บอกเล่าให้ฟังจากคนที่สนใจซื้อ Nissan Note ทั้งที่ไม่แรง และแพง (Suzuki โปรดอ่าน)

e:smart Hybrid

สวัสดีครับ

จากกระแสถกเถียงเรื่องอัตราเร่ง ของ Note เรื่อง option ต่างๆ นานา เรื่องราคาที่แพง (ผมเองก็ว่า note แพงเกิน)

วันนี้ผมอยากจะแชร์เหตุผล จากคนๆ ที่บ้านผมเอง คือ คุณพ่อผมครับ ว่าทำไมท่านถึงสนใจ Nissan Note (ม้านอกสายตาผม)

ก่อนอื่นขอท้าวความก่อนครับ ว่าปัจจุบัน ครอบครัวผม (พ่อกับแม่) ใช้ Honda Freed เป็นหลัก ปีนี้ 5 ปีแล้ว พ่อผมก็เริ่มสนใจดูรถรุ่นต่าง เช่น BR-V Sienta แต่ก็ไม่ได้จริงจังหรือรู้สึกชอบแบบมากๆ เท่าไหร่

Note เป็นรถที่เหมือนม้ามืดนอกสายตาผม เพราะความที่ผมเจอเหตุการณ์กินข้าวลิงกับ March ไป 2 ครั้ง (บูทคันเกียร์กับพัดลมหม้อน้ำ) ที่บ้านผมรู้กันหมด ดูแล้วพ่อกับแม่น่าจะกลัว Nissan พอสมควร

แต่เจ้า Note ทำให้พ่อผมที่ไม่ค่อยสนใจเรื่องรถ เข้ามาดูและศึกษามันพอสมควร

ข้อดีของ Note ในมุมมองของพ่อผม มีดังนี้ครับ

1. เรื่องของระบบ safety ชอบมากที่สุดคือ กล้อง 360 องศา (กล้องฟรุ๊งฟริ๊ง) ท่านให้เหตุผลว่า มันช่วยให้เราจอดรถได้ง่าย ดูได้หลายมุม (ผมเอวก็เพิ่งรู้) กับระบบ auto brake ซึ่งจะช่วยเราชลอความเร็วรถ เป็นอะไรที่แจ๋วมากๆ ขนาดรถใหญ่กว่านี้บางคันยังไม่มี

ดังนั้น การที่นิสสันใส่อุปกรณ์ตรงนี้ สำหรับคนบางคน มันช่วยดึงดูดใจให้คนมาสนใจเจ้า Note ได้มากขึ้นครับ

2. เรื่องขนาดและรูปทรงของ Note การที่ Note เหมือน Jazz ในรูปแบบของนิสสันนั้น ทำให้รถน่าใช้ มุมมองกว้าง อเนกประสงค์มากๆ การพับเบาะ 60-40 ได้ เป็นเรื่องที่ดี ที่โดดเด่นมากๆ คือ ที่วางขา คือ มันกว้างขวางมากจริง คนนั่งๆ สบาย เทียบกับ Jazz ที่วางขาไม่เด่นเท่าครับ และหมอนรองคอ นิสสันแข็งนะครับ แต่ก็ทำได้สมตัว มีทุกตำแหน่ง ปรับปรุงจาก March และ Jazz

แต่ก็มีจุดติจริงๆ คือ ตัว top ควรได้ที่วางแขนเบาะหลัง กับถ้าเบาะเอนได้จะช่วยให้รถสบายขึ้นอีกครับ

3. เรื่องการใช้เครื่องและเกียร์เดิม อันนี้เป็นจุดเด่นครับ เพราะพ่อผมมองว่า การที่ใช้อะไหล่ร่วมกับ March Almera ที่ผลิตมาตั้งแต่ปี 2010 เป็นอะไรที่ play safe คนที่ใช้ March Almera โดนอะไรมา เราก็ทราบแล้วว่า Note อาจเจออะไรบ้าง

เช่น การที่ผมกินข้าวลิง เรื่อง บูทคันเกียร์แตก (หน้าศูนย์ Toyota :-X) พ่อผมมองว่ามัน ok มากเลยที่สามารถหาทางแก้ไขได้ในราคา 200 บาทจากอู่นอกในคลับ ท่านมองว่าไอ้นี้ ถ้ารถครบ 3 ปีแล้วก็จัดการเกาะออกมาดูก่อนและยึดให้เเน่นไปเลยก็น่าจะได้

