ผู้เขียน หัวข้อ: รถยนต์สมัยปัจจุบันยังต้องวอร์มอุ่นเครื่องยนต์กันตอนเช้าอีกหรือ?  (อ่าน 13335 ครั้ง)

ออฟไลน์ tarahlm

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 920
สืบเนื่องจากกระทู้คำถามก่อนหน้า ขอแยกประเด็นนี้มาต่างหาก
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=59767.msg1052150#new

ได้ไปอ่านจากบทความหลายอันของฝรั่งซึ่งกล่าวเน้นถึงการวอร์มเครื่องในหน้าหนาว
ที่อากาศหนาวเย็นกว่าบ้านเรามาก ซึ่งความเห็นก็ยังแตกต่างกันไป
แต่แนวโน้มส่วนใหญ่ออกไปทางไม่จำเป็นแล้วล่ะ
ลองอ่านรายละเอียดกันดูด้วยครับ (เผื่อผิดพลาด ภาษาอังกฤษผมไม่แข็งแรง)


จริงๆในต่างประเทศเมืองหนาว มีความเชื่อบอกต่อกันมานานแล้ว
ตั้งแต่สมัยเครื่องยนต์ยังเป็นคาร์บูเรเตอร์ ที่ในหน้าหนาวต้องมีการวอร์มเครื่องยนต์ก่อน
เพื่อป้องกันเครื่องยนต์เดินไม่เรียบ สะดุด

แต่พอมาเป็นเครื่องยนต์สมัยใหม่ที่เป็นหัวฉีด ความเชื่อเช่นนี้เริ่มเปลี่ยนไป
มีคนอีกกลุ่มที่ความเห็นขัดแย้งว่าไม่จำเป็นต้องวอร์มเครื่องก่อน

อธิบายด้วยเหตุผลว่า เครื่องยนต์หัวฉีดนั้นมีคอมพิวเตอร์คุมการจ่ายเชื้อเพลิง
ให้เหมาะสมกับอุณหภูมิสิ่งแวดล้อมภายนอกอยู่แล้ว
ใช้เวลาไมี่กี่วินาทีหลังสตาร์ทเครื่องยนต์ น้ำมันหล่อลื่นก้ถูกส่งไปหล่อเลี้ยงชิ้นส่วนเครื่องยนต์ได้แล้ว
สตาร์ทแล้วขับรถไปได้เลย (โดยใช้ความเร็วปกติ)
ซึ่งการทำเช่นนี้จะทำให้ถึงอุณหภูมิทำงานของเครื่องยนต์ได้เร็วขึ้น
ซึ่งการวอร์มเครื่องยนต์ที่รอบเดินเบานิ่งอยู่กับที่ ต้องใช้เวลานานกว่าจะทำให้ถึงอุณหภูมิทำงาน

ซึ่งนำไปสู่การสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยไม่จำเป็น
และเกิดการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ในขณะนั้น ปล่อยไอเสียที่เป็นมลพิษมากขึ้น
http://www.thesilverlining.com/westbendcares/blog/bid/170167/Are-there-any-benefits-to-warming-up-my-car-on-a-cold-day

นอกจากนี้บางความเห็นยังแสดงสบับสนุนด้วยว่า
การวอร์มเครื่องเช่นนั้นยิ่งทำให้มีการสึกหรอของเครื่องยนต์มากขึ้น
อธิบายว่า ขณะวอร์มเครื่องขณะเครื่องเย็น จะมีการจ่ายเชื้อเพลิงมากขึ้น
เชื้อเพลิงส่วนเกินจะทำตัวเป็นสารทำละลาย ไปชะล้างน้ำมันหล่อลื่นที่เคลือบฟิล์มบางๆรอบกระบอกสูบ
ทำให้คุณสมบัติการหล่อลื่นลดลง ทำความเสียหายสึกหรอของชิ้นส่วนได้มากกว่า
http://www.popularmechanics.com/cars/a19086/warming-up-your-car-in-the-cold-just-harms-engine/

http://www.roadandtrack.com/car-culture/videos/a30249/why-you-shouldnt-warm-up-your-car/

ผิดถูกอย่างไรคงต้องพิจารณากันเองนะครับ


ส่วนตัวผม รถยนต์เก๋งเบนซินคันเก่าใช้ไปหกแสนโล โดยยังไม่เคยโอเวอร์ฮอล์เครื่องยนต์สักครั้ง
คันนั้นก็ไม่เคยใช้วิธีการวอร์มเครื่องก่อนเลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 30, 2017, 09:16:08 โดย tarahlm »

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,480
ผิด  ถูก จำเป็นหรือไม่ ไม่คิด แต่ผมก็ทำ  โดยการคลานช้า ๆ สี่ห้านาที ก่อนใช้งานจริง...

ออฟไลน์ kez

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,591

 start 30 วิ ก็เริ่มออกตัวได้  ขับไปความเร็วปกติจนถึงความร้อนได้ที่   หลังจากนั้นขับยังไงก็ได้

ออฟไลน์ popdemonic

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 190
  • I'm Back!
สืบเนื่องจากกระทู้คำถามก่อนหน้า ขอแยกประเด็นนี้มาต่างหาก
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=59767.msg1052150#new

ได้ไปอ่านจากบทความหลายอันของฝรั่งซึ่งกล่าวเน้นถึงการวอร์มเครื่องในหน้าหนาว
ที่อากาศหนาวเย็นกว่าบ้านเรามาก ซึ่งความเห็นก็ยังแตกต่างกันไป
แต่แนวโน้มส่วนใหญ่ออกไปทางไม่จำเป็นแล้วล่ะ
ลองอ่านรายละเอียดกันดูด้วยครับ (เผื่อผิดพลาด ภาษาอังกฤษผมไม่แข็งแรง)


จริงๆในต่างประเทศเมืองหนาว มีความเชื่อบอกต่อกันมานานแล้ว
ตั้งแต่สมัยเครื่องยนต์ยังเป็นคาร์บูเรเตอร์ ที่ในหน้าหนาวต้องมีการวอร์มเครื่องยนต์ก่อน
เพื่อป้องกันเครื่องยนต์เดินไม่เรียบ สะดุด

แต่พอมาเป็นเครื่องยนต์สมัยใหม่ที่เป็นหัวฉีด ความเชื่อเช่นนี้เริ่มเปลี่ยนไป
มีคนอีกกลุ่มที่ความเห็นขัดแย้งว่าไม่จำเป็นต้องวอร์มเครื่องก่อน

อธิบายด้วยเหตุผลว่า เครื่องยนต์หัวฉีดนั้นมีคอมพิวเตอร์คุมการจ่ายเชื้อเพลิง
ให้เหมาะสมกับอุณหภูมิสิ่งแวดล้อมภายนอกอยู่แล้ว
ใช้เวลาไมี่กี่วินาทีหลังสตาร์ทเครื่องยนต์ น้ำมันหล่อลื่นก้ถูกส่งไปหล่อเลี้ยงชิ้นส่วนเครื่องยนต์ได้แล้ว
สตาร์ทแล้วขับรถไปได้เลย (โดยใช้ความเร็วปกติ)
ซึ่งการทำเช่นนี้จะทำให้ถึงอุณหภูมิทำงานของเครื่องยนต์ได้เร็วขึ้น
ซึ่งการวอร์มเครื่องยนต์ที่รอบเดินเบานิ่งอยู่กับที่ ต้องใช้เวลานานกว่าจะทำให้ถึงอุณหภูมิทำงาน

ซึ่งนำไปสู่การสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยไม่จำเป็น
และเกิดการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ในขณะนั้น ปล่อยไอเสียที่เป็นมลพิษมากขึ้น
http://www.thesilverlining.com/westbendcares/blog/bid/170167/Are-there-any-benefits-to-warming-up-my-car-on-a-cold-day

นอกจากนี้บางความเห็นยังแสดงสบับสนุนด้วยว่า
การวอร์มเครื่องเช่นนั้นยิ่งทำให้มีการสึกหรอของเครื่องยนต์มากขึ้น
อธิบายว่า ขณะวอร์มเครื่องขณะเครื่องเย็น จะมีการจ่ายเชื้อเพลิงมากขึ้น
เชื้อเพลิงส่วนเกินจะทำตัวเป็นสารทำละลาย ไปชะล้างน้ำมันหล่อลื่นที่เคลือบฟิล์มบางๆรอบกระบอกสูบ
ทำให้คุณสมบัติการหล่อลื่นลดลง ทำความเสียหายสึกหรอของชิ้นส่วนได้มากกว่า
http://www.popularmechanics.com/cars/a19086/warming-up-your-car-in-the-cold-just-harms-engine/

http://www.roadandtrack.com/car-culture/videos/a30249/why-you-shouldnt-warm-up-your-car/

ผิดถูกอย่างไรคงต้องพิจารณากันเองนะครับ


ส่วนตัวผม รถยนต์คันเก่าใช้ไปหกแสนโล โดยยังไม่เคยโอเวอร์ฮอล์เครื่องยนต์สักครั้ง
คันนั้นก็ไม่เคยใช้วิธีการวอร์มเครื่องก่อนเลย

Clearanceโลหะ VS อุณหภูมิทำงาน สึกหรอเยอะสุดครับ เรื่องการจ่ายน้ำมันopen loop ตอนสตาร์ทตอนเช้า แล้วไปล้างน้ำมันเครื่องที่เคลือบกระบอกพวกนี้เล็กน้อยครับ
คิดตามนะครับ ลูกสูบเคลื่อนที่ขึ้นลง ตามไลน์เนอร์ เส้นตัดขวางในกระบอก(cross hatches) พอมันเคลื่อนอีกstroke มันก็มีน้ำมันเครืองกักไว้ตามรอยcross hatchesใหม่

รถขับทุกวัน สตาร์ทเครื่อง ปรับอิริยาบท สัก10-30วินาที ขับออกไปเรื่อยไล่เกียร์ตามปกติ แป้บเดียวก็พอ ไม่ต้องทำให้ชีวิตยุ่งยาก แต่ไม่ลากเกียร์แบบสวมวิญญาณ
โคลิน แมคเครย์ ก็พอครับ

ที่มันสึกหรอเยอะคือช่วงที่มันยังไม่ร้อนแล้วยิ่งไปตะบี้ตะบันมันครับ ทุกชิ้นส่วนในเครื่องยนต์มีclearanceครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 30, 2017, 08:52:33 โดย popdemonic »

ออฟไลน์ manonmoon

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 210
    • อีเมล์
ถามเรื่องวอร์มเครื่องยนต์ แล้วเกียร์ออโต้ละครับ

ออฟไลน์ earrt

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 740
เอาจริงๆผมไม่สนเครื่องยนต์หรอก ยังไงก็ไม่พัง  :D

ผมสนใจเกียร์มากกว่า

เช้าๆ ผมไม่อยากใส่เกียร์ D (หรือ R) ตอนเรอบเครื่อง 1500RPM

ถ้ารอรอบเครื่องมันดรอปลงมาถึง 1พันรอบนิดๆ ถึงจะเปลี่ยนมาที่เกียร์ขับเคลื่อนครับ

เรื่องของเรื่องคือไม่อยากให้มันกระตุกมากกลัวจะเสียเงินซ่อมโอเวอฮอลอะครับ

ผมขับรถมาตั้งแต่ 12 ไม่มีคันไหนเครื่องพังเลย(ผมไม่ได้โมเครื่องนะ)

เคยแต่เกียร์พังทั้ง MT และ AT

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
รถส่งของผม พอขึ้นของเสร็จเช้า คนงานกระโดดขึ้นรถ คนขับบิดกุญแจตบเกียร์ออกตัวเลยไม่เคยสตาร์ทจอดเฉยๆให้ควันเข้าบ้าน

เลขไมล์ตอนนี้ 70,000กม. เพราะตีกลับมารอบนึงแล้ว

ไม่พัง แรงดี กินน้ำมันเท่าเดิม มีแต่ช่วงล่างที่พังกับท่อยางต่างๆที่เสียไป

คู่มือรถก็บอกไม่ต้องๆวอร์ม ให้ออกตัวได้เลย

เรื่องคำว่าเครื่องเย็น ของไทยเราคงไม่เย็นแบบพวกยุโรป ญี่ปุ่นแน่ๆครับ

ออฟไลน์ dekdemo

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 537
ผมทำตามคู่มือรถแนะนำ

ออฟไลน์ tiger12r

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 744
อุ่นเครื่องด้วยการขับไปช้าๆก่อนสัก30วิ จากนั้นซัดร้อยได้เลย
Wave100s->VIGO PreCab->VigoChamp4x4->CivicFC & REVO ROCCO4x4

ออฟไลน์ mrpich

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,197
  • เฮ้อ...อยากจะเหมาทั้งวง
สตาร์ทเครื่อง ขับออกจากบ้านเลย วิ่งในหมู่บ้าน วิ่งในซอย ก่อนออกถนนใหญ่ แค่นี้ก็เป็นการวอร์มในตัวได้แล้วครับ
ถูกใจฮโยยอน-ปลื้มซูยอง-ชื่นชมเจสสิก้า-คิดถึงยูริ-แอบปิ๊งยูนอา-ชอบซอฮยอน-ใฝ่ฝันซันนี่-หลงไหลแทยอน-สุดรักทิฟฟานี่

ออฟไลน์ warez

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 702
รถส่งของผม พอขึ้นของเสร็จเช้า คนงานกระโดดขึ้นรถ คนขับบิดกุญแจตบเกียร์ออกตัวเลยไม่เคยสตาร์ทจอดเฉยๆให้ควันเข้าบ้าน

เลขไมล์ตอนนี้ 70,000กม. เพราะตีกลับมารอบนึงแล้ว

ไม่พัง แรงดี กินน้ำมันเท่าเดิม มีแต่ช่วงล่างที่พังกับท่อยางต่างๆที่เสียไป

คู่มือรถก็บอกไม่ต้องๆวอร์ม ให้ออกตัวได้เลย

เรื่องคำว่าเครื่องเย็น ของไทยเราคงไม่เย็นแบบพวกยุโรป ญี่ปุ่นแน่ๆครับ

+10 มาร่วมต่อต้านความเชื่อผิดๆกันครับ

ออฟไลน์ sixaxis

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 451
    • mntkcar
ผมไม่อุ่นแบบจอดอยู่กับที่ครับ ก็สตาร์ทแล้วก็ขับช้าๆปล่อยไหลจนออกถนนใหญ่ครับ

ออฟไลน์ Devil13

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,001
เกียร์ธรรมดาไม่มีผล
แต่ออโต้มีผลแน่นอน
เคยเช่า City 2013 รถอายุ 2 ปี เลขกิโล 4 หมื่น
เกียร์แย่มาก กระตุกแปลกๆ สับจังหวะแปลกๆ เครื่องก็สั่น

ผิดกับรถผมที่เลขไมล์ 1.4 แสน นิ่งกริ๊ปเหมือนรถป้ายแดง
อาจจะเป็นที่การวอมเครื่อง ส่วนเรื่องการเช็คระยะเจ้าของรถบอกดูแลตามคู่มือตลอด

ส่วนตัวมองว่าเกียร์ออโต้มีผล
แต่เกียร์ธรรมดาไม่น่าส่งผล

ออฟไลน์ joa123

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 369
ส่วนใหญ่เกียร์จะไปก่อนเครื่องครับ    เครื่องอึดอยู่นะครับ ถ้าเราไม่ปล่อยให้น้ำมันเครื่องแห้ง หรือใช้เกินระยะ กับ ระบบหม้อน้ำ 


ออฟไลน์ MUK

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,999
ผมไม่เชิงว่าอุ่นเครื่องนะครับ แต่ถ้า สตาร์ทรถแล้ว จะไม่ออกตัวทันที อย่างน้อยต้อง 30 วินาที ครับ ส่วนใหญ่พออกตัวแล้ว ก็ไม่มีที่ให้เร่งทำความเร็วครับ ดั้งนั้น 4-5 นาทีแรก ส่วนใหญ่จะรอบต่ำมากๆครับ

