รถกระบะไว้ทำธุรกิจ ควรซื้อรุ่นที่มีระบบ VSC & traction control มั้ย? จำเป็นมั้ย?

YenChar

อยากขอความเห็นครับ

ผมมีธุรกิจอยู่ที่ภูเก็ต วิ่งงานวันนึงราวๆ 10-20 กิโล
และวิ่งไปกลับ สุราษ-ภูเก็ต อาทิตย์ล่ะครั้ง
อยากได้รถกระบะ 4 ประตูเกียรออโต้ซักคันนึงไว้ใช้งาน (มีคนขับรถ ไม่ได้ขับเอง)

ประเด็นคือ
กำลังชั่งใจ ระหว่าง
Revo 2.4 E Plus AT
กับ
Revo 2.8 G AT

อาจจะดูแปลกไปซักหน่อย เพราะส่วนต่างราคาตั้ง 2 แสน
พอดีว่า ฟังมาเยอะว่ารถกระบะควรมีระบบควบคุมการทรงตัว และระบบกันล้อลื่น
แล้วรถที่ซื้อมาใช้ ก็ไม่ได้ขนอะไร แค่เอามาใช้ในธุรกิจนิดหน่อย

แต่กลายเป็นว่า พี่โต ดันให้ VSC แค่เฉพาะรุ่น 2.8G เป็นต้นไป
ไอ้เราก็อยากได้ 2.4 เพราะไม่ได้ขับเร็วอะไร ถูกตังกว่า แถมประหยัดกว่าอีก

คำถามคือ "จำเป็นมั้ยครับ??"

- คือ ขับช้านะ ไม่ได้ขับเร็วอะไร คนงานไว้ใจได้ แต่ก็ไม่อยากให้เกิดเหตุ
ถ้ามีอะไรที่ช่วยเค้าได้ก็อยากให้มี (สนิทกัน ช่วยเหลือกันมาโดยตลอด)
เราเองก็ไม่อยากให้ธุรกิจเสียด้วยถ้าเกิดเหตุขึ้นมา

- ส่วนใหญ่วิ่งรถเปล่า ท้ายกระบะไม่ได้บรรทุกอะไร
กลัวเหมือนกันเรื่องท้ายปัด ท้ายเบา

- ส่วนต่างตั้ง 2 แสนแนะ

ทุกท่านคิดยังไงครับ??



kez


 ถามว่าจำเป็นมั้ย  ไม่จำเป็น  แต่ถ้ามีก็ดีกว่าไม่มี

 แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด  ไม่ใช่ระบบพวกนี้   แต่เป็นคนขับ ที่ต้องรู้จักรถตัวเอง  และการตัดสินใจในแต่ละจังหวะ ในการขับให้ดี

 รถเคลื่อนที่เองไม่ได้  และรถที่เกิดอุบัติเหตุ  ก็ไม่ใช่ความผิดของรถ   เป็นสิ่งที่ผู้ขับขี่พึงระวังเสมอ

 ปัจจัยนี้คงไม่ใช่ระบบ  น่าจะเป็นที่กำลังเครื่องยนต์มากกว่า  อันไหนพอ เอาอันนั้น



I_AM_IM

ไม่ลองมองdmaxรุ่นกลางที่มีvscดูล่ะครับ



OXYGEN2

ขับเองจำเป็น ลูกน้องขับไม่จำเป็น
2021 - BMW 530e
2023 - Tesla Model Y Performance
2023 - Tesla Model Y RWD

My website~ :) ;) :D 8)



*Zatan_p2*

ถ้าผมบอก ให้เอาดีแม็ก 4ประตู ออโต้ ไม่ท๊อปละครับ
ตัวนี้มี ระบบช่วยเหลือครบสุด ราคาถูกสุดในตลาด 
แล้ว 0 บริการในภูเก็ต ก็ดีนะ (ในเครือตรีเพชรด้วยนะครับ)
เก่งแกมดีเป็นศักดิ์เป็นศรีกว่าเก่งแกมโกง



Slipknot`

ไม่ได้ขับเองก็ไม่จำเป็น แต่เป็นอะไรมาก็รถเรา
ส่วนต่างเยอะเกินไปหน่อย 2.4ก็พอ



Stp

ระบบพวกนี้จะว่าไปก็แทบไม่มีความจำเป็น หลายคนขับรถมาทั้งชีวิตไม่เคยเห็นไฟ VSC ESP ทำงานสักครั้ง ใช้อย่างมากก็ ABS/EBD

แต่ปัญหามันอยู่ที่ ถ้าเกิดฉุกเฉินจำเป็นต้องใช้แต่ไม่มีเนี่ย ตอนนั้นนึกอยากให้มีก็เป็นไปไม่ได้แล้ว
:D ;D ร่วมรณรงค์รักการอ่านหนังสือ แทนการถามตลอดเวลา ;D :D



โบตั๋น

เคยคิดว่าระบบพวกนี้ไม่จำหรอก จนวันนึงฝนตกวิ่งมาเร็วๆเจอหลุมน้ำรถเสียหลักอีกแค่ 1 ฝามือหน้ารถจะพุ่งชนตอหม้อทางด่วน แต่อยู่ๆรถกลับมาควบคุมได้ ไม่รู้ว่าดวงหรืออะไร แต่หลังจากนั้นรถใหม่ทุกคันในบ้านต้องมีระบบนี้ ถ้าไม่มีจะตัดทิ้งไม่มองแต่แรกเลยครับ หลังจากนั้นระบบนี้ก็ทำงานเรื่อยๆ หน้าร้อน/หนาวไม่ค่อยเห็นความสำคัญ แต่พอหน้าฝนเมื่อไหร่จะมีประโยชน์ทันที
ลองดูคลิปนี้เป็นตัวอย่าง



No Trespassing

อากาศภูเก็ตเจอฝนแปดแดดสี่ นั่งกินโจ๊กอยู่แยกสนามบินอยู่ๆฝนก็ตกให้ถนนลื่นซะงั้น
เรดาห์ก็ไม่โชว์ ข่าวอากาศของสนามบินก็ไม่มีบอก

ยิ่งช่วงหน้าฝนไม่ต้องพูดถึง ตกทั้งวันทั้งคืน ขนาดสายการบินที่ผมทำงานอยู่ ยังต้อง Divert ไปลงอู่ตะเภาก็มี

ภูมิประเทศที่เจอฝนตลอดเวลา ถ้าเอารถที่มี VSC+TRC ได้ จะดีมากครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 21, 2018, 01:41:09 โดย No Trespassing »



ChiLun

ส่วนตัวผมถ้าเราอยู่ในรถด้วยทั้งที่ขับเองหรือคนอื่นขับ ผมเน้นระบบความปลอดภัยนะ

ถ้าคนงานขับอย่างเดียวจะไม่เอาให้แรงมาก เอาเน้นทน



imvile

ลูกน้องพ่อเคยรถคว่ำทำบุคคลอื่นเสียชีวิต + คนขับแขนหักครับ ประกันชั้น 3 เลยชดเชยเองเยอะอยู่

เสียน้อยเสียมากเสียยากเสียง่าย
F30 since 2014
F48 since 2018
W205 since 2019
ACV70 since 2021



SLuang

ขับเองจำเป็น ลูกน้องขับไม่จำเป็น
งงกับตรรกะนี้

1. มองในแง่ความปลอดภัยต่อชีวิต(กรณีอุบัติเหตุถึงชีวิต)  ลูกน้องตายได้ เจ้านายตายไม่ได้ ใช่ไหม?   อยากให้คนรวย ที่เป็นเจ้าคนนายคน หยุดมองแบบนี้จัง  ระดับจิตใจมันก็พัฒนากันได้ทุกชนชั้น ทุกวรรณะ  สถานะ   และตรงข้ามกับพัฒนา ก็เช่นเดียวกัน
2. มองในแง่การเกิดอุบัติเหตุ ที่ไม่เป็นอันตรายถึงชีิวิต แต่ทรัพย์สินเสียหาย   หากมีระบบพวกนี้ แล้วหยุดอุบัติเหตุครั้งนั้นได้  ทำให้ไม่เสียเวลา ไม่เสียงาน ธุรกิจเดินได้ตามปกติ คิดว่าไม่คุ้มอย่างนั้นหรือ?
3. นี่ยังไม่นับรวมถึงกรณีอื่นๆ  เช่น กรณีอุบัติเหตุ (ที่อุปกรณ์ที่ว่า สามารถหยุดอุบัติเหตุครั้งนี้ได้) แล้วก่อให้เกิดคดีความใหญ่โตที่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล

ถ้าผมแนะนำ   ผมก็จะแนะนำว่า   เอาตัวที่มีระบบความปลอดภัยเหล่านี้ ไว้จะดีกว่า เพิ่มเงินส่วนต่างนิดหน่อย(กรณีเอาอีกแบรนด์ที่การบริการและความคงทนต่อการใช้งานไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน) ก็เป็นความคิดที่สมเหตุสมผลนะ




mrpich

ใครจะขับก็ตามแต่เรานั่งในรถด้วยนิครับ
หลักๆผมคิดว่าถ้างบประมาณไม่เป็นปัญหา ผมเอานะ 2.8
นอกจากระบบต่างๆแล้ว เครื่อง 2.8 ขับทางไกลยาวๆ ประหยัดกว่า 2.4 และปลอดภัยในการเร่งแซงมากกว่าด้วยครับ
ถูกใจฮโยยอน-ปลื้มซูยอง-ชื่นชมเจสสิก้า-คิดถึงยูริ-แอบปิ๊งยูนอา-ชอบซอฮยอน-ใฝ่ฝันซันนี่-หลงไหลแทยอน-สุดรักทิฟฟานี่



seeker

ผมว่าคนไทยละเลยเรื่องความปลอดภัย มองว่าไม่เกิดหรอก
แต่อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอนะครับ ระบบนี้ช่วยได้จากการผ่อนหนักเป็นเบาด้วยนะครับ
แทนที่จะซ่อมเยอะ เปลี่ยนเป็นซ่อมน้อยหรือไม่ซ่อมเลย ประหยัดเวลาไปได้ ธุรกิจต่อเนื่อง

ปล
ถ้าไม่บรรทุกจะเอากระบะไปทำไมครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 21, 2018, 07:41:11 โดย seeker »



NINENOI

ไปดีแม๊กซ์ดีมั๊ยครับ เครื่อง 1.9 ประหยัดกว่ากันเยอะด้วยต่อภาษีประจำปีก็น้อยกว่ากันเยอะ ราคาตั้งต้นก็ถูกกว่า
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น



BigCat

จำเป็นครับ

ขับตอนฝนนี่ ต่างมาก กับรถที่ไม่มี

ผมอัด teana  ตอนฝนตก ระบบไฟพวกนี้ขึ้นเป็นระยะๆ ตอนแอ่งน้ำ แล้วช่วยได้เยอะมากครับ
Audi TT MK 3FL
BMW z4 e85
GLA 250 FL 2017
Nissan Teana L33 2014
Slk 200 R172 2014
Camry 2.4 2009
Civic dimension MT 1.7
Civic 3 doors รถคันแรก



ภูมิใจไหม?

ห้ามลูกน้องขับเร็วครับ ติดระบบติดตามเลย

ถ้าต้องไปไกล ๆ ผมจะไปเองเพราะลูกน้องมันชอบจอดแวะซื้อใบกระท่อม

หรือเอารถผมขับไปแวะหาเพื่อนเพื่อทำอะไรกันก็ไม่รู้ครับ


ถ้ารถไม่มีระบบช่วยเหลืออะไรเลยอย่างกระบะตอนเดียว ก็ให้ใช้ยางที่ดีที่สุดครับ

แต่ 4 ประตูที่ว่าจะใช้มุขนี้ก็ได้นะครับ ถ้าหากมันจะทำให้ประหยัดเงินไปเป็นแสน

ตอนเข้าโค้งนี่เห็นชัดมากครับ ยางอันนึงจะร้องเอี้ยดด ๆ แต่ยางดี ๆ จะเงียบเฉยครับ



1688

 ถ้ารถธุรกิจคันนี้ ตั้งใจจะใช้งาน ถึง 10 ปี +  ส่วนต่างที่เพิ่มขึ้นคิดเป็น ต่อเดือนไม่ถึง สองพันบาท ครับ. และ ก็ ไม่แน่ ว่า ในช่วงเวลาดังกล่าว บางครั้ง เจ้าของอาจ ขับเองเป็นบ้าง  มีไว้ ดีกว่าไม่มีนะครับ และ ถ้าใช้รถอยู่ภาคใต้  ฝนตกทั้งปี นะครับ



HappyCar

ถ้าเป็นผม ผมจะซื้อรุ่นที่มี VSC & traction control ให้คนงานขับครับ

อย่าลืมนะครับว่า "ธุรกิจ" ไม่ได้มีแค่ "กำไร และ ตัวเราเอง" แต่ธุรกิจคือ "องค์กร"

และ "องค์กร"  คือ "พวกเราทุกๆคน" ฉะนั้น "คน" คือสิ่งสำคัญ "ที่สุด" ในการขับเคลื่อนธุรกิจ

อีกอย่างนึง ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นมา มูลค่าสินค้าที่อยู่บนกระบะคุณจะเป็นยังไง ?

แล้วที่สำคัญที่สุด ลูกค้าของคุณจะว่ายังไง ?

ฉะนั้นผมเห็นด้วยที่จะแนะนำให้ซื้อรุ่นที่มีระบบความปลอดภัยให้กับ "องค์กร" นะครับ ;)



recycleman

เอาตรงๆน่ะครับ ต้องดูพฤติกรรมของคนที่จะมาขับด้วยครับ

พวกที่มีหน้าที่ขับอย่างเดียวขนาดรถโล้นๆยังไส่ไม่ยั้ง แล้วถ้าเขารู้ว่ารถมีระบบเซฟตี้ช่วยมาอีกจะไม่ยิ่งไปกันใหญ่เหรอครับ

เหมือนจะยิ่งทำให้มั่นใจใส่เต็มจัดหนักไปกันใหญ่ ทางที่ดีสุดควรควบคุมพฤติกรรมของคนที่จะมาขับครับ

ถ้าคนที่จะมาขับตระหนักถึงระลึกได้ ผมว่ามันจะดีกว่าระบบเซฟตี้ใดๆที่มีมาซะอีก



ps000000

มีไว้ช่วยได้ครับ

แต่บางคนขับนี่ผมเห็นแล้ว ระบบเทพไหนก็ช่วยไม่ได้



bingoman

มีก็ดีกว่าสิครับ

หรืออยากให้รถลงข้างทาง ซ่อมเป็นแสนๆ หรือขายซาก  ถึงจะเป้นลูกน้องขับก็ตาม

ปล. พูดเว่อๆ เพราะของแบบนี้เกิดขึ้นได้ครับ



mick

มีดีกว่าครับ คนอื่นบนถนนก็จะได้ปลอดภัยด้วย



Shiro

ถ้าอยากประหยัดงบ Dmax 1.9 Z AT ดีกว่าไหมค่าตัว 9 แสน ออฟชั่นความปลอดภัยครบ
ไม่ต่างกับตัวท็อป



YenChar

ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบครับ

พอดีมีประสบการณ์ไม่ค่อยดีกับอีกแบรนด์นึงครับ
ปัจจุบันใช้แบรนด์คู่แข่งอยู่ ศูนย์ไม่ดี พูดจาไม่ดี ต้องง้อ ต่างกับที่หลายๆคนชม
(เป็นเฉพาะภาคนี้ คนแถวๆนี้ก็บ่นๆกัน)
เลยตั้งใจจิ้มไปที่โตต้าโดยเฉพาะครับ

ตอนนี้คงหันไปหาตัว 2.8 ล่ะครับ
ขอบคุณความเห็นทุกท่าน
(เพิ่มเติมได้เรื่อยๆครับ)



หมีขับสี่

ไม่ถึงกับจำเป็น (ถ้าขับช้าตลอด) แต่มีไว้น่าจะดีกว่าครับ เพราะเหตุเกิดแล้วอาจจะเสียหายกว่านั้นก็ได้ครับ



Pla_two🐟

ถ้าราคาตัว 2.8 แพงไป ก็ลองดูของเจ้าอื่นก็ได้ครับ เพราะใจจริงๆ อยากให้มี ยิ่งเป็นคนที่เราห่วงด้วยยิ่งน่ามีครับ เพราะดูจากบทความนี้ทำให้รู้ว่าต่อให้ขับไม่เร็ว ถนนไม่ลื่นมากก็ปัดได้ครับ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจะกั๊กออฟชั่นแบบนี้กันไปทำไม

http://www.headlightmag.com/อุทาหรณ์-อันล้ำ604/



KaIaK118

ถ้าจ่ายไหว  ไม่เดือดร้อนด้านอื่น ผมก็เอาที่ครบที่สุดแหละครับ
จะขับเองหรือจะลูกน้อง ยังไงก็ปลอดภัยไว้ก่อนมีดีกว่าไม่มี

ปล. ว่าแต่ได้ไปลองขับเองหรือยังครับ Revo ตอนที่ผมไปลองขับ (ปี 2016) ท้ายเปล่านี่ ดีดๆ เด้งๆ เหมือนในรีวิวเลยนะครับ คือ อาการออกแบบไม่โอเคเลย นั่งแล้วรำคาญมาก อาจจะขับเก๋งจนชินก็ได้ (คหสต)
ผมไปลอง dmax ranger ไม่เป็น สุดท้ายไป ออก PJS แทน ฮา



Amnaj

ราคารถที่แพงขึ้น อย่าลืมต้องเอามาคิดเป็นต้นทุนของธุรกิจ
 
ส่วนใหญ่ที่เห็นรถให้คนงานขับ จะ Low option เกือบทุกที่



pladaek

จำเป็นสิครับ ไม่ว่าจะขับเองหรือลูกน้องขับก็ตาม
ระบบพวกนี้มันช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาได้
ยิ่งภาคใต้ฝนตกบ่อยด้วย อย่างน้อยมันก็ลดความเสี่ยงให้กับตัวเราได้

แต่กรณีนี้ผมมองว่าอยู่ที่กำลังของเรามากกว่า
ถ้าการเงินไม่ลำบาก ผมว่า 2.8 G คุ้มครับ
แต่ถ้าไม่ไหว 2.4 E ก็พอๆกับการใช้งาน แม้จะไม่มีระบบก็ตาม
ซึ่งก็ต้องยอมรับ ณ จุดนี้

อยู่ที่คุณพร้อมจ่ายเพิ่มหรือเปล่า..
ไม่ได้ขับรถเพื่อทำเวลาที่ดีที่สุด.. แต่ขับรถเพื่อเจอช่วงเวลาที่ดีที่สุด..