« ตอบกลับ #43 เมื่อ: มีนาคม 08, 2018, 05:36:26 »
ผมก็เป็นครับ ขับไปไหนมาไหนปกติผมขับเร็วเลยไม่ง่วง หรือถ้าไม่เร็ว แต่มีอะไรเป็นโจทย์บนถนนก็จะไม่ง่วง เช่นรถเยอะต้องแซงไปแซงมา หรือมีโค้งให้เล่น หรือคิดหาตรรกะออกจากเขาวงกตรถกั๊ก
แต่ถ้าต้องขับพาพ่อแม่ท่านเข้ามา กทม. ผมต้องขับไม่เกิน 120 ผมต้องขับไม่เปลี่ยนเลนบ่อย จะเบรคจะแซงต้องนุ่มนวล ผมเลยตัดปัญหาโดยการขับช้าๆ และเว้ยระยะห่างเยอะๆ ซซึ่งมันเวิร์คในแง่ของการขับให้นั่งสบาย แต่เพราะขับแบบนี้มันขับง่ายขึ้น และพอไม่มีโจทย์อะไรให้คิดแก้ปัญหา ก็ขับไปแบบมึนๆทื่อๆ แล้วก็จัง่วงตามมาครับ ผมขับแบบนี้ได้ไม่เกิน 15 นาที ก็จะง่วงทุกครั้ง แล้วพอง่วง ความเร็วจะค่อยๆช้าลง จาก 120 เหลือ 100 เหลือ 80 เจอโค้งที่ต้องเลี้ยวก็จะหักพวงมาลัยช้าลง พอถึงที่ๆต้องเบรคก็จะตอบสนองช้าลง ผมจะพาพ่อแม่ลงข้างทางมา 3-4 ครั้งแล้ว แต่แค่ออกนอกเลนไปคร่อมเลนอื่น หรือไปขับอย่บนไหล่ทาง แล้วตกใจเลยหักพวงมาลัยกลับมาทัน ทั้งๆที่ไม่ได้อดนอน กาแฟก็กินก่อนขับเป็นปกติแล้วครับ
สำหรับผม การขับแบบไม่มีอะไรให้สมองทำงาน (คือมีโจทย์ให้สมองคิดน้อยกว่าปกติ) ทำให้ง่วง และเมื่อขับตอนง่วง ใน 1 ชม. จะออกนอกเส้นทาง เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุมากกว่า การขับเร็ว 1 ชม. ที่ไม่เคยหลุดไปขับคร่อมเลนหรือออกนอกเส้นทางเลนตัวเองเลยครับ
+1 ผมก็ไม่เคยใช้เรื่องง่วงเป็นข้ออ้างในการขับเร็ว ไม่ได้อดนอน กาแฟพร้อม ผมก็ง่วงแบบท่านเลยครับ
บันทึกการเข้า
Isuzu มังกรทอง, Accord G4, Colorado, Hilux Tiger, Lancer MK I, Triton, D-Max Cab4, TiiDA, Mazda2 MK I, Mazda2 MK II, D-Max Space, Fortuner, Sunny B14, Jazz GK, Accord G9, Mazda2 Sky, GLA200, Yaris, Alphard30, Lancer MK II, Lander MK III, Ranger MC, XL7, Forester SK