ออฟไลน์ coolcarrera

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 518
ผมก็ออกเลยเหมือนกันครับ

แต่เครื่องเย็น เกียร์เย็น สังเกตุได้ชัดเจนว่าการเปลี่ยนเกียร์กระตุกกว่าตอนมันได้อุณหภูมิทำงานแล้ว
เป็นแบบนี้ทุกคัน

ใช้คันละ 2-3 แสน กม. ก็ไม่เป็นไรนะ เบื่อขายออกไปก่อนเลยไม่ได้เห็นว่าคันไหนมีปัญหาครับ
E3, D15 Carb, 2E
F22B VTEC, J30A VTEC
1TR, 1NZ
D4CB
1GD, R18

ออฟไลน์ neung23

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,662
แค่ติดเครื่องรัดเข็มขัด ปรับนู่นนี่นั่นในรถก็น่าจะพร้อมล่ะคับ

ไทยอากาศไม่ได้ติดลบ ไม่มีความจำเป็นไดๆเลยที่ต้องวอร์มเครื่อง

ยกเว้นรถจอดนานหลายวันขึ้นไป จะติดเครื่องรอน้ำมันไหลเวียนดีๆก่อนแล้วเดินตรวจสภาพรอบรถผมว่าเหลือๆแล้วนะ

ขับมาหลายคันก็ไม่มีคันไหนส่อแววพังนะคับ  ;) ปป
2013 W204 C250 AMG Plus
2011 Prius
2010 X5 xDrive 4.8i
2003 E39 523i Sport

ออฟไลน์ demo2

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 786
    • อีเมล์
ผมขึ้นรถคาดเข็มขัด แล้วค่อยสตาร์ทรถ ถอยลงออกจากบ้าน ไม่เคยวอร์ด เพราะอีก 2 นาทีต่อมาจะได้จอดวอร์มที่ไฟแดงแรกพอดีครับ 555
ปล สรุปไม่เคยวอร์มเลยครับ แต่ผมเคยใช้รถนานสุดก็ 180000 กิโล ก็ขายครับ เลยไม่รู้ว่าระยะยาวเป็นไงบ้าง

ออฟไลน์ akewizard

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,618
รถที่ผมใช้อยู่ทุกวันนี้...เวลาสตาร์ทเครื่องจะมีไฟสีน้ำเงินขึ้นเพื่อบอกว่าเครื่องยังเย็นอยู่ พอเครื่องเริ่มอุ่นได้ที่ไฟสีน้ำเงินก็จะดับไปครับ..........

ผมเคยตามไปอ่าน board เมืองนอกที่ใช้รถค่ายเดียวกัน เขาแนะนำว่าวิศวกรใส่ไฟน้ำเงินมาให้เพื่อต้องการให้มีการอุ่นเครื่องก่อนเพื่อให้เครื่องอยู่ในสภาวะที่ดีพร้อมก่อนออกรถ ในที่อากาศร้อนมันก็อุ่นเครื่องเร็ว ที่อากาศหนาวก็อุ่นเครื่องช้าหน่อย คือมันไม่ต้องอุ่นเครื่องก่อนก็ได้ สตาร์ทรถแล้วขับออกไปเลยมันก็ไม่พังเดี๋ยวนั้นหรอก.......(แต่นานๆไปอันนี้ผมไม่รู้ครับ)

ในอีกแง่ผมมองมันไม่ค่อยเกี่ยวกับเรื่องเมืองร้อนเมืองหนาวเท่าไหร่ครับ บางประเทศอย่างอเมริกาบางรัฐนี่ร้อนเป็นทะเลทรายเลย รถที่ขายแถบนั้นก็มีไฟน้ำเงินแจ้งเตือนให้อุ่นเครื่องเหมือนที่อื่นๆ
หรืออย่างบ้านเราเองถ้าขับไปนอนค้างบนดอยถึงจะไม่ใช่หน้าหนาว บางทีตื่นมาเตรียมจะออกรถอุณภูมิลงเหลือต่ำกว่า 10 องศาสภาพก็ไม่ต่างเมืองหนาวเท่าไหร่

สุดท้ายผมเชื่อวิศวกรที่ออกแบบและผลิตรถว่าควรอุ่นเครื่องก่อนครับ (จากการที่เขาใส่ไฟอุ่นเครื่องสีน้ำเงินมาให้) ใครจะบอกว่าล้าหลังหรือเชื่อผิดๆก็ถือเป็นเรื่องส่วนบุคคลไป รถใครรถมัน......

ออฟไลน์ madboy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,354
    • อีเมล์
ก็คงไม่ถึงกับต้องอะไรมากมายอ่ะครับ ติดเครื่อง เก็บข้าวของ เปิดแอร์ คาดเข็มขัด ก็ไปได้แล้ว ไปช้าๆ พออุณหภูมิเครื่องยนต์ถึงปกติที่มันทำงานค่อยขับได้เต็มที่  :)

ออฟไลน์ HHHsung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,385
ซิตี้คันเก่าผมปี 2010 ปีแรกสตารืทปั๊บ ผมขับแบบปกติเลย ใช้มา 6 ปี ก็ไม่มีปัญหา

เอาเคสมอเตอร์ไซค์ดีกว่า สมัยน้นวัยรุ่น สตารืทปั๊บ ออกตัวบิดสุดเลย ก้ไม่เห้นมันจะพัง

เอาเป้นว่า สตาร์ทแล้วขับๆ ออกไปเหอะ อย่างเพิ่งเร็วมากกว่าพอ ขีดความร้อนอยู่ตรงกลางเมือไหร่ค่อยขับเร็ว

ออฟไลน์ No Trespassing

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,616
    • อีเมล์
ตอนเช้าติดเครื่อง ลงไปเปิดประตู ดูแมวใต้รถ ดูล้อยางว่าลมอ่อนหรือเปล่า พอขึ้นรถเกจ์ความร้อนก็ขยับขึ้นไปขีดนึง แล้วค่อยๆคลานออกจากบ้าน

เรื่องวอร์มเครื่องจริงๆผมไม่เครียดเท่าไร แต่ผมเน้นเรื่องวอร์มเกียร์ออโต้มากกว่า ให้น้ำมันเกียร์จ่ายไปทั่วๆก่อน แล้วค่อยขยับรถ

สมัยก่อนอีคาร์สตาร์ทเครื่องแล้วขับปกติเลย เครื่องไม่มีปัญหาอะไร แต่เกียร์ออโต้ช่วงหลัง 8 หมื่นโลค่อนข้างกระตุก ขนาดถ่ายน้ำมันเกียร์สม่ำเสมอด้วย (Diaqueen SP-II)

แต่ถ้าเครื่องร้อนก็กลับมาเปลื่ยนนิ่มครับ

ออฟไลน์ sonkubb

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 3
ผม vios แค่รอให้ไฟสถานะเครื่องยนต์เย็นดับ หรือรอบอยู่ต่ำกว่าพันถึงออกขับเรื่อยๆถึงหน้าหมู่บ้านแล้วค่อยขับปกติครับ

อีกคันนี่ลำบาก
altis cng ต้องรอติดเครื่องทิ้งไว้ 10 นาที ถึงขับได้ไม่งั้นมันลากเกียร์ไม่ยอมเปลี่ยน
เคยเข้าศูนย์ เสียบคอมดู กับทาง TMT TMT ได้แต่งง
แต่ผมติดใจเรื่องอุณภูมิน้ำมันเกียร์

เลยให้จับใหม่สองสามรอบ
สรุป ถ้าอุณภูมิน้ำมันเกียร์ ไม่ถึง 50c มันก็ลากกกกกก อยู่นั่นแหละครับ TT

กระทู้แรก แต่แอบอ่านมานาน เห็นคำถามนี้ สมัครมาตอบเลยผม ไม่รู้ทำไม

ปล เพิ่งรู้ว่าตอบกระทู้นี่ก็ยาก มีขั้นตอน แต่ก็ดีครับ กรองคนได้ระดับนึง

ออฟไลน์ FyGI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,308
ผมรอรอบเครื่อง drop แล้วก็ไปเลย

ออฟไลน์ ภูมิใจไหม?

