทุกท่านให้ความเห็น คำแนะนำได้เต็มที่ครับ
เพราะผมติดอยู่ตรงนี้มาตั้งแต่ต้นปีแล้วครับ ตอนนี้ผมใช้ Altis ปี 2003 อยู่ครับ พอได้ขับ M2 XD ผมเลยเปรียบเทียบ
มาติดเรื่องถุงลมจำนวนมาก และราคาขายต่อที่ดีกว่าของ Altis เลยตัดสินใจไม่ได้ครับ

ขอบพระคุณทุกท่านครับ
และขออภัยที่รบกวนบ่อยๆครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 05, 2017, 11:17:54 โดย ruu »



TrentXWB

ถ้าเทียบ
2 ดีเซล ตัว High Plus L กับ พี่อัลติส 1.6 j คู่นี้ผมจิ้ม 1.6 j
2 ดีเซล ตัว Standard กับ พี่อัลติส 1.6 j คู่นี้ผมจิ้ม 2 ดีเซล ตัวล่างสุด

ปล.
ถ้านอกชอยส์ได้ ผมอาจจะจิ้ม
2 เบนซิน ตัว Standard หรือ ตัว High ราคา 530k กับ 590k สองตัวนี้ต่างกันที่ล้ออัลลอยกับล้อกระทะพร้อมฝาครอบ Keyless entry แล้วก็ เซ็นเซอร์ถอยหลังครับ
ความประหยัดระหว่างเบนซินกับดีเซล ทั้งผลทดสอบของเว็บและที่เพื่อนๆ สมาชิกรีวิวหรือพูดถึงไว้ก็ทำได้ดีทั้งคู่ครับ

ขออนุญาตโควทคำอธิบายและผลทดสอบครับ
*มาตรฐานการทดสอบอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ของ www.headlightmag.com
วิ่ง 110 km/h นั่ง 2 คน น้ำหนักรวมกันไม่เกิน 160 กิโลกรัม เปิดแอร์ตามปกติ

2 ดีเซล เก๋ง 4 ประตู ได้ 22.48 กม./ลิตร
2 เบนซิน เก๋ง 4 ประตู ได้ 24.29 กม./ลิตร

ส่วนถ้าเป็นรถใหญ่ไซส์ใกล้อัลติส ผมอาจจะจิ้ม
Mazda3 เก๋ง ตัว 2.0E ครับ ราคา 847k
เพราะรายนี้กว้างกว่า 2 หน่อย ทรวดทรงดูลงตัว ออปชั่นความปลอดภัยรวมถึงการขับขี่อยู่ในเกณฑ์เกาะกลุ่มค่อนไปทางดีครับ
ราคาก็เหมาะสม ไม่ขูดรีดกันเกินไป แต่แอบเงินไปประมาณนึง  ;)



dekdemo

ใจผมไป cx3 จริงๆ ถ้านั่งแค่สองคน



Por SC

ถ้าในตัวเลือก MZ2-D 1.5 Standard 680,000 THB Sedan ครับ (ขอส่วนลดสัก 40,000)
ถ้านอกตัวเลือก City/Jazz S-CVT ราคา 589,000-594,000 แล้วเปลี่ยนยาง โช้ค ผ้าเบรค ตามที่ จขกท ว่าครับ (ขอส่วนลดสัก 20,000 / ช่วงนี้ Jazz ดอกเบี้ยถูก)



ABUSEz

เห็น จขกท สนใจเรื่องราคาขายต่อพอสมควร
ผผว่า mazda ยุค skyactiv นี่ราคาขายต่อไม่น่าเกลียดเลย ดีกว่า toyota ด้วยซ้ำในตอนนี้
ยิ่งถ้าเป็น 2 ดีเซล ต่อไปอาจจะราคาดีก็ได้ครับ ขณะที่ altis J mt ตัวล่างสุด ผมว่าเผลอๆอาจจะขายยากกว่านะ



