// Preview อัตราเร่ง อัตราสิ้นเปลือง Toyota C-HR 1.8 Hybrid High : 1,159,000 //

[Magl]

น่าจะมีเข้าใจอะไรกันผิดหรือคาดหวังเอาไว้เยอะหรือเปล่าครับ ไฮบริดมันเป็นรถรักษ์โลกปล่อยมลพิษต่ำ อย่าเอาไปเทียบกับรถพรีเมียม d segment ที่ให้กำลังแรงราคามันต่างกันเยอะ ก็เข้าใจว่าด้วยราคาทำให้มันอดไม่ได้ที่จะเทียบกับ civic turbo ทั้งที่รถคนละ segment ซึ่งรถ turbo มันแรงกว่าอยู่แล้ว ความคุ้มค่าตัวรถแต่ละคนมันไม่เท่ากันครับ ทั้งตัวรถและอ็อปชั่น civic กว้างกว่า แต่เตี้ยกว่า แรงกว่า อ็อปชั่นความปลอดภัยน้อยกว่า ประหยัดน้อยกว่า ส่วน chr สูงกว่า แคบกว่า อัตราสิ้นเปลืองจริงๆแล้วในเมืองจะประหยัดกว่ารถพวกturbo แน่นอน ทางไกลคงไม่ได้ประหยัดมากนัก ข้อดีข้อเสียต่างมีแตกต่างกันไป ทำไม chr ในญี่ปุ่นถึงเยอะมาก ก็เพราะมันเป็นรถที่เน้นประหยัดปล่อยมลพิษต่ำไงครับ ในประเทศไทยน่าจะชอบรถ turbo มากกว่าน่าเสียดายตัว 1.2 turbo ไม่ทำตลาด
ปล. ผมตามอ่านกระทู้ที่นี่มาหลายปี โตโยต้าไม่เคยได้รับคำชมเรื่องการขับขี่มาตลอด ทั้งระบบรักษาความปลอดภัยมีน้อยกว่ายี่ห้ออื่น ตอนนี้เค้าให้มาครบ มาตรฐานก็ถุงลม 7 ใบ ระบบ vsc ครบ ตั้งแต่อีโคคาร์ ก็ยังไม่วายโดนบ่นน่ะครับ ผมไม่ใช่สาวกค่ายไหนน่ะครับที่บ้านใช้รถญี่ปุ่นหลายยี่ห้อเลย

[sukhontha]

ดราม่าเยอะหน่อย

   ที่ผมบอกอืด...ผมเทียบกับหน้าตา  บุคลิกของรถครับ 

  รูปร่างหน้าตาแบบนี้  ตัวเลขมาแบบนี้  คือมันขัดแย้งความรู้สึก  ไม่ได้เกี่ยวกับขับเร็ว ช้าอะไร

  ถ้าเป็นรถหน้าตาบ้าน ๆ  มันวิ่งได้แบบนี้  ไม่มีใครว่า  แต่นี่ ไม่ใช่แบบนั้น  มันก็เลยเป็นคราม่า............

[Magl]

ดราม่าเยอะหน่อย

   ที่ผมบอกอืด...ผมเทียบกับหน้าตา  บุคลิกของรถครับ 

  รูปร่างหน้าตาแบบนี้  ตัวเลขมาแบบนี้  คือมันขัดแย้งความรู้สึก  ไม่ได้เกี่ยวกับขับเร็ว ช้าอะไร

  ถ้าเป็นรถหน้าตาบ้าน ๆ  มันวิ่งได้แบบนี้  ไม่มีใครว่า  แต่นี่ ไม่ใช่แบบนั้น  มันก็เลยเป็นคราม่า............