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,147
  • SNK vs Playmore
คู่มือบอกไม่ต้องวอร์ม แต่ผมก็วอร์ม

วอร์มของผมคือสตาร์ทไว้ รอเข็มรอบตก ก็ค่อยเคลื่อนรถ แป๊บเดียวครับ

ลุงข้างบ้านผม ชอบเบิ้ลเครื่องตอนเช้า ๆ แกคงจะวอร์มเครื่องละมั้ง

โคตรหนวกหู

ออฟไลน์ Pegasus7700

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,815
ส่วนใหญ่ผมจะนอให้รอบนิ่งและความร้อนในระดับปกติ
แต่หลายครั้งรีบๆ.สตาทปุ๊บ หน้าจอยังไม่ทันขึ้น.  ออกตัวล้อฟรี เลย
...ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป...

MERCEDES BENZ W212 '12
FORD FOCUS 2.0 Gdi '13
HONDA Civic RS '20
VOLVO XC60 Hybrid Inscription '19
FORD EVEREST 2.0 Bi Turbo '22

ออฟไลน์ Zachary C

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,254
  • Beauty is in the Eyes of the Beholder
    • อีเมล์
คู่มือบอกไม่ต้องวอร์ม แต่ผมก็วอร์ม

วอร์มของผมคือสตาร์ทไว้ รอเข็มรอบตก ก็ค่อยเคลื่อนรถ แป๊บเดียวครับ

ลุงข้างบ้านผม ชอบเบิ้ลเครื่องตอนเช้า ๆ แกคงจะวอร์มเครื่องละมั้ง

โคตรหนวกหู

เช่นเดียวกันครับ วอร์มเครื่อง โดยรอจนเข็มรอบตก จึงค่อยออกเดินทาง

คือทำแล้วสบายใจครับ อาจจะสิ้นเปลืองบ้าง แต่ก็ปล่อยผ่าน  :-[  ค่อยไปเก็บคืนตอนขับ
Hopefully, my old grande dame, the CRV G.1, will eventually become a classic!

2017 Honda BR-V SV telematics (Amber Brown)
2015 Honda Mobilio RS telematics (Pearl White)
1998 Honda CRV EXI G1 (Metallic Bronze)

ออฟไลน์ NINENOI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,732
  • Nine & Knight
เรื่องเครื่องผมว่าไม่เท่าไหร่หรอกห่วงเรื่องเกียร์มากกว่า อีกอย่างทางยุโรปส่วนใหญ่เค้าเกียร์ธรรมดารึเปล่า ส่วนตัวรอแค่ประมาณ 10-15 วิแล้วค่อยออกตัวเพราะรอฟังเสียงเครื่องและเสียงรอบๆว่ามีอะไรผิดปกติรึเปล่า
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น

ออฟไลน์ Nott

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 137
แล้วคูลดาวน์ล่ะครับ จำเป็นไหมครับ

ออฟไลน์ bravo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,470
    • อีเมล์
ผมติดเครื่องประมาณ 30 วิ ก็ขับช้าๆๆ ออกจากบ้าน (ในหมู่บ้าน ปกติก็ขับช้าอยู่แล้ว)

ขับประมาณ 3 นาที พอออกถนนใหญ่ ความร้อนก็ขึ้นถึง 7X องศา ( วาล์วน้ำเปิดที่ 85 องศา )

แต่ถ้าติดเครื่อง จอดอยู่กับที่ 3 นาที (เครื่องยนต์ไม่มี Load) ความร้อนขึ้นไม่ถึง 60 องศาครับ

สรุป อุ่นเครื่อง ไม่จำเป็นต้องจอดอยู่กับที่นานๆ แค่ขับด้วยรอบเครื่องต่ำๆ ก็พอครับ