ซึ่งผมเองมาคิด มันก็จริงครับ

อย่างศูนย์บริการของนิสสัน พ่อผมเทียบว่า เดียวนี้ฮอนด้าเองก็แย่ลงครับ มีการลดต้นทุนในการบริการหลายๆ อย่าง (ของกิน ห้องนั่งรอ) นิสสันทุกคนที่บ้านผมสังเกตว่า ผมเอารถไปทำแล้วกลับเร็วกว่าพ่อเอารถไปทำที่ ฮอนด้าครับ คิวน้อยกว่า คนก็น้อยกว่า

อย่างผมไปเช็คฟรีที่ศูนย์นิสสันแห่งหนึ่ง ผมก็เดินดุ่มๆ เข้าไปในศูนย์ก็ได้ทำเลยครับ

อู่นอกของนิสสันก็มีให้ใช้บริการแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร

อีกอย่าง คือ ผมอยู่ในคลับ มีเคสเกี่ยวกับ March ซึ่งทำให้ผมจะเห็นว่าอนาคตของ Note จะมีปัญหาตรงไหนบ้าง ดูแล้วสบายใจกว่าไปวัดใจกับรถรุ่นอื่นครับ

4. จากข้อ 3 ไอ้การใช้เครื่องเดิมเกียร์เดิมที่ทำให้ Note เป็นรถที่อืดที่สุดในประเทศไทยตอนนี้ มันก็มีข้อดี ตรง ถนนบ้านเราตอนนี้ โดนจับความเร็วหลายจุดครับ การซื้อเครื่องแรงๆ 1.5 1.8 ก็ไม่รู้จะเอากำลังไปวิ่งที่ไหน บ้านผมวิ่งในเมืองเป็นหลัก วิ่งต่างจังหวัดก็จังหวัดใกล้ๆ ถนนก็ 4 เลนหมดครับ หรือถนน 2 เลน ก็ไม่รู้จะแซงทำไม เพราะรถสมัยนี้เยอะกว่าสมัยก่อนมากครับ

ดังนั้นการที่อืด จะช่วยให้เราไม่ขับเร็วครับ เพราะต้องสั่งสมพลังในการวิ่ง ::)

5. เจ้า Note เล็กกว่า Freed จริงครับ แต่บ้านผมก็นั่งกัน 2-3 คนส่วนใหญ่ ได้รถขนาดประมาณนี้ ก็เพียงพอครับ ถ้าออกต่างจังหวัดไกลๆ ก็ไปเครื่องบิน รถไฟ แล้วไปเช่ารถเอาครับ



สรุป ข้อดีก็มีตามนี้ครับ และบ้านผมตกลงว่าจะรอดูรถที่จะเปิดตัวเพิ่มครับ
ที่่น่าสนใจ คือ Suzuki Solio ครับ



ผมอยากฝากทาง Suzuki ช่วยเอาสิ่งที่นิสสันทำและตัดสินใจมาพิจารณาครับ

ผมอยากบอกว่า มันก็มีหลายๆ คนนะครับ ที่เขาก็ไม่ได้อยากได้เครื่อง 1.5 แต่ก็ไม่อยากได้ Eco car ที่ประหยัดต้นทุนเกินแบบ Celerio
อย่างพ่อแม่ของผม ที่ซื้อ Honda Freed ในยุคนั้นก็เพราะสนใจตรงเครื่อง 1.5 ของ Jazz มีความประหยัดกว่าการซื้อ MU-7 ในยุคนั้นที่เป็นเครื่อง 3.0 เสียภาษีแพง ทั้งที่ Freed ราคา 8-9 แสน ไม่คุ้มค่าเลยถ้ามองในแง่เม็ดเงินเท่านี้ เราสามารถซื้อรถ 1.8 ได้แล้ว

อย่าง Solio ถึงมันจะคันเล็ก แต่การจัดวางเบาะดี หลังคาสูง ที่น่าสนใจมาก คือ เบาะแถว 2 ที่มีที่วางแขน เอนได้ ถอยเข้าออกได้ ครับ

รถแบบ Note ที่เอาเทคโนโลยีล่าสุดมาใส่ในรถ ทำให้รถมีจุดขายที่น่าสนใจขึ้นมา
ถ้าทาง suzuki นำพวกระบบ safety (กล้อง 360 กับ auto brake) มาใส่แบบ nissan จะช่วยดึงความน่าสนใจมาได้ครับ โดยเฉพาะคนแก่ๆ อย่างพ่อแม่ผม ที่มีกำลังซื้อรถราคาสูงกว่านี้ แต่ตัดสินใจที่จะเลือกรถ 1.2 แทนเพราะ option ความปลอดภัยครับ

อีกอย่าง ถ้าระบบ mild hybrid มีต้นทุนที่ไม่สูงมากนัก อาจจะนำมาใส่ใน Solio ได้นะครับ แต่ขอให้แสดงให้เห็นว่าระบบของ suzuki ไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อน ค่าดูแลไม่สูงแบบ Full hybrid ของ Toyota

ส่วนตัวผมเอง สนใจระบบ hybrid นี้ครับ เพราะดูไม่ซับซ้อน ใช้แบตเตอรี่ลูกเล็ก ราคาไม่น่าจะสูงมาก มอเตอร์ก็มีชุดเดียว ง่ายๆ แต่ช่วย save น้ำมันได้ ที่สำคัญ คือ ได้ภาษี Hybrid 10% อีกครับ

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านครับ ;D

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 12, 2017, 01:34:14 โดย รถสีเขียว »



Krongbun

 :) Suzuki รุ่นนี้กว้างครับจากที่เคยนั่ง
เด่นตรงเกียร์วางคอนโซลมีพื้นที่เหลือเยอะเลย  :-*

ญี่ปุ่นอาจจะยังไม่กล้าเอารถทรงกล่องพวกนี้มาขาย
อาจจะเป็นไปได้อยากหน่อย แต่ความเห็นส่วนตัวผมว่าขายได้
รถพวกนี้นั่งแล้วมันโปร่งสบายดี
ส่วนระบบ auto brake ก็ใส่มาให้แล้วครับใน swift ตัวต่อไป



NINENOI

Re: บอกเล่าให้ฟังจากคนที่สนใจซื้อ Nissan Note
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2017, 08:03:02 »
รถแต่ละรุ่นก็มีเป้าหมายกลุ่มลูกค้ากันแหละครับเจ้าโน๊ตก็เช่นกันเรื่องอืดอาจเป็นข้อด้อยสำหรับหลายคนแต่หลายคนถือเป็นเรื่องรองหรือไม่ค่อยสำคัญเลย  ที่สำคัญต้องสื่อให้ได้ว่ารถตัวเองมีจุดเด่นอะไรไม่งั้นดับแบบทีด้า พัลซ่า

เจ้า Solio นี่ผมสนใจนะชอบที่เกียร์ไอยู่คอนโซลหน้า คอนโซลข้างไม่มีแล้วเดินเข้าออกแถวสองได้ ถ้าซูซุกิมาแนวนี้เอารถเล็กแนวๆให้ฉีกจากตลาดปกติก็ขายได้นะดูอย่างสวิฟท์ ส่วนอันที่ไม่มีจดเด่นให้คนสนใจเลยอย่าง Celerio ก็ดับอนาถอย่างที่เห็น
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น



ab4u

0-100   มันแค่เลขทดสอบครับ
ในชีวิตจริงคงไม่มีใครเหยียบสุดคันเร่งทุกวันหรอก
ke70 คันเก่าของผม เหยียบ 0 แต่ไม่เคยถึง100 มันก็ไปได้
บางทีแซงรถรุรนใหม่ด้วยซ้ำ
บางคนเขาคิดถึงความปลอดภัยมาก่อน
บางคนบอกเอาตัวแรง อย่างอื่นติดเอาทีหลัง
ผมอยากรู้เหมือนกัน อุปกรณ์ พวกความปลอดภัยที่โน๊ตมี มันติดข้างนอกได้หรือ
ถ้ามี มันจะเสถียรเหมือนมาจากโรงงานหรือปล่าว



johnlee

ใช่ครับ ผมขับ อัลมีร่า  มันก็ไปของมันได้ทุกวัน

แสนกว่าโลแล้ว

ก็ยังไม่มีเหตุไหนให้แซงไม่พ้น

ก่อนจะพ้นไม่พ้น คนขับต้องมองออกสิว่า รถที่ขับ มันเร่งได้แค่ไหน
2535-2555 Nissan Big-m z16
2555-2561 Nissan Big-m Td27 + Bd25
2555- 2566 -Nissan Almera N17
2561- present -Isuzu D-max spacecab SLX 3.0
2566 - present Honda Jazz ge v a/t



Nonnics

รอSolio ด้วยคนครับ
ชอบรถเพดานสูง โล่ง ไม่อึดอัด



TrentXWB

บ่อยครั้งที่อัตราเร่ง ไม่ใช่ปัจจัยหลักในการเลือกซื้อรถสักคันครับ และกับ Note ก็ใช่ ;D

