@ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?

Red Bicycle

 :) :) :) สมัยก่อนตอนวัยรุ่นและเริ่มทำงาน ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆครับ ว่ารถD segment ญี่ปุ่น Camry  Accord.  cefiro.   altima    cronos.    รถกลุ่มนี้เหมือนมันจะสะท้อนความสำเร็จระดับหนึ่ง ของปุถุชนชาวบ้านในเมืองทั่วๆไป ที่ไม่รวมผู้มีฐานะดีอยู่แล้ว ก็จะไปเล่นรถ Premium ยุโรปอันนั้นไม่ต้องพูดถึงเลยครับมันเกินเอื้อมมากๆ แต่ปัจจุบันดูยอดขาย D segment แล้วยอดหดหายมากๆ ดูแล้วผู้คนจะไปเล่น พวก PPV และ SUV กันมากกว่ามากๆ เลยไม่แน่ใจว่ารถ D segment ญี่ปุ่นยังเป็นรถที่ดูดี ในสายตาผู้คนทั่วๆไปอยู่ไหมครับ ผมกลัวว่ามันจะเป็น  Segment ที่ไม่เป็นที่สนใจขึ้นเรื่อยๆ ดูแล้วน่าเสียดายนะครับ
ปล. ในเวปบอร์ดดูยังสนใจความเคลื่อนไหวของรถกลุ่มนี้อยู่มาก แต่ดูไม่ตรงกับยอดขายเท่าไรเลยครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 05, 2018, 11:46:25 โดย Red Bicycle »



Mos37257

มันก็ยังสะท้อนถึงความสำเร็จในชิวิตขั้นนึง เเต่ที่เห็นยอดมันน้อยเพราะรถมันออกมาเเนวนุ่ม เเละนั่งได้ไม่กี่คน ลุยน้ำไม่ได้ เเต่มันยังเป็นรถที่ดูดีในระดับล่างชั้นบนถึงกลางชั้นล่างอยุ่ครับ ส่วนที่ เล่น ppv เเละ suv สมัยนี้ผู้บริโภคเปลี่ยนไปมาก เมื่อก่อน suv มีเเค่ crv หรือ ppv มีเเค่ fortuner mu7 หรือคนที่เล่น d seg เขามีตังมากขึ้นก็ข้ามไปเล่นรถ premium บางคนที่มอง d seg เเต่เห็นว่ารถยุโรปเช่น 320d cla gla เเพงกว่าไม่กี่เเสนเลยเพิ่มไปเล่นพวกนั้น เเต่ d seg ยังดูดีในระดับนึงเเน่ๆครับ



palma

ไม่ครับ ดูจากยอดขายก็พอได้คำตอบครับ

ที่ยังสนใจ คือ สิ่งที่ D-seg ญี่ปุ่นยุคนี้ให้ได้ กับราคาที่สมเหตุผลครับ
2023 : SK9 FB20 ES4.0 SAWD
2017 : NSP170R-2NR-FE+CVT
2015 : B17-MR16DDT+CVT-M6
2014 : L33-QR25DE+CVT-8
1995 : SXV10-3S-FE (sold)
1994 : AE101-4AFE+MT (sold)



ภูมิใจไหม?

ผมว่าสะท้อนพอได้อยู่นะครับ ถ้าเป็นต่างจังหวัด คนขับรถล้านกว่าบาท ถือว่ามีฐานะพอสมควร

ในขณะที่คนส่วนใหญ่ของประเทศเราจะขับรถราคาประมาณ 1 ล้านบาทครับ

แต่คน กทม หารถได้ง่ายกว่า รายได้ก็สูงกว่า การที่เห็นเขาขับวีออสก็ไม่ได้แปลว่าเขาฐานะไม่ดี

เรื่องนี้คิดไปก็ปวดหัว มันวัดอะไรไม่ค่อยได้ครับ

แต่ถ้าขับรถราคาซัก 4 ล้านขึ้นไปนี่รวยจริงครับ อิอิ



มองอีกแบบหนึ่ง รถซีดานไซส์นี้ดูสวยสง่าภูมิฐานครับ ขับแล้วก็ดูดี

เรียกว่า "ดูดี" ดีกว่าครับ อย่าเรียกว่ามีฐานะหรือประสบความสำเร็จอะไรเลย


ผมถือคติอย่างนี้ครับ

ไม่ว่ารถเราจะแรงแค่ไหน รถคนอื่นแรงกว่าเราก็มี

ไม่ว่ารถเราจะสวยขนาดไหน รถคนอื่นสวยกว่าเราก็มี

ไม่ว่ารถเราจะแพงขนาดไหน รถคนอื่นแพงกว่าเราก็ย่อมมี

ฉะนั้นเลือกรถให้ตรงกับการใช้งานดีกว่าครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 05, 2018, 12:40:48 โดย SNK vs Playmore »



Devil13

ผมว่าสะท้อนพอได้อยู่นะครับ ถ้าเป็นต่างจังหวัด คนขับรถล้านกว่าบาท ถือว่ามีฐานะพอสมควร

ในขณะที่คนส่วนใหญ่ของประเทศเราจะขับรถราคาประมาณ 1 ล้านบาทครับ

แต่คน กทม หารถได้ง่ายกว่า รายได้ก็สูงกว่า การที่เห็นเขาขับวีออสก็ไม่ได้แปลว่าเขาฐานะไม่ดี

เรื่องนี้คิดไปก็ปวดหัว มันวัดอะไรไม่ค่อยได้ครับ

แต่ถ้าขับรถราคาซัก 4 ล้านขึ้นไปนี่รวยจริงครับ อิอิ



มองอีกแบบหนึ่ง รถซีดานไซส์นี้ดูสวยสง่าภูมิฐานครับ ขับแล้วก็ดูดี

เรียกว่า "ดูดี" ดีกว่าครับ อย่าเรียกว่ามีฐานะหรือประสบความสำเร็จอะไรดีกว่า


ผมถือคติอย่างนี้ครับ

ไม่ว่ารถเราจะแรงแค่ไหน รถคนอื่นแรงกว่าเราก็มี

ไม่ว่ารถเราจะสวยขนาดไหน รถคนอื่นสวยกว่าเราก็มี

ไม่ว่ารถเราจะแพงขนาดไหน รถคนอื่นแพงกว่าเราก็ย่อมมี

ฉะนั้นเลือกรถให้เหมือนกับการใช้งานดีกว่าครับ
+1

ยิ่งเห็นพวกขับรถ D seg แล้วใส่ล้อแม็กแต่งนี้ ชัดเจนเลยว่าซื้อมือ 2 มาแต่งแน่ๆ ส่วนตัวไม่คิดว่าพวกนี้รวยจริง
รวยจริงๆคงขับแลมโบกินีไปแล้ว

แต่ถ้าออกมือ 1 ป้ายแดงและวิ่งใน ตจว. รอบนอก อันนี้ถือว่ามีเงินพอสมควร แต่ด้วยความเอนกประสงค์ + การใช้งาน PPV จะตอบโจทย์คน ตจว.มากกว่า
D seg มักจะได้รับความนิยมในกลุ่ม ขรก. เป็นหลัก



Indy_Garden

คงจะมองในระดับนึงครับแต่คงไม่มากเท่าสมัยก่อน   สมัยนี้รถกระบะรุ่น Top ก็ล้านกว่าบาทแล้ว
สำหรับคนที่เลือก D seg ญี่ปุ่นอาจจะต้องการรถคันใหญ่นั่งสบายครับ ราคาจับต้องได้และค่าบำรุงรักษาที่ไม่ต้องซีเรียสมาก
ถ้าเทียบกับ Benz E class หรือ  BMW Series 5 
หรือบางคนอาจจะไม่ต้องการความ Premium มากมาย แต่เน้นใช้สอยทั่วไป D Seg ญี่ปุ่นป้ายแดง 2 คันใช้คันละ 5 ปีแล้วเปลี่ยนรุ่นใหม่ถ้าจะเทียบกับ   Premium ยุโรปก็มองได้หลายมุมครับ
Indy Garden



mamaman



ขึ้นกับ ว่า คุณเทียบกัยใครครับ
ตาสีตา สา
แค่ รถเก๋ง ธรรมดา ก็ถือ ว่าดีละ
เมือง เกษตรกรรม ตจว นี่ ใคร ขับ Ranger 4 ประตู คือ เสี่ย

แต่ถ้าเทียบ ชนช้นกลางขึ้นไปถึงสูง
สมัยนี้ ต้อง BZ กับ BMW ขึ้นไปครับ

ข้าราช การ ก็ต้อง PPV ป้ายแดงขึ้นไป



Auto

ตาม คห บนละ  ขึ้นว่าไปเทียบกับใคร    ถ้าเทียบกับคนทั่วไปเขาไม่ค่อยสนใจหรอกมั้ง   ยอดจำหน่าย D Seg  มันถึงได้ต่ำเตี้ย  เพราะรถใหญ่แบบนี้ปัจุบันถ้าไม่ซื้อเองส่วนตัวก็จะเป็นรถเช่าบริษัทส่วนมากครับ  เพราะต้องเช่ารุ่น คัมรี่เป็นหลักทุกโมเดลละ    ถ้าซื้อเองส่วนมากก็เครื่อง 2.0 และรุ่นรอง  ๆ    ถ้าเป็นรถบริษัทอาจมีรุ่นท๊อป                  ถ้า ตจว PPV  จึงตอบโจทย์ได้ดีกว่า เพราะ SUV  บางตัวภาพลักษณ์ก็สุ้ Fortuner ใน ตจว ไม่ได้

  แต่บอกเลย คน ตจว รถเก๋งยังไงเขาก็ดูเป็นรถเก๋งหมดละ ไม่แตกต่าง     ยกเว้นมีแบรนด์ยุโรปน้ำหน้าเขาอาจมองไปอีกแบบนึง   
ถ้าดูดีเลยตอนนี้ คนส่วนใหญ่ดูเป็นหมดคือ  รถใหญ่ ๆ หน่อยอย่งพวก อัลพาร์ด  คนดูเป็นครับว่าดูดีแน่ ๆ    หรือไม่ก็รถสปอร์ตไปเลย 



gorilla

ส่วนตัวเฉยๆครับ รถล้านกว่าบาทสมัยนี้ซื้อกันง่ายๆ ผ่อนเยอะ ดอกไม่ได้แพงเว่อ  ถ้าย้อนไป 20-25 ปีที่แล้วคุณซื้อรถล้านกว่า ก็ถือว่าพอตัวครับ

ถ้าเอาว่าดูพอมีตังหน่อยก็ 4-5 ล้านบาทขึ้นไปครับ



HappyCar

ตอนแรกผมก็เคยอยากได้ D-Segment ซักคันเหมือนกันครับ

แต่พอได้ขับบนถนนประเทศไทยมาหลายแห่ง

ผมจึงลืม D-Segment และนึกถึง SUV ขึ้นมาทันที  ::)



superest

ถ้าเป็นสมัยก่อน จะตอบง่ายมากครับ เพราะ คนซื้อรถต้องเงินสดเท่านั้น  อันนั้น คือ ต้องมีเหลือระดับนึง เลยทีเดียว แต่สมัยนี้ ตอบยากมากครับ เพราะ ที่มาของการขับรถ การครอบครองรถ การเป็นเจ้าของรถ สมัยนี้มันหลากหลายมาก เราไม่อาจคาดเดาได้เลยว่า คนขับรถยี่ห้อนี้ มีฐานะหรือประสบความสำเร็จอะไรมา อย่างไร แค่ขนาด จะให้ นิยาม คำว่า มีฐานะ แต่ละคนยัง  คิดไม่เหมือนกันเลย

   แต่ถ้าใช้ แค่ความรู้สึกส่วนตัวมอง ผมมองว่า ทุกวันนี้  คนขับรถ ทั่วๆ ไป มันก็เหมือนกันไปหมด ไม่ว่า จะ vios altis civic กระบะ เบนซ์ บีเอ็ม คัมรี่ แอคคอร์ด teana เพราะ มันเห็นเยอะ  จนเฉยๆ ไม่ว๊าวแล้ว (โดยเฉพาะbenz มันเยอะจนโหล และ เฉยๆ ไปแล้ว)  ความรู้สึกคือ ท่านคือคนชั้นกลางระดับใกล้เคียงกัน ทั้งหมดครับ



SETTHASART

สมัยนี้คนเราดูกันที่รถได้ยากมากๆครับ อาเสี่ยขับรถกระป๋องไม่ใช่น้อยๆ คนหนี้บานขับรถหรูๆก็เยอะแยะรอบตัว



หมีขับสี่

ผมว่าตลาด D-seg มันหดเพราะว่า นอกจากกระแส crossover แล้ว ยังมีเรื่องของราคารถญี่ปุ่น ที่ดันขยับขึ้นไปจี้ รถยุโรปพรีเมี่ยมประกอบใน ชนิดที่ว่าต่างกันไม่กี่แสน

พูดตรงๆว่า ทุกวันนี้คนที่ซื้อ D-seg ญี่ปุ่น ส่วนใหญ่ซื้อเพราะ Reliability ล้วนๆ เช่นไม่ต้องกังวลเรื่องเสีย หรือดับกลางทาง ไปเจอน้ำมันสกปรก ปั้มแม้ว หรือ ปั้มผสมน้ำ ก็ยังเอาตัวรอด ไม่ไปดับกลางทางด่วน
แถมวัสดุภายใน ก็ไม่ค่อย ย่อยสลายเองได้ สายฟงสายไฟ ผ่านไป 10 ปีมันก็ยังดีอยู่

เอาเป็นว่า ถ้าผมมีเงินเหลือ ผมก็คงซื้อ D-Seg ญี่ปุ่นมาเพื่อ "ความสบาย" และเป็นรถ "ใช้งานประจำวัน"
แต่ถ้าเรื่องภาพลักษณ์ก็ต้องยอมรับว่า สมัยนี้ D-seg นั้น image ไม่เพียงพอ ถ้าเทียบกับ ใบพัดสีฟ้า และ ตราดาว ราคาสองล้านต้นๆที่ออกมาเต็มถนน



TheZero

Re: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: มกราคม 05, 2018, 13:40:36 »
น่าจะไม่ใช้แล้ว มือสองราคาไม่เท่าไร  เด็ก รง. ผมยังซื้อ Camry มือสอง มาขับเลย  ส่วน ผจก. ออก ecocar mazda 2มาขับซะงั้น (จริงๆ มี Glc 250 แต่ให้เมียขับ)



akewizard

ผมคิดว่าแนวทาง ค่านิยมต่างๆเกี่ยวกับรถได้เปลี่ยนไปแล้วครับ ไม่ว่าจะด้วยสื่อออนไลน์ต่างๆหรือสังคมในยุค Social Network

แนวทางของคนรุ่นใหม่ ถ้าไม่ขึ้นไปจุดสูงสุด... ก็มองหาแนวทางที่แตกต่างไปเลย
ถ้าไม่ข้ามไปเล่นรถยุโรปเพื่อแสดงฐานะ ... ก็ไปหารถแนวเอนกประสงค์อย่าง SUV หรือ Crossover เพื่อแสดงบุคลิคของคนรุ่นใหม่เน้นความ smart เน้นความเป็๋นตัวตนของตนเอง
หรือไม่ก็แต่งรถแนว Performance แนว VIP อะไรไปทางนั้น

รถ D Secment ญี่ปุ่นที่เคยวางตัวไว้ว่าเป็นรถเกรดดี ภูมิฐาน ขับสบาย เป็นรางวัลชีวิต จึงเริ่มไม่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่แล้ว
ไม่นับคนเมือง Gen ใหม่ที่กำลังจะโตขึ้นมา ก็กำลังมีค่านิยมที่จะไม่ซื้อบ้าน ไม่ซื้อรถกันแล้ว เน้นใช้ชีวิตอิสระไม่มีภาระผูกพัน

รถซีดาน D Sec แม้ว่าจะยังขายได้อยู่ แต่ก็คงไม่ใช่ปลายทางสำหรับใครหลายๆคนอีกต่อไป



hamenjoy

อีกเหตุผลนึงส่วนตัวผมนะ ผมว่าราคาของ D-Segment ปัจจุบันไม่ได้ห่างจากตัวเริ่มต้นของรถยุโรปแล้ว

แบบ Accord หรือ Camry ถ้าอัพราคาอีกหน่อยก็ไปสอย Volvo S60 หรือ BMW Series 3 ได้เลย

ดังนั้น ถ้าคนที่มีกำลังเงิน ไม่ได้เดือดร้อน และต้องการให้บ่งบอกความสำเร็จ (จากการใช้รถนะ) ก็มีไม่น้อยที่ขยับไปเล่นรถยุโรปครับ



Pegasus7700

ผมมองอีกแบบนึงครับ. ผมเห็นว่า. ไม่ว่าจะเป็นรถรุ่นไหน. สามารถเป็นตัวสะท้อนความสำเร็จได้ทั้งหมด. หากจะซื้อรถสักคัน เพื่อเป็นรางวัลให้กับเรา.

หากจะโยงว่า สัดส่วนคนซื้อรถ d seg Japan ส่วนใหญ่คือผุ้ที่ซื้อเพราะความเหมาะสมกับรายได้หรือไม่. ผมว่าส่วนน้อยครับ. ปัจจุบันน่าจะ PPV มากกง่า
...ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป...

MERCEDES BENZ W212 '12
FORD FOCUS 2.0 Gdi '13
HONDA Civic RS '20
VOLVO XC60 Hybrid Inscription '19
FORD EVEREST 2.0 Bi Turbo '22



bodin

เป็นของใช้งานไปนานแล้ว 8)
รถไม่ใช่ทรัพย์สินครับ
เป็นของเสื่อมราคา ของใช้งาน 8)

ความสำเร็จด้านการเงินวัดที่ทรัพย์สินครับ ปัจจุบันคำว่า รวย เรื่มต้นที่ 50ล้าน
รถล้านกว่าบาทวัดอะไรไม่ได้ ยอดมันจะตกก็ไม่แปลกขับออกไปวันไหนเจอน้ำรอระบายก็จบ ซื้อsuv ppvดีกว่า

เคยตั้งเป้าชีวิตไว้ที่100ล้าน ตอนเรียนจบใหม่ๆ ตอนนี้ไม่เอาละใช้เงินเทื่ยวดีกว่า กลัวภาษีมรดก



mongolias

ผมว่ามันก็บอกได้อยู่นะ การที่คุณจะซื้อรถ D-segment ได้ ฐานะก็น่าจะดีระดับหนึ่งครับ
อย่างรถบริษัท ส่วนมากคนได้รถ segment ก็มักจะเป็น Mgr หรือ Dir ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จแล้วครับ

ส่วนเรื่องความนิยมตอนนี้มันมีรถหลายประเภทให้เลือกมากขึ้น รถระดับ C-segment ก็นั่งสบายขึ้นมากกว่าก่อน (แน่ล่ะสิตัวถังขยายจนแทบจะเท่ากับ D-segment สมัยก่อนแล้ว) คนเลยเริ่มมองตัวเลือกอื่นมากขึ้นครับ

ผมมองว่าคนเลือก D-segment ขึ้นไป คือคนที่ต้องการความสบายใจการเดินทางนะครับ
C-segment ลงมา คือคนชอบรถที่คล่องตัว ขับสนุก
แต่อย่างผมอยู่ ตจว ถนนไม่ค่อยดี แถมบ้าหอบฟาง+มีลูกน้อย ขอไปพวก SUV ละกันครับ



BigCat

ผมมองอีกแบบนึงครับ. ผมเห็นว่า. ไม่ว่าจะเป็นรถรุ่นไหน. สามารถเป็นตัวสะท้อนความสำเร็จได้ทั้งหมด. หากจะซื้อรถสักคัน เพื่อเป็นรางวัลให้กับเรา.

หากจะโยงว่า สัดส่วนคนซื้อรถ d seg Japan ส่วนใหญ่คือผุ้ที่ซื้อเพราะความเหมาะสมกับรายได้หรือไม่. ผมว่าส่วนน้อยครับ. ปัจจุบันน่าจะ PPV มากกง่า
+1ครับ ผมซื้อรถเพื่อให้รางวัลกับชีวิตครับ สะท้อนความสำเร็จจากตัวเอง
ซ้อตัวที่ชอบ และอยากได้ ไม่ได้แบ่งsegmentมากมาย

แต่ก่อนมีแค่มอไซค์ครับ ปัจจุบันขยับมาได้ทุกวันนี้ก็ภูมิใจและมีความสุขครับ  8)

Audi TT MK 3FL
BMW z4 e85
GLA 250 FL 2017
Nissan Teana L33 2014
Slk 200 R172 2014
Camry 2.4 2009
Civic dimension MT 1.7
Civic 3 doors รถคันแรก



Slipknot`

มันอยู่ที่ใครมอง ถ้าคนทั่วๆไปหรือคนไม่มีรถยังไงก็ดูดี



Trafalgar

ไม่เลยครับ เพราะมันเห็นบ่อยมากจนชินไปแล้ว
- 1994 Toyota Corolla AE101 1.6 4A-FE MT
- 1995 Honda Civic EG 1.5 D15B AT
- 1996 Mitsubishi Lancer Evolution IV 2.0 4G63T MT
- 2005 Toyota Hilux Vigo Cab 2.5G 2KD-FTV MT
- 2005 Toyota Fortuner 3.0V 1KD-FTV AT
- 2005 MINI Cooper R50 1.6 AT
- 2013 Honda City 1.5 L15A7 AT



poom7

ผมว่าก็ยังสะท้อนความสำเร็จได้อยู่ในระดับนึงนะครับ โดยเฉพาะสำหรับคนที่รู้เรื่องรถ ถ้ายังเห็นป้ายด้านหลังว่า เป็นตัวท็อปหรือไฮบริด
ก็ยังบ่งบอกได้ว่าคนนี้ก็ยังมีหน้าที่การงานที่ค่อนข้างดีพอสมควรเลย สำหรับคนที่ไม่รู้เรื่องรถอะไรมาก
ผมว่าถ้ายังเห็นว่าเป็น Accord Camry Teana ก็ยังสามารถดูออกได้นะครับ

ทุกวันนี้ขับรถในเมือง เห็น 320d, CLA/GLA เยอะขึ้นมา เพราะน่าจะด้วยราคาที่ถูกลงค่อนข้างมากด้วย
สำหรับคนที่รู้เรื่องรถก็จะรู้ว่าเราซื้อรถ Premium Compact Car มาทำไม สิ่งที่เราได้คือ ภาพลักษณ์, การบังคับควบคุมรถ, เครื่องยนต์
แต่สำหรับคนที่ไม่ได้สนใจเรื่องดังกล่าวนี้ ก็อาจจะมองว่า ทำไม Option น้อยจัง, Option แบบนี้ ราคานี้ ไปเล่น D-Seg ตัวท็อปดีกว่าได้ของครบกว่า ฯลฯ

ส่วน PPV/SUV ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าราคามันก็ใกล้เคียงกับ D-Seq กันแล้วในปัจจุบัน โดยส่วนตัวมผมมองคนที่ขับ PPV/SUV ได้สี่แบบครับ คือ
1.น่าจะไม่ใช่รถคันเดียวของบ้าน 2.สมาชิกในครอบครัวเยอะ 3.น่าจะเดินทางบ่อย/ขนของบ่อย 4.แถวบ้านน่าจะน้ำท่วมบ่อย
คนนึงอาจจะไม่ต้องมีครบทุกข้อนะครับ แค่มีข้อเดียวผมก็มองว่าเป็นเหตุผลที่เลือกซื้อรถ PPV/SUV ได้แล้ว

ส่วนตัวผมเองตอนแรกก็เล็ง Accord Hybrid Tech ไว้ ตั้งใจจะไปจองที่งาน Big Motor Sale 2017 สุดท้ายไปคุยกับเซลล์ คุยไปคุยมาข้อเสนอยังไม่ถูกใจ
เลยเดินไปดูรอบๆงานก่อน สุดท้ายได้ไปตามที่ BMW 320d iconic  ;D
2013 : Honda City SV
2017 : BMW 320d F30



vatmee

เป็นของใช้งานไปนานแล้ว 8)
รถไม่ใช่ทรัพย์สินครับ
เป็นของเสื่อมราคา ของใช้งาน 8)

ความสำเร็จด้านการเงินวัดที่ทรัพย์สินครับ ปัจจุบันคำว่า รวย เรื่มต้นที่ 50ล้าน
รถล้านกว่าบาทวัดอะไรไม่ได้ ยอดมันจะตกก็ไม่แปลกขับออกไปวันไหนเจอน้ำรอระบายก็จบ ซื้อsuv ppvดีกว่า

