ผู้เขียน หัวข้อ: เกิดและตายเพื่อรถ  (อ่าน 14375 ครั้ง)

ออฟไลน์ lonely

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
เกิดและตายเพื่อรถ
« เมื่อ: มีนาคม 28, 2019, 13:40:44 »
อาจจะเป็นหัวข้อสนทนาเชิงปรัชญานิดๆ

"เกิดและตายเพื่อรถ"

วลีนี้ เหมาะกับใครได้บ้าง หรือใครเหมาะกับข้อความนี้ที่สุดครับ

เช่น

1. นักแข่งรถที่อุทิศชีวิตเพื่อการแข่งขันในสนาม

2. ผู้สร้างรถยนต์ หรือผู้คิดค้นนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีต่างๆ ที่นำมาใช้กับรถยนต์

3. ผู้ใช้งานทั่วๆ ไป ที่รักและชอบในการขับรถ+การดูแลรักษารถให้อยู่ในสภาพดี

อยากฟังความเห็นจากทุกท่านครