ผู้เขียน หัวข้อ: เห็นสื่อญี่ปุ่นเริ่มเทียบ Note e-power กับตัว Nismo e-power แล้ว รุ่นอื่นไม่อยู่ในสายตา!  (อ่าน 9159 ครั้ง)

ออฟไลน์ Dark Overlord

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,804
  • Hail to the darkside
นับว่าไม่ค่อยได้เห็นกับการจับรุ่นเดียวกันมาเทียบรุ่นย่อยกันเอง เพราะรถในตลาดญี่ปุ่นมีมากมาย
ราวกับว่าไม่มีคู่แข่งที่ควรเทียบเคียง!?

หรือว่านี่จะเป็นจุดเปลี่ยน เมื่อระบบ e-power แย่งซีนกลุ่มรถ hybrid อย่างไม่เจตนาหรือตั้งใจ
ขนาดที่ว่าวิศวกร/ผู้ออกแบบรถของ Nissan เองยังงงๆ

Toyota จะรู้ตัวไหมว่า e-power คือการจับเอาความเรียบง่ายมาใช้แต่ได้ผลคุ้มค่า
อย่างการเอาน้ำมันมาปั่นไฟตรงๆ แล้วบริหารจัดการกระแสไฟเอาว่าเมื่อไหร่ จะใช้ จะหยุด จะชาร์ต

ไม่มีใครคาดคิดว่าระบบง่ายๆ แต่อาศัยการ set up ที่เชี่ยวชาญจากการทำตลาดรถไฟฟ้ามาก่อน
อย่าง Nissan จะตี Hybrid ได้กระเจิงในแง่ของศูนย์กลางความน่าสนใจ จริงอยู่ตลาด Hybrid
ในญี่ปุ่นยังใหญ่ แต่อนาคตอะไรก็เกิดขึ้นได้

แล้วยิ่งประเทศอีกค่อนโลกยังต้องหาบริโภคจากการขายน้ำมันเป็นหลัก คงไม่มีใครยอมให้
เลิกใช้น้ำมันกันง่ายๆ ยกเว้นว่ามันหมดเอง e-power อาจเป็นคำตอบในฐานะทางสายกลางได้
(ผมคิดว่าน่าจะเคยมีผ่านตาเรื่องทฤษฎีอาหรับทำสงครามเมื่อตัวเองขายน้ำมันไม่ได้อีกต่อไป
แต่ที่แน่ๆ จะทำหรือไม่ทำ คนในประเทศที่ค้าน้ำมันเดือดร้อนเยอะแน่)

ต้องจับตาดูกันต่อไป เพราะ e-power นี้ มันไม่ได้แคร์เรื่องสาธารณูปโภคพื้นฐาน
มันจับขายได้เลย โดยเทคนิคแล้วก็น่าจะประยุกต์ลูกเล่นแบบรถไฟฟ้าที่ทันสมัยเข้าไปได้
100% บางคนอาจจะมองว่า Hybrid ก็เหมือนดูตกยุคไปแล้วด้วยซ้ำ เพราะระบบขับเคลื่อน
ยึดติดกับพลังของเครื่องยนต์ในบางจังหวะ ซึ่งจังหวะที่จะ weak ขึ้นมาก็มี ซึ่งระบบทำให้ Hybrid
ดูมีจุดอ่อนขึ้นมาทันที

ปล เพิ่มเติม พวกบริษัทเกี่ยวกับพลังงานน้ำมันคงไม่ยอมด้วยเช่นกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 23, 2017, 13:19:50 โดย Dark Overlord »

ออฟไลน์ Ex_machina

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 721
ทำไมตื่นเต้นกับ E-Power กันจัง
ประสิทธิภาพมันยังสู้ Prius ไม่ได้เลย

โหมดทดสอบ JC08 Prius ได้ 40.8 km/l , Note E-Power ได้ 34 km/l
จะเห็นได้ว่าประหยัดสู้ Prius ไม่ได้ ทั้งๆที่น้ำหนักตัวน้อยกว่า

ระบบ E-Power แบบนี้ ก็คล้ายๆของ Chevlolet Volt
ที่ใช้เครื่องปั่นไฟ แล้วใช้มอเตอร์ขับเคลื่อน ประสิทธิภาพ Volt มันก็สู้ Prius ไม่ได้

ทางทฤษฎี การเปลี่ยนแปลงพลังงานจาก กล->ไฟฟ้า หรือ ไฟฟ้า->กล ย่อมมีการสูญเสียพลังงาน
เช่น พลังงานจากเครื่องยนต์ 100 แปลงไปเป็นไฟฟ้าอาจจะเหลือ 90 แปลงกลับมาที่ล้ออาจจะเหลือแค่ 80

ระบบ E-Power จะเป็นแบบ
กล(เครื่อง) -> ไฟฟ้า -> กล(ล้อ)
เป็นแบบนี้ตลอดเวลา จะเห็นได้ว่ามีการสูญเสียพลังงานในระบบ 2 ครั้งอยู่เสมอ

ระบบ Hybrid Toyota จะเป็นแบบ
กล -> ไฟฟ้า -> กล (แบตหมดแล้วติดเครื่องเพื่อชาร์ต)
และบางครั้งจะเป็นแบบ(แบตเหลือเยอะ)
กล -> กล (เอาไปใช้โดยตรงได้เลย)

จะเห็นได้ว่า บางครั้ง Hybrid Toyota สูญเสียพลังงาน 2 ครั้ง และบางครั้งก็ครั้งเดียว
ต่างจาก E-Power ที่ต้องสูญเสียพลังงาน 2 ครั้งตลอดเวลา

อันนี้แบบคร่าวๆ ความจริงมันมีรายละเอียดอีกมากมาย ที่ต้องศึกษา

ออฟไลน์ e:smart Hybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,703
ทำไมตื่นเต้นกับ E-Power กันจัง
ประสิทธิภาพมันยังสู้ Prius ไม่ได้เลย

โหมดทดสอบ JC08 Prius ได้ 40.8 km/l , Note E-Power ได้ 34 km/l
จะเห็นได้ว่าประหยัดสู้ Prius ไม่ได้ ทั้งๆที่น้ำหนักตัวน้อยกว่า

ระบบ E-Power แบบนี้ ก็คล้ายๆของ Chevlolet Volt
ที่ใช้เครื่องปั่นไฟ แล้วใช้มอเตอร์ขับเคลื่อน ประสิทธิภาพ Volt มันก็สู้ Prius ไม่ได้

ทางทฤษฎี การเปลี่ยนแปลงพลังงานจาก กล->ไฟฟ้า หรือ ไฟฟ้า->กล ย่อมมีการสูญเสียพลังงาน
เช่น พลังงานจากเครื่องยนต์ 100 แปลงไปเป็นไฟฟ้าอาจจะเหลือ 90 แปลงกลับมาที่ล้ออาจจะเหลือแค่ 80

ระบบ E-Power จะเป็นแบบ
กล(เครื่อง) -> ไฟฟ้า -> กล(ล้อ)
เป็นแบบนี้ตลอดเวลา จะเห็นได้ว่ามีการสูญเสียพลังงานในระบบ 2 ครั้งอยู่เสมอ

ระบบ Hybrid Toyota จะเป็นแบบ
กล -> ไฟฟ้า -> กล (แบตหมดแล้วติดเครื่องเพื่อชาร์ต)
และบางครั้งจะเป็นแบบ(แบตเหลือเยอะ)
กล -> กล (เอาไปใช้โดยตรงได้เลย)

จะเห็นได้ว่า บางครั้ง Hybrid Toyota สูญเสียพลังงาน 2 ครั้ง และบางครั้งก็ครั้งเดียว
ต่างจาก E-Power ที่ต้องสูญเสียพลังงาน 2 ครั้งตลอดเวลา

อันนี้แบบคร่าวๆ ความจริงมันมีรายละเอียดอีกมากมาย ที่ต้องศึกษา

ใช่ ผมก็คิดแบบนั้นละ  เสียสองต่อ

ผมมองว่าทางที่ดีใช้เครื่อง 660 or 850 cc มาปั่นไฟ  แล้วมีแบตใหญ่กว่านี้

วิ่งโดยใช้ไฟฟ้าเสียบเอาเป็นหลัก เครื่องเป็นตัวเสริมปั่นเฉพาะตอนจำเป็น

ออฟไลน์ Dark Overlord

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,804
  • Hail to the darkside
^
^
น่าจะเพราะ ไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะแข่งกับ Prius มากกว่าครับ
Nissan ออกรุ่นนี้มาแบบ งงๆ
เทียบกับ Volt ผมยังไม่กล้าครับ ในรายละเอียดมันต่างกันแน่ๆ ล่ะ
เหมือนสองค่าย ทำ Hybrid เหมือนๆ กัน แต่ผลออกมาคนล่ะเรื่องครับ

ออฟไลน์ cadherin

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 585
toyota hybrid system ดีกว่าเหมือนที่คุณ Ex_machina อธิบายไว้




ออฟไลน์ Nutcracker

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 387
    • อีเมล์
E power ของ nissan ผมดูผ่านๆคิดว่าน่าสนใจจริงๆ แต่มันคงมีขอบเขตการเอามาใช้ คือรถเล็กนำ้หนักเบา ระบบเครื่องเกียร์เบา และใช้ขับในเมืองที่คนขับรถแบบในประเทศญี่ปุ่น คือไหลเรื่อยๆ ไฟเขียวแดงฉลาด แต่เอามาขับเมืองกรุงเทพอาจจะขับได้ไม่ทันใจ


ถ้าอยู่ในขอบเขตที่ออกแบบให้ใช้ผมว่ามันเด่นกว่า Hybrid  ใข toyota แน่ๆในแง่ความประหยัดสูงสุด คือต้องมองภาพรวมนะครับตั้งแต่ซื้อรถมาใช้และบำรุงรักษา

หลักการง่ายๆ scope การใช้งานยิ่งมาก efficiencyยิ่งสูง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 23, 2017, 13:51:09 โดย Nutcracker »

ออฟไลน์ Dark Overlord

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,804
  • Hail to the darkside
ผมเห็นต่างตรงที่ว่า Nissan เพิ่งแตะ e-power เอง
ดังนั้นนี่เพิ่งเป็นจุดเริ่มต้น ซึ่งถ้ามี goal ที่ชัดเจนกว่านี้
มี benchmark ที่ชัดเจนกว่านี้ ก็จะทำประสิทธิภาพได้ดีกว่าเดิม
แน่นอน

อย่าง Prius จะไปเทียบด้วยก็ไม่ค่อยตรงนัก เพราะนั่นคือ fully dedicated hybrid
ส่วนเจ้า Note นี่มาจากไหนไม่รู้ จับยัด e-power เข้ามาปุ้บ ยอดขายถล่มทลายเลย
(ใครจะไปเชื่อ โมเดลเก่าๆ ดีไซน์ตกยุคเนี่ยนะ)
ผมว่าเจ้านี่มันมีศักยภาพในอนาคตเยอะอยู่นะ

ออฟไลน์ Nutcracker

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 387
    • อีเมล์
ทำไมตื่นเต้นกับ E-Power กันจัง
ประสิทธิภาพมันยังสู้ Prius ไม่ได้เลย

โหมดทดสอบ JC08 Prius ได้ 40.8 km/l , Note E-Power ได้ 34 km/l
จะเห็นได้ว่าประหยัดสู้ Prius ไม่ได้ ทั้งๆที่น้ำหนักตัวน้อยกว่า

ระบบ E-Power แบบนี้ ก็คล้ายๆของ Chevlolet Volt
ที่ใช้เครื่องปั่นไฟ แล้วใช้มอเตอร์ขับเคลื่อน ประสิทธิภาพ Volt มันก็สู้ Prius ไม่ได้

ทางทฤษฎี การเปลี่ยนแปลงพลังงานจาก กล->ไฟฟ้า หรือ ไฟฟ้า->กล ย่อมมีการสูญเสียพลังงาน
เช่น พลังงานจากเครื่องยนต์ 100 แปลงไปเป็นไฟฟ้าอาจจะเหลือ 90 แปลงกลับมาที่ล้ออาจจะเหลือแค่ 80

ระบบ E-Power จะเป็นแบบ
กล(เครื่อง) -> ไฟฟ้า -> กล(ล้อ)
เป็นแบบนี้ตลอดเวลา จะเห็นได้ว่ามีการสูญเสียพลังงานในระบบ 2 ครั้งอยู่เสมอ

ระบบ Hybrid Toyota จะเป็นแบบ
กล -> ไฟฟ้า -> กล (แบตหมดแล้วติดเครื่องเพื่อชาร์ต)
และบางครั้งจะเป็นแบบ(แบตเหลือเยอะ)
กล -> กล (เอาไปใช้โดยตรงได้เลย)

จะเห็นได้ว่า บางครั้ง Hybrid Toyota สูญเสียพลังงาน 2 ครั้ง และบางครั้งก็ครั้งเดียว
ต่างจาก E-Power ที่ต้องสูญเสียพลังงาน 2 ครั้งตลอดเวลา

อันนี้แบบคร่าวๆ ความจริงมันมีรายละเอียดอีกมากมาย ที่ต้องศึกษา

จริงครับ ขอเสริมรายละเอยดนะครับ
 e power เบากว่า เล็กกว่า ภาระนำ้หนักน้อยกว่าครับ เหมะกับรถเล็กมากกว่า ต้นทุนก็ตำ่กว่าในการผลิตรถ 1 คัน ยิ่งเป็นรถที่ไม่ต้องใช้วิ่งมาก ไม่กี่ปีก็ทิ้งแบบที่ญี่ปุ่น มันยิ่งค้มค่ครับ

และการตัดต่อกำลัง ใน hybrid ก็เป็น loss เหมือนกันนะครับ ไม่ใช่น้อยด้วย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 23, 2017, 14:03:28 โดย Nutcracker »

ออฟไลน์ ps000000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,772
เท้าหนักคงไม่เหมาะ

ออฟไลน์ lay

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,265
รอลุ้นให้นิสสันไทย เอาเข้ามาขาย  ถ้าไม่แพงมากผมช่วยซื้อ1คัน

ออฟไลน์ Jacob

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,803
ทำไมที่เคยอ่านมา volt มันประหยัดกว่า prius จนโตต้องทำ plug-in hybrid มาสู้ ถึงประหยัดกว่า
ถ้า e-power ทำ plug-in ก็น่าจะประหยัด

คงต้องดูเรื่องแบตด้วย เพราะใช้แบตคุณภาพต่างกัน ความจุต่างกันอีก

อย่างน้อย e-power ก็ไม่มีเกียร์นะ การสูญเสียกำลังน่าจะน้อยกว่า

ออฟไลน์ nez

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 128
Note e-Power สร้างความฮือฮาให้กับวงการรถยนต์ญี่ปุ่นเมื่อปลายปีที่แล้วด้วยยอดขายอันดับหนึ่งของประเทศ โค่นแชมป์ตลอดกาลอย่าง Toyota ลงได้เป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี Note e-Power ไม่มีปลั๊กชาร์ตไฟจากภายนอกแบบ Plugin Hybrid แต่ชาร์ตจากเครื่องยนต์แบบเดียวกับ Chev Volt นอกจากดีไซน์ที่ถูกจริตคนญี่ปุ่นแล้ว วิศวกรยังสามารถออกแบบให้แบตเตอรี่อยู่ในห้องเครื่อง ไม่ต้องไปเบียดบังพื้นที่ห้องโดยสารหรือห้องเก็บสัมภาระด้านหลัง

Note ที่ญึ่ปุ่นมีทั้ง e-Power และ CVT แต่ไม่เคยเห็นเพจรถยนต์ญี่ปุ่นพูดถึง Note CVT เลย พูดถึงแต่ Note e-Power เกียร์ CVT ไม่อยู่สายตาของญี่ปุ่นแล้ว เขาเน้น HV, PHEV และ EV ส่วน CVT โยนให้ประเทศเลิกพัฒนา อุ๊ย!!! กำลังพัฒนาอย่างประเทศไทยใช้  :) :) :) :)