เคยตั้งเป้าชีวิตไว้ที่100ล้าน ตอนเรียนจบใหม่ๆ ตอนนี้ไม่เอาละใช้เงินเทื่ยวดีกว่า กลัวภาษีมรดก
50 ล้านจึงนับว่ารวยหรอครับ ตายแว้ว มิน่าผมยังจนอยู่นี่เอง  :D แซวกัน ขำๆ ครับ



Activehybrid

ผมมองว่าวัดได้แต่ ต้องเป็นรุ่นใหม่ และซื้อแล้วไม่กลับมาใช้คันที่ถูกกว่าเดิม
ไม่มีคนจนคนไหนซื้อรถคันละ1.2ล้านทุกๆ 6 ปีได้หรอกครับ
แต่ที่บ่งบอกได้แน่นอนคืออายุครับ รับรองว่าสว.ในระดับนึง
แต่กับAccord Camry 2018 ที่กำลังจะมาถึงนี่ ผลิกโฉมดูวัยรุ่นกว่าที่เคยเป็นมาเลยครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 05, 2018, 15:35:56 โดย Activehybrid »



kamphola

ยังดูดีไหม ผมว่าถ้ารุ่นใหม่ล่าสุดหรือเก่าไปสัก Gen ก็ยังพอได้อยู่
สะท้อนถึงการประสพความสำเร็จไหม ผมว่ามันก็ยังพอได้อยู่เช่นกันครับ แต่ไม่ถึงกับว้าวววว
มองง่ายๆอย่างไม่มี Bias คนอายุ 35-40 เดินไปขึ้น Vios กับเดินไปขึ้น Accord ผมว่ามันก็ต่างกันอยู่น๊าาาา  :D



pim_cute

เป็นของใช้งานไปนานแล้ว 8)
รถไม่ใช่ทรัพย์สินครับ
เป็นของเสื่อมราคา ของใช้งาน 8)

ความสำเร็จด้านการเงินวัดที่ทรัพย์สินครับ ปัจจุบันคำว่า รวย เรื่มต้นที่ 50ล้าน
รถล้านกว่าบาทวัดอะไรไม่ได้ ยอดมันจะตกก็ไม่แปลกขับออกไปวันไหนเจอน้ำรอระบายก็จบ ซื้อsuv ppvดีกว่า

เคยตั้งเป้าชีวิตไว้ที่100ล้าน ตอนเรียนจบใหม่ๆ ตอนนี้ไม่เอาละใช้เงินเทื่ยวดีกว่า กลัวภาษีมรดก

อะไรกันครับ รถยนต์ไม่ใช่ทรัพย์สินเหรอครับ ผมไม่รู้นะว่าทำไมคุณถึงเข้าใจแบบนี้ ความรู้พื้นฐานเลยครับ

asset (สินทรัพย์ หรือ ทรัพย์สิน) = debt (หนี้สิน) + equity (ทุน)

รถเป็น asset แน่นอนครับ จะเสื่อมค่าหรือไม่เสื่อมค่า จะบ้าน อสังหา ที่ดิน ก็เป็น asset หมดแหละครับ เพียงแต่มันจะเป็นส่วน debt หรือ equity เท่าไรแค่นั้นเอง ถ้าคุณกู้มาซื้อ ส่วน debt ก็เยอะแค่นั้น ส่วนจะเสื่อมราคามันไม่เกี่ยวเลยทางการเงินเค้าถึงมีค่าเสื่อมราคาเป็น คชจ และค่าเสื่อมราคาสะสมคอยปรับมูลค่า asset อยู่แล้วนี่ครับ

คนจะรวยไม่รวย ดูที่ net asset ครับ หรือ equity นั่นแหละ มันแสดงฐานะไม่ใช่กู้มามีแต่หนี้สิน ส่วนแค่ไหนถึงรวย 50 ล้าน 100 ล้าน ผมไม่เคยเห็นที่ไหนมาตั้งเกณฑ์แบบนี้นะครับ ผมว่ามันมันขึ้นอยู่กับความพอใจของแต่ละคนมากกว่า

จะพูดเรื่องการเงินศึกษาให้ลึกครับบอกเลย



oatekung

รวยไม่รวย ถ้าสูงมาอีกหน่อย เค้าไม่ดูรถเค้าดู cash flow แล้วก็ชื่อเสียงกันมากกว่าอ่ะครับ
แต่ถ้าระดับเริ่มต้น ซื้อ d seg ป้ายแดงก่อน 25
ซื้อ benz bmw ป้ายแดงก่อน 30 ผมว่าใช้ได้แล้วครับ
ตอนนี้ผมเฉยๆ มือสองใหม่ๆมันก็หล่อนะ E coupe cls ไรเงี้ยะครับ  มีตังค์ซ่อมมันก็จบ ปลอดภัยด้วย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 05, 2018, 16:43:34 โดย oatekung »



fishfinger

ผมว่าแล้วแต่มุมมองมากกว่าครับ ส่วนตัวผมเฉยๆกับ D seg C SUV จนไปถึง ยุโรป entry เลย
รถราคาแค่ล้านกว่าบาทไม่น่าสะท้อนอะไรได้ แบบผม อายุ 24 ก็ยังผ่อน CRV สบายๆเลย
ยังไม่ได้ประสบความสำเร็จอะไรมากเลย

ผมว่าโฆษณามากกว่าที่สร้างค่านิยมพวกนี้ขึ้นมา เอาคนใส่สูทมาขับมานั่ง
มันก็ดูเป็นรถผู้บริหาร ( คงแสดงถึงความสำเร็จในระดับหนึง )



Arado_kung

เป็นของใช้งานไปนานแล้ว 8)
รถไม่ใช่ทรัพย์สินครับ
เป็นของเสื่อมราคา ของใช้งาน 8)

ความสำเร็จด้านการเงินวัดที่ทรัพย์สินครับ ปัจจุบันคำว่า รวย เรื่มต้นที่ 50ล้าน
รถล้านกว่าบาทวัดอะไรไม่ได้ ยอดมันจะตกก็ไม่แปลกขับออกไปวันไหนเจอน้ำรอระบายก็จบ ซื้อsuv ppvดีกว่า

เคยตั้งเป้าชีวิตไว้ที่100ล้าน ตอนเรียนจบใหม่ๆ ตอนนี้ไม่เอาละใช้เงินเทื่ยวดีกว่า กลัวภาษีมรดก

อะไรกันครับ รถยนต์ไม่ใช่ทรัพย์สินเหรอครับ ผมไม่รู้นะว่าทำไมคุณถึงเข้าใจแบบนี้ ความรู้พื้นฐานเลยครับ

asset (สินทรัพย์ หรือ ทรัพย์สิน) = debt (หนี้สิน) + equity (ทุน)

รถเป็น asset แน่นอนครับ จะเสื่อมค่าหรือไม่เสื่อมค่า จะบ้าน อสังหา ที่ดิน ก็เป็น asset หมดแหละครับ เพียงแต่มันจะเป็นส่วน debt หรือ equity เท่าไรแค่นั้นเอง ถ้าคุณกู้มาซื้อ ส่วน debt ก็เยอะแค่นั้น ส่วนจะเสื่อมราคามันไม่เกี่ยวเลยทางการเงินเค้าถึงมีค่าเสื่อมราคาเป็น คชจ และค่าเสื่อมราคาสะสมคอยปรับมูลค่า asset อยู่แล้วนี่ครับ

คนจะรวยไม่รวย ดูที่ net asset ครับ หรือ equity นั่นแหละ มันแสดงฐานะไม่ใช่กู้มามีแต่หนี้สิน ส่วนแค่ไหนถึงรวย 50 ล้าน 100 ล้าน ผมไม่เคยเห็นที่ไหนมาตั้งเกณฑ์แบบนี้นะครับ ผมว่ามันมันขึ้นอยู่กับความพอใจของแต่ละคนมากกว่า

จะพูดเรื่องการเงินศึกษาให้ลึกครับบอกเลย
อันนี้จริงครับ คนมีหลายร้อยล้านหลายคนยังบอกตัวเองไม่รวยเลยครับ ใช้ชีวิต low profile กว่าคนหลักสิบล้านก็มี หรือชนิดที่เจ้าตัวขับรถญี่ปุ่นทั่วๆไปแต่เพื่อนมายืมเงินขับรถยุโรปรุ่นใหม่ก็มีเหมือนกัน หรืออย่างเพื่อนผมคนนึงรายได้ไม่ได้เยอะมากมายแค่ไม่กี่หมื่นแต่เที่ยวต่างประเทศบ่อยกว่าคนเงินเดือน6หลักอีกครับ 555