"จะซื้อรถ ต้อง Toyota หรือ Honda เท่านั้น"
ประโยคนี้น่าจะยังมีหลายๆคน พูดกรอกหูเวลาคนรอบข้างที่เรารัก จะซื้อรถ
ผมเองก็โดนแบบนี้ จากบรรดาผู้ใหญ่ในครอบครัว ตอนที่ซื้อ HRV เมื่อ ปี 2017 ทั้งๆที่ตอนนั้นเพิ่มอีกนิดเดียว อาจจะได้ CX5 2.0S โฉมที่แล้ว ช่วงเคลียร์สต๊อก หรือ CX3 2.0SP ที่แรงกว่าสวยกว่า Option เยอะกว่า แต่เมื่อโดนยื่นคำขาดแบบนี้แถมไม่ใช่คนที่จ่ายเงิน HRV เป็นตัวเลือกที่ดีสุดใน Condition ต่างๆที่มี และเป็นรถรุ่นหนึ่งที่ผมชอบมากตอนมันเปิดตัวใหม่ๆ ก็เลย Happy อยู่
อีเหตุผลนึงที่ผมรู้สึกว่า HRV มันขายได้ขายดี มีเกลื่อนรถขนาดนี้ เพราะ ณ ตอนนี้มันออกมา จนก่อนที่ CHRจะมานั้น คู่แข่งมันอื่นๆมันจะมีจุดเด่นกันไปคนละด้าน
- Juke ที่มีหน้าตาฉีกแปลกแหวกแนวสุดๆ ช่วงล่างดี แต่บางคนชอบก็ชอบ บางคนเกลียดก็ไม่เอาเลย
- Ecosport มีขนาดเล็กกระทัดรัด ดูขับง่าย แต่เกียร์กับศูนย์นั้น ไม่น่าอภิรมย์เท่าไหร่
- CX-3 มาทีหลัง เด่นเรื่อง Design ความแรง Feature ต่างๆ แต่ดันแคบเกินไป
HRV เหมือนมัน Balance ความต้องการของคนได้ถูกอะ เทำตัวเองให้เป็น Default Chioce สำหรับใครก็ตามที่อยากได้รถกลุ่มนี้ ได้อเนกประสงค์ กว้าง นั่งสบาย ทัศนวิสัยไม่ได้แย่ขับ ลได้ไม่ยาก Design ไม่ได้โดนเด่นแต่ก็ไม่แย่ ศูนย์ไม่น่าเป็นห่วงเท่า ที่สำคัญ ผมรู้สึกว่า ถ้าเรามองเฉพาะสิ่งที่ตาเราเห็น HRV มันสร้างภาพออกมาได้ดีเลย Option ที่เราจับต้องได้ดูมีเยอะ โดยเฉพาะ หลังคากระจก ซึ่งมีคนรู้จัก ซื้อ HRV เพราะอยากได้หลังคากระจก แค่นั้นจริงๆ
พอเรามองเห็นหรือสัมผัสชอบที่เราชอบ สิ่งที่เราต้องการ ก็มักจะมองข้ามข้อเสียหรือจุดบกพร่องเล็กๆไปบ้าง ตอนผมซื้อ รู้ทั้งรู้นะว่า ช่วงล่างมันไม่ได้ดีเท่าคู่แข่ง และอาจจะมี โอกาสเจอ Defect มากมาย (ซึ่งก็เจอ ทุกวันนี้เบรคมือไฟฟ้าเสียงดังมาก) แต่ในเมื่อเรา Happy กับภาพรวมของรถ ได้รถที่ตรงตามความต้องการและลักษณะการใช้งาน ผมก็ยอมมองข้างข้อเสียมันไป แล้วก็หาวิธีที่จะปรับปรุงข้อเสียให้มันมีน้อยลง ซึ่งข้อเสียที่ HRV มีนั้น มันเป็นสิ่งที่ผมรู้สึกว่าจัดการได้ไม่ยากมาก และไม่ใช่ปัญหาใหญ่เท่าไหร่
พอผมใช้ HRV มาได้ครบ 1 ปี CHR ก็ออก ตอนแรกไม่เห็นรูปใน Internet ตอนช่วงที่เพิ่งซื้อ HRV ได้ใหม่ๆ ที่บ้านพากันยี้ บอกว่ามันอวกาศไปหน่อย แต่พอมันออกมาจริงๆ กลับรู้สึกว่า มันก็สวยทีเดียวนะ ได้มีโอกาสลองนั่งตำแหน่งคนขับ ผมว่ามันก็โอเคนะ แต่เบาะหลังผมไม่ชอบกรอบหน้าต่างจริงๆ ซึ่งคนที่ต้องนั่งเบาะหลังจริงๆอย่างคุณแม่ผม ไปลองแล้วก็ไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ นั่งสบายแต่รู้สึกทึบๆไปหน่อย ส่วนเบาะหน้านั้นโอเค เหนืออื่นใด ผมแกล้งๆถามไปว่า " แม่ ถ้าจะซื้อรถอีกคัน เอา CHR มั้ย" แม่ตอบเลยว่า "เอา แต่ต้องเป็นสีแดง-ดำ เท่านั้นนะ สีสวย แม่ชอบ เบาะหลังก็นั่งได้แหละ นานๆไปคงชิน" นั้นแหละครับ มองข้ามจุดด้อยไป เพราะมีจุดที่ชอบมันมากกว่าของแท้ 555
ในขณะที่คุณแม่ดูจะ Happy กับ CHR สีแดง-ดำ แต่คุณพ่อผม ไม่ Happy ด้วยเหตุผลโลกแตกคือ ไม่เอารถ Hybrid เพราะดันไปเชื่อว่า Hybrid พังง่าย แบตแพง แล้วเชื่อชนิดที่ฝังใจไปเลย พอๆกับ ซื้อรถต้อง Toyota กับ Honda เท่านั้น เอาจริงๆ มันเป็นเรื่องที่เปลี่ยนโคตรยากเลย ตอนก่อนจะซื้อ HRV 6 เดือน ผมได้มีโอกาสเลือกรถให้
ตัวเองเป็นของขวัญเรียนจบ โดยที่ต้องเป็น B.seg ที่ไม่ใช่เครื่อง Turbo ไม่ Hybrid ไม่ติดแก็ส ไม่อยากให้ใช้ 1.2 Ecocar และต้องเป็น Honda หรือ Toyota สุดท้ายผมก็ต้องเลือก Jazz GK ทั้งๆที่อยากได้ Mazda 2 Diesel มากกว่า
ท้ายสุด ถ้าผมเกิดต้องเลือกรถใหม่ตอนนี้ ระหว่าง CHR HRV นะ ด้วย Condition แบบเดิมๆ ที่ยังคงมีอยู่ บอกเลยว่าตัดสินใจยากมาก เพราะว่าถ้าเป็นตอนนี้ ใจผมคงไป หา CHR Hybrid Hi แบบไม่ลังเลเท่าไหร่ แต่คงต้องโดนไม่ให้ เอา Hybrid ซึ่งส่วนตัวถ้าไม่ได้ Hybird คงไปหา HRV RS ดีกว่าครับ
ปล. ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ
