Honda CR-V 1.6 i-DTEC EL 9AT 4WD - 1,699,000 บาท
การเปลี่ยนไปใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมกับ Accord (เช่นเดียวกับ Civic) ส่งผลดีกับตัวรถไม่ใช่น้อย อาการเด้งกระด้างที่ความเร็วต่ำ น้อยลงกว่าทุกรุ่นที่เคยมีมา และการทรงตัวที่ความเร็วสูงก็ดีที่สุดเช่นกัน ใน Gen 5 นี้ Honda ประสบผลสำเร็จในการปรับแต่งช่วงล่างให้ได้ความสบายที่นุ่มนวลกว่า Gen 4 แต่เมื่อต้องบู๊หรือหักหลบรถตัดหน้า ก็ทำได้อย่างมั่นใจกว่า Gen 3
..แต่อย่าเพิ่งนึกถึง CX-5 หรือ X-Trail มันยังไม่ได้หนึบเฟิร์มขนาดนั้น ยังไงลูกค้าเป้าหมายของ CR-V ก็คือคนทั่วไปที่ใช้รถเพื่อการสัญจร ไม่ใช่อดีตนักแข่งสนามที่ขายรถแข่งมาซื้อรถครอบครัว เห็นโค้งเป็นลอง เห็นไลน์เป็นเกาะ
รถรุ่นดีเซลมีน้ำหนัก 1,742 กิโลกรัม หนักว่าตัวเบนซินขับสี่ 72 กิโลกรัม น้ำหนักตกหน้าจึงต่างกันและส่งผลให้พวงมาลัยหนึบกำลังดี มีลักษณะการตอบสนองคล้ายพวงมาลัยของ Civic FC ซึ่งก็ถือว่าดีเหลือพอแล้วสำหรับรถยนต์นั่งลักษณะนี้
อัตราเร่งไม่ดึงอย่างที่คิด แต่ตัวเลขที่ออกมาก็พอๆกับรถของคู่แข่งที่ใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเบนซิน ไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์ อัตราสิ้นเปลือง จับมือกับ X-Trail Hybrid ครองแชมป์ของคลาส.. เกียร์ 9 จังหวะทำงานได้ดี ยกเว้นที่ความเร็วต่ำจะมีอาการกระยึกกระยักให้รู้สึกรำคาญบ้าง เสียงเครื่องยนต์ไม่เงียบเท่ามาสด้า แต่ก็ถือว่าใกล้เคียง Mercedes-Benz E220d ซึ่งก็เป็นมาตรฐานที่ยอมรับได้สำหรับรถดีเซลที่ไม่ใช่รถกระบะเพื่อการพาณิชย์
ที่ชอบมากคือเวลาขับ มันรู้สึกสบาย เบาะหลังอาจจะไม่สบายเท่า X-Trail (ที่ไม่ใช่ Hybrid) แต่เบาะหน้าสบายสุดแล้วในคลาสของมัน นุ่ม สบาย จนแอบหลงคิดว่านี่ให้ Volvo ช่วยมาทำเบาะให้หรือเปล่า ทำไมสบายเป็นบ้าเป็นหลังแบบนี้ นุ่ม ผ่อนคลายมากเสียจนพอผมกลับไปขับ CR-V Gen 3 คันที่บ้านแล้วรู้สึกอยากเผาเบาะทิ้ง
เบาะนั่งแถวสาม ใช้การได้จริงสำหรับเด็กหรือคนตัวเล็ก แม้จะไม่ชนะเบาะแถวสามของ Chevrolet Captiva แต่อย่างน้อยก็ดูเป็นที่ซึ่งมนุษย์สามารถนั่งได้จริง ในขณะที่เบาะแถวสามของ X-Trail นั้น กะจะอุ้มแมวไปนั่ง แมวยังหันมาค้อนขวับ (อันนี้ผมล้อเล่น แต่มันไม่สบายเท่า CR-V จริง)
คันเกียร์ไม่มี..ใช้ปุ่มกดแทน ผมมองว่าเป็นลูกเล่น บางคนอาจชอบ แต่ผมเฉยๆ คันเกียร์โยกแบบเดิมไม่ได้แย่อะไรนี่ เข้าใจง่าย ปลดเกียร์ว่างเข็นได้เหมือนรถทั่วไป ส่วนตัวดีเซล ต้องเปิดฝาพลาสติกแถวเข่าซ้ายคนขับ กดปุ่มแล้วกดคันโยก เวลาเดินหน้าถอยหลังรีบๆ ระหว่างเอื้อมมือไปจับคันเกียร์ กับเอานิ้วไปเล็งแตะให้ถูกปุ่ม อย่างแรกก็ไวกว่า (มีการสาธิตวิธีปลด N ให้ในคลิป 1 ตอนท้าย)
นับว่าในวันนี้ Honda CR-V สามารถเรียกตัวเองว่า Comfortable Runabout Vehicle ตามชื่อเต็มของมันจากยุค 90s ได้เสียที เพราะมันคือเจนเนอเรชั่นแรกที่วิ่งความเร็วต่ำก็สบาย วิ่งความเร็วสูง (ในระดับ 140-150) ก็ไม่เกร็ง เบาะนั่งก็ทำได้ดีกว่าทุกรุ่นที่แล้วมา
ส่วนถ้าใครจะซื้อดีเซลตัวท้อปเพราะความประหยัด อย่าลืมถามตัวเองก่อนว่า อยากประหยัดน้ำมัน หรืออยากประหยัดเงินกันแน่
เพราะถ้าเอาส่วนต่างของราคามาคิดด้วยว่ารุ่นท้อปเบนซินถูกกว่ากันอยู่ตั้ง 150,000 บาทเอามาใช้ชดเชยค่าน้ำมันได้กี่ปี จะเห็นได้ว่าสำหรับมนุษย์ส่วนใหญ่ที่ใช้รถปีละ 2-30,000 กิโลเมตรนั้น เงิน 150,000 อาจเอามาช่วยค่าน้ำมันได้มากกว่า 5 ปี รุ่นเบนซินกินน้ำมันดุกว่า ใช้คันเกียร์แทนปุ่มกด และไม่มี Paddleshift แต่ในส่วนอื่น มันก็คือรถที่เกือบเหมือนกัน นี่คือจุดที่ทำให้ผมยังลังเลที่จะซื้อรุ่นดีเซล (หากผมมีเงินพอ)
แต่สำหรับคนเกลียด CVT ..เชิญได้เลยครับ คุณก็มีทางเลือกเหลือแค่เจ้าตัวดีเซลนี่ล่ะ