ถ้าต่อไป ผมขับรถไฟฟ้า ต้องวิ่งทางไกล แล้วแบตหมด จะทำอย่างไรครับ

[clound]

ถ้าต่อไป ผมขับรถไฟฟ้า ต้องวิ่งทางไกล สมมุติ 800 กิโล แล้วแบตหมดตอน 400 กิโล แทนที่จะเติมน้ำมันไปได้เลย ต้องมาหาที่ชาร์จ แล้วกว่าจะชาร์จเสร็จ ชาร์จธรรมดา 10+ ชั่วโมง
ชาร์จไฟ 3 เฟส ลดเวลาลงมาครึ่งนึง สมมุติ 6 ชั่วโมง   ชาร์จโหมดชาร์จไว ให้ไวๆเลย ชั่วโมงกว่าๆ แต่ผมต้องเดินทางอีก 400 กิโล แล้วจะทำยังไงหล่ะครับทีนี้
ถ้าพัฒนาให้สามารถชาร์จแบตเร็วกว่านี้ได้ ไฟก็ต้องกระแสแรงมากๆ มากเกินไป ก็น่ากลัวไหมครับ แต่ยังไงก็ต้องรอแน่ๆ หาแวะปั้ม(สมมุติเป็นปั้มไฟฟ้าในอนาคต) นั่งกินกาแฟ ชาร์จไป นั่งชิวๆ ฆ่าเวลา แบบนี้เหรอครับ?
รถไฟฟ้า แบตใหญ่ๆ ถ้าเกิดการชนขึ้น จะน่ากลัวไหมครับ ขนาดแบตมือถือไฟไหม้ตามข่าว ยังขนาดนั้น แล้วถ้าชนถึงแบต แล้วแบตจะระเบิดไหม ถ้ามีการกระแทกโดนที่ตัวแบตจนแตก บิดงอ
ผมนึกๆแล้ว รู้สึกกลัวยังไงไม่รุ้ครับ

[Hadoken Shoryuken]

ไม่ต้องห่วงครับเดียวอนาคตก็มี POWER-BANK จำหน่ายตามโชว์รูมรถครับ 

[akewizard]

ปกติรถน้ำมัน ถ้าน้ำมันหมดก็ต้องจอดทิ้งไว้แล้ววิ่งไปซื้อน้ำมันมาเติมเหมือนกันนั่นล่ะครับ
ส่วนรถไฟฟ้าถ้าแบตฯหมดเกลี้ยง ในไอเดียผมจะออกแบบให้สามารถ by-pass เอาไฟจากแบตเตอรี่แบบที่มีขายปกติทั่วไปตามร้านมาใช้เป็นพลังงานได้ชั่วคราว ให้วิ่งได้สัก 70-80 กิโลเพื่อไปให้ถึงจุดที่สามารถชาร์ตไฟได้

ในกรณีที่ต้องเดินทางไกล ก็ต้องวางแผนในการแวะเติมไฟฟ้าด้วย
เช่นขับไปเชียงใหม่ 700 กิโลเมตร อาจจะต้องแวะเติมไฟฟ้าที่นครสวรรค์ และไปแวะอีกทีแถวลำปาง จากนั้นก็คำนวณบวกเวลาเพิ่มเข้าไป

ความเร็วในการชาร์ตไฟ ผมก็บอกไม่ได้ว่าเทคโนโลยีตอนนี้มันทำได้เร็วแค่ไหน
การอัดไฟให้เต็มสำหรับการเดินทาง 300-400 กิโลเมตรมันอาจจะใช้เวลาแค่ครึ่งชม. หรืออาจจะเป็น ชม.เลย ซึ่งก็คงต้องยอมเสียเวลารอ เหมือนกับเวลารอซื้อของ Drive thru หรือเวลาที่เอารถไปล้างก็ต้องรอ
แต่ด้วยข้อจำกัดนี้ ก็พอจะบอกได้ว่ายังไม่ควรเอารถไฟฟ้ามาใช้ในการเดินทางไกล

ส่วนเรื่องการอัดไฟปริมาณมากในเวลาสั้นๆแล้วน่ากลัวหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับแต่ละคนครับ
ผมเห็นบางจุดมีหม้อแปลงไฟฟ้าตั้งบนเสามีเสียงเปรี๊ยะๆตลอดเวลา ใต้เสาไฟฟ้าก็ยังมีคนเดินไปเดินมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆที่มันก็พร้อมจะระเบิดได้ตลอดเวลา
อันนี้ผมแค่ยกตัวอย่างเรื่องความกังวลของคนนะครับ ไม่ได้บอกว่ามันปลอดภัย...

[O_o"]

ธุรกิจยานแม่ ถึงขาขึ้นและบูมสุดๆก็ตอนนี้ละครับ 

[Underseven]

ที่ปั๊มมีให้เช่าครับ ลองถามดูครับ สำหรับรถขี้เกียจรอชาร์จ








 

[Nonlamer]

คำถามพวกนี้เป็นเรื่องปกติที่คนจะคิดครับ ต่างประเทศก็มีเคสแนวๆนี้ถามกันให้พรึ่บ

เรื่องระยะทางการวิ่งกับความเร็วในการชาร์จ ณ เวลานี้ เป็นปัญหาแน่นอน ซึ่งตรงนี้คิดว่าจะมีการพัฒนาเทคโนโลยีให้ดีขึ้นเรื่อยๆจนกลบจุดอ่อนตรงนี้ได้ครับ
ซึ่งผู้ใช้ที่ต้องเดินทางไกลๆในปัจจุบันรถไฟฟ้าไม่ใช่ทางเลือกที่ดี จริงมั้ยครับ คุณรู้ คุณวางแผน ง่ายๆคุณก็ตัดตัวเลือกนี้ออกไป ก็แค่นั้น? จะดันทุรังไปใช้ในสิ่งที่่ยังไม่ตอบโจทย์ทำไม ถ้าคิดว่าอ้าวแล้วในอนาคตถ้าไม่มีเครื่องสันดาปให้เลือกล่ะ ก็แปลว่าตอนนั้นมีอย่างอื่นที่ตอบโจทย์ตรงนี้ไงครับอาจเป็นรถไฟฟ้าที่ชาร์จได้ไวมากและวิ่งได้ไกลมาก หรือรถไฟความเร็วสูงระหว่างเมืองก็ได้  ตัววัตถุนั้นถูกพัฒนาตามการใช้งานของคนนะครับไม่ใช่จู่ๆมันจะหายไปแล้วทิ้งช่องโหว่อันเบ้อเริ่มไว้

ส่วนเรื่องการชนแล้วถ้าแบตเกิดความเสียหายแล้วจะก่อให้เกิดไฟไหม้นั้น จริงแน่นอน ซึ่งตรงส่วนนี้ทางผู้ผลิตต้อง work out กับการทดสอบการชนเพิ่มเติมเพื่อลดโอกาสที่แบตจะเสียหายจากการชนให้ดีที่สุด เราอยู่ในยุคที่ระบบความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญมากๆครับ แน่นอนมันไม่มีอะไรชัวร์ 100% ว่าโดนชนแล้วจะไม่ไฟไหม้ท่วมรถ ขนาดรถในปัจจุบันก็ไม่ได้การันตี
*เพิ่มเติมตัวอย่างบทความเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขียนเมื่อปี 2013 ครับ กรณีของเทสล่า
https://www.technologyreview.com/s/521976/are-electric-vehicles-a-fire-hazard/

ส่วนเรื่องการเกิดไฟไหม้เองนั้นลองอ่านคำตอบไฟไหม้ดูครับ ย่อหน้าท้ายๆเลย ถ้าขี้เกียจ อ่านเอาย่อหน้าสุดท้ายเป็นสรุปครับ
http://evworld.com/article.cfm?storyid=1635

เทคโนโลยีใหม่ต้องมีการวิจัยและพัฒนาครับ ถ้าดีพอจนมาแทนที่ของเดิมได้สนิทก็จะไม่เหลือของเดิมให้ใช้ครับ

สรุป ผู้ผลิตต้องวิจัยและพัฒนาเพื่อตอบคำถามเหล่านี้ให้ได้อยู่แล้วครับ ไม่งั้นก็ไม่มีวันที่รถไฟฟ้าจะมาแทนรถทั่วไป 100% ได้อยู่แล้ว คนที่จะคิดเยอะๆคือทางผู้ผลิตครับ ส่วนเราเป็นผู้บริโภค ถ้าไม่มั่นใจก็ไม่เลือกใช้ ง่ายกว่าเยอะ

[ซิ่งเข้าส้วม]

ถ้ารู้ว่าต้องขับไกลก็ใช้รถสันดาปจนกว่ารถไฟฟ้าจะวิ่งได้ 800 กม.หรือชาร์จ 15 นาทีได้ครับ ใน 10 ปีข้างหน้าน่าจะเป็นไปได้

[pforu]

ผมมองว่าเทคโนโลยี จะพัฒนาไปเรื่อย เรื่อย จุดออ่นหรือข้อกังวลของ EV คือแบตเตอรี่ ซึ่งผู้ผลิตทุกค่ายรู้ดี แต่ไม่ช้า ไม่นาน เราคงได้เห็น EV วิ่งได้ไกลขึ้น แบตฯเล็กกว่าเดิม ชาร์จไวขึ้นในแต่ละครั้ง ผมตอนเด็กได้เคยใช้ โทรศัพท์มือถิอ Moto รุ่นพกแบตฯแบบแท้ง ก่อนรุ่นกระดูกหมา จากวันนั้นถึงวันนี้ร่วม 20 ปีแล้ว ปัจจุบัน โทรศัพมือถือรุ่นทั่วไปถูกลงมาก แบตฯใช้ได้นานขึ้น ชาร์จเร็วขึ้น ขนาดเล็กลง คนทั่วไปเข้าถึงได้ง่าย ผมเชื่อว่าอนาคต EV ก็เป็นเช่นนั้น แต่ผมจินตการไปถึงรถไม่มีล้อ ไม่ต้องวิ่งบนถนน ในชีวิตนี้คงได้เห็นยานยนต์พัฒนาไปถึงจุดนั้น

[Skyforce]

อนาคตอาจออกแบบให้แบตถอดง่าย พอเข้าสถานี ยกแยตเก่าออกใส่แบตใหม่ แล้วไปได้เลย แบตก็หมุนเวียน ปั๊มก็เอาไปชาร์จให้เต็มแล้วรอเปลี่ยนคันอื่น

[Jacob]

ถ้ามีรถไฟฟ้าใช้ทั่วไป บ้านคนแถวนั้นก็คงขอเสียบชาร์จได้

[S6]

เหมือนยานหนังเรื่องริคดิคเลย แบตสำรองแบบเสียบ

[locomotive]

ขนาด โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า ที่บริษัท แบตหมดห่างจากที่ชาร์จราวๆ 60 เมตร เล่นหืดจับทั้งหน่วย เข็นก็ไม่ได้ ต้องเอารถโฟล์คลิฟท์ดีเซล มายกแบตเอาชุดใหม่มาเปลี่ยน เสียเวลา 1 ชั่วโมงเต็มๆ ใช้พนักงาน 5 คน ขนาดที่ไกล้ตรงที่รถแบตหมดมีปลั๊กเสียบเครื่องกึงเพลารถอยู่แต่ใช้ไฟไม่ได้เพราะแรงดันไฟฟ้าต่างกันมาก พวกที่บอกว่าขอจอดเสียบชาร์จตามบ้าน พวกนี้เมายาหม่องไปละ ไม่รุ้เรื่องไรสักอย่าง

[tongtom]

รถพวกนี้ ก็น่าจะมี "อุปกรณ์ชาร์จไฟในตัว" คือ วิ่งไปชาร์จไปก็จบปัญหาแล้ว เหมือนไดชาร์จ แต่เล็กๆหน่อย กินแรงน้อยหน่อย เป็นมอเตอร์ไฟฟ้าDC ในตัวก็ได้ แบ่งไฟไปชาร์จ ชั่วโมงละ กี่Watt  ก็ว่าไป ....


คือ มันไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะผมว่า ถ้าเขาคิดเผื่อ ยกเว้นดันใช้การตลาดนำ เพื่อแบ่งแยกกลุ่มลูกค้า คือ กลุ่มคนใช้ JAZZ EV หรือCITY EV วิ่งแค่ในเมืองวิ่งไม่เกิน 110เปิดแอร์ 250กิโลฯ ต่อชาร์จ1รอบ

หรือถ้าใหญ่หน่อย ใช้ ACCORD EV วิ่ง600กิโลฯ แต่จำกัดวิ่งได้แค่ 140นะ แล้วต้องใช้ ครูซคอนโทรล+Adaptive... ห้ามเร่งเอง  ทำนองนี้


แต่ผมว่า มันน่าจะเป็นอย่างแรกมากกว่า   แค่ติดตัวชาร์จ ระบบชาร์จเหมือน มือถือเช้าไป... วิ่งไป ชาร์จไป  จบ!!!   

[Krongbun]

ไปซื้อถ่านที่ seven มาเปลี่ยนครับ 

[Jacob]

วิ่งไปชาร์จไปมันก็เสียกำลังไฟ ระยะทางสูงสุดก็สั้นลง ปัจจุบันตอนเวลาเราเบรคมันชาร์จไฟกลับก็โอเคแล้ว ต่อไปอาจพัฒนาให้มีโซล่าเซลล์รอบคัน หรือใช้พลังลมตอนวิ่งมาปั่นไฟได้ยิ่งดี (แต่คงช่วยไม่มาก) แบตสำรองคงเป็นคำตอบในช่วงแรก
ปล. คนอเมริกาเค้านั่งคิดเยอะแบบเรามั้ย ตอนนี้เค้ามีรถไฟฟ้าวิ่งกันทั่ว ทั้งที่ประเทศใหญ่กว่าเราไม่รู้กี่เท่า

[BigCat]

ของแบบนี้พัฒนาร่วมๆกัน เดี๋ยวก็มีมาแก้ไขไปเองเรื่อยๆ สบายใจได้ครับ มี่สิ่งดูดเงินในกระเป๋าเราเสมอ

[SaiXaiZai]

การชาร์๖ทีคงใช้เวลาพอสมควร ไม่เร็วเท่าการเติมน้ำมัน แต่มองในแง่ดี ทุกๆ 300-400 กม. คนขับได้พักระหว่างรอชาร์ต จิบกาแฟ อ่านหนังสือ ทำใจให้เย็นๆ

[ps000000]

น่าคิดว่า ระบบ ชาร์จไว มันจะทำได้ไวขนาดไหน ปั๊มเติมไฟฟ้าคงจะต้องมีที่นอน 55555

[[email protected]]

ผมมองว่าเทคโนโลยี จะพัฒนาไปเรื่อย เรื่อย จุดออ่นหรือข้อกังวลของ EV คือแบตเตอรี่ ซึ่งผู้ผลิตทุกค่ายรู้ดี แต่ไม่ช้า ไม่นาน เราคงได้เห็น EV วิ่งได้ไกลขึ้น แบตฯเล็กกว่าเดิม ชาร์จไวขึ้นในแต่ละครั้ง ผมตอนเด็กได้เคยใช้ โทรศัพท์มือถิอ Moto รุ่นพกแบตฯแบบแท้ง ก่อนรุ่นกระดูกหมา จากวันนั้นถึงวันนี้ร่วม 20 ปีแล้ว ปัจจุบัน โทรศัพมือถือรุ่นทั่วไปถูกลงมาก แบตฯใช้ได้นานขึ้น ชาร์จเร็วขึ้น ขนาดเล็กลง คนทั่วไปเข้าถึงได้ง่าย ผมเชื่อว่าอนาคต EV ก็เป็นเช่นนั้น แต่ผมจินตการไปถึงรถไม่มีล้อ ไม่ต้องวิ่งบนถนน ในชีวิตนี้คงได้เห็นยานยนต์พัฒนาไปถึงจุดนั้น

เห็นด้วยครับ รถยนต์อนาคตไม่ไกลไม่เกิน20ปีคงเป็นเหมือนมือถือ เพื่อนๆเคยคิดไหมครับว่า ย้อนกลับไปไม่เกิน20ปี เราจะมีมือถือกันเป็นแบบนี้ ตอนนั้นมีมือถือรุ่นกระติกน้ำถือว่าเท่ห์มากๆแล้ว ตอนนี้หน้ามือ หลังมือทีเดียว
รถยนต์อีกไม่เกิน 20ปี เปลี่ยนแปลงหน้ามือเป็น หลังมือแน่นอน ^ ^
ผู้บริโภคอย่างเราอย่ากังวล ผู้ผลิตเตรียมทุกทางไว้แก้ปัญหาตลอดระยะช่วงเวลานั้นๆอยู่แล้วครับ

