ผู้เขียน หัวข้อ: บางทีรถก็เป็นมากกว่ายานพาหนะนะครับ  (อ่าน 9784 ครั้ง)

ออฟไลน์ yoyomadz

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 110
Re: บางทีรถก็เป็นมากกว่ายานพาหนะนะครับ
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: กรกฎาคม 13, 2017, 08:40:40 »
ขายไปแล้ว..ทำใจ

รถเก่า พังและโทรมลงทุกวัน แต่ครอบครัวต้องอยู่กันอีกนาน

เป็นความเห็นส่วนตัวในกรณีที่เจอกับสถานการณ์แบบนี้นะครับ

ออฟไลน์ earrt

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 740
Re: บางทีรถก็เป็นมากกว่ายานพาหนะนะครับ
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: กรกฎาคม 13, 2017, 08:47:37 »
สำหรับผม

รถเป็นทรัพย์สินครับ

ที่เราต้องดูแลรักษามันให้ดี

เราดูแลรักษารถ รถก็จะดูแลรักษาเราครับ

ถ้ารถเก่า แล้วเรารักมาก จากแค่ทรัพย์สิน จะเพิ่มเติมคำว่าสมบัติเข้ามาด้วย

จะเมีย หรือ แม่ ก็ทำไรผมไม่ได้

ออฟไลน์ ps000000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,772
Re: บางทีรถก็เป็นมากกว่ายานพาหนะนะครับ
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: กรกฎาคม 13, 2017, 08:50:19 »
ทำใจ

ออฟไลน์ h0661036

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 927
Re: บางทีรถก็เป็นมากกว่ายานพาหนะนะครับ
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: กรกฎาคม 13, 2017, 09:26:58 »
เพื่อนพ่อผม  ชอบรถมาก ซื้อรถมากมายจนภรรยา ยื่นโนติสว่าจะเลือกรถ หรือเมีย   ปรากฏว่าเลือกรถ เมียก็ขอหย่าตามที่พูด ทั้งที่มีฐานะที่มั่งคง มีลูกด้วย    สุดท้ายชีวิตก็ล้ม  ร้านวัสดุก่อสร้างที่ทำอยู่ก็ปิดกิจการ ผู้ชายไปแต่งงานใหม่ (ผู้หญิงใหม่ที่แต่งด้วยก็แย่ ชีวิตลำบาก  ผมยังคิดเลยว่าถ้าเป็นแบบนี้ไปแต่งด้วยทำไม หาเรื่องให้ตัวเองลำบาก  ชาวบ้านก็คิดว่าเป็นมือที่ 3 ไปแย่งผู้ชายมา) 

            ยากเตือนสติว่า พวกรถหรือของรักของหวงอื่น ๆ มันเป็นของนอกกาย  ครอบครัวสำคัญกว่า  เวลาเจ็บป่วยคนที่ดูแลเราก็คือครอบครัวนะ :(

 

ออฟไลน์ lexus

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,230
Re: บางทีรถก็เป็นมากกว่ายานพาหนะนะครับ
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: กรกฎาคม 13, 2017, 10:53:17 »
เป็นผมจะขอยื่นข้อเสนอเลยครับ
ถ้าอยากให้ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิม
เอากระเป๋า-เครื่องประดับของภรรยาที่รักมากๆ ให้ภรรยาเอาไปขาย
ถ้าเขาทำได้ผมยอมกลับไปนะ แล้วset zeroใหม่เลย

ไม่ได้ว่าจะเอาคืน แต่ถ้าเขาทำได้ก็แสดงว่าเขาเห็นผมสำคัญกว่าของนอกกายของเขาเหมือนกัน

ออฟไลน์ SLuang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,816
Re: บางทีรถก็เป็นมากกว่ายานพาหนะนะครับ
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: กรกฎาคม 13, 2017, 11:09:30 »
ผมว่าพี่คุณต้องเอารถคันนี้ออกไปขับแบบไม่ปกติบ่อยๆ 

ที่เขา  (ภรรยา แม่ยาย พ่อคุณด้วย) ทำแบบนั้น ตัดสินใจทำด้วยความห่วงใยในตัวคุณพี่คุณ
เพราะคุยกันดีๆ หลายครั้งแล้วก็ยังไม่ฟัง  เขาก็เลยใช้วิธีแบบนี้ (มันผิด  แต่เขาก็ชั่งน้ำหนักแล้ว)


