สวัสดีทุกๆท่านครับ
ก่อนอื่นเลยต่องบอกว่า เรื่องที่จะมาแชร์ มาเล่าให้เพื่อนสมาชิกทุกท่านให้ฟังนี้ไม่มีเจตนาในการ discredit ใคร จะไม่มีการบอกชื่ออู่ ชื่อร้าน ชื่อช่างที่ไปทำใดๆทั้งสิ้นนะครับ
หวังแค่ประสบการณ์ที่ผมประสบพบเจอมานั้น จะเป็นเครื่องมือช่วยท่านทั้งหลายประกอบการตัดสินใจ ผมเชื่อว่ามีหลายท่านก็กำลังมองหาทางเลือกเพิ่มความแรงให้กับสี่ล้อคู่ใจอยู่ไม่มากก็น้อย
ข้อมูลทั่วไป
Lexus IS (Intelligent Sport) ตอนนี้มีด้วยกันอยู่ 3 generation
ตัวแรก Gen1 XE10 (1998-2005)[img width= height= alt=YjlNry.jpg" border="0]https://www.picz.in.th/images/2018/04/24/YjlNry.jpg[/img]
รถsport sedan ขนาดcompact แชร์ platform กับ toyota altezza ในบ้านเรายังพอเห็น altezza บ้าง แต่ แฝดคู่พี่ ไม่เคยเห็น ไม่รู้ว่าทาง lexus thailand ได้เอาเข้ามาขายไหม
สำหรับตลาดโลกในช่วงแรก มีเครื่องยนต์แบบเดียวให้เลือก คือ
Is200 1g-fe VVTI 160 hp @6200rpm แรงบิด 200nm@4000rpm เป็นเครื่องแบบ inline6 มี ทั้งเกียร์6mt และ 4 at
แต่ตลาดญิปุ่นจะมี เครื่อง 3s-ge Dual VVTI inline4 204hp@7000rpm แรงบิด216nm@4600rpm เป็นทางเลือกเพิ่มเติม
ตัวมี่ขายในบ้านเราก้ที่เป็น altezza ก็เป็นเครื่อง 3s-ge เกียร์ AT
ต้องรอหลังปี 2000 ถึงจะมี model Is300 พร้อมเครื่อง 2jz-ge 3ลิตร 5speed AT แต่ดันไม่มี option เกียร์ ธรรมดาให้เลือก
ตอนนี้พวกฝรั่ง ฮิต เอาเครื่อง 2jz-gte แล้วแปลงเป็น turbo เดี่ยว มาวางกันมาก เรียกกันเล่นๆ ว่า 4door supra
ตัวที่สอง Gen2 XE20 2006-2013[img width= height= alt=YjoRV2.jpg" border="0]https://www.picz.in.th/images/2018/04/24/YjoRV2.jpg[/img]Generation นี้แชร์ platform กับ toyota markX แต่บอกเลย ขับแล้วคนละเรื่องเดียวกันกับ lexus IS ทั้งที่เครื่องเกียร์ และ part ต่างๆ บางชิ้นเหมือนกัน
สำหรับตลาดโลก ในช่วงแรกมี 4 เครื่องยนต์ให้เลือก
1.) 2.2L 2AD-FHV inline 4 desel turbo 150hp แรงบิด 340nmสำหรับ ตลาด europe model IS220D
2.) 2.5L 4gr-fse V6 ระบบหัวฉีด D4 direct injection เครื่องตัวนี้ เป็นเครื่องที่ใส่ขายในบ้านเรา ทั้ง IS250 และ IS250C มีหลาย output ตั้งแต่ 200-212 ม้า แรงบิด243-260nm บ้านเราน่าจะได้ตัว 212ม้า มาพร้อมกับเกียร์ 6speed AT ถ้าสภาพดีๆ เปลี่ยนนิ่มมาก แต่ถ้าซัดหนักๆ ช่วงใกล้ลาโลก ก้จะมีกระตุกให้เห็น
จากประสบการณ์ เครื่องตัวนี้ เปลี่ยน header ท่อไอเสีย กรองอากาศ ลิ้นคันเร่ง จูนกล่อง ปลดล๊อกรอบ shift ที่7200 ทำเต็มที่ ได้ประมาณ 200 ม้าที่ล้อครับ ไม่นับลง supercharge ที่ไม่ค่อยจะ workเท่าไหร่ และ ลงturbo ที่ยังไม่มีใครทำสำเร็จ เดาว่าจาก ห้องเครื่องแคบ และกำลังอัดที่สูง
ไม่เหมาะกับการนำมาแต่งซิ่งซักเท่าไหร่
ปัญหาประจำตัวที่เห็น ก้มีแค่เรื่อง carbon build up ในเครื่อง ฉีดตรงทั่วไป
3.) 3.0L 3gr-fe v6 228แรงม้า แรงบิด 221NM เป็นเครื่องธรรมดา ไม่มีระบบฉีดตรง สำหรับตลาด ตะวันออกกลาง model IS300
4.) 3.5L 2gr-fse v6 พระเอกของเรา
305 แรงม้า แรงบิด 353NM เป็นเครื่อง ระบบหัวฉีด D4S คือมีทั้ง หัวฉีด port injector และ หัวฉีด direct injector แก้ได้ทั้งปัญหา carbon build up ลดอัตราสิ้นเปลือง และ เพิ่มความแรง ได้รางวัล engine of the year หลายปีซ้อนๆกันอยู่ครับ ตอนที่ออกมาถือว่าเป็น No1. ใน class เครื่อง VQ35 ของ nissan ที่ใส่ใน 350z ก้ยังสู้ไม่ได้ครับ
ใส่อยู่ใน IS350 ทั้งตลาดญิปุ่นและตลาดโลก มาพร้อมกับเกียร์ 6 speedAT อัตราทดเหมือน IS250 แต่ต่างกันที่เฟืองท้ายที่ IS350 ทดจัดกว่ามาก
ทำ step NA เดียวกับ เครื่อง 4gr-fse ด้านบน จะสิริรวมแรงม้า ได้ประมาณ 310 ตัว แรงบิด 367NM ที่ล้อ
ปัญหาส่วนตัวที่เจอคือ เครื่องตัวนี้เจอน้ำมันบ้านเราไป หัวฉีดตันอยู่ครับ ทั้ง port ทั้ง direct
[img width= height= alt=YjAD78.jpg" border="0]https://www.picz.in.th/images/2018/04/24/YjAD78.jpg[/img]กร้าฟอาจจะดูแปลกๆ เพราะ เป็นการจูนเก็บแก้จาก แมป เก่า และ ปลดล๊อกรอบ
5.) 5.0L 2UR-GSE V8 417 แรงม้า แรงบิด 505 NM design ร่วมกับ yamaha เครื่องตัวนี้ใส่ใน ISF ที่ออกขายเมื่อปี 2008 ถือเป็น Flagship ของตระกูลIS และเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ BMW m3 benzC63amg และ Audi RS4 มาพร้อมกับ เกียร์ 8 speed at
[img width= height= alt=YjAXSk.jpg" border="0]https://www.picz.in.th/images/2018/04/24/YjAXSk.jpg[/img]
ตัวที่สาม Gen3 XE30 2013-present[img width= height= alt=YjALoQ.jpg" border="0]https://www.picz.in.th/images/2018/04/24/YjALoQ.jpg[/img]
ตัวนี้ไปแบบคร่าวๆละกันนะครับเดี๋ยวจะยาวเกิน
ในข่วงแรกบ้านเราขายอยู่สองตัว คือ
Is300h 2.5L 2AR-FSE Inline4 hybrid ไม่รู้ว่าเครื่องเดียวกับ camry hybrid ที่ขายในบ้านเราหรือเปล่า
IS250F ใส่เครื่อง 4GR-FSE เหมือน GEN 2 แต่เหมือนปรับจูนใหม่ แรงขึ้นจิ๊ดนึง แต่จายแพงมากกกก สุดท้ายไปไม่รอด ยกเลิกไป มีช่วงโล๊ะสต๊อกอยู่พักนึง ลดไปหลายบาท
พอยกเลิก 250 ไป ก้นำ IS200T มาขาย เครื่อง 2.0L 8AR-FTS inline4 turbocharged directinjected 235แรงม้า แรงบิด350 NM with 8speed AT
เท่าที่ลองขับไม่ได้แรงอย่างที่คิด และเกียร์ทำงานช้า เวลา 80-120 เลยไม่ค่อยดี
สำหรับตลาดโลก มีเครื่อง 3.5 2gr-fse ให้เลือก แต่มากับเกียร์ 8speed AT
เข้าเรื่องรถผม IS250 ปี 2007 ซื้อมือสองมาเมื่อปี 2014 ราคาถ้าจำไม่ผิด 820,000 รถวิ่งไป 70k เป็นรุ่นท๊อปก่อน Minorchange เครื่องเสียง mark เจ้าของมือเดียว สภาพดี ไม่มีชน
[img width= height= alt=YjPO1N.jpg" border="0]https://www.picz.in.th/images/2018/04/24/YjPO1N.jpg[/img]
[img width= height= alt=YjPaXa.jpg" border="0]https://www.picz.in.th/images/2018/04/24/YjPaXa.jpg[/img]
[img width= height= alt=YjPGxz.jpg" border="0]https://www.picz.in.th/images/2018/04/24/YjPGxz.jpg[/img]
[img width= height= alt=YjPeWR.jpg" border="0]https://www.picz.in.th/images/2018/04/24/YjPeWR.jpg[/img]
เนื่องจากอาขีพผมเป็นช่างภาพ freelance ทำงานโฆษณา ข่าว ถ่ายรูปต่างๆ เลยต้องใช้รถทุกวัน วิ่งงาน หาลูกค้า เฉลี่ย 3เดือน เปลี่ยนน้ำมันเครื่องที ปีละประมาณ 4 หมื่นโล
กาลเวลาผ่านไป ไวเหมือนโกหก เผลอแป๊ปเดียว เลขไมล์ ก้เข้าใกล้ 2 แสนโล
ระหว่างทางไม่มีอะไรจุกจิกเท่าไหร่ ที่เสียก้มีแค่ ไดช้าต และพัดลม หน้าเครื่อง เท่านั้น ที่เหลือ หัวเทียน สายพาน กรองอากาศ ก้เปลี่ยนตามระยะ ปรกติ
แล้วทำไมถึงเปลี่ยนเครื่อง??คันครับ คันล้วนๆ รถไม่ได้เสีย ไม่ได้เป็นไร เรียนจบมายังไม่หมาดดี เลือดวัยรุ่นมันพุ่ง อยากได้รถแรงๆ เงินที่ทำงานเก็บตังมา ถูกใช้ไปอย่างง่ายดายโดยไม่ได้ย้อนกลับไปคิดถึงตอนที่ลำบากหา
ตัวผมเอง อ่อนทั้งประสบการณ์ ไม่เคยวางเครื่องรถใดๆ อีกทั้ง ตัวรถไม่ค่อยมีคนใช้ ในไทยไม่ค่อยมีคนจับเครื่องมาวาง ที่ต่างประเทศมีตัวแรงขาย ไม่จำเป็นต้องวาง ข้อมูลเลยมีน้อยมาก และผู้ที่นำร่องไปก่อนมีไม่กี่คน
ย้ำอีกครั้งไม่ได้มีเจตนามาดิสเครดิสใคร แค่เป็นวิทยาทานและข้อมูลประกอบการตัดสินใจฉะนั้นผมทำยังไงดีในเมื่อไม่มีข้อมูลเลย?
ก้ต้องยอมเชื่อครับ และไว้ใจคน อะไรเขาว่าดี เราก้คิดว่าดี เพราะความเชื่อและไว้ใจนี่หละครับ ทำให้งานหยาบ
การจะวางเครื่องรุ่นนี้วางแค่เครื่องกับเกียร์ไม่ได้ ต้องมาทั้งหมด
เครื่อง+เกียร์
สายไฟ ECU ต่างๆ
ปั้มเบรค ABS
แพหน้า แพหลัง
เพลาขับ
เรียกว่าแทบทั้งคัน
ถ้าไม่ครบ สต้าสไม่ติด หรือถ้าติด มันก้ไม่สมบูรณ์ ระบบ Vdim VSC ใช้ไม่ได้
นี่คือข้อมูลที่ทราบก่อนวางเครื่องครับ คนวางจัดหาให้ทุกอยาง บอกครบๆ สลับของลงง่ายๆ จบ ใช้งานได้สมบูรณ์ option ทุกอย่างใช้ได้ ภายใน 2อาทิตย์ และรับประกันให้ 2ปี
อันนั้นคือทางทฤษฎี
แต่ในความจริงแล้วนั้น คนละเรื่องเดียวกันครับ เส้นทางมันไม่ได้โรยด้วยกรีบกุหลาบอย่างที่ว่า 5555
[img width= height= alt=Yj63F1.png" border="0]https://www.picz.in.th/images/2018/04/24/Yj63F1.png[/img]
รถในตลาดโลก โดยเฉพาะตลาดญิปุ่น ถึงแม้ว่าจะเป็นเครื่องเดียวกัน model เดียวกัน มันมีก้มีมากรุ่นหลาย option ปัญหาเรื่องสายไฟมาก่อนเลยครับ ขนาดมาครบๆแล้ว option ที่เคยคุยกันไว้ว่าใช้ได้แน่นอน พอถึงเวลาทำจริงก้ใช้ไม่ได้ตามที่บอก เช่น
1.)เบาะแอร์ เป่าตูดก้หายไป เหลือแต่ heater
2.)พวงมาลัยปรับขึ้นลงไฟฟ้า ก้ต้องเปลี่ยนเป็นพวงมาลัยธรรมดา
3.)กระจกข้าง ปรับไม่ได้ พับได้อย่างเดียว
4.)กระจกมองข้างไม่เลื่อนลงเวลาเข้าเกียร์ถอย
และอื่นๆ
เท่าที่หาข้อมูลคือ สายไฟประตู และสายไฟในรถไม่เหมือนกัน เนื่องจากรถผมเป็นตัว top แต่ตัวที่มา เป็นรุ่นต่ำลงมา
ในความคิดของผมคือ โอเค ไม่เป็นไร มัรควรมีทางออก ในเมื่อสายไฟไม่เหมือนกันคนวางก้ควรจะต้องเดิน wiring ให้ใหม่ เพื่อให้สมบูรณ์ตามที่ตกลง
[img width= height= alt=Yj6f7g.png" border="0]https://www.picz.in.th/images/2018/04/24/Yj6f7g.png[/img]
โนครับ.....
ไม่ทำให้ ตังก้จ่ายไปแล้ว อ้างนู่นนี่ ผลัดไปเรื่อย ทิ้งงาน เดี๋ยวหาช่างให้ บลาๆ
ระยะเวลาในการลงเครื่องที่คุยกัน จาก2 อาทิตย์ กลายเป็นสองเดือนแล้วก้ยังไม่เสร็จ หนักข้อเข้าก้คือผมต้องเอาลูกน้องมาช่วยประกอบด้วย เพราะ ทิ้งงานไปทำคันอื่น รถคาไว้บน ฮ๊อย
ระยะเวลาสอง สามเดือนที่วางเครื่องอยู่นั้น ผมหาเวลาเข้าไปช่วยทำทุกขั้นตอน อย่างน้อยอาทิตย์นึง 3-4 วัน งานการไม่เป็นอันทำ ก่อนจะไปผมนัดล่วงหน้าทุกครั้ง สิบโมง สิบเอ็ดโมงก้ว่าไป แต่เราไปถึงอู่ ต้องนั่งรอจนบ่ายตลอด บางวันทนไม่ไหวกลับก่อน ไม่ได้เจอหน้ากันก้มี
อะไหล่บางชิ้นใช้ของเดิมติดรถ ไม่ยอมเปลี่ยนจากเครื่องใหม่ลงให้ เช่นหม้อน้ำ คานด้านในรถที่ต้องเปลี่ยนเอา version ที่ไม่มีพวงมาลัยปรับไฟฟ้ามาใช้แล้วของเก่าก้ของผมก้ไม่คืน
ผิดที่ผมเองที่ไม่ได้ทำเอกสารสัญญาอะไรเอาไว้ มีแต่สัญญาลมปาก ที่ตกลง เพราะความไว้ใจ เห็นว่าเป็นพี่น้องที่รู้จักกันมา
[img width= height= alt=YjCRXf.jpg" border="0]https://www.picz.in.th/images/2018/04/24/YjCRXf.jpg[/img]
สุดท้ายพอรถออกมาได้ พร้อมปัญหาเป็นขบวนเพิ่มเติมจากด้านบน
1.)น๊อต แทบทั้งหมด ทั้งภายใน ภายนอก รวมถึงช่วงล่าง ต้องขันย้ำใหม่ เพราะไม่แน่น หรือบางตัวแค่เสียบคาไว้
2.)ตอนแรกรถมาอาการเบรคแล้ว ฉกไปทางด้านขวา เบรคแรงๆ ล้อล๊อกแล้วไม่คืน ทำให้รถหมุน ไล่ไปไล่มา ต่อสายน้ำมันเบรคที่วิ่งมาปั้ม ABS ผิด
3.)ตุ๊กตาเพลาไม่ได้ขัน เพลาใส่มาขันไม่แน่น เวลาออกตัว เกียร์ 1-2 ดังกักๆ
4.)ไดช้าตเสีย
5.)คอมแอร์เสีย 2 ตัว
และอื่นๆ ยังไม่นับรวม พวก อ่างน้ำมันเกียร์รั่ว น้ำมันเครื่องรั่ว และน้ำรั่ว
[img width= height= alt=YjCURq.jpg" border="0]https://www.picz.in.th/images/2018/04/24/YjCURq.jpg[/img]
[img width= height= alt=YjC5M8.jpg" border="0]https://www.picz.in.th/images/2018/04/24/YjC5M8.jpg[/img]
อาการเหล่านี้ เมื่อแจ้งไปแล้ว ก้เกิด อาการ อยู่ดีๆก้หาย ไลน์ ไม่ตอบ 55555
มีได้เข้าไปเก็บงานอยู่ประมาณ 2-3 ครั้ง แต่เวลารับรถกลับมา ก้อาการเดิม เหมือนไม่ได้ทำ หรือมาเร่งทำเอาวันสุดท้ายก่อนส่ง
หนักที่สุดคือรถออกมาได้ 2 เดือน เกียร์ มีอาการ กระตุกแรงที่ เกียร์ 4 ไป5และ แรงดันตก เวลาเปลี่ยนจากเกียร์ 5 ไป 6
พอกลับเข้าไป ได้ความว่าตัองสั่งเกียร์มือสองมา เนื่องจากเกียร์พัง
ปวดหัวครับ
จากที่คิดว่าจะจบเรียบร้อย onestop service
ต้องมาหาที่เก็บงานต่างๆ ทั้งระบบ เครื่องยนต์ สายไฟ ช่วงล่าง พูดง่ายๆคือไม่เรียบร้อยหนะครับ ไปหาช่างที่ไหน เขาก้เกาหัวแกร๊กๆ ถามว่าใครทำและปล่อยรถออกมาได้ยังไง 5555
ทุกวันนี้ เกือบจะครบ 1 ปี วันที่ตัดสินใจลงเครื่อง
พูดอย่างไม่อายว่า บางอย่างก้ยังต้องเก็บงานแก้ปัญหาอยู่ ถึงแม้ว่ารถจะสมบูรณ์ขึ้นมาก และขับ เป็น daily drive ได้อย่างสบายใจ
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจสงสัยว่าผมยอมได้ยังไง
มันพูดยากนะครับ มันคือสภาวะกลืนไม่เข้าคลายไม่ออกอย่างแท้จริง
รถเราอยู่กับเขา พูดมากเขาก้ไม่ทำ จะวางยาหรือเปล่าก้ไม่รู้ เอกสารสัญญาอะไรก้ไม่มี คือเหมือนภาวะจำยอมครับ สุดท้ายก้ต้องให้เครดิตเขาว่า ก้ทำรถออกมาวิ่งได้อย่างที่เครมจริงๆ ถึงแม้จะยังไม่สมบูรณ์ เรียบร้อยในสายตาของเรา
มันเป็นบทเรียนราคาแพง(มาก) ที่ไม่ใช่ทุกคนควรจะเจอครับ..... มันควรจะป้องกันได้ไม่ยาก ถ้าใช้ความเชื่อใจหรือไว้ใจ ให้ถูกที่ ถูกคน
ที่เล่าให้ฟังข้างต้นคือ ฉบับย่อ ไม่ใช่ทุกอย่างที่เจอ แต่น่าจะพอเห็นภาพกันนะครับ
ผมเป็นคนคิดมาก คิดเย้อะ แต่พยายามที่จะมองโลกในแง่ดีครับ ในเรื่องแย่ๆ มันจะต้อง มีเรื่องดีเสมอครับ พยายามมองเรื่องดีๆ ไม่ให้จิตตกไผมากกว่านี้ ถึงแม้ว่าผมจะเสียเงินไปหลาย 5555 แต่ก้ถือว่าได้ความรู้เย้อะ ได้รู้จักนิสัยคน รู้จักรถตัวเอง รู้วิธีซ่อม จัดการปัญหา และการหาอะไหล่ ถือว่าเป็นประสบการณ์ คอยย้ำตัวเอง ว่าจะไม่พลาดแบบเดิม
ที่สำคัญที่สุด รถดีมากครับ แรงดี ขับสบาย และไม่กินน้ำมัน
จากเครื่องเดิม250 เครื่อง 2.5L ขับอารมคุณชาย พอเป็น 350 เครื่อง 3.5L เกรี้ยวกราดขึ้นมาก แต่ขับง่าย มีความ linier กดแค่ไหนมาแค่นั้น บุคลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ รอบกวาดไว เสียงหวาน สไตล์ เครื่อง NA
0-100 ออกตัวแบบห่วยๆ เลยนะครับ 5วิปลาย
ตั้งใจออก ปิด traction control 5วิ ต้นกลางๆ มีให้เห็นครับ
บู้สุดใจปิดแอร์ ปิด traction เหยียบเบรค เร่งรอบ แบบ launch control 4 วิปลาย มีให้เห็นได้ไม่ยาก
80-120 วิ่งที่เกียร์ สูงสุด กดเลย ก้ 4วิกลางๆครับ ถ้า คาเกียร์ รอไว้ ก้ 3 วิกว่า
0-200 ไม่ช้าเลย ขึ้นไปอย่างง่ายดาย หลังจาก 200 จะช้านิดนึง เพราะเกียร์น้อยกว่ารถรุ่นใหม่ๆที่มี 8 speed แต่พอถึงรอบของมันก้ไปต่อได้เรื่อยๆครับ 260++ top speed จริงๆผมไม่เคยลองครับ
รถผมเปลี่ยน header ตรงรุ่น พักปลายตรงรุ่น และจูนกล่อง แบบ แกะ ECU มาทำ ROM ปลดล๊อกรอบ ให้เปลี่ยนที่ 7200 และ ปลดล๊อก 180
[img width= height= alt=YjCyAy.jpg" border="0]https://www.picz.in.th/images/2018/04/24/YjCyAy.jpg[/img]
ช่วงล่าง Tein comfort sport monotubeก่อนหน้านี้ลองมาหลายตัว ชอบตัวนี้ที่สุดครับไม่แข็งเกิน แฟนไม่ด่า 555
เบรค หน้า เป็น brembo ISF 6pot จาน 360mm ผ้าเบรค stoptech ตัว sport ของอเมริกา
หลัง 3UZ 2pot จาน 310mm ผ้าเบรค NAP สีขมพูครับ
[img width= height= alt=Yjudab.jpg" border="0]https://www.picz.in.th/images/2018/04/24/Yjudab.jpg[/img]
อัตราสิ้นเปลือง ถ้าวิ่งในเมือง เฉลี่ย มี 8ปลายๆ-9โลลิตรครับ ต่างจังหวัด 11-12 ถ้าวิ่งเรื่อยๆ แต่ถ้าโหมดบู๊ midnight run หรือวิ่งสนาม 5-6 โลลิตร มีให้เห็นครับ
[img width= height= alt=Yj6wG9.png" border="0]https://www.picz.in.th/images/2018/04/24/Yj6wG9.png[/img]
ความคิดเห็นส่วนตัว
รถทำจะหวังให้ดีเท่ากับ มาจากโรงงานคงจะไม่ได้ ความสมบูรณ์ ขึ้นอยู่กับจรรยาบรรณ ความรับผิดชอบ ความละเอียดของช่าง ความโชคดีลามไปถึงกรรมเก่าที่ทำไว้ 5555 รวมถึงตัวเจ้าของเอง ว่าจะพยายามหา แพลนB ไหม เมื่อเกิดเหตุไม่เป็นไปตามแผนขึ้น
ถ้าพูดเรื่องตัวรถเอง อายุ 10ปี บวกลบ ถึงแม้เป็นเครื่องเดิมๆ กำลังก้พอเหมาะพอควร ราคาตอนนี้ 6-7 แสน พอจับต้องได้ ด้วยจำนวนเงินเท่านี้ผมว่าหาตัวจับยาก เรื่องการดูแลก้ไม่ได้จุกจิกจนเกินไป ปัญหาประจำรุ่นไม่มีอะไรน่ากลัว design ตัวรถ ยังไม่เก่ามาก ถ้ามีตังหา part minorchanged หรือ part ISF มาใส่ได้สบายๆ เส้นสายตัวรถ ร่วมสมัย ไม่ได้กลมมน หรือมีเหลี่ยมสัน มากจนเกินไป ภายในถ้าเปลี่ยน พวก คอนโซล แผงประตูมาแล้ว โอกาสจะกลับมาลอกอีกก้ยาก แต่รุ่นนี้ใช้เย้อะทั่วโลก จะเอาเบาะเอาภายใน สั่งจากญิปุ่น ออสเตเลีย อเมริกามีให้เลือกได้หมด ข้อเสียที่ผมเห็นจะๆ ก้จะมีแค่ภายในด้านหลังที่แคบเอาการ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านตามกันมาถึงตรงนี้
ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยนะครับ รีวิวแรกเลย 5555
ขอบคุณครับ
[img width= height= alt=Yj6SvV.jpg" border="0]https://www.picz.in.th/images/2018/04/24/Yj6SvV.jpg[/img]