ruu

ขอบคุณท่านที่ให้ความเห็นครับ
พอเวลาผ่านอะไรๆก็เปลี่ยน ผมได้ความรู้ใหม่จากที่นี่เช่น
  • ดีเซลยุคนี้ ไม่ได้ทนทานกว่า เบนซินยุคนี้เลย เพราะมีอุปกรณ์มาก และซับซ้อนเช่นเดียวกันไปแล้ว
  • รถที่ไม่ใช่รถตลาดราคาขายต่อ ดีพอๆกับรถตลาด ผมไม่เคยซื้อรถมือสองเลยครับ แต่เมื่อก่อนรถที่ไม่ใช่รถตลาด ต้องลดจนเจ็บถึงจะขายได้
  • วัสดุภายในห้องโดยสาร รายใหญ่ น้อย ล้วนไม่คงทนเหมือนก่อน
  • รถยุคนี้ แม้ประหยัดน้ำมันมาก แต่ดูเหมือนในห้องนี้ บอกกันหลายๆท่านว่า ค่าซ่อมบำรุงก็สูงมากเช่นกัน



paeybu

mazda 2 ไม่ต้องคิดเลยครับ ถ้าอยู่ในตัวเลือกแสดงว่ารับได้กับภายในแคบหน่อย



HHHsung

1. ความปลอดภัย / passive active safety รุ่นไหนเยอะ เอารุ่นนั้น

2. การทรงตัว / เปลี่ยนมาใช้ยางสปอร์ต คุณภาพสูง ช่วยได้เยอะ

3. วัสดุที่ใช้ในการประกอบ คือผมจะกลัวรถบางรุ่น บางยี่ห้อ ที่ใช้วัสดุ ที่พอใช้งานไปสัก 3-5 ปีแล้ว อุปกรณ์ภายในห้องโดยสาร กรอบและแตกออกครับ  / เจ้าตลาดน่าเชื่อถือกว่า

4. ค่าซ่อมบำรุงรถในระยะเวลา 5-7 ปี / เจ้าตลาดน่าจะถูกกว่า

ตามช้อย และงบประมาณ แถมวื่งน้อย ตัด มาสด้า 2 ดีเซล ออกเลยครับ รถรุ่นนี้ แพงที่เครื่องยนต์

จะใช้ให้คุ้มต้องวิ่งเยอะ และเส้นทางที่งใช้แรงบิดบ่อยๆ อย่างขึ้นเขา ขึ้นดอย ซึ่งก็ไม่ใช่

เจ้าตลาด ได้เกือบทุกข้อยกเว้นข้อ 2 แต่พอแก้ได้นิด คือเน้นยางสปอร์ตดีๆ อย่าง PS4 หรือ RE003

ดูแล้วไม่เน้นขนาดรถ เล่นเจ้าตลาด อย่าง วีออส หรือ ซิตี้ แล้วจับเปลี่ยน สตรัท + โช๊ค + ยาง จบละ

ปล. ผมโหวด อัลติสครับ รถใหญ่ ดีกว่าทุกอย่าง ยกเว้น ราคา และ อัตราการกินน้ำมัน

อุต๊ะ ปิดผลโหวต สิงหา........ จะคิดอะไรนานขนาดนั้น

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 05, 2017, 13:38:05 โดย HHHsung »



bahamu

2ดีเซล อะไหล่มีทุกชิ้นที่เบิกห้าง ราคาถูกกว่าอัสติสหลายตัว เช่น

ยางเต้าโช้ค ตัวหน้าแปดร้อยกว่าบาท
อัสติส พันสามขึ้น
ยางเต้าสี่ตัว ต้องเปลี่ยนทุกครั้งที่เปลี่ยนโช้ค ถ้าแพงมากแบบยุโรปแสนโลเปลี่ยนที
ส่วนใหญ่ไม่พังไม่เปลี่ยน พอยางเต้าเบี้ยว แกนโช้คจะเบี้ยวตาม ยางแย่ลง
ที่บอกรถยุ่นไม่ดี ถามว่าเคยซ่อมตามคู่มือ เปลี่ยนใส่อะไหล่คุณภาพสูงกันรึเปล่า

ยางแท่นเครื่อง ถูกกว่า ยางแท่นไฮดรอลิคของเล็กซัส มาใส่อัสติส สี่ตัวหมื่นต้น
แต่ระบบเดี๋ยวติด เดี๋ยวดับ มีผลกับยางแท่นพอสมควร ถ้าสั่นมากต้องเปลี่ยน