Note นั้นน่าสนใจกว่าที่ตอนเห็นข้อมูลเปิดตัว
ไปดูตัวจริงแล้วก็ชอบกว่าที่คิด งานประกอบดูแน่นหนา แต่ยังไม่ได้ลองขับ

สิ่งที่ส่วนตัวคิดว่า Note ขาดไป คือ
- เครื่องใหม่หรือ Powertrain ใหม่ ที่มีกำลังมากกว่านี้หน่อย
- แอร์หลัง
- เบาะที่นั่งสบายและรองรับแผ่นหลังกับช่วงต้นขาได้ดีกว่านี้
- ภายในสีเบจ
- Blind spot (lane change assist) + Radar Cruise + ม่านถุงลม 2 ฝั่ง, ถุงลมข้าง 2 ฝั่ง เบาะคู่หน้า, ถุงลมเข่าคนขับ
- สีตัวถัง สีเขียวกับสีฟ้า แบบของญี่ปุ่นครับ

ทั้งหมดนี้ ยินดีจ่ายที่ 700k  ;D

ปล. รอชม Solio เช่นกันครับ



Newhang

อืดไม่ใช่ปัญหาหรอกครับ เพราะไม่มีใครเหยียบสุดอยู่แล้ว แต่ถ้าทั้งอืดทั้งกินน้ำมัน มันคงแย่กว่ามาก

ผมว่าไปลองขับดูก็คงตัดสินใจได้แหละครับ

บางทีผมก็รู้สึกสงสารผู้ผลิตเหมือนกันนะ เพราะอัดอ๊อฟชั่นมาในรุ่นที่ไม่ควรใส่ แต่รุ่นที่ควรใส่กลับไม่มี มันก็ขายไม่ได้ ยิ่งทำกับลูกค้าเก่าเจ็บๆแสบๆ สุดท้ายก็พาลคิดว่าใส่อะไรมาลูกค้าก็ไม่ซื้อหรอก แต่หารู้ไม่ ถึงกรรมเก่าที่ตัวเองเคยกระทำไว้  เอาเป็นว่าถ้าอยากสู้จริงก็อัดมาให้ในระยะที่ตัวเองเคยก่อกรรมแล้วกัน



meeuwarn

เพื่อนผู้หญิงผมอยากได้หลายคนครับ

บอกว่ามัน น่ารัก :-* :-* :-*

ทีมออกแบบตีโจทย์สุภาพสตรีได้ดีมากๆ 8)

วิ่งในกทม 1200 เหลือๆ จริงๆเครื่องซัก 800 ยังได้เลยแค่คลานไปมา



Arado_kung

เพื่อนผู้หญิงผมอยากได้หลายคนครับ

บอกว่ามัน น่ารัก :-* :-* :-*

ทีมออกแบบตีโจทย์สุภาพสตรีได้ดีมากๆ 8)

วิ่งในกทม 1200 เหลือๆ จริงๆเครื่องซัก 800 ยังได้เลยแค่คลานไปมา

เพื่อนผู้หญิงผมคนนึงนางใช้มาร์ชตัวท็อปล็อตแรกเลย หลักๆขับอยู่แต่ในเมืองไปทำงานกับรับส่งลูกไปโรงเรียน นางไปดูโน็ตแล้วนางโอเคนะ นางว่าไม่แพงตัวเริ่มต้นแพงกว่ามาร์ชที่นางใช้นิดเดียวเอง แต่คันใหญ่กว่าเยอะ เรื่องอืดนางโอเคไปลองขับมาแล้วนางก็ว่าเหมือนๆมาร์ช 555 แต่ยังไม่ซื้อเพราะตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเอารุ่นเริ่มต้นหรือรุ่นท็อปดี รวมทั้งเอาสีแดงรึชมพูดีด้วย
สรุป ผมว่ามันขายสาวๆใช้รถในเมืองน่ะพอได้แน่ๆ รวมทั้งคนที่ใช้มาร์ชมาก่อนด้วย



mamaman



คนไทย ไม่ได้มีแ่ใน HLM ครับ

รถบางประเภทไม่ต้องแรงก็ได้



TNN

อย่าไปซีเรียสครับ

Ford everest 2.5T 5AT 2WD ตัวก่อนปัจจุบัน      0-100 = 16.05 sec         / 80-120 = 11.99 sec
PJS 2.5 4AT GLS 2WD ตัวก่อนปัจจุบัน               0-100 = 15.11 sec         / 80-120 = 12.35 sec
Nissan Note                                                 0-100 = 16.34 sec         / 80-120 = 12.52 sec
Almera 1.2 VL CVT                                       0-100 = 16.21 sec         / 80-120 = 12.24 sec
March 1.2 VL CVT                                        0-100 = 15.63 sec         / 80-120 = 12.59 sec
Brio 1.2 CVT                                                0-100 = 14.22 sec         / 80-120 = 11.13 sec
Swift 1.2 GLX CVT                                       0-100 = 14.74 sec          / 80-120 = 11.63 sec

คือถ้าเทียบกับ เครื่อง 1.2 ด้วยกัน ก็ไม่ได้ว่าอืดมากมายกว่ากันสักเท่าไหร่เลยนะครับ
1-2วิ โดยประมาณ
ผมเคยขับ PJS 2.5 4AT GLS ตัวก่อน ที่ 0-100 15.11 วิ จรริงๆแทบไม่ได้แตกต่างอย่างห่างราวฟ้าดินกับ PJS 3.2 GT ของผมที่ทำเวลาได้ 13.91 sec เลยนะ (ตอนรถเปล่า) ทั้งๆที่ห่างกัน 1 วิกว่าๆ

ดังนั้น ถ้าใครขับ Almera ได้ , Nissan Note ก็ขับได้ ,อารมร์ราวๆกัน (ห่างกัน 0.1 วิ)
ดังนั้น ถ้าใครขับ swift ได้ ,ผมก็ว่า Nissan Note ก็, ไม่ได้อืดกว่ากันมากมายนัก เพราะมันห่างกัน  1.6 วิ
คนที่จะเน้นใช้ Eco car อย่าไปซีเรียสเรื่องอัตราเร่ง 0-100 เลยครับ รถเราซื้อมาไม่ได้ต้องการซิ่งทำความเร็วอยู่แล้ว
คนผลิตเขาก็ไม่ได้ต้องการให้เอารถประเภทนี้มาแรงมาซิ่งอยู่แล้ว เขาต้องการตอบโจทย์ชีวิตในเมือง หรือในชนบทที่ไม่ได้ต้องการความรีบร้อนอะไรมากกว่า
ไม่งั้นคงไม่มีเครื่อง 1.0 อย่าง Celerio

ในราคานี้นะ ผมว่า Note ให้ความคุ้มค่า ไม่ได้ด้อยไปกว่ารถใน class เลยด้วยซ้ำ
ประเด็นเดียวที่ถกเถียงกันกว้างขวางที่สุด คือ แค่อัตราเร่งอย่างเดียว นั่นล่ะครับ
ดังนั้นใครใคร่ซื้อรถมาใช้แบบสโสลว์ไลฟ์ ไม่ชอบความเร็ว (อย่างผมที่ไม่ค่อยจะเกิน 100 เลยด้วยซ้ำ)
ผมว่าคุ้มฝุดๆครับ (ไม่มองเรื่องแบรนด์ ราคาขายต่อ และศูนย์บริการนะ)

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 12, 2017, 10:11:18 โดย TNN »
Accord H22 2.2 VTi-S
Benz C220 Elegance W202
Cefiro A33 3.0 V6
Vios sporty 2006 1.5s
Jazz GE 2008 1.5 SV VTEC
Mazda 2 sedan 2009 Maxx Sport 1.5
Pajerosport 3.2 GT 2010
HRV 1.8 EL
Pajerosport Elite 2021



rotaryman

ของแบบนี้มันแล้วแต่โจทย์ของแต่ละคนครับ ว่าคันใหนตอบมากกว่าก็จัดไปครับ



the kit

ถ้ามองเห็นข้อดีในตัว note ขนาดนี้แล้ว จขกท. จะตัดสินใจซื้อก็เหมาะสมครับ

ฟังคนอื่นน่ะ ฟังได้ คือเขาอาจจะว่าดีหรือไม่ก็ได้ และไอ้บางคนน่ะ ไม่ได้ซื้อจริง ไม่มีจริงหรอก ขับรถอะไรยังไม่รู้เลย จำจากบทความไปขับก็มี
มียี่ห้อที่เป็นติ่งอยู่เป็นทุนแล้ว ยี่ห้ออื่นที่ดีกว่าใน fact ก็ยังไม่ยอมรับเลย

สรุป ถ้าคุยกับครอบครัวแล้ว เขาโอเค ผมว่าก็โอเคนะ สบายใจดี จบในทุกเรื่อง
"Only live once, but if you do it right, Once is enough"



akewizard

มีจุดที่ผมขอทักนิดนึงครับ  การที่มีอัตราเร่งที่ดีนั้นไม่ได้หมายถึงจะต้องไว้ขับเร็วๆเสมอไปนะครับ
แต่เราต้องการอัตราเร่งที่เหมาะสมไว้สำหรับสถานการณ์บางอย่าง เช่นการเร่งแซงรถช้าบนถนนสองเลนสวนกัน และมีช่วงทางตรงที่มองเห็นทัศนวิสัยได้ไม่ยาวมากนัก

0-100 ในเวลา 13-16 วินาทีสำหรับเมื่อก่อนไม่ถือว่าช้าครับ ลุงผมขับ Isuzu station wagon II รถอายุเกือบ 20 ปีอัตราเร่งช้ากว่านี้อีกยังขับถนนต่างจังหวัดแซงรถช้าบ้างอะไรบ้างได้ปกติเลย
แต่กับวัยรุ่นใจร้อนหรือคนยุคปัจจุบันที่วิสัยทัศน์ในการขับรถไม่เหมือนกับคนสมัยก่อน ตัวเลขระดับนี้คงถือว่าเริ่มช้าเกินไปแล้ว



SLuang

นับในใจ 1 2 3 แค่นี้ ที่ต่างกัน ซีเรียสทำไม รักอะไร ชอบอะไร เมื่อพิจารณาด้วยเหตุผลตนเองแล้ว จัดเลยจะได้มีความสุขเมื่ออยู่กับมัน



kenny523

ทุกครั้งที่ผมขับอัลมาร่าน้องสะใภ้  น้องเขาจะบ่นผมทุกทีว่าทำไมซิ่งจัง แสดงว่าผู้ใช้หลายๆคน เขาคงออกตัวกันธรรมดาไม่จับความรู้สึกช้า เร็ว แบบพวกเรา



G.K

ใช่ครับ ผมขับ อัลมีร่า  มันก็ไปของมันได้ทุกวัน

แสนกว่าโลแล้ว

ก็ยังไม่มีเหตุไหนให้แซงไม่พ้น

ก่อนจะพ้นไม่พ้น คนขับต้องมองออกสิว่า รถที่ขับ มันเร่งได้แค่ไหน

จริงครับ  ถ้าเราเข้าใจรถที่เราขับอยู่ ขับคันไหนก็ไม่ใช่ปัญหา  ขนาดไปเช่ารถที่สนามบินเค้ามี Viosให้ ผมยังถามเค้าว่ามี Almera มั๊ย  ที่ลังกาวี Almera เช่าราคาเท่า City แพงกว่า Vios อีกครับ



ps000000

ผมรอดูยอดขายรวมปีนี้ครับ คือคำตอบของการตอบรับในประเทศไทย



Visual

ผมตกข่าวอะไรไปรึเปล่าครับ มันมีประเด็นอะไรหรอครับช่วงนี้
Note อืดสุดอยู่ท้ายตารางก็จริง แต่มันก็ต่างจากพวก almera แค่เสี้ยววินาที ผมเห็นคนก็ใช้รถอืดๆพวกนี้กันมาได้ตั้งนานไม่มีปัญหาอะไร
ยังไงความจริงที่ว่ามันอืดที่สุดก็คงไม่เปลี่ยนแปลง แต่คนที่ซื้อรถพวกนี้เค้าก็คงรับได้กับความอืดอยู่แล้วนะครับ



deathsheep

เรื่องอัตราเร่งผมเข้าใจได้อยู่นะ  ใช่เครื่องเดียวกับ march แต่ตัวถังหนักกว่า  จะให้แรงกว่า ประหยัดกว่ามันก็ไม่ใช่

เห็นด้วยเรื่องที่วางแขนกลางด้านหลังครับ  ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับการพับเบาะราบ  แบบที่ Jazz ก็ไม่มีหรือเปล่า

กล้อง 360 ทำไมไม่ต่อให้ขึ้นหน้าจอวิทยุเลยก็ไม่ได้  ไม่เข้าใจ  ต้องให้ลูกค้าไปหาสายมาเสียบเองอีก



Staples

Nissan มันจบกับผม ตรงขับรถเพื่อนอะล้มร้า ไปกลับรถตรงบางละมุง เห็นว่าโล่ง สิบล้อไกลๆ อีโค่ตัวเองกลับรถ เหยียบหนีสบาย แต่คันนี้ไม่ใช่ ทั้งกระทืบ เหยียบ s mode มันยังเร่งไม่ขึ้นเลย จนสิบล้อมาจี้ตูด รถถึงหนีออกไปได้



Sleepy Boy

ขอบคุณที่ริวิวดีๆให้พวกเราอ่านครับ
ไม่มีใครสามารถทำรถให้ถูกใจคนทุกคนได้หรอกครับ



jumpon77

เอาจริงนะครับNoteเนียออฟชั้นโดนใจผมหลายๆๆอย่างเลยครับผมลองขับ2หนบอกได้คำเดียวช่วงล่างดี+พวงมาลัยเช็ทมาดีมากกกจนแอบฝันเลยครับผมเอาNoteแน่ๆๆครับ
http://facebook.com/jumpon.hiranyanon
https://twitter.com/jumpon77     คุยได้นะครับ.
 Corolla Altis 1.8 E MT MY2008(Sold out) Corolla Altis 1.6 J AT my2011 Isuzu D-MAX Spark my2003 Toyota Corolla Altis 1.6E CNG  Toyota hiace  2.5 2j-GE  2000



Koong

ผมก็ว่ามันเป็นนิสสัน  สวยลงตัวมากๆ รุ่นหนึ่งเลยนะ  สุภาพสตรีน่าจะชอบ
ในส่วนของตัวรถ ติแค่เครื่องเล็กไปนิด  กับราคาค่อนข้างสูงไปหน่อย แค่นั้น



golf8023

เข้ามาอ่าน ไม่มีไรคอมเมนท์
แต่อยากจะบอกว่า ชอบเหตุผลในการเลือกซื้อรถของคุณพ่อคุณแม่ของคุณรถสีเขียวมากครับ
ซื้อรถด้วยเหตุผลที่การใช้งานจริงๆ
 :-* :-* :-*



J_Serie5

ตัวรถดี optionดี แต่ตกม้าตายที่เครื่องยนต์ ไม่รู้ทาง nissan คิดอะไรอยู่ เครื่องยนต์ในค่ายก็มีเยอะแยะ แทนที่จะเอา 1.5 มาลงหรือเอา e-power มาลง จะได้ขายแข่งสู้กับเจ้าอื่นได้

ปล.รอดูเคสขับ note พร้อมสัมภาระเต็มคัน ขึ้นภูเขาชันๆเช่น อ่างขาง ผมว่าไม่น่ารอด เสี่ยงอุบัติเหตุมากๆ  :-\ :-\



Jacob

เรื่องอัตราเร่งผมเข้าใจได้อยู่นะ  ใช่เครื่องเดียวกับ march แต่ตัวถังหนักกว่า  จะให้แรงกว่า ประหยัดกว่ามันก็ไม่ใช่

เห็นด้วยเรื่องที่วางแขนกลางด้านหลังครับ  ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับการพับเบาะราบ  แบบที่ Jazz ก็ไม่มีหรือเปล่า

กล้อง 360 ทำไมไม่ต่อให้ขึ้นหน้าจอวิทยุเลยก็ไม่ได้  ไม่เข้าใจ  ต้องให้ลูกค้าไปหาสายมาเสียบเองอีก
ไม่เกี่ยวกับพับเบาะครับ ดูเวอร์ชั่นประเทศอื่นมีที่วางแขนของคนขับ เบาะแถวสองก็มีที่พักแขน (ประเทศไทยลูกเมียน้อยครับ :() คงจะแชร์ชิ้นส่วนกับมาร์ชมั้ง
ปล. ถามหน่อยครับ เรื่อง e-power ใน note ของญี่ปุ่น เครื่องยนต์มีหน้าที่ปั่นไฟให้มอเตอร์อย่างเดียว ไม่ได้เป็นตัวขับเคลื่อนเหมือนพวกไฮบริด มันช่วยให้ประหยัดขึ้นยังไง หรือเวลารถติดไฟแดง แบตไม่จ่ายไฟ เลยประหยัด(ต่างกับเครื่องยนต์ที่ยังทำงานตลอด) งั้นเวลาวิ่งทางไกลก็ไม่น่าจะประหยัดใช่มั้ย (แบบนี้ทำเป็น i-stop แบบของมาสด้าก็ได้ ไม่ยุ่งยากด้วย)
หรือวิ่งทางไกล e-power ก็ช่วยเรื่องประหยัด เพราะเครื่องยนต์ที่ปั่นไฟรอบคงที่กว่า ต่างกับขับเองที่มีการเร่งในบางครั้ง ความเร็วไม่คงที่เลยกินกว่า ถ้าใช่ก็จะประหยัดกว่าระบบไฮบริดด้วย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 13, 2017, 09:35:44 โดย Jacob »



