***หากใครเคยใช้ windy.com ดูกระแสลม จะรู้นะ ว่าจริงๆแล้ว รง.ทางแถบสมุทรทั้งหลายนี่ตัวดีเลย
ยิ่งตอนนี้ ลมทะเลพัดควันเข้ากทม.ตอนกลางคืน กลางวันไม่มีลมบกพัดออกไป***
ขออธิบายเรื่องลมจาก Windy ก่อนนะครับผม
ปัจจุบันลมที่พัดระดับ 925 hpa (หรือ 2.5 กิโลเมตรเหนือพี้นดิน) ยังคงเป็นลมตะวันออกเฉียงเหนืออยู่ครับ
https://tmd.go.th/programs/uploads/maps/2019-01-30_07_UpperWind600m.jpgแต่เนื่องจากลักษณะอากาศช่วงนี้ที่มวลอากาศเย็นถอยร่นออกไป เนื่องจากไม่มีความกดอากาศต่ำ คอยบล็อคอากาศเย็นแถวประเทศญี่ปุ่น
เลยทำให้มวลอากาศเย็นไหลออกไปทางตะวันออก ไม่มีลงมาแถบบ้านเรา
ต่อให้เส้นหนาวระดับ 1060hpa แต่ถ้าไม่มีตัวบล็อคอากาศคั้นไว้ ก็ยากที่ลงมาเมืองไทย
https://tmd.go.th/programs//uploads/maps/2019-01-30_TopChart_07.jpgต่อเนื่องกับมวลอากาศเย็นถอยคือ อากาศร้อนชี้นจะเข้ามาแทนที่ ซึ่งความร้อนคืออากาศนิ่งและลอยตัว
ผิดกับอากาศเย็นที่ซึ่งเป็นอากาศหนักและมีการเคลื่อนไหวตลอด
แต่ช่วงนี้มีลม Anti-Cyclonic พัดอยู่แถวประเทศพม่า ซึ่งลมระดับนี้จะคอยกดอากาศไม่ให้ลอยตัว
โดยลมระดับนี้อยู่ประมาณ 700 hpa หรือสามกิโลเมตรจากพี้นดิน
ซึ่งถ้าเรายกมือขวา นี้วโป้ง ชี้ กลาง นาง ก้อย แล้วทำมือม้วนไปทางขวา สังเกตว่านี้วโป้งจะกดลง นั้นละครับคือ Anti-Cyclonic
ตามธรรมชาติถ้าอากาศร้อนเข้ามาแทนที่ จะลอยตัวสร้างเฆมหรือฝนเป็นเรื่องปกติ (ขึ้นอยู่กับความชี้นในอากาศ)
แต่เพราะโดนลมระดับ 700hpa กดไว้ ธรรมชาติก็เหมือนคน กินแล้วก็ต้องปล่อย เพียงแต่ธรรมชาติจะปล่อยสู่ข้างบน
ในเมื่อถูกลมบนกดไว้ ธรรมชาติก็สร้างเมฆไม่ได้ ไม่พอ ยังทำให้อากาศฟุ่งกระจายออกไปในแนวกว้างอีกต่างหาก
นึกสภาพเหมือนคน กินแล้วอยากเข้าห้องน้ำแต่ทำไม่ได้ เพราะมีคนดึงเอาไว้ สุดท้ายก็.....รู้ๆกันอยู่นะครับ
ซึ่งช่วงอากาศเย็นซึ่งเป็นอากาศแห้งถอย ทำให้เกิดสภาวะหมอกขึ้นมา เนื่องจากอากาศร้อนเข้ามาแทนที่
ตามปกติหมอกคือฝุ่นละอองที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ผสมกับความชี้นในอากาศ
พอช่วงสายๆแดดเริ่มแรง ก็จะเผาไหม้ความชี้นออกไปจนหมด หมอกก็จางหายไป
แต่เผอิญช่วงนี้กรุงเทพก่อสร้างเยอะมาก + ลม Anti Clyclonic จึงทำให้ฝุ่นกระจายแบบไร้การควบคุม
แดดก็แค่เผาความชี้นออกไปอย่างเดียว แต่ไม่สามารถเผาฝุ่นที่มีมากกว่าความชี้นได้
ประกอบช่วงนี้ทั้งลมบกก็อ่อน ลมทะเลก็ไม่แรงครับ เลยเกิดสภาพอย่างที่เห็น