ออฟไลน์ G.K

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 479
  • Respect Others' Opinions.
E-Power มันมีลักษณะของการเป็นรถไฟฟ้านะครับ ซึ่งต่างจากไฮบริดที่มีลักษณะเป็นรถสันดาปภายในที่มีไฟฟ้ามาเสริมแรงเท่านั้น  ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วรถยนต์ไฟฟ้าจะให้พละกำลังมากกว่ากว่ารถที่ใช้เครื่องยนต์ปกติ  รถยนต์ไฟฟ้า 0-200 ไม่ถึงสิบวิ เครื่องยนต์ปกติจะเอาอะไรมาเทียบ ด้วยเหตุนี้จึงมีการนำไฟฟ้ามาเสริมในเครื่องยนต์ แต่ระบบไฮบริดทั่วไปมันก็ยังอยู่บนสถาปัตยกรรมเก่า ซึ่งก็คืออยู่บนพื้นฐานเครื่องยนต์ที่มีขีดจำกัด

แต่ E-Power ระบบส่งกำลังมันเหมือนรถไฟฟ้าทั่วไป การสูญเสียพลังงานมันย่อมน้อยกว่าเครื่องยนต์+เกียร์มาก เครื่องยนต์ในระบบ E-Power ก็ทำหน้าที่ในลักษณะของไดนาโมหรือ Generator แหล่งกำเนิดไฟฟ้าเท่านั้น 

เครื่องยนต์ที่ใช้ใน Note ก็เป็นแค่เครื่องยนต์พื้นฐานเท่านั้น ซึ่งก็คือ HR12DE ธรรมดา  ถ้าหากปรับปรุงหรือใช้เครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะสูงขึ้นก็จะได้พละกำลังและความประหยัดที่มากขึ้น เช่นอาจจะเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ฉีดตรง หรือใส่ Supercharger  ระบบ E-Power ใน Note เป็นเพียงแค่ต้นแบบ ยังสามารถพัฒนาต่อยอดไปได้อีกยาวไกล และที่สำคัญมันสามารถก้าวเข้าสู่อนาคตและเดินไปพร้อมๆกับรถยนต์ไฟฟ้าแท้ๆได้  แต่ไฮบริดมันจะตายในอีกไม่ช้า

ออฟไลน์ แมวดราม่า

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,573
  • แมวบ้า(ขับ)รถ
 :-\

ผมสรุปหลักการมั่วๆ ในใจ แบบคนอ่านแล้วมึนๆ ก็คือ มันเอาเครื่องยนต์มาปั่นไฟแค่นั้น ถูกไหมครับ ระบบขับเคลื่อนทั้งหมดต่อกับมอเตอร์

ก็คือเปลี่ยนจาก Wall-Charged EV เป็น Engine-Powered EV แต่เอา EV ปั่น โดยสามารถเอาเครื่องยนต์กะมอเตอร์ยัดลงห้องเครื่องได้หมด

ผมว่าถ้าทำหลักการตัดต่อกำลังดีๆ ไม่มึนไม่เมาแบบเกียร์ X-Trail Hybrid นี่ เป็นหลักการที่อยู่ได้ยาวเลยนะ ขอให้แบตทนก็พอ

มันเหมือนนิสสันทำขึ้นมาแบบงงๆ ใช้อะไหล่ยำให้คุ้ม จากตอนแรกที่ได้ยินว่าจะทำ Fuel-Cell ก็รวบรัดมาเป็นแบบนี้เลย

แม้อัตราสิ้นเปลืองอาจจะแพ้ Prius แต่ความซับซ้อนระบบดูจะน้อยกว่ามาก

เข้าไทยก็ขอให้ได้ภาษีไฮบริดละกัน เผื่อผมเปลี่ยนใจจากรอ YS 2.3 PPV  :-X
Dare to Drama! | Original Nissan X-Trail Club Thailand: http://www.facebook.com/groups/180634121979355/

ออฟไลน์ Ex_machina

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 721
อ้างถึง
E-Power มันมีลักษณะของการเป็นรถไฟฟ้านะครับ ซึ่งต่างจากไฮบริดที่มีลักษณะเป็นรถสันดาปภายในที่มีไฟฟ้ามาเสริมแรงเท่านั้น  ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วรถยนต์ไฟฟ้าจะให้พละกำลังมากกว่ากว่ารถที่ใช้เครื่องยนต์ปกติ  รถยนต์ไฟฟ้า 0-200 ไม่ถึงสิบวิ เครื่องยนต์ปกติจะเอาอะไรมาเทียบ ด้วยเหตุนี้จึงมีการนำไฟฟ้ามาเสริมในเครื่องยนต์ แต่ระบบไฮบริดทั่วไปมันก็ยังอยู่บนสถาปัตยกรรมเก่า ซึ่งก็คืออยู่บนพื้นฐานเครื่องยนต์ที่มีขีดจำกัด