เขารักมากนะ จึงทำแบบนี้  ขนาดพ่อที่เลี้ยงเรามาขนาดนี้ยังเลือกวิธีนี้เลย 

ออฟไลน์ Benzecar

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 59
    • อีเมล์
Re: บางทีรถก็เป็นมากกว่ายานพาหนะนะครับ
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: กรกฎาคม 13, 2017, 11:13:18 »
รถยนต์เป็นของนอกกายก็จริงครับ แต่ความผูกพันที่มีกับรถคันนั้น
นั่นแหละคือคุณค่าทางจิตใจ ผมเป็นคนนึงที่บ้ารถเอามากๆ
เลยสะสมโมเดลรถยนต์
ถูกแม่สั่งห้ามซื้อตั้งแต่40คันแรกเมื่อ10ปีที่แล้ว
ผมจึงขอแม่ว่าอะไรที่ผมรักผมชอบอย่าห้ามได้ไหม
หลังจากนั้นมาแม่ก็ไม่เคยห้ามอีกเลย
จนตอนนี้มี4-5ร้อยคันและผมก็จะเก็บไปเรื่อยๆ

เคยมีคนถามเหมือนกันครับว่าเลือกรถหรือเลือกแฟน
ผมก็ตอบว่าเลือกรถเช่นกันครับ เพราะผมคิดว่าคนที่รักเราจริงๆ
เขาจะไม่ถามคำถามนี้กับเราเพราะมันเป็นสิ่งที่เรารัก
ถ้าเขารักเราเขาต้องรักในสิ่งที่เรารักด้วยครับ

ทำไมเลือกรถ--เพราะรถไม่เคยทำให้คนเสียใจครับ5555
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 13, 2017, 11:15:52 โดย Rucheroche »
97” Mitsubishi Lancer Ecar 1.5 GLX (sold)
05” Toyota Fortuner 2.7 V 4x4 (sold)
08” Honda Accord 2.4 EL
10” Toyota Hilux Vigo 2.5 E VN turbo

ออฟไลน์ HHHsung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,385
Re: บางทีรถก็เป็นมากกว่ายานพาหนะนะครับ
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: กรกฎาคม 13, 2017, 11:24:36 »
ถ้าคุณเป็นภรรยา และ แม่ เห็นสามีหรือลูก สนใจแต่รถ เอาเงินไปลงที่รถจนหมด คิดว่าจะปล่อยวางมั้ย

ผมเชื่อว่า ถ้าไม่คอขาดบาดตาย ไม่มีใครทำแบบนั้นหรอก คนเราเทาๆ กันทั้งนั้นะ คนโลกสวยมีแต่ในหนังเท่านั้นแหละ

ดูจากอารมย์พี่คุณแล้ว โตแต่ตัว วุฒิภาวะทางอารมย์ยังไม่โต ความคิดยังเป็นเด็กๆ อยู่ ถ้าเดาผิดต้องขออภัย

เพราะให้ข้อมูลมาน้อยมาก ต้องเดา วิเคราะห์เอง

คหสต. คือมันยากครับ ที่แม่จะเห้นอะไรคล้อยตามสะไภ้ ถ้าไม่รักมาก เพราะรักลูกกมากกว่าอยู่แล้ว เลยเดาว่าพี่ จขกท.

น่าจะเป็นเด็ก ไม่รู้จักโต อายุให้เดา น่าจะไม่เกิน 30 มั้ง


ออฟไลน์ baddream11

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 792
Re: บางทีรถก็เป็นมากกว่ายานพาหนะนะครับ
« ตอบกลับ #38 เมื่อ: กรกฎาคม 13, 2017, 11:48:48 »
ไม่ต้องทำอะไรหรอก น้องก็คือคนนอกของครอบครัว คู่นี้ยังไงต้องเลิกกันแน่

ไม่ใช่เรื่องขายหรือไม่ขายรถ มันเป็นเรื่องของการขาดความเคารพ เรื่องขายรถ

อาจไม่ใช่เรื่องแรก และแน่ใจได้เลยว่าไม่ใช่เรื่องสุดท้ายแน่นอน ยิ่งมีทั้งแม่และพ่อ

ของทั้ง2ฝ่าย เข้ามายุ่งย่ามด้วยแล้ว พังทุกครอบครัว :(

ออฟไลน์ dht_tubes

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,636
    • อีเมล์
Re: บางทีรถก็เป็นมากกว่ายานพาหนะนะครับ
« ตอบกลับ #39 เมื่อ: กรกฎาคม 13, 2017, 12:57:02 »
แนะนำอะไรไม่ได้ นอกจากปลอบใจ และพยายามใช้เหตุผลเข้ามาแก้ไข เพราะความถูกต้อง และ เวลา จะจัดการปัญหาได้อย่างยั่งยืนกว่า

เราๆ ท่านๆ ไม่รู้ข้อมูลทั้ง 2 ฝั่ง ยังไงทุกความเห็น ล้วนเป็นคนนอก

ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดีละกันครับ อย่าให้ต้องมานั่งเสียใจ เสียดายว่า เรื่องแบบนี้ ไม่น่าเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวเลย




ออฟไลน์ Dark Overlord

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,804
  • Hail to the darkside
Re: บางทีรถก็เป็นมากกว่ายานพาหนะนะครับ
« ตอบกลับ #40 เมื่อ: กรกฎาคม 13, 2017, 13:00:59 »
ผมว่าถ้าเขาต้องเลิกกับแฟน เพราะศักดิ์ศรี ความเชื่อใจ
ความเคารพ ความยำเกรง อะไรต่อมิอะไร
ถือเป็นบุญของแฟนแล้วครับ 555

ครอบครัวจริงๆ เขามองที่ตัวคนเป็นหลัก เรื่องอื่นเป็นเรื่องรองๆ ทั้งนั้น
แค่วางแผนดูแลลูก กิจกรรมทุกอย่าง สิ่งของที่เราชอบทุกอย่างมันก็มลายหายไปหมด
แล้วล่ะครับ ถ้าจะปั้นครอบครัวกันจริงๆ ไม่มีอะไรที่เหลือเป็นของตัวเองเลย
ทั้งเวลาและของมีค่า สมองก็ต้องคิดโน้นนี้ คอยสังเกตุ คอยทดลองอันไหนผิดอันไหนถูก
เวลาดูหนัง ดูทีวียังไม่มีเลยครับ

ลูกผมอยู่สองภาษาลาดพร้าวครับ เท่าที่คุยกันกับผู้ปกครองไม่ว่ากี่คนต่อกี่คนก็
ต้องเป็นประมาณนี้ ไม่ว่าจะเจ้าของธุรกิจหรือพนักงานก็คิดคล้ายๆ กัน
ไม่รู้เป็นกันอยู่โรงเรียนเดียวรึเปล่า  ;D

ออฟไลน์ Sit: )

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,453
    • อีเมล์
Re: บางทีรถก็เป็นมากกว่ายานพาหนะนะครับ
« ตอบกลับ #41 เมื่อ: กรกฎาคม 13, 2017, 13:07:24 »
มันเกิดอะไรกันแน่ ทำไมต้องอยากขายขนาดนั้น
ผมว่ามีรายละเอียดที่เล่าไม่หมด

เพื่อนผมคนนึง ลงกับรถแต่งไปเป็นล้าน (เฉพาะค่าแต่ง)
ถ้าเป็นกรณีนั้น เกิดในครอบครัวผม
ผมคงคิดหนักเหมือนกันว่า จะอยากกำจัดรถคันนั้นออกไปจากบ้านไหม

ออฟไลน์ samaklen

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,909
Re: บางทีรถก็เป็นมากกว่ายานพาหนะนะครับ
« ตอบกลับ #42 เมื่อ: กรกฎาคม 13, 2017, 13:07:47 »
ถ้าตอบเท่าที่อ่านมาทั้งหมด
เลือดเย็นนะครับ...

