สวัสดีครับเพื่อนๆชาว HLM ทุกท่าน วันนี้ได้ฤกษ์งามยามดี มารีวิวชุดสตรัท Coilover อีกตัว ที่บ้านเราไม่ค่อยพูดถึงกันเท่าไหร่ นั่นก็คือ KW Variant 3 นะครับ
ผมขออนุญาตวางสรุปทั้งหมดไว้บนสุดนะครับ สำหรับใครขี้เกียจอ่าน Version เต็ม เพราะมันยาว เลื่อนบ่อยๆนิ้วจะล้อคไม่ดีต่อสุขภาพครับ
CONCLUSIONข้อดีมันเป็นโช้คที่เปลี่ยนรถของคุณให้เป็น BMW ได้จริงๆครับ ถึงจะไม่ใช่แบบเป๊ะๆก็เหอะครับ แต่ผมว่า มันเปลี่ยนจากรถญี่ปุ่นเกวียนๆ ให้มีนิสัยไปทางยุโรปได้ไกลขนาดนั้นผมก็ดีใจแล้ว ถ้ารถผมเป็นรถญี่ปุ่น แล้วบ้านเกิดมันอยู่เยอรมัน ผมว่าโช้คตัวนี้ก็คงแถวๆตุรกีแล้วครับ
.(ไม่รู้เก็ทมุขนี้กันไหม 5555+) มีทั้งความนุ่มเนียน และสปอร์ตมาพร้อมๆกัน ถือว่าผม Happy มากๆกับโช้คชุดนี้ครับ ลูกนั่งได้ เมียไม่บ่นไม่ด่า แต่ระดับสูงวัยกว่านั้น ผมยังไม่ลอง และยังไม่กล้าลองเท่าไหร่ครับ 555+
ข้อเสียราคาค่าตัวจัดว่าแพงพอสมควรครับ ราคาแพงระดับทอปๆโช้คถนนเลยครับ
การใช้งานที่ยากพอสมควรด้วยความที่มันเป็น 2-way จับความรู้สึกและปรับยากกว่าโช้คที่เป็น 1-way เยอะมากๆครับ ใครไม่เคยใช้สตรัทปรับหนืดได้มาก่อน แล้วปรับเอามันส์นี่ผมว่า มันจะออกทะเลครับ เพราะผมเองก็ออกมาแล้ว ปรับไปปรับมาเละเทะครับ ทั้งอาการรถและความรู้สึกในห้องโดยสาร จนเกือบโดนขายรถมาแล้ว
การปรับความสูงของรถต้องปรับที่ฐานสปริงเท่านั้น สไลด์กระบอกไม่ได้ ทำให้เวลาปรับความสูง การบีบสปริงต้องเปลี่ยนครับ อันนี้แล้วแต่คนมองครับ เพราะผมเองใช้ความสูงที่อยู่ในค่าที่เค้าให้มาเลยไม่ได้มีปัญหาอะไรครับ
คราวนี้มาเข้าเรื่องจริงๆกันดีกว่าครับ
ก่อนอื่น ต้องไปดูกันก่อนว่า KW นี้มาจากไหน มาได้ยังไง KW จริงๆก็เป็นชื่อย่อของผู้ที่ก่อตั้งนั่นแหละครับ คือคุณ Klaus Wohlfarth เอาจริงๆผมก็อ่านไม่ออกหรอก 555+ เห็นเขียนชื่อมาแบบนี้ก็เป็นที่แน่นอนครับ KW มาจากประเทศเยอรมันนี ซึ่งบ้านเกิดอยู่ที่เมือง Fichtenberg ครับ จุดเริ่มต้นก็มาจาก workshop ขนาดเล็กๆ และขยายขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆครับ จนปัจจุบันมีโรงงานขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเพียงที่เดียวที่ส่งออกทั่วโลกเลยครับ
ผู้นี้คือ Klaus Wohlfarth ผู้ก่อตั้งช่วงล่าง KW ครับผม
ถ้านับเฉพาะผลิตภัณฑ์ Coilover ของ KW จริงๆมีหลายรุ่นครับ ตั้งแต่ Variant 1,2,3,4 ไปถึง Clubsport ซึ่งเป็นตัวลงสนามและระดับ Compettition ที่ใช้ในการแข่งขันสนามใหญ่ๆกันเลยครับ