ก็จริงครับ บางคนซื้อรถเพราะหน้าตา บางคนซื้อเพราะคุ้มค่า บางคนต้องการแรงๆ บางคนเน้นอ็อปชั่น ความต้องการคนเราไม่เหมือนกัน พอรถแรงๆหน้าตาบ้านๆอย่างsylphy turbo ก็ว่าไม่เข้ากับหน้าตาอีก นานาจิตตังครับ

[DriveOnly]

ว่าด้วยเรื่องความประหยัดคันนี้ถ้าเน้นใช้ในเมือง ประหยัดกว่ารถทุกคันยัน eco car และ 1.5 ดีเซล ของมาสด้าแต่ แน่นอน เส้นทางเดียวกัน สภาพการจราจรคล้ายกัน หมดถังเติมใหม่แล้วนำมาคำนวณ eco car ได้ 11-13 กิโลลิตร 1.5 ดีเซล ได้ 16 กิโลลิตร+ ct200h ได้ 18-20 กิโลลิตร รถ 2.0 เบนซิน ไร้ซึ่งเทคโนโลยี ได้ 9-10 กิโลลิตร เบนซ์ดีเซลไฮบริด ได้ 12-13 กิโลลิตร

แต่ถ้าวิ่งทางไกลความประหยัดเครื่องดีเซลเอาไปกิน แต่ทุกคันที่กล่าวมาล้วนวิ่งเกิน 20 กิโลลิตรทั้งนั้นยกเว้น 2.0 เบนซิน
ว่ากันเรื่องความแรง ถ้ารถเน้นประหยัด ความแรงมันก็จะลดลงตาม ม้าเยอะย่อมกินเยอะ
ว่าแต่จะดราม่ากันไปทำไม ซื้อรถก็เน้นใช้ตรงตามวัตถุประสงค์ดีที่สุด เงินใครเงินมัน

[Jacob]

ถ้าติดตามข่าวก็น่าจะรู้กันอยู่แล้ว รีวิวเมืองนอกก็บ่นอยู่เรื่องเดียวคืออัตราเร่ง นอกนั้นก็ชมเรื่องช่วงล่างกัน ฝั่งเมกาเลยมีเครื่อง 2.0 L ด้วย แต่อัตราเร่ง 0-100 ก็ยังแค่ 10.50-11 วิ คิดว่าพี่โตคงไม่เน้นซิ่งนะ เน้นประหยัดมากกว่า แต่ไฮบริดมันก็ดีตรงเวลาแซงไม่ต้องมารอรอบ ถามว่าพอมั้ยในการเร่งแซงมันก็พอแหละ แต่อย่าไปเทียบอัตราเร่งหรือวิ่งแข่งกับยี่ห้ออื่น
รอดูรีวิวฉบับเต็มว่าการทรงตัวขณะขับเร็วๆเป็นยังไง จะมั่นใจแค่ไหน
ปล. เครื่อง 1.8 แต่เป็น atkison cycle เคยมีการตั้งกระทู้แล้ว มันพัฒนามาจากเครื่อง 1.4 แต่กลไกลมันทำให้ดันลูกสูบได้ไกลขึ้นจนเป็น 1.8 ดังนั้นจึงกินน้ำมันเท่ากับเครื่อง 1.4 แต่มีความแรงเท่าเครื่อง 1.5 ถ้าวิ่งไกลๆก็น่าจะประหยัดเหมือนเครื่อง 1.4 นะ(แต่น้ำหนักมากกว่า แถมเสียกำลังไปปั่นไฟเข้าแบตเวลาแบตหมด โดยรวมคงไม่เท่ากับ 1.4 ซะทีเดียว) เอาเป็นว่าไม่ควรไปเทียบกับเครื่อง 1.8 ตัวอื่น (แต่รุ่น 1.8 แท้ๆไม่รู้อัตราเร่งเป็นยังไงบ้าง แล้วติดแก๊สก็น่าจะประหยัดกว่า)

[aod]

ใครบอกว่า พอๆกับ vios. ครับ  จะสู้  vios 2006  mt ผมได้ยังไง 

[Shiro]

ผมขับ Dmax 1.9 AT 4 ประตู อัตราเร่งก็ประมาณนี้นะครับผมไม่เห็นจะมีปัญหาเลย
ผมว่านะรถจะแรงหรือไม่แรง อยู่ที่คนขับมากกว่าที่ตัวรถรึป่าวครับ ถ้าเราไม่รู้จักนิสัยรถตัวเองจะขับได้ยังไง

[chatier]

บางทีก็อยากรู้

ต้องแรง เร็วขนาดไหนถึงจะพอ  เห็นบางท่านบอกอืดจัง ไป ตจว อันตราย

ต้องถูกขนาดไหนถึงจะดี  บางท่านบอกแพงมาก

ต้อง option เยอะขนาดไหนถึงจะเหมาะสม

กับรถสมัยนี้ออกใหม่ 1 คัน

ถ้าให้เดา  ยอดคงไปได้ดีเพราะเริ่มเห็นวิ่งกันเยอะละ

จริงครับ 5555 อ่านมาหลายคอมเม้นท์ เห็นแล้วคันมาก แต่ขี้เกียจไปตอบด้วยให้เป็นดราม่า ต่างคนต่างความคิด

ผมเองกำลังพิจารณารถใหม่อยู่ มอง Civic HB / CHR อยู่สองตัว ใจผมจริงๆมาทาง Civic เพราะน่าจะขายต่อง่ายกว่า (คันนี้กะใช้ 4-5 ปี) และอัตราเร่งดีกว่ามาก แต่ก็ติดปัญหาเรื่องความนั่งไม่สบายของมัน และช่วงล่างที่ไม่มั่นใจเท่า (พรีอุสยังมั่นใจกว่าเอาตรงๆ พอดีศูนย์ที่ไปลองให้เทสได้ค่อนข้างไกลเลยได้ลองขับแบบมีความเร็วบ้าง) และความเตี้ยมากๆที่ทำให้เวลาขับแล้วต้องชะเง้อมอง นี่ผมเทียบกับผมขับ Prius ที่ใช้อยู่ทุกวันนะไม่ใช่ไปเทียบกับ CHR ด้วย ส่วนเจ้า CHR ก็กลัวว่า ถ้าใช้แค่ 4-5 ปี จะวิ่งได้ไม่คุ้มค่าระบบที่ราคาจะตกหรือเปล่า (แต่แฟนผมบอกไม่เอา Civic HB เลย จะเอาแต่ CHR แต่ตัวเองก็บ่นว่า Prius ราคาตกจังเลย)

เอาเป็นว่าจากใจ Prius user ที่เขาก็แปะตัวเลขเอาไว้ให้ด้านล่างในบทความเทียบกันแล้วนะครับ เทียบกับ CH-R นะ ผมไปลองคันจริงมาหลายรอบ ต่างศูนย์ ต่างสถานที่ ผมไม่รู้สึกเลยว่ามันช้ากว่าคันที่ผมเพิ่งจะกระโดดลงมาแล้วมาขับ ทั้งๆที่ตัวเลขก็ต่างกันเป็นวิแบบนั้น ความรู้สึกตอนขับคือ มันดีมาก ดีแบบฟิน แล้วพูดตรงๆด้วยว่า ขับแล้วชอบฟีลมากกว่า Civic HB มันรู้สึกสบาย นั่งก็สบายเบาะดีกว่ามาก มุมมองก็ดี ด้านหน้าดูโปร่งมองรอบๆเห็นรถรอบๆคันดีใช้ได้ อัตราเร่งไม่แรง แต่พอใช้งานแน่นอน

ที่บอกอืดจังไป ตจว. อันตรายผมคงต้องบอกว่า ถ้างั้นไอ้พวก Eco car ที่เห็นซิ่งกันอยู่บนมอเตอร์เวย์ หรือทางหลวงต่างจังหวัดน่ะ ไม่มีคันไหนเร็วกว่า CH-R เลยนะ ยกเว้น Mirage แล้วไอ้อัตราเร่ง 12 วิเนี่ย มันก็พวกกระบะ 4 ประตูเครื่อง low แทบทุกรุ่นเลยนะ รวมไปถึงพวก PPV ทั้งหลายด้วย ที่เห็นบ่นว่าจี้ตูดๆกัน มันก็อัตราเร่งแซงประมาณ 9-10 กันทั้งนั้น พอๆกับ CH-R นี่เลย ตัวเลข กับในชีวิตจริง ไม่ได้เหมือนกันตลอดซะหน่อย ถ้าไปขับแข่งในสนามอันนี้แหละ ถึงจะเริ่มแตกต่างกันบ้าง

เรื่องราคา เห็นบ่นกันชิปเป๋ง เหมือนตอน HR-V เปิดตัวเลย บ่นและสาปส่งว่าขายไม่ดีแน่ แล้วตอนนี้เป็นไงครับ? HR-V นี่วิ่งกันทั่วบ้านทั่วเมือง CH-R กับ HR-V เบนซิน ถ้าเอาตารางออพชั่นมากางดูจริงๆ ไอ้ตัว CH-R 1.8 Mid ราคา 1.039 ล้าน กับ HR-V E-Limited 1.05 ล้าน จะบอกว่าออพชั่นไมไ่ด้หนีห่างกันมากเลยนะ บางอย่าง CH-R ก็ดูดีกว่าด้วย บางอย่าง HR-V ก็ให้มาดีกว่า สลับๆกันไป ผมว่าก็สมเหตุสมผล แถมอันที่จริง CH-R ในรุ่นที่เทียบกันได้ ก็จะถูกกว่าหน่อยๆ แค่มันไม่มีตัวที่ถูกกว่า 979k แค่นั้น ซึ่ง HR-V ดันมีตัว S ออพชั่นโล้นๆ ราคา 933k มาให้อีกรุ่นนึง (ซึ่งหาดูยากมากบนถนน) ผมเชื่อว่าทีมการตลาดโตโยต้าคงดูมาแล้วว่า ไม่ต้องมาทำขายให้เปลืองสต๊อกอะไหล่แน่เลยตัดออกไป ให้คนที่เค้าดูละเอียดๆเวลาจะซื้อมาเทียบดูกันเอง แต่ก็แลกกับการที่เปิดตัวตอนแรกจะโดนด่าว่า อะไรวะ ตัวถูกสุดแม่งแพงกว่ากัน 4-5 หมื่น แต่คนที่จะซื้อจริงๆพอมากางแคตะล็อกดูเขาย่อมรู้ว่ามันต่างกันยังไง ผมมองว่า รถ 2 คันนี้ดีงามไปคนละด้านจริงๆ

สมัยนี้ซื้อรถ 1 คันถ้าเอาตามที่ผมอ่านจากความเห็นอื่นๆ ในหลายๆกระทู้ ต่างกรรมต่างวาระนะ

1. อัตราเร่ง 0-100 ขอต่ำกว่า 9 วิ ลงมา ต่ำกว่า 8 ได้ยิ่งดี 80-120 ขอต่ำกว่า 7 วิ จะเอาไปแข่งกับกระบะดันราง
2. รูปทรงต้องสวยบาดใจวัยรุ่น
3. ราคาต้องไม่เกิน 1 ล้าน ถ้าเกินนี้ด่า ถ้าได้ต่ำกว่า 6 แสนจะกรี๊ด
4. ออพชั่นต้องล้นๆคัน ใช้ไม่ใช้ค่อยว่ากัน
5. อัตราสิ้นเปลืองห้ามต่ำกว่า 17 โลลิตร ไม่งั้นจะโดนตราหน้าว่า "ไม่เห็นประหยัดเลย"
6. ต้องไม่ใช่รถตลาด เดี๋ยวไม่อินดี้

ถ้าที่ผมโพสท์ไปทำให้ใครไม่พอใจต้องขออภัยไว้ตรงนี้นะครับ ยังไงก็เป็นแค่ความเห็นส่วนตัว ที่บ่น เพราะรู้สึกว่าหลังๆ บอร์ดเราก็ไม่เห็นจะเป็นสังคมคุณภาพอย่างที่คนรุ่นบุกเบิกเว็บนี้พยายามให้มันเป็น บางทีอ่านแล้วก็เบื่อ ไม่ค่อยอยากตอบมาก อยากถามมาก เพราะผมใช้แต่รถตลาดกลัวโดนด่าอีกไรงี้ แล้วไอ้ที่โพสท์ยาวๆนี่ ก็ไม่ได้จะออกมาปกป้อง CH-R หรืออะไร แค่อยากให้มีมุมมองที่หลากหลาย ว่าจริงมั้ย ที่ว่าออกต่างจังหวัดอันตราย ไม่พอใช้งานแน่ๆ ราคาแพงมาก ไรงี้

แต่ถ้าทำให้มีปัญหา ผมยินดีขอโทษและให้แอดมินลบโพสท์ได้นะครับ

555คันด้วยครับ
คนอคติในนี้มันเยอะครับ สบช่องก็หาเรื่องติกันไป
บางคนความรู้ก็ไม่มี ขับก็ไม่เคยขับ ฟังคนอื่นเค้ามายังเอามาโม้เป็นคุ้งเป็นแคว
ตอนโตโยต้าทำยาริสตัวที่แล้วออกมาแรงผิดปรกติ ก็หาว่าอากาศเย็นแหงๆผลถึงได้ออกมาเกิน(ที่เค้า)คาดหมายขนาดนั้น
เกิดเป็นโตฯทำอะไรก็ผิด

[boogie2020]

12 วิ  ผมว่ามันก็กลางๆ  นะ ระดับ 9-10 วิ นั่นคือตัวแรง ๆ  รุ่นกลางๆ  ก็อยู่แถว 11-12 วิกันมากมาย  มันแปลกตรงไหนนิ ?

ถ้า CHR  บอกว่าอืด  แล้ว XV จะไปอยู่ตรงไหนละคับ ?? 

[the kit]

เข้ามาดู

[HHHsung]

การตลาดกั๊กๆ ก็แบบนี้แหละ รูปทรงเน้นขายวัยรุ่นวัยทำงานตอนต้น แต่อัตราเร่งแย่ เกิดใครได้ลองขับ first impression น่าจะหดลงไปพอควร

เดาว่าพี่โตก็รู้ เลยอัดออฟชั่นเยอะๆ กระตุ้น ไม่งั้นคนจะหนีไปซื้อ 1.8 หมด แล้วได้ยอดขายจิ๋มๆ อายเค้าตาย

รอดูเทส 1.8 แต่จากน้ำหนักก็พอเดาได้ว่า น่าจะตีตื้น HrV ได้ จริงๆ รถพวกนี้ ไม่ควรแรงมาก เพราะการทรงตัวมันเป็นรองรถซีดานเตี้ยๆ พอควร

แต่มีติดตัวหน่อยก็ดีกว่า ไม่งั้นมันจะดูไม่สมราคา

ปล. คหสต. อัตราเร่งขนาดนี้ ถือว่าราคารถตั้งมาแพงไปครับ ขอดู 1.8 ดีกว่า

[Hadoken Shoryuken]

"คนบ่นไม่ซื้อ......คนซื้อไม่บ่น"
อยู่ที่ Feeling ล้วนๆ

[TNN]

คือถ้าบอกว่า "แต่ C-HR มันมีดีที่ประหยัดกว่า"

งั้นก็จบแล้วครับ
New swift ประหยัดระดับ 19.00 กม./ล. อัตราเร่ง 0-100 = 12.96 s
C-HR ประหยัดระดับ 20.21 กม./ล. อัตราเร่ง 0-100 = 12.23 s
ถ้าจะเน้นแค่ประหยัด ผมจะมอง C-HR ทำไม?

"เหมาะกับขับในเมือง"
---> มันก็เหมาะทั้งคู่

"ถุงลมรอบคัน" swift กับ C-HR มันก็รอบคันใกล้ๆเคียงกัน
อาจมีแตกต่างบ้างแค่ ระบบ Pre-safe ที่ CHR อาจจะให้มามากกว่าในตัว Top

ถามว่า "ถ้าจะเอาแค่ประหยัด ปลอดภัย ไว้ขับในเมือง"
ผมนี่ไม่มอง C-HR เลยถ้างั้น
eco car อย่าง swift มันก็ตอบโจทย์แล้ว แถมถูกกว่ากันเกือบครึ่ง ค่าบำรุงรักษาก็ถูกกว่า ขายต่อก็ง่ายยกว่า ง่ายกว่าขายไฮบริด ที่หลายคนกังวลว่าจะราคาตก

นี่ไง ถ้าพูดเอาแค่ข้อดีของรถแค่ประเด็นเหล่านี้ C-HR เข้ามาอยู่ตำแหน่ง Eco car ไปแล้วหรอ?
ซึ่งมันไม่ใช่
และที่มันดราม่า เพราะ
1. มันเครื่อง 1.8 ไม่ใช่ 1.2 ไม่ใช่ Eco car ---> ดังนั้นคนเลยคาดหวังว่า มันต้องแรงกว่า eco car อย่างน้อยก็ควรใกล้เคียงเพื่อนร่วมรุ่นมันอย่าง HRV ที่ 10 กว่าๆ แต่ทำไม่ได้ หลายคนผิดหวัง ทั้งๆที่ชีวิตจริง 12 วิ กับ 10 วิ มันไม่ได้ต่างกันราวฟ้าเหว แต่อันไหนดีกว่ามันย่อมน่าพอใจ เพราะมันบอกถึงว่าคุณได้รถสมรรถนะดีในราคาที่เท่ากัน ทำไมไม่เลือกคันที่แรงกว่า ต้องตอบให้ได้ แล้ว 2 วิ มันไม่ปลอดภัยกว่าหรอ? เพราะอุบัติเหตุมันเกิดกันเสี้ยววินาที รู้ได้ไงว่า ช้าไป 2 วิ มันจะยังคงปลอดภัย?

2. ถ้าจะทำให้ประหยัด มันก็น่าจะแรงด้วย ไม่ใช่ประหยัดแล้วทำให้แรงไม่ได้ เพราะถ้าแค่ประหยัดระดับ 19-20 km/L swift ก็ทำได้ และแรงเท่าๆกัน
คนจึงมองว่าไม่คุ้ม จะซื้อมาทำไม เมื่อราคาเท่านี้คนชอบแรงๆสามารถไปหา Civic RS ยังได้ในราคาที่ใกล้กัน หลายคนจึงมองว่าจริงๆ โตโยต้าทำได้ แต่ไม่ทำ แล้วทำไมเราต้องเลือกรถที่มีข้อแม้
3. ถ้าจะบอก แต่เราขายความปลอดภัย โอย Mirage ก็เบรคเองได้ มีเตือนนู่นนี่นั่น ในราคาครึ่งนึงเท่านั้น Note ก็มี around view มี pre-safe พอได้
4. จะบอกว่า แต่ช่วงล่างเราดีนะ โอย Mazda2 ทั้งเงียบ ทั้งช่วงล่างดี ราคาถูกกว่าเท่านึง
และอีก ฯลฯ ที่คนจะแย้งกัน จะดราม่ากันไป

เพราะอะไร ก็เพราะแต่ละคนมองต่างมุมกันทั้งนั้น บางคนเน้นประหยัดก็ว่า CH-R ดี บางคนสายซิ่งก็ว่าห่วย ไม่คุ้ม ไป Civic RS ดีกว่า
ดังนั้นมันไม่มีรถอะไรที่ดีที่สุด เพอร์เฟคไปหมดใน1คัน ในราคาที่ถูกๆ หรอกครับ
แล้วแต่คนเลย
ก็วิจารณ์กันไปได้ล่ะครับ เคารพความคิดของแต่ละคน

บางคนเชื่อสิว่า ไม่สนใจ อัตราเร่ง อัตราสิ้นเปลือง ช่วงล่าง อะไรทั้งนั้น
สนใจแค่ว่า "ชั้นชอบสีฟ้าเขียวของ C-HR" จบป่ะ
จบ

[ชายโอ๊ต]

ประหยัดดีนะครับ
แต่ดูไม่ค่อยแรงปรี๊ดปร๊าดเลยครับ

[Kris.J]

อัตราเร่งช้ามากกสำหรับรถยุคนี้ แต่สาเหตุหลักเพราะ นน ตัว คันเล็กนิดเดียวจะหนักอะไรขนาดนี้
ต่อให้เป็นตัว 1.8 หนัก 1380 เยอะกว่า Altis อยู่ราวๆ 100kg กับทรงต้านลม ก็คงอืดไม่ต่างกัน

เฟืองท้าย ตัว 1.8 ทดไว้จัดกว่า hyb มากๆครับ


ส่วนตัวมองว่าอัตราเร่งตัว hybrid พอไหว ไม่ถึงกับดี ถ้าชอบจุดอื่นคงซื้อ...เผอิญผมไม่ชอบอะไรในรถคันนี้นอกจากช่วงล่างของมันเลย