ออฟไลน์ Sacrifice

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 589
Re: บางทีรถก็เป็นมากกว่ายานพาหนะนะครับ
« ตอบกลับ #43 เมื่อ: กรกฎาคม 13, 2017, 14:09:35 »
พ่อผมรักรถกระบะ isuzu ก่อนมังกรทอง คันที่สร้างเนื้อสร้างตัวมาก   สุดท้ายพ่อก็ต้องตัดใจขายไปเพราะไม่มีที่จอด แล้วเป็นภาระที่ต้องดูแล
ไหนจะค่าแบตเสื่อม ยางเสื่อม น้ำมันเครื่อง ฯลฯ  startเครื่องทีก็ควัน ฟุ้งไปทั่วเกรงใจข้างบ้าน

พ่อผมบอกว่าขายไปให้คนที่เขาเอาไปใช้งานจริงดีกว่า รถมันคงมีความสุขที่ได้วิ่งบนท้องถนนมากกว่ามาจอดเก็บไว้เฉยๆ
ทุกวันนี้ มันก็ยังควันดำ บรรทุกหนัก เก็บของเก่าขายอยู่ แถวบ้าน

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
Re: บางทีรถก็เป็นมากกว่ายานพาหนะนะครับ
« ตอบกลับ #44 เมื่อ: กรกฎาคม 13, 2017, 16:40:14 »
ทำใจสิครับ อย่าไปยึดติด เกิดมามันต้องจากลาทั้งหมดแหละ

เสียใจได้ เศร้าได้ แต่ก็ควรจะปล่อยไปในที่สุด

ออฟไลน์ tongtom

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 302
Re: บางทีรถก็เป็นมากกว่ายานพาหนะนะครับ
« ตอบกลับ #45 เมื่อ: กรกฎาคม 13, 2017, 18:04:36 »
ต้องขอถามว่า

1.-พี่ชาย จขกท เอารถไปรับสาวอื่นๆ หรือเปล่า หรือใช้รถเพื่อการพิเศษอย่างไรหรือไม่  >>> ของผมเมียบังคับขาย เพราะเหตุนี้แหละ (ประสบการณ์ตรงไปเปล่า อิๆ)

2.- เมีย+แม่ยายใช่ไหม ถ้าใช่ ไม่แปลกอะไร ถามต่อนะครับ เงินที่ขายได้ ไปอยู่ตรงไหน พ่อ หรือเอาไปทำอะไร ถ้ามีเหตุจำเป็น แล้วเงินไปใช้ตรงนั้น อันนี้พิจารณาไปตามเรื่อง แต่ถ้าเงินโดนแบ่งไปโดยผู้สบคบคิด คือ เมีย+แม่ยาย เป็นผมๆ ไม่ยอมครับ

3.- รถมันเป็นของรัก ทุกคนมีของรัก ถ้าของรักโดนทำร้าย ก็เหมือน บ้าน สมบัติสะสม ฯ รถ พระเครื่อง ศิลปะฯลฯ สมัย น้ำท่วม ปี54 หลายๆคน อาจจะเคยมีเพื่อน หรือคนรู้จักเสียของพวกนี้ไป แต่ทำไงได้ เรื่องแบบนั้นเกิดเพราะธรรมชาติวิบัติซะส่วนใหญ่ ถ้ามันเป็นแบบนั้น ทำใจได้แหละครับ แต่ถ้าเกิดจากคน ลองไปบอกเมีย และแม่ยาย ให้มาขอโทษบ้างทำได้ไหม มันเกินไปตรงที่ "ขายลับหลัง" ไม่งั้นต่อไป ให้พี่ชายย่องไปบ้าน แล้วเอาของแม่ยาย และเมียออกไปขายดูบ้าง ทำแบบน้ัน ซักระยะนึง ผมว่าความรู้สึกมันพอจะรับรู้ได้ (บ้านแตกก็ว่าไป)

4.- เรื่องแบบนี้ ผมเจอมากับตัวบ่อยๆ ถามว่า รักอะไรมากกว่ากันระหว่าง เมีย แม่ยาย ครอบครัวทางเมีย บอกได้ว่า เสียไปหมดทั้งอารมณ์ ความรู้สึก หลายรอบ  แต่เวลาก็ผ่านไป สักวันก็คงโดนเอง และไม่มีความสุขหรอก เวรกรรมมีจริง และถามอีกรอบนะครับ พ่อคุณเขารู้และยินยอมให้ทำด้วย ของบางอย่าง มันทำให้รู้สึกว่า ครอบครัวทางเมีย มีอำนาจการครอบครองและสิทธิทางทรัพย์สินล้ำมาทางครอบครัวคุณด้วยใช่ไหม ถ้าใช่ ก็ไม่แปลกอะไร และบอกให้พี่ชายยอมรับจุดนี้ซะ

5.- ทำตัวเป็นตัวกลางก็ได้ครับ แต่พยายามอยู่กลางๆ คือ  คุยกับพี่ก่อน มีทางออกทดแทนไหม...แล้วคุยกับ  พ่อ เมียพี่ เรียกมาคุยรอบนึงก่อน  แล้วตกลงเอาไง พร้อมขอโทษพี่ชายไหม (ไงๆก็ต้องมีคำขอโทษออกมาจากปาก เป็นอย่างน้อยนะผมว่า )

-----------------------------------

ของบางอย่าง ศิลปินวาดรูป มันจะมีห้องเลอะเทอะ เละเทะ อย่างไรก็ห้ามไปยุ่ง ถ้าเขาไม่อนุญาติ ไปแตะต้องขึ้นมา เรื่องอาจจะลามถึงเผาห้องหรือของทิ้งเลยก็ได้นะครับ

ผู้บริหารระดับ ใหญ่ๆ แห่งนึงของประเทศนี้  แม่บ้านไปจัดโต๊ะที่ทำงาน เขาหาของที่เคยเขียน ปากกาที่เคยเซ็นต์ชื่อไม่ได้ จัดซะเรียบร้อยเชียวแต่ หาของไม่เจอ เขาไล่แม่บ้านออกเลยก็มีครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 13, 2017, 18:07:57 โดย tongtom »

ออฟไลน์ Dark Overlord

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,804
  • Hail to the darkside
Re: บางทีรถก็เป็นมากกว่ายานพาหนะนะครับ
« ตอบกลับ #46 เมื่อ: กรกฎาคม 13, 2017, 19:23:27 »
^
^
เพิ่มเติมตัวอย่างด้านล่างสุด
ดังนั้นมันจึงเป็นที่มาของการฝึกเด็กให้ถนัดสมองทั้งสองซีกยังไงล่ะครับ
เพราะถ้าสมองถนัดอยู่ซีกเดียวมันก็เหมือนคนพิกลพิการ ที่คุยกับคนที่ถนัดแบบตัวเองได้แบบเดียว
ถ้าคุณพบว่าลูกคนถนัดคำนวน จงให้แกหัดด้านศิลปะ ร้องรำทำเพลง
ถ้าพบว่าอ่อนด้านคำนวน ให้หาของเล่นเสริมทักษะด้านคำนวน
ตัวผู้ใหญ่ก็เช่นกัน เป็นนักคำนวนก็สามารไปลงคอร์สหัดวาดรูปดูครับ
ท่องไว้ ลีโอนาโด ดาวินชี่ เก่งทั้งศิลปะและด้านวิทย์
มีคนเข้าใจผิดๆ ว่าถนัด ด้านไหนให้มุ่งไปด้านนั้นอย่างเดียวเพื่อให้เก่งไปเลย แต่มันไม่ใช่
คนเรามีสกิลแฝงมากกว่าที่คิดครับ

ทั้งศิลปิน และ ผู้บริหารที่ยกตัวอย่างมา ก็คือพวกอย่างว่า
ถ้าฝึกสมองทั้งสองซีกดีๆ การแยกแยะ การตัดสินใจจะทำได้เยี่ยมครับ

ที่จริงปมเจอเคสที่ติดล็อคแบบนี้กับหลานชายแฟน
ขออธิบายคำว่าติดล็อคก่อน มันหมายความว่า จริงๆ เราก็รู้ว่าอะไรควรไม่ควร
แต่มีความคิดบางอย่างทำให้เราไม่อาจรับได้

คือหลานแฟนไม่ได้ถูเลี้ยงมาโดยพ่อแม่ แล้วพี่สาวแฟนผมเป็นคนส่งเสียทุกสิ่งอย่าง
พอพี่สาวตาย คำสั่งเสียของพี่คืออยากให้หลานบวชหน้าไฟให้ เพราะเขาไม่มีลูก
คราวนี้ หลานชายติดเรื่องงานที่ต้องใช้หน้าตา ทำเกี่ยวกับหนัง ซึ่งเขาไม่พร้อมจะโกนหัว
และเขาคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของความเชื่อ ยังไงเขาจะกินเจให้พี่สาวเพื่อตอบแทนบุญคุณแทน
เลยพยายามจะต่อรองทางบ้าน ทางบ้านไม่เข้าใจและรับไม่ได้ว่าทำไมโกนหัวแค่นี้ทำไม่ได้ โมโห
ด่าว่าๆ เป็นคนเนรคุณ อกตัญญู ด่าเสียเทเสีย เมื่อเด็กได้ยินแบบนั้นก็รับไม่ได้ หลบหน้าญาติ
ไม่ยอมไปงานศพ และจะย้ายออกจากบ้านไม่กลับมาอีก

ซึ่งจริงๆ หลานก็รู้อะไรถูกอะไรผิด แม้จะเป็นแค่ความเชื่อ แต่มันเป็นคำขอสุดท้ายของน้า
เขาก็ควรจะทำ แต่คำพูดของทางบ้านได้ทำร้ายจิตใจของเขาอย่างรุนแรง และเขารับไม่ได้
สิ่งนี้แหล่ะครับ ที่เรียกว่า ติดล็อก เพราะที่จริงทั้งสองเรื่องมันไม่ได้เกี่ยวกันเลย

ผมกับแฟนต้องวางแผนจะพูดยังไงให้หลานแก้ล็อกตรงนี้ ซึ่งเป็นการเจรจา
ที่ใช้เวลายาวนานมาก กว่าหลานจะเลิกติดล็อก ด้วยคำพูดที่ว่า มันเป็นคนล่ะเรื่องกัน
เรื่องที่ทางบ้านปากไม่ดีทำร้ายจิตใจก็เรื่องหนึ่ง
ส่วนเรื่องตอบแทนบุญคุณให้น้าก็เรื่องหนึ่ง
และการเจรจาที่กินเวลายาวนานมาก เพราะมีเรื่องการคุยเพื่อช่วยหาทางแก้ไข
เหตุการณ์ด้วยในเรื่องที่ต้องตัดผมจะทำยังไง และใช้เวลาในการรับฟังการระบาย
ของคนที่กำลังทุกข์ใจด้วย

สุดท้ายหลานก็ยอมบวชให้ และเหล่าญาติๆ ต้องมาขอโทษหลานครับ

ถ้าไม่มีการปลดล็อกตรงนี้ ตามที่ผมคิดแล้วล่ะก็
เสียหายมากมายครับ เพราะหลานพูดจริงทำจริง และเตลิดหนีไปแน่นอน
เพราะเขาเป็นคนแนวนั้นอยู่แล้ว เนื่องจากอยู่ประจำมาตลอดที่เรียน พ่อแม่ไม่เลี้ยง
ความผูกพันธ์กับญาติน้อย หรือเลี้ยงเด็กไม่เป็น ไม่ให้ความอบอุ่น การเอาใจใส่

และคนก็เป็นโรคแบบนี้กันเยอะครับ ไม่ว่าจะเรียนสูง เรียนน้อย จะรวยหรือจะจน
ไม่รู้ว่าไปเลียนแบบวิธีคิดแบบ คิดรวมๆ มาจากไหน แยกประเด็นไม่เป็น วิเคราะห์ไม่เป็น

มีปัญหา หรือ มีเรื่อง คุณต้องซอยแยกๆๆๆ เป็นส่วนๆ ครับ ห้ามคิดรวมยอดเป็นอันขาด
ชีวิตจะสดใส ความสับสนในชีวิตจะหายไปในทันที เรื่องนี้ก็มีบอกในพุทธวัจนะด้วยครับ
และมันก็เป็นหลักจิตวิทยาปกติอีกด้วย

ดังนั้น แยกเรื่องรถออกมา แยกเรื่องครอบครัว เรื่องความรักออกมา และแยกอีกหลายๆ
อย่างออกมา เพราะทุกๆ เรื่อง ล้วนเป็นคนล่ะเรื่องกันครับ เรื่องเคารพ เรื่องความเชื่อใจอะไรนั่นก็ด้วย
คุณต้องแยกคุย แยกคิดทีละข้อๆ คิดกับตัวเอง แล้วก็คุยเจรจากับอีกฝ่ายแบบแยกประเด็นด้วยครับ

ออฟไลน์ belkw202

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 419
Re: บางทีรถก็เป็นมากกว่ายานพาหนะนะครับ
« ตอบกลับ #47 เมื่อ: กรกฎาคม 13, 2017, 21:44:12 »
ผมว่า เรื่องแบบนี้ ให้เขาไปจัดการชีวิตเขาเองดีกว่าครับ คนเราทุกคนไม่เหมือนกัน ต่อให้รู้จักกันดีแค่ไหนก็ตาม คุณไม่มีวันรู้หรอกว่าบางสิ่งมันสำคัญสำหรับเขาแค่ไหน ถ้าเกิดเขาปล่อยวางได้ มันก็ดี แต่ถ้าเขาปล่อยวางไม่ได้ ก็ให้คนที่ตัดสินใจทำแบบนี้รับผลที่ตามมาเถอะครับ มันก็มีเรื่องแบบนี้มาเรื่อยๆนะ

คือคนที่ไม่ได้เล่นรถ เขาไม่รู้ว่า การยุ่งกับรถของคนอื่นไม่ว่าจะในกรณีไหนก็ตาม มันทำไม่ได้ มันไม่ใช่สิ่งที่ไม่ควรทำ แต่มันทำไม่ได้ ให้เขารับกรรมไปเถอะครับ เลิกๆกันไป จบ ไม่โหดเกินไปหรอก เลิกกันด้วยเหตุผลที่น้อยกว่านี้ก็ยังมีได้เลย

แล้วคนบางคนไม่ใช่ว่าเอาวัตถุเข้าแลกแล้วจะยอมนะครับ เอารถแพงๆดีๆให้ ไม่อยากได้ มีเยอะ ถามว่าได้ผลไหม มันก็อาจจะได้ผล แต่ถามว่าคนที่ได้รับจะมีความสุขจริงๆหรือไม่ มันก็แล้วแต่คน ถ้าเขารักรถคันเก่าคันนั้นจริงๆแล้วเขาไม่ยอมละครับ คนแบบนั้นก็มีนะ มีเยอะด้วย

นั่นแหละครับ พี่ของคุณเป็นคนเดียวที่จะตัดสินบทสรุปของเรื่องนี้ได้ บางทีปล่อยไว้สักเดือนสองเดือนอาจจะยอมกลับไปก็ได้ บางทีเขาก็อาจจะไม่ให้อภัยไปตลอดกาล ทำยังไงได้ละครับ ผมก็ไม่ได้ไปรู้จักเขาโดยตรงนี่ จะให้ผมคอมเมนต์โดยเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง ผมว่ามันก็ไม่ค่อยจะมีประโยชน์เท่าไหร่หรอกครับ จะว่าไป คนที่น่าจะให้คำตอบได้ดีที่สุด น่าจะเป็น จขกท. เองครับ คนที่มาคอมเมนต์ไม่ได้ไปรู้จักพี่ของคุณด้วยตัวเอง ให้คำแนะนำได้หลากหลายแน่นอน แต่อันไหนละครับที่จะใช้ได้ผล? คุณเองรู้จักเขาดี คุณน่าจะตอบคำถามนี้ได้กว่าพวกเราทุกคนนะครับ

แต่ถ้าอยากได้คำแนะนำจริงๆ ผมตอบแบบเดาเอาเลยนะ ต่อให้ตามซื้อรถคันนั้นกลับมาได้เลยนะ ความไว้เนื้อเชื่อใจมันก็เสียไปแล้วครับ ถ้าไม่ได้รักกันจริง บอกเลยเรื่องนี้จบให้สวยยากมาก

เห็นด้วยกับบรรทัดสุดท้ายเลยครับ
Tesla Model 3 Highland LR
G08 iX3 M Sport
Cx5 2.5s
Mazda 2 1.3 S
w202 c36 AMG
w212 e63 AMG
w204 c250 AMG Sport Plus
w207 e350 4matic
e90 325i