แบตติดรถ เปลี่ยนข้างนอกได้เลย ขนาดเท่ากันเปะ ดีกว่า ถูกกว่า ยัวซ่าติดรถเยอะ

แต่ถ้าซื้อแต่ของเทียบ มือสอง สามห่วงมีเยอะถูกกว่า ถ้าเบิกห้างเกรดยุ่นแท้ 2ถูกกว่า

2ดีเซล ถ่ายน้ำมันเกียร์แบบเปิดรู ประมาณ 1 แกลลอน ในลูกทอร์ค ครึ่งลิตร ทั้งลูกเกียร์ประมาณ 6 ลิตร
ค่าน้ำมันเกียร์ 1แกลลอน 850 บาท ถ่ายแบบเปิดอ่างประมาณพันบาท ต้องใช้น้ำมันศูนย์เท่านั้น
ไส้กรองโซล่า 650 บาท แบบมีถ้วยรองไล่น้ำ หมั่นดูบ่อยๆ เปลี่ยนบ่อยๆ อย่าให้ตัน
น้ำยาหม้อน้ำทั้งระบบ 1 แกลลอน 500 บาท อินเตอร์หล่อเย็นด้วยน้ำ ต้องถ่ายตามระยะ

ค่าใช้จ่ายไม่ได้แพงกว่าอัสติส แต่ถ้าไม่ยอมถ่าย เกียร์พัง อินเตอร์น้ำตัน พาลหอยพังได้
ในตารางจะแสนโลถ่าย แต่บ้านเราร้อนจัดหารสองเต็มที่แล้ว ยิ่งเบนซินฉีดตรง ปั้มหัวฉีดแพงใช่เล่น
หมั่นถ่ายของเหลวอย่าให้เก่า ไส้กรองไม่ตัน แสนโลสบายๆ ขนาดลากขับแสนกว่าโลขาย ยังไม่พังหลายคัน

ถ้าเป็นอัสติส 2ปี สี่หมื่นโล อันไหนถึงก่อนถ่ายเลย เกียร์cvt ถ่ายน้ำมันบ่อย ต้องถนอมกว่าสกายเอคถีบ

ตังค์ถึง เล่นรุ่นไฟหน้า แองกี้เบิร์ด ถ้าตาเพชรต้องเปลี่ยนหลอดใหม่ เพราะมืดเมื่อติดฟิลม์
ล้อ16 หายางตรงรุ่นไม่ได้ เทียบไม่ได้ ต้องยอมแก้มเตี้ย ดันลอปติดรถ สู้มิชลินxm2 บริดสโตนturanza ไม่ได้
ไม่งั้นต้องล้อ15 ยางตลาดเพียบ บางคนว่า วิศวกรต้องการให้ยางนิ่มขึ้น แต่ออกตัว เข้าโค้งดี เลยสั่งสเปคยางเฉพาะ
คิดซะว่าขับ ม้า กระทิง กบ ก็อดซิลล่ารุ่นพิเศษ ยางติดรถ สภาพเดียวกัน ไม่มียางตลาดเทียบ เบิกห้างอย่างเดียว



Ex_machina

altis ครับ
เรื่องความทนภายใน ยกให้เขาเลย
ผมใช้รุ่นหน้าแบน มา 8 ปีไม่เคยมีอะไรเสีย หรือ
 แตกหักเลย สมกับภาพลักษณ์แทกซี่ที่หลายคนไม่ชอบ  :P ทนดี

ค่าซ่อมบำรุงระยะยาว ยังไง เบนซิน n/a ก็ได้เปรียบกว่าเยอะ
เครื่องดีเซลเทอร์โบมีอะไรให้ซ่อมเยอะกว่า เพราะซับซ้อนกว่า