[oryor]

ก็คงจะเหมือนรถยนต์ที่ใช้น้ำมันช่วงแรกๆ
จะไปไหนไกลๆก็ต้องวางแผนให้ดี
ปั้มเติมน้ำมันก็คงไม่ได้แพร่หลายเหมือนทุกวันนี้

มันคืออนาคตอีกยาวไกล
พอถึงเวลานั้นจริงๆ มันก็จะมีทางออกครับ
อย่าคิดไกลเกินไป โลกไม่ได้เปลี่ยนแปลงภายในเวลาแค่ไม่กี่วัน

[SM.]

อนาคตถึงต้องมีการสร้างที่ชาตไฟรองรับให้ครอบคลุมไงครับ ร่วมทั้งการชาตไฟที่เร็วขึ้นด้วย ตู้แบบ super charge ต้องมีให้ทั่ว ไม่งั้นรอเป็นชั่วโมงๆๆ ไม่ไหวครับ

[champyadme]

ถ้า 4 ปีก่อน Tesla สามารถถอดเปลี่ยนแบตที่ปั๊ม หรือ 0 ที่รองรับได้เลยครับ
http://www.teslarati.com/tesla-to-debut-battery-swapping-stations/
ใช้เวลาราวๆ 7 นาที

แต่ตอนนี้จะกลายเป็น supercharger แทนแล้ว
http://fortune.com/2015/06/10/teslas-battery-swap-is-dead/

ส่วนเมืองไทย ผมว่าโมเดลเปลี่ยนแบตน่าจะเวิคไปอีกพักใหญ่ๆ

[@MIN]

ต่อไป คงจะมีแบบนี้ ทุกปั้มน้ำมัน  ทุกลานจอดรถ ตามห้าง ครับ

BMW wireless charging

[Mike]

Charge Lane หรือ Modular battery อาจจะแพร่หลาย

[kiwiwi]

ผมทำรถ power bank รอเลยครับ 555555

[SLuang]

ขนาด โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า ที่บริษัท แบตหมดห่างจากที่ชาร์จราวๆ 60 เมตร เล่นหืดจับทั้งหน่วย เข็นก็ไม่ได้ ต้องเอารถโฟล์คลิฟท์ดีเซล มายกแบตเอาชุดใหม่มาเปลี่ยน เสียเวลา 1 ชั่วโมงเต็มๆ ใช้พนักงาน 5 คน ขนาดที่ไกล้ตรงที่รถแบตหมดมีปลั๊กเสียบเครื่องกึงเพลารถอยู่แต่ใช้ไฟไม่ได้เพราะแรงดันไฟฟ้าต่างกันมาก พวกที่บอกว่าขอจอดเสียบชาร์จตามบ้าน พวกนี้เมายาหม่องไปละ ไม่รุ้เรื่องไรสักอย่าง

ไม่เมาครับ ผู้ผลิตเขาทำมาเอื้ออยู่แล้ว แม้แต่รถปลั๊กอินไฮบริด ณ ปัจจุบัน ก็สามารถเสียบกับไฟบ้านๆๆๆๆๆ   ธรรมดาๆๆๆๆ ได้ เว้นเสียแต่ต้องการชาร์จแบบเร่งด่วน จำเป็นต้องซื้อชุดชาร์จมาติดตั้งกับไฟบ้านอีกที
ยิ่งอนาคตยิ่งไม่ต้องพูดถึง
ผมว่าการทำสมาร์ทโฟน ความเป็นไปได้มันห่างไกล กว่า การทำแบตฯ รถยนต์ถอดเปลี่ยน หรือจุดชาร์จนะ   สมาร์ทโฟนยังมาถึงจุดนี้ได้เลย(15-20 ปีที่แล้วไม่มีใครเชื่อยกเว้นสตีฟจ็อบ) เหตุที่รถยนต์ยังไม่ไปไกลขนาดนั้นเพียงเพราะว่า มันยังไม่มีความจำเป็นขนาดนั้น แถมน้ำมันก็ยังไม่หมด มีทุกปั้ม (ทุกวันนี้น้ำดื่มแทบจะแพงกว่าน้ำมัน)  ลองออกกฎหมายหรือผู้ผลิตไม่ผลิตออกขายสัก5ปี ดูสิ  3 ปีแรก รับรองรถไฟฟ้าเต็มบ้านเต็มเมือง

[Teera]

รถพวกนี้ ก็น่าจะมี "อุปกรณ์ชาร์จไฟในตัว" คือ วิ่งไปชาร์จไปก็จบปัญหาแล้ว เหมือนไดชาร์จ แต่เล็กๆหน่อย กินแรงน้อยหน่อย เป็นมอเตอร์ไฟฟ้าDC ในตัวก็ได้ แบ่งไฟไปชาร์จ ชั่วโมงละ กี่Watt  ก็ว่าไป ....


คือ มันไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะผมว่า ถ้าเขาคิดเผื่อ ยกเว้นดันใช้การตลาดนำ เพื่อแบ่งแยกกลุ่มลูกค้า คือ กลุ่มคนใช้ JAZZ EV หรือCITY EV วิ่งแค่ในเมืองวิ่งไม่เกิน 110เปิดแอร์ 250กิโลฯ ต่อชาร์จ1รอบ

หรือถ้าใหญ่หน่อย ใช้ ACCORD EV วิ่ง600กิโลฯ แต่จำกัดวิ่งได้แค่ 140นะ แล้วต้องใช้ ครูซคอนโทรล+Adaptive... ห้ามเร่งเอง  ทำนองนี้


แต่ผมว่า มันน่าจะเป็นอย่างแรกมากกว่า   แค่ติดตัวชาร์จ ระบบชาร์จเหมือน มือถือเช้าไป... วิ่งไป ชาร์จไป  จบ!!!

ไม่น่าจบ !!!
Generator ก็เป็น Load อย่างนึงครับ
อาจ Charge ได้ตอนลดความเร็วเหมือนรถ ไฮบริด แต่ ยังไง แบ็ตก็หมดอยู่ดี ดังนัน วิ่งไป ชาร์ทไป ได้ครับ แต่ ไม่จบแน่นวย

[apinui]

อยากให้มันมีขายเยอะๆจังเลย ...... รถ EV เนี่ย ...

จะนับหัวเลยว่ามีคนซื้อใช้กันสักกี่คน ... โดยเฉพาะพวกที่เรียกร้องปาวๆ (ไม่ใช่สมาชิคเว็ปนี้นะ ผมหมายถึงสมาชิค เพจๆนึง) ว่าอยากให้มาขาย แล้วพาลไปจนด่าว่า รัฐฯกีดกันเพราะผลประโยชน์ด้านพลังงาน ....

แค่รถ ไฮบริจอะ ... ยังไม่มีคนสนใจจะใช้เลย วิ่งได้ทั้งทางไกล้ทางไกล ไม่ต้องเสียบปลั๊กชาจ ประหยัด 20 กม/ลิตร ++ ยังเมินกันเลย ....

เดียว EV มา จอดชาจที 6-8 ช.ม. วิ่งไกลก็ไม่ได้ รถติดหนักๆก็ไม่ถึงบ้านอีก แบ็ตฯเสื่อม มอเตอร์ฯเสื่อม แถมขายต่อราคาจะเหลือเท่าไร?? ....

ราคาน้ำมันน่ะ มีขึ้นมีลง แต่ราคาไฟฟ้า มีแต่ขึ้น ไม่มีลงนะจ๊ะ ......

[Paully]

ถ้าวันไหนขับทางไกล ก็เช่ารถน้ำมันใช้
มีให้เลือกมากมายหลายรุ่น

แต่ถ้าต้องขับไกลเป็นประจำก็คงไม่เลือกใช้รถไฟฟ้าตั้งแต่แรก

[rtong]

วันนั้นมาถึง  อย่างอื่นมันคงพร้อมหมดแล้วครับ

อนาคตอาจไม่นิยมซื้อรถก็ได้  เปลี่ยนเป็นเช่าจากจุดหมายไปจอดเมื่อถึงที่หมาย
ผู้ให้เช่าดูแลรถ  ชาร์จแบต จบ
จากกรุงเทพ  อาจแวะเปลี่ยนรถที่นครสวรรค์  แล้วขับต่อไปเชียงใหม่...