ซึ่งความพิเศษของ KW คือที่โรงงานเค้าจะมี 7 post rig ซึ่งเป็นเหมือน module ที่ล้อ 4 ล้อ ออกแรงกระทำกับล้อและวัดค่าที่โช้ค เพื่อพัฒนาและปรับแต่งให้เข้ากับความต้องการครับ ซึ่งเท่าที่ผมศึกษา เครื่อง 7 post rig นั้นใช้ในระดับแข่ง F1 เลยทีเดียว แต่ KW เค้าก็ไปซื้อมาอีกทีครับถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นของ Honda นะครับที่ซื้อต่อมาอีกที
ทำไมถึงต้องเป็น Variant 3จริงๆอย่างที่บอกครับว่า KW ทำช่วงล่างมาหลายรุ่นมากกกกก ตั้งแต่ basic ยัน advance สุดๆ ซึ่งรถผม Subaru WRX STi 2015 มีให้เลือก Variant 1, Variant 3 และ Clubsport ครับซึ่งเรียงกันไปตามความสปอร์ต (Variant1 ผมขอเรียกสั้นๆเป็น V1 V3 อะไรแบบนี้นะครับ) แต่จริงๆแล้ว V1 และ V3 ใช้สปริงเบอร์เดียวกันเลยครับ ต่างกันแค่ V1 ปรับหนืดอะไรไม่ได้เลย และ Highlight อยู่ที่ V3 ครับ สามารถปรับได้ทั้ง Bump และ Rebound แยกกันอิสระครับ ซึ่งถ้าจะเอาสเปคแบบนี้กับโช้คยี่ห้ออื่น ราคาจะพุ่ง x3 หรือมากกว่านั้นไปได้เลยครับ ซึ่งไอ้ความที่มันปรับแยกได้อิสระขนาดนั้น ทำให้เราสามารถ Fine tune ได้อย่างละเอียด และตรงความต้องการเรามากที่สุดครับ ซึ่งตัวผมเองอยากช่วงล่างที่มันไม่ดีดครับ คุมสปริงอยู่ และไปตามพื้นผิวถนน(เมืองไทย ซึ่งรู้ๆกัน)ได้อย่างดีที่สุดครับ
แล้ว KW V3 เป็นยังไงมาดู Anatomy ของโช้คกันก่อนนะครับ KW V3 เป็นโช้ค Twin tube ครับ มาพร้อม built-in subtank ในตัวครับ (จริงๆแล้วแต่รถแต่ละรุ่นครับ แต่ของผมมีหมดทั้ง 4 ต้น) เป็นโช้คแก๊ส-น้ำมันครับ สามารถปรับหนืดได้ทั้ง Bump และ Rebound แยกกันได้อย่างอิสระ ปรับความสูงของรถได้โดยการขัน Spring seat ด้านล่างครับ ไม่ได้ปรับตรงหูโช้ค ทำให้เวลาเราอยากได้รถสูงๆ ต้องบีบสปริงเยอะหน่อยครับ ส่วนสเปคสปริง ด้านหน้า K = 7kg/mmยาว 170mm มาพร้อมกับ Spring helper ส่วนด้านหลัง K = 5Kg/mm ยาว 200mm พร้อม spring helper เช่นกันครับ
อันนี้เป็นโช้คทั้งสี่ต้นครับ มาพร้อมกับอุปกรณ์ในการปรับโช้คทั้งหมดครับ ซึ่งการปรับความหนืด bump จะปรับด้านล่างของโช้ค และ rebound จะปรับด้านบนครับ ในรถผมเองเวลาจะปรับมีปัญหาเฉพาะโช้คหลังครับ เพราะถ้าจะปรับ bump ต้องมุดใต้ท้องรถเลย และการปรับทำได้ค่อนข้างยากอยู่พอสมควรครับ
นี่เลยครับจุดเจ้าปัญหา 5555+
ส่วนด้านบนปรับ Rebound ไม่มีปัญหาครับ ด้านหน้าก็เปิดฝากระโปรง ด้านหลังก็มุดที่เก็บของครับ ไม่มีอะไรยาก
แล้ว Feeling เป็นยังไง??Setting รถผมนะครับ เป็นข้อมูลเบื้องต้นรถ Subaru WRX STi 2015 ล้อ 18 นิ้ว กว้าง 8.5 ยาง Michelin Pilot Sport 4 ขนาดยาง 245/40/18 ลมยางด้านหน้า 35 ด้านหลัง 34 เป็นลมธรรมดาครับไม่ใช่ Nitrogen โช้คก็ KW V3 ที่ทำรีวิววันนี้นครับ ปรับความสูงไว้ระดับให้สูงที่สุดเท่าที่มันจะทำได้ (อิงตามคู่มือทั้งหมดครับ) ผลลัพธ์ที่ได้จากที่ว่า ก็จะเป็นดังรูปด้านล่างครับ
นี่ขนาดปรับให้สูงสุดแล้ว ส่วนตัวผมก็ยังคิดว่าเตี้ยไปนิดนึงครับ เพราะเวลาไปห้าง ขึ้นเนินชันๆ ลิ้นกันชนหน้าจะขูดครับ ต้องระมัดระวังเพิ่มขึ้นเยอะพอสมควรครับ
ช่วงแรกของการใส่สตรัทนะครับ ผมแนะนำทุกท่านที่จะใส่เลยคือ
******ให้ทำตามคู่มือก่อน******* ทั้งความสูงและปรับหนืดนะครับ ความสูงนี่เราเลือกได้ครับ ในคู่มือจะกำหนดมาเป็นช่วงอยู่แล้ว ถ้าความสูงอยู่ในช่วงที่คู่มือกำหนดก็ไม่มีปัญหาครับ ส่วนการปรับหนืด ให้ปรับตามค่าโรงงานไปก่อน คือมันจะมีช่างด้านนอกบางคน จะมีสูตรของทางร้านเอย ปรับตามใจช่างเอย ต้องระวังครับ เพราะโช้คยังไม่ทัน Run-in ความรู้สึกมันจะเพี้ยนครับ พอพ้นจาก Run-in ซึ่งใช้ระยะทางประมาณ 1,000 กิโลเมตร ก็น่าจะเริ่มเข้าที่ครับ หลังจากนั้นจะซนค่อยซน 5555+
ส่วนความรู้สึกที่ได้คือ
นุ่ม ครับ คือผมไม่พูดถึงช่วง Run-in โช้คสปริงนะครับ เพราะใส่ใหม่ๆ มันจะโครมครามพอสมควรอยู่แล้ว แต่ตอนใส่ใหม่ๆเลยคือ เออ
มันนุ่มกว่าที่คิดเยอะแฮะ และพอหลังพ้น Run-in แล้ว ค่อยๆปรับทีละนิด จนได้จุดที่พอดี มันนุ่มจริงๆครับ ในรีวิวเวปบอร์ดต่างประเทศอันนึง ที่ผมสะดุดตา และตัดสินซื้อเลยคือ เค้าบอกว่ามันเป็น The most BMWish coilover พูดง่ายๆคือ เป็นโช้คที่ฟีลลิ่งคล้าย BMW ที่สุดแล้ว แล้วมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆครับ 5555+ กับโช้คชุดนี้ ผมใช้มาแล้วประมาณ 6,000 กิโลเมตร ผ่านมาทุกสภาพถนนก็น่าจะถ่ายทอดความรู้สึกได้ประมาณนึงนะครับ 555+ คราวนี้ผมแยกแต่ละช่วงความเร็วแล้วกันนะครับ
0-40 กม/ชม - ถ้าพูดว่านี่คือสตรัท ผมถือว่า มันนุ่มมากกกกกก นะครับ คือซับรายละเอียดถนนได้ค่อนข้างดีมากๆ ดีจนคิดว่านี่ไม่น่าใช่สตรัท 5555+ ยกเว้นเจอถนนที่ขรุขระมากๆจริงๆ ก็จะมีตึงตึงพอสมควรเลยครับ ในเมืองใช้ค่อนข้างสบายไม่มีปัญหาครับ
40-70 กม/ชม - ในช่วงความเร็วนี้จะมีความตึงตังขึ้นมาเล็กน้อยครับ แต่อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ ไม่ได้มีปัญหาอะไร การมุดในเมืองช่วงความเร็วแถวนี้ก็ถือว่าทำได้ดีมากๆ อาการยวบ โยน ไม่มีเลยครับ เนียนมากๆ
70-120 กม/ชม - ในช่วงความเร็ววิ่งนอกเมืองนี้ ผมถือว่าเป็น Sweet spot มากๆ เพราะมันสุนทรีย์ที่สุดแล้วครับ ในบรรดาโช้คที่ผมเปลี่ยนๆมา 5555+ คือมันมาครบทั้งความนุ่ม มันไม่นุ่มแบบ MB นะครับ แต่มันไม่ดีด ไม่เด้ง คุมสปริงอยู่หมัด ถามว่ามัน Perfect ขนาดนั้นเลย?? ก็ไม่ขนาดนั้นครับ มันจะมีถนนบางประเภท ที่ผมสังเกตุเห็นคือ ถนนที่ขรุขระมากๆ ถนนที่เป็นลอนติดๆกันหลายๆชุด นี่แหละครับมันจะเก็บไม่ค่อยอยู่ จะส่งถึงห้องโดยสารเยอะพอสมควร แต่โดยรวมก็ถือว่าทำได้ดีมากๆแล้วครับ ภรรยาผมนั่งหลังอยู่กับลูกอยู่ใน car seat ก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ หลับยาวได้ เมียไม่บ่นครับ ส่วนเรื่องการควบคุมความเร็วแถวนี้ จัดได้ว่า Perfect ครับ ผมอัดโค้งหนักๆที่ความเร็วสูงๆก็ไม่มีปัญหาอะไรเลย ถ้าให้เทียบกับ Ohlins DFV ที่เคยใช้ ในความเร็วเท่านี้ ตอบได้ว่าไม่ต่างกันเลยครับ แต่ความนุ่มต่างกันคนละโลก
120 กม/ชม+ - ในช่วงความเร็วสูง ถือว่ารถนิ่งมากกกกกกกครับ คือทำได้ดีมาก สมกับเป็นสตรัทคุณภาพสูงจริงๆ อาการยวบ โคลง ไม่มีครับ กับชุดนี้ผมเคยลองที่ความเร็ว 200 กม/ชม ก็ยังถือว่าชิลๆอยู่ครับ แต่ไม่กล้าลองเร็วกว่านี้เพราะว่ายางที่ใช้อายุอานามก็ประมาณนึงแล้ว เลยหยุดไว้แต่เพียงเท่านั้นครับ
CONCLUSION (อีกรอบครับ)ข้อดี
มันเป็นโช้คที่เปลี่ยนรถของคุณให้เป็น BMW ได้จริงๆครับ ถึงจะไม่ใช่แบบเป๊ะๆก็เหอะครับ แต่ผมว่า มันเปลี่ยนจากรถญี่ปุ่นเกวียนๆ ให้มีนิสัยไปทางยุโรปได้ไกลขนาดนั้นผมก็ดีใจแล้ว ถ้ารถผมเป็นรถญี่ปุ่น แล้วบ้านเกิดมันอยู่เยอรมัน ผมว่าโช้คตัวนี้ก็คงแถวๆตุรกีแล้วครับ
.(ไม่รู้เก็ทมุขนี้กันไหม 5555+) มีทั้งความนุ่มเนียน และสปอร์ตมาพร้อมๆกัน ถือว่าผม Happy มากๆกับโช้คชุดนี้ครับ ลูกนั่งได้ เมียไม่บ่นไม่ด่า แต่ระดับสูงวัยกว่านั้น ผมยังไม่ลอง และยังไม่กล้าลองเท่าไหร่ครับ 555+
ข้อเสีย
-ราคาค่าตัวจัดว่าแพงพอสมควรครับ ราคาแพงระดับทอปๆโช้คถนนเลยครับ
-การใช้งานที่ยากพอสมควรด้วยความที่มันเป็น 2-way จับความรู้สึกและปรับยากกว่าโช้คที่เป็น 1-way เยอะมากๆครับ ใครไม่เคยใช้สตรัทปรับหนืดได้มาก่อน แล้วปรับเอามันส์นี่ผมว่า มันจะออกทะเลครับ เพราะผมเองก็ออกมาแล้ว ปรับไปปรับมาเละเทะครับ ทั้งอาการรถและความรู้สึกในห้องโดยสาร จนเกือบโดนขายรถมาแล้ว
-การปรับความสูงของรถต้องปรับที่ฐานสปริงเท่านั้น สไลด์กระบอกไม่ได้ ทำให้เวลาปรับความสูง การบีบสปริงต้องเปลี่ยนครับ อันนี้แล้วแต่คนมองครับ เพราะผมเองใช้ความสูงที่อยู่ในค่าที่เค้าให้มาเลยไม่ได้มีปัญหาอะไรครับ
ส่วนเทคนิคการปรับหนืดนั้น ผมขออนุญาตข้ามไปก่อนนะครับ ไม่งั้นมันจะยาวเฟื้อยยยยยมากๆ ดังนั้นผมก็ขอจบการรีวิวไว้แต่เพียงเท่านี้นะครับ
ขอบคุณและสวัสดีครับ
ปล. คำถามฝากไว้ใน comment นะครับ เดี๋ยวผมมาตอบเองครับ