ที่แพ้ก็มีแค่ option การขับขี่ และประหยัดน้ำมัน



Darkart

Mazda2 Skyactive-D กับ Altis 1.6J นั้งสอง ไม่บรรทุก
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2017, 17:42:06 »
Altis ครับ
เครื่องยนต์ NA บำรุงรักษาไม่ยากยุ่งมาก
Mazda2 Diesel การบำรุงยุ่งยากมากกว่า ใช้อินเตอร์คูลเลอร์แบบน้ำอีก ครับ
ผู้ไม่มีแผลเป็น คือ ผู้ไม่มีประสบการณ์



Symphonic

Re:พี่ๆเพื่อนๆช่วยVoteระหว่าง Mazda2 Skyactive-D กับ Altis 1.6J
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2017, 18:21:39 »
ผมต้องการซื้อรถใช้เดินทาง 2 คนโดยใช้ขับไปเดินทางปีละ 15,000 กม. ครับ ไม่บรรทุกของครั้งละมากๆครับ ต้องการใช้งานในระยะเวลาประมาณ 5-7 ปีครับ
ผมไม่ปรับแต่งรถใดๆครับ ยกเว้นเปลี่ยนผ้าเบรค ยาง โช๊คและสปริงครับ เพื่อความมั่นใจครับ
โดยอยากให้พี่ๆเพื่อนๆ ให้ความเห็นกับหัวข้อดังต่อไปนี้ครับ
  • ความปลอดภัย
  • การทรงตัว
  • วัสดุที่ใช้ในการประกอบ คือผมจะกลัวรถบางรุ่น บางยี่ห้อ ที่ใช้วัสดุ ที่พอใช้งานไปสัก 3-5 ปีแล้ว อุปกรณ์ภายในห้องโดยสาร กรอบและแตกออกครับ
  • ค่าซ่อมบำรุงรถในระยะเวลา 5-7 ปี
ขอบพระคุณพี่ๆ เพื่อนๆ ทุกท่านมากครับ
ในตัวเลือกระหว่าง มาสด้า 2 ดีเซล  กับ อัลติส ตัวล่างเกียร์ธรรมดา
ยังไงผมก็เลือก อัลติสครับ
1. เรื่องความปลอดภัยผมคิดว่ายังไง อัลติส รถใหญ่กว่าย่อมได้เปรียบ ยิ่งถุงลมที่มากกว่าด้วย
2. การทรงตัว บอกได้ว่า อัลติสตัวนี้ก็ไม่ได้แย่ ที่สำคัญถ้าพี่ขับรถแบบปุถุชน ไม่ได้สาดโค้งอย่างเมามัน
    มันไม่ได้ต่างกันอย่างมีนัยยะหรอกครับ
3. เรื่องวัสดุ ว่ากันตามตรงนะ ผมไม่ค่อยเจอปัญหาวัสดุกรอบแตก ซีดจาง หลุดร่อน จาก โตโยต้านะครับ
    ทั้ง ๆ ที่จอดตากแดด ตากฝน แต่ส่วนใหญ่ที่เราพูดว่าโตโยต้าวัสดุห่วย จริง ๆ แล้วควรพูดว่าวัสดุไม่สวย
    ออกแบบไม่สวย และใช้วัสดุที่ดูธรรมดาไม่แพรวพราวฟรุ้งฟริ้งมากกว่า แต่มันไม่ได้มีปัญหาเรื่องความคงทน
    ในระยะยาวเลย
4. ค่าซ่อมบำรุงรักษาในระยะยาว (เอาแบบยาวกว่า 5-7 ปีด้วย) ผมไว้ใจโตโยต้ามากกว่า ว่าจะมีอะไหล่ให้ใช้
    ในระยะยาว ๆ  โดยเฉพาะดีเซลเทคโนโลยีสูงอย่างมาสด้าสกายดีตัวนี้ มันต้องเริ่มนับหนึ่งพิสูจน์กันใหม่
    ลืมเรื่องดีเซลรุ่นเก่าที่ทนถึกไปได้เลย เพราะดีเซลยุคเก่าที่ทนทานมันมาจากการทำงานของเครื่องที่ไม่มี
    ระบบไฟฟ้าซับซ้อน มันจุดระเบิดด้วยตัวเองจากกำลังอัดที่สูงระดับ 19 ต่อ 1   ทำให้เสียงดัง เครื่องต้องทน
    แรงอัดขนาดนั้นจึงต้องหนาและหนัก สั่นสะเทือนมาก และอัตราเร่งอืดอาด 
    แต่ดีเซลไฮเทคของมาสด้ามันลบทุกอย่างออกไปหมด เป็นเครื่องดีเซลที่เดินเรียบ สั่นสะเทือนน้อย สะอาด
    เบา อัตราเร่งดี  มันทำได้ด้วยการลดกำลังอัด แต่มีอิเล็กทรอนิกส์ช่วยทั้งตอนสตาร์ทเย็น จ่ายน้ำมัน คุมเทอร์โบ
    ซึ่งซับซ้อน ระบบและกลไกมากกว่าเบนซิน N/A ซะอีก ตรงนี้แหละที่น่ากลัวสำหรับผม และยังต้องเฝ้าดูใช้เวลา
    เป็นเครื่องพิสูจน์