- ทั่วโลกเขาให้ Note E-Power เป็น serie hybrid ครับ
ไม่ใช่รถไฟฟ้า ถ้าเป็นรถไฟฟ้าจริงทำไม Nissan ไม่จัดให้อยู่ในหมวดรถ EV ซะเองล่ะ
หลักการทำงานก็เหมือน Chevlolet Volte ทำไมทั่วโลกเขาก็ให้เป็น Hybrid เหมือนกัน ทำไมเขาไม่จัดให้เป็นรถ EV ซะล่ะ
- ธรรมชาติรถไฟฟ้าแรงก็ได้ไม่แรงก็ได้ครับ อยู่ที่การเซ็ต ทำรถ Hybrid ให้แรงกว่ารถ EV ก็ทำได้ (เช่น ตัวแข่ง Le mans 24h) แต่ปรกติเขาไม่ทำกันเพราะมันผิดกฎการอนุรักษ์พลังงานครับ

อ้างถึง
แต่ E-Power ระบบส่งกำลังมันเหมือนรถไฟฟ้าทั่วไป การสูญเสียพลังงานมันย่อมน้อยกว่าเครื่องยนต์+เกียร์มาก เครื่องยนต์ในระบบ E-Power ก็ทำหน้าที่ในลักษณะของไดนาโมหรือ Generator แหล่งกำเนิดไฟฟ้าเท่านั้น

- มันเป็นรถ Hybrid ครับ

อ้างถึง
เครื่องยนต์ที่ใช้ใน Note ก็เป็นแค่เครื่องยนต์พื้นฐานเท่านั้น ซึ่งก็คือ HR12DE ธรรมดา  ถ้าหากปรับปรุงหรือใช้เครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะสูงขึ้นก็จะได้พละกำลังและความประหยัดที่มากขึ้น เช่นอาจจะเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ฉีดตรง หรือใส่ Supercharger  ระบบ E-Power ใน Note เป็นเพียงแค่ต้นแบบ ยังสามารถพัฒนาต่อยอดไปได้อีกยาวไกล และที่สำคัญมันสามารถก้าวเข้าสู่อนาคตและเดินไปพร้อมๆกับรถยนต์ไฟฟ้าแท้ๆได้  แต่ไฮบริดมันจะตายในอีกไม่ช้า
-เป็นเครื่องปั่นไฟ จะติด supercharger เพื่ออะไรครับ
ต่อให้ติด Turbo ช่วยเข้าไป มันก็แรงเท่าเดิม
เพราะความแรงมันอยู่ที่แรงดันกระแสไฟฟ้า และขนาดมอเตอร์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 23, 2017, 18:54:11 โดย Ex_machina »

ออฟไลน์ Jacob

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,803
คงหมายถึง..ถ้าต้องใช้เครื่องยนต์ 1.8 เพื่อปั่นไฟให้เพียงพอ สามารถใช้เครื่อง 1.5 turbo แทนได้มั้ย จะประหยัดน้ำมันลงได้อีกมั้ย
แต่ถ้าเน้นรอบผมว่าน่าจะเน้นแรงม้ามากกว่าแรงบิด เครื่อง N/A น่าจะตอบโจทย์กว่า
ความประหยัดจึงไปอยู่ที่แบตเป็นหลัก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 23, 2017, 18:57:39 โดย Jacob »

ออฟไลน์ G.K

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 479
  • Respect Others' Opinions.
อ้างถึง
E-Power มันมีลักษณะของการเป็นรถไฟฟ้านะครับ ซึ่งต่างจากไฮบริดที่มีลักษณะเป็นรถสันดาปภายในที่มีไฟฟ้ามาเสริมแรงเท่านั้น  ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วรถยนต์ไฟฟ้าจะให้พละกำลังมากกว่ากว่ารถที่ใช้เครื่องยนต์ปกติ  รถยนต์ไฟฟ้า 0-200 ไม่ถึงสิบวิ เครื่องยนต์ปกติจะเอาอะไรมาเทียบ ด้วยเหตุนี้จึงมีการนำไฟฟ้ามาเสริมในเครื่องยนต์ แต่ระบบไฮบริดทั่วไปมันก็ยังอยู่บนสถาปัตยกรรมเก่า ซึ่งก็คืออยู่บนพื้นฐานเครื่องยนต์ที่มีขีดจำกัด

- ทั่วโลกเขาให้ Note E-Power เป็น serie hybrid ครับ
ไม่ใช่รถไฟฟ้า ถ้าเป็นรถไฟฟ้าจริงทำไม Nissan ไม่จัดให้อยู่ในหมวดรถ EV ซะเองล่ะ
หลักการทำงานก็เหมือน Chevlolet Volte ทำไมทั่วโลกเขาก็ให้เป็น Hybrid เหมือนกัน ทำไมเขาไม่จัดให้เป็นรถ EV ซะล่ะ
- ธรรมชาติรถไฟฟ้าแรงก็ได้ไม่แรงก็ได้ครับ อยู่ที่การเซ็ต ทำรถ Hybrid ให้แรงกว่ารถ EV ก็ทำได้ (เช่น ตัวแข่ง Le mans 24h) แต่ปรกติเขาไม่ทำกันเพราะมันผิดกฎการอนุรักษ์พลังงานครับ

อ้างถึง
แต่ E-Power ระบบส่งกำลังมันเหมือนรถไฟฟ้าทั่วไป การสูญเสียพลังงานมันย่อมน้อยกว่าเครื่องยนต์+เกียร์มาก เครื่องยนต์ในระบบ E-Power ก็ทำหน้าที่ในลักษณะของไดนาโมหรือ Generator แหล่งกำเนิดไฟฟ้าเท่านั้น

- มันเป็นรถ Hybrid ครับ

อ้างถึง
เครื่องยนต์ที่ใช้ใน Note ก็เป็นแค่เครื่องยนต์พื้นฐานเท่านั้น ซึ่งก็คือ HR12DE ธรรมดา  ถ้าหากปรับปรุงหรือใช้เครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะสูงขึ้นก็จะได้พละกำลังและความประหยัดที่มากขึ้น เช่นอาจจะเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ฉีดตรง หรือใส่ Supercharger  ระบบ E-Power ใน Note เป็นเพียงแค่ต้นแบบ ยังสามารถพัฒนาต่อยอดไปได้อีกยาวไกล และที่สำคัญมันสามารถก้าวเข้าสู่อนาคตและเดินไปพร้อมๆกับรถยนต์ไฟฟ้าแท้ๆได้  แต่ไฮบริดมันจะตายในอีกไม่ช้า
-เป็นเครื่องปั่นไฟ จะติด supercharger เพื่ออะไรครับ
ต่อติด Turbo ช่วยเข้าไป มันก็แรงเท่าเดิม
เพราะความแรงมันอยู่ที่แรงดันกระแสไฟฟ้า และขนาดมอเตอร์

ครับ มันเป็นไฮบริด แต่เป็นไฮบริดที่อบู่บนพื้นฐานรถยนต์ไฟฟ้า ไม่ได้เป็นไฮบริดที่อยู่บนพื้นฐานเครื่งยนต์สันดาปครับ

เครื่องยนต์ที่ปั่นไฟมันก็ยังใช้น้ำมัน น้ำมัน 1 ลิตร เครื่องยนต์แต่ละชนิดก็ให้งานที่ไม่เท่ากัน  ผมเพียงแค่ยกตัวอย่างให้ผู้อ่านเห็นภาพถึงการเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องยนต์เท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าจะต้องทำอย่างนั้นจรืงๆ  วิศวกรภานในเค้าก็คงมีวิธีการในการเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องยนต์ของเค้า  ผมเพียงแค่อธิบายให้เห็นภาพง่ายๆเท่านั้น


ออฟไลน์ แมวดราม่า

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,573
  • แมวบ้า(ขับ)รถ
^
^

ผมเข้าใจว่าทำไมคุณ G.K บอกว่าน่าใส่ Supercharger นะ

อย่างสมมติใส่ HR12DDR DIG-S (ฉีดตรง+ซุป) อัตราสิ้นเปลืองดีกว่า HR12DE ถึงราวๆ 2-3 กม./ลิตร แค่นั้นอัตราสิ้นเปลืองในการปั่นไฟให้ได้กำลังงานเท่ากัน ก็ดีกว่าแล้ว

เพราะคิดว่าอย่างน้อยๆ ถึงจะเอาเครื่องมาต่ออนุกรมกับมอเตอร์ แต่ เครื่องยนต์มันไม่ได้ทำหน้าที่เกี่ยวกับการปั่นล้อแม้แต่นิดเดียวนี่ครับ

ดังนั้นหากสมมติ HR12DE ทำงานรอบเครื่องหนึ่ง พิสูจน์แล้วว่าได้กำลังงานต่ออัตราสิ้นเปลืองดีสุด แต่ HR12DDR ดึงมาถึงรอบทำงานได้เร็วกว่า สูญเสียกำลังน้อยกว่า มีระบบอัดอากาศช่วย ก็ควรจะดีกว่าสิครับ?

เพียงแต่ความซับซ้อน การบำรุงรักษา และต้นทุนมันเพิ่มสูงขึ้นมากไปหน่อย จะทำให้รถราคากระฉูดเกินไป ผมคิดว่างั้นนะ
Dare to Drama! | Original Nissan X-Trail Club Thailand: http://www.facebook.com/groups/180634121979355/

ออฟไลน์ แมวดราม่า

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,573
  • แมวบ้า(ขับ)รถ
ส่วนเรื่องการจัด Note เข้าไปเป็น Series Hybrid ผมคิดว่าแบบนี้
ก็คงเหมือนไม่รู้จะจัดกลุ่มเป็นอะไรดี เอาเครื่องต่อมอเตอร์แล้วไปล้อนี่? โอเค จัดเป็นอนุกรมไปเลย จบ

เพราะมันไม่เคยมี Series Hybrid ยี่ห้อไหนทำแบบนี้นี่ครับ?

ถ้าจะเทียบ Volt มันก็เป็นคนละโมเดลกันอีก เพราะแม้ Volt มันเป็น Hybrid ที่เอาเครื่องยนต์มา "ปั่นไฟ" ก็จริง
แต่หลักๆ มันเป็น Plug-in Hybrid นะครับ ที่เข้าใจว่าตั้งใจให้ใช้วิ่งระยะทางไม่ถึงกับสั้น แล้วถ้าแบตจะหมดเครื่องยนต์ถึงจะมาเสริม

ในขณะที่ Note พลังงานหลักๆ เท่าที่ผมเข้าใจ คือ มาจากเครื่องยนต์ทำหน้าที่ปั่นไฟให้มอเตอร์
ซึ่งจะไม่มีระยะที่รถสามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนๆ 100% ได้เลย และมันต้องใช้มอเตอร์และแบตลูกใหญ๋ขึ้น
แบบรถ EV อย่าง Leaf ต่างหาก ไม่ใช่แบตเล็กช่วยปั่นล้อพร้อมเครื่องอย่างที่ Prius เป็นและวิ่งได้สั้นๆ

สรุปคร่าวๆ ในหัวผม คือ

Volt = Plug-in Series Hybrid ที่เสียบไฟชาร์จวิ่งได้ระยะหนึ่ง มีเครื่องยนต์ (DI) ช่วยปั่นเพิ่มให้เวลาแบตใกล้หมด เป็น Extended Range
E-Power = Engine-Powered Series Hybrid ที่เติมน้ำมันปั่นมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นหลัก โดยใช้เครื่องยนต์ HR12 ปั่น(เกือบ)ตลอดเวลา แต่ชุดขับเคลื่อนต่อกับมอเตอร์ ไม่ได้รับแรงจากเครื่อง
Prius ไทย = Parallel Hybrid ที่เติมน้ำมันปั่นพร้อมเอามอเตอร์ไฟฟ้า+แบต มาช่วย แบตมีความจุระดับหนึ่ง วิ่ง Full EV ได้ ระยะทางสั้นกว่า Volt
Leaf = Full Plug-in EV ไม่มีเครื่องยนต์

เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะอะไรก็แล้วแต่ E-Power ผมเริ่มเข้าใจว่ามันเจาะตลาดไทยได้ตรง "ข้อจำกัดระยะทางไม่มี เพราะเติมน้ำมันวิ่งได้
แต่ระบบไม่แพงเท่า Prius/Volt รถราคาถูก และทำทุกอย่างจบได้ในห้องเครื่อง พร้อมทั้งได้ประสิทธิภาพของรถไฟฟ้าเต็มๆ"

ที่อยากรู้ก็คือ นิสสันออกแบบกลไก Inverter/Generator/Battery ยังไง และทนการใช้งานระยะยาวไหม
ที่เขาไม่กล้าลงตลาดโลกตอนนี้ บอกว่าพฤติกรรมตรงกับการใช้รถในญี่ปุ่น (รถไฮเทคห้าปีทิ้ง) อาจจะมีข้อจำกัดบางอย่าง  :-\
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 23, 2017, 19:30:01 โดย แมวดราม่า »
Dare to Drama! | Original Nissan X-Trail Club Thailand: http://www.facebook.com/groups/180634121979355/

ออฟไลน์ Jacob

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,803
นิสสันเค้าเคลมว่า e-power ให้ torque พอๆกับ ev แต่ประหยัดน้ำมันกว่า hybrid เดิมๆ(แต่ไม่เท่า plug-in) และไม่ต้องเสียบปลั้ก
ตอนนี้ยังเหมาะกับคนญี่ปุ่น แต่ต่อไปจะพัฒนากำลัง และความประหยัดให้เหมาะสมกับอเมริกาและยุโรป

ออฟไลน์ Dark Overlord

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,804
  • Hail to the darkside
ถ้ามองในด้านความรู้สึก เหมือนเราเติมน้ำมันแบบปกติ
แต่ได้ความประหยัด กับสมรรถนะแบบ EV
ฟังดูมันก็โอเคเลยนะครับ
อาจจะดูเข้าใจง่ายกว่า Hybrid ด้วยซ้ำ

ถ้าไม่คิดถึงตัวเลขเปรียบเทียบอะไรมากนัก
คนทั่วไปอาจเปิดใจได้ง่ายกว่า

แต่ก็ต้องถาม Nissan ในเรื่องความทนทานว่าได้ประมาณไหน
เจ้า Note นี่ก็แค่ HR12DE มาปั่นไฟเอง ยังไม่ได้พัฒนาเครื่องใหม่ อะไรใหม่
เพื่อแข่งกับคู่แข่งจริงๆ ด้วยซ้ำ ตัวถังก็เก่ากึ้กเลย
แต่คนก็ยังอุตส่าห์ตอบรับเยอะมาก แปลว่าไอเดียมันได้ แล้วคนญี่ปุ่น iq
ก็ไม่เบาไม่ได้ให้ใครมาตุ๋นได้ง่ายๆ แปลว่าก็โอเคอยู่นะ

ออฟไลน์ tyo00

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 303
จริงๆระบบแบบนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่เพียงแต่ว่าไม่ได้ใช้กันในรถเล็กก็เท่านั้น

พวกรถดัมพ์ขนาดยักษ์ๆที่ใช้กันในงานเหมืองเป็นรถที่ใช้เครื่องดีเซลเทอร์โบมาปั่นไฟเข้ามอเตอร์ที่ล้อกันแทบทั้งนั้น

Nonlamer

  • บุคคลทั่วไป
ผมก็ยังไม่เข้าใจ ว่าระบบนี้ดียังไง  :(

ออฟไลน์ แมวดราม่า

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,573
  • แมวบ้า(ขับ)รถ
ผมก็ยังไม่เข้าใจ ว่าระบบนี้ดียังไง  :(

ออกแบบโดยญี่ปุ่น คิดแบบญี่ปุ่น เพื่อคนญี่ปุ่น  :-X :-X :-X

ต้องกลับไปนึกถึงปัจจัยว่ามันมีอะไรไม่เหมาะบ้างถ้ามาไทย อาจจะความทนทาน

และที่นิสสันคิดได้ (อ้างแบบกึ่งโม้ๆ ว่า เราปลดล็อกแนวคิดได้แล้วเว้ย ทำยังไงให้ปั่นไฟลงแบตแบบนี้ได้โดยแพ็กเกจรถแทบไม่เปลี่ยน)

อาจจะ "โดน" ใจคนใช้พอดี ถ้าคิดสะระตะกลับไปกลับมาหลายๆ เรื่อง เยอะสิ่ง ก็คือ ได้ประสิทธิภาพแบบ Leaf ในราคา Note วิ่งได้ระยะทางไกลๆ

รักษาสิ่งแวดล้อมสูงสุด (ไฟปั่นเอง แถมประหยัดกว่าใช้น้ำมันเท่าตัว) แถมจะไปได้ดีกว่านี้อีกถ้าปรับปรุงเครื่อง นั่นแหละครับ
Dare to Drama! | Original Nissan X-Trail Club Thailand: http://www.facebook.com/groups/180634121979355/

ออฟไลน์ Fong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,991
  • Make a Choice and Don't Look Back
    • อีเมล์
ผมเข้าใจว่าระบบนี้ จะใช้รอบเครื่องยนต์ที่แรงบิดสูงสุดตลอดเวลาที่ปั่นไฟครับ ทำให้ประหยัดน้ำมัน

พอไฟพอก็หยุด  พอไฟลดน้อยลงก็ปั่นใหม่   ไม่เหมือนเราขับเครื่องยนต์ที่เร่งเครื่องขึ้นลง ทำให้เปลืองน้ำมัน

ผิดอย่างไร โปรดชี้แนะครับ
Isuzu มังกรทอง, Accord G4, Colorado, Hilux Tiger, Lancer MK I, Triton, D-Max Cab4, TiiDA, Mazda2 MK I, Mazda2 MK II, D-Max Space, Fortuner, Sunny B14, Jazz GK, Accord G9, Mazda2 Sky, GLA200, Yaris, Alphard30, Lancer MK II, Lander MK III, Ranger MC, XL7, Forester SK

ออฟไลน์ Jacob

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,803
ข้อดีคงเป็น
-แรงบิดดีเหมือน EV
-ไม่มีระบบเกียร์เหมือน EV
-วิ่งได้ไกล (ใช้แบตขนาดเล็กกว่า nissan leaf ที่เป็น EV 1/20 เท่า แต่วิ่งได้ไกลกว่า) ไม่รู้ไกลเท่า prius มั้ย
-note e-power ประหยัดน้ำมัน 30 กม./ลิตร (สู้พวก plug-in hybrid ไม่ได้ แต่สำหรับคนไม่ชอบเสียบปลั้กก็ถือว่าประหยัดกว่าพวกไฮบริดธรรมดา)
--ระบบไม่ซับซ้อน เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาแบบไฮบริดทั่วไป แรงบิด/ความเร็วจึงไม่ตก (prius ถ้าแบตหมดเหลือแต่เครื่องยนต์ทำงาน แรงบิดจะน้อยลง ความเร็วลดลง แต่ hybrid ที่เครื่องยนต์ไปปั่นไฟเวลาแบตเหลือน้อยก็มี แบตจึงไม่หมด ความเร็วก็ไม่ตก)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 23, 2017, 23:28:32 โดย Jacob »

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,363

ออฟไลน์ Jacob

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,803
รู้แค่เครื่อง 1.2 ลิตร สามสูบ เซ็ตให้รอบในการปั่นไฟอยู่ที่ 2500 รอบ

ปล. หลักๆเหมือนจะเทียบกับ prius ไม่รู้ประหยัดกว่าเพราะเครื่องเล็กกว่า นน.น้อยกว่าด้วยมั้ย หรือเพราะการขับขี่ prius ถ้าขับด้วยเครื่องยนต์ความเร็วไม่คงที่ มีเร่งแซง ก็กินกว่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 23, 2017, 23:51:51 โดย Jacob »

ออฟไลน์ Krongbun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,408
    • อีเมล์
 :)
มันต้องมีข้อดีและข้อเสียที่พอจะเปรียบเทียบกันไปได้แหละครับ
ระหว่าง E-power กับ Hybrid
ไม่งั้นหัวลากรถไฟใหม่ๆ หรือพวกเรือสำราญใหญ่ๆ เครื่อวงจักรในเหมือง
เค้าก็ไม่ได้เอาเครื่องยนต์สันดาบไปขับเคลื่อนโดยตรงกันแล้วน้ะ

จะเทียบแต่อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอย่างเดียวคงไม่ครอบคลุม

ทั้งต้นทุนการผลิต ค่าอะไหล่ การซ่อมบำรุง น่าจะต้องเอาเข้ามาร่วมด้วยน้ะครับ
ไม่ต้องมีเกียร์ ไม่ต้องมีพวกระบบตัดต่อกำลังระหว่างมอเตอร์กับเครื่องยนต์
ไม่ต้องบาล้านรอบของเครื่องกับมอเตอร์ให้เท่ากัน มันตัดอะไรหลายๆอย่างไปเยอะน้ะครับ

ออฟไลน์ Ponthakorn

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 436
    • อีเมล์
  จากไม่สนใจเริ่มสนใจแล้วซิ คิดเล่นๆออกตัวแรงบิดสูงสุดมาเลย หรือเวลามุดกดเป็นมาแค่ดิดก็เริ่มสนุกแล้ว ถ้ามาในไทยคงต้องลองซื้อมาสักคันแน่ๆ ถ้าราคาไม่แรงนะ