Dark Overlord

เรื่องอัตราเร่งผมเข้าใจได้อยู่นะ  ใช่เครื่องเดียวกับ march แต่ตัวถังหนักกว่า  จะให้แรงกว่า ประหยัดกว่ามันก็ไม่ใช่

เห็นด้วยเรื่องที่วางแขนกลางด้านหลังครับ  ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับการพับเบาะราบ  แบบที่ Jazz ก็ไม่มีหรือเปล่า

กล้อง 360 ทำไมไม่ต่อให้ขึ้นหน้าจอวิทยุเลยก็ไม่ได้  ไม่เข้าใจ  ต้องให้ลูกค้าไปหาสายมาเสียบเองอีก
ไม่เกี่ยวกับพับเบาะครับ ดูเวอร์ชั่นประเทศอื่นมีที่วางแขนของคนขับ เบาะแถวสองก็มีที่พักแขน (ประเทศไทยลูกเมียน้อยครับ :() คงจะแชร์ชิ้นส่วนกับมาร์ชมั้ง
ปล. ถามหน่อยครับ เรื่อง e-power ใน note ของญี่ปุ่น เครื่องยนต์มีหน้าที่ปั่นไฟให้มอเตอร์อย่างเดียว ไม่ได้เป็นตัวขับเคลื่อนเหมือนพวกไฮบริด มันช่วยให้ประหยัดขึ้นยังไง หรือเวลารถติดไฟแดง แบตไม่จ่ายไฟ เลยประหยัด(ต่างกับเครื่องยนต์ที่ยังทำงานตลอด) งั้นเวลาวิ่งทางไกลก็ไม่น่าจะประหยัดใช่มั้ย (แบบนี้ทำเป็น i-stop แบบของมาสด้าก็ได้ ไม่ยุ่งยากด้วย)
หรือวิ่งทางไกล e-power ก็ช่วยเรื่องประหยัด เพราะเครื่องยนต์ที่ปั่นไฟรอบคงที่กว่า ต่างกับขับเองที่มีการเร่งในบางครั้ง ความเร็วไม่คงที่เลยกินกว่า ถ้าใช่ก็จะประหยัดกว่าระบบไฮบริดด้วย

รถพวกไฮบริด หรือระบบใหม่ๆ แบบ e power
ไม่ได้ใช้จริงๆ คงไม่รู้ครับ เพราะอย่างไฮบริดที่เราคิดว่าใช้ในเมือง
ประหยัด นอกเมืองไม่ประหยัดเพราะมันไม่ได้ชาร์ตไฟ ซึ่งมันไม่จริงเลย
เขาเซ็ตมาหลาย condition มากๆ มากกว่าที่เราเข้าใจว่าตอนไหนปั่นไม่ปั่นไฟ
มันเหมือนเป็นการอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ มากกว่า แต่ที่จริงมันละเอียดกว่านั้นเยอะ

ผมว่าวัดแบบ HLM คุณค่าของรถลูกครึ่งพวกนี้จะดูดรอปกว่าความเป็นจริงไปเลย
รถพวกนี้ต้องใช้จริงเท่านั้นครับถึงจะรู้ พวกที่วัดกันระหว่างดีเซลที่ชนะไฮบริดในออโต้บิลด์
ผมเคยเชื่อ เพราะผมไม่เคยใช้ไฮบริด แต่มาวันนี้พอได้ใช้จริงๆ ผมว่าไฮบริดดีที่สุดครับ
ณ เวลานี้ ส่วนยุคต่อไปคงเป็นรถไฟฟ้า



Impulse

ผมฟังแล้วกลับรู้สึกว่าข้อดีเหมือนซื้อรถมือสองสภาพดีที่รู้ประวัติงั้นเลย  :'(


เรื่องอัตราเร่ง ผมว่ามันไม่พอ อัตราเร่งสำหรับผมมันแปลกผันตามความปลอดภัยนะ เพราะมันพาคุณออกจากโอกาสเกิดเหตุได้เร็วขึ้น ถ้าคุณควบคุมมันอยู่

ของงี้คนที่รู้ว่าถูกไม่ถูกน่ะ คือคนตัดสินใจซื้อในตอนที่จะขายมันหรือตอนใช้มันมากพอถ้าไม่หรอกตัวเองนะ กูรูอาจจะมีทางเลือกที่ดีกว่าในช้อยมาเสนอคุณ แต่ถ้าคูณมีช้อยที่ชอบกว่า ใช้จนครบอายุ แล้วสบายใจ ชอบใจกว่า ก็ถือว่ามันถูกจุดประสงค์ในการซื้อของใช้นะ ขอให้ได้รถที่ถูกใจครับ