ปล. ราคารถโตโยต้าเนี่ย อย่าไปดูราคาตั้งให้มากนัก เดินขึ้นโชว์รูมแล้วต่อราคาไปเลย ยี่ห้อนี้มักจะมีส่วนลดอัดหนัก ๆ
เสมอ ยิ่งช่วงนี้ยอดขายแพ้ชาวบ้านแบบนี้ เผลอ ๆ อาจได้ รุ่นเกียร์ออโต้ในราคาที่อยู่ในงบซะด้วยครับ
   



Slipknot`

ผมไม่โหวตนะ ตอบยาก
1.ความปลอดภัย อัลติสถุงลม7 แต่มาสด้ามีiactivsense
2.อัลติสโฉมนี้ไม่เคยขับ แต่มาสด้าสองทำได้ดีพอตัวแล้ว
3.ไม่กรอบแตกง่ายๆแน่ๆครับ
4.แน่นอนครับโตโยต้า+หายใจธรรมดาได้เปรียบ แต่รถระยะเวลานี้แทบจะไม่มีอะไรเสียหนักๆเลยถ้าไม่แจ็คพ็อตจริงๆ

อยากแนะนำให้ไปลองขับจะได้รู้ฟิลครับ ถึงเวลานั้นเลือกได้แทบจะไม่ลังเลเพราะอัลติสได้เปรียบที่รถคันใหญ่นั่งสบาย



ยิ้มละไม

มันเลือกยากเหมือนกัน ผมส่วนตัวเลือกนั่งสบายกว้างกว่า น่าจะเอา Altis  ลองดูส่วนลดหน่อยนึง ตอนนี้พี่โตแพ้มาเยอะ Segment น่าจะมีการจัดหนัก

CITY JAZZ ก็น่าสนเหมือนกันในราคาที่พอแข่งขันได้   



plus

Mazda2 Skyactive-D  ครับ   



NINENOI

Re: Mazda2 Skyactive-D กับ Altis 1.6J นั้งสอง ไม่บรรทุก
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: พฤษภาคม 06, 2017, 13:06:48 »
ผมเคยเห็นรถผ่านไฟแดงแล้วโดยอีกเลนฝ่าไฟแดงมาชนด้านข้างเลยคิดว่าถ้ามีตังมีโอกาสจะหาซื้อรถที่มีถุงลมด้านข้างด้วย ถ้าคุณมีอัลติสเป็นตัวเลือกก็น่าสนนะครับแต่ถ้างบไม่พอแล้วอยากได้เกียร์ออโต้ลองมอง City SV+ เป็นอีกทางเลือกดูครับ
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น



CHANOM

ใช้ Mazda 2 1.5 D อยู่ แต่ขอเชียร์ Altis ค่ะ สาเหตุหลักๆเลยคือ ปัญหาเครื่องสั่นช่วง 80-120 ของตัวดีเซล ที่ยังไม่มีวิธีแก้ไขปัญหาแน่นอนจากทาง Mazda ค่ะ ถ้ามีเมื่อไหร่ เราจะกลับมาเชียร์ Mazda 2 แน่นอนค่ะ  :)
In My Garage
2021 Mazda CX3 Comfort
2024 Toyota Corolla Cross E-Hev Premium Luxury
2025 Toyota Corolla Cross E-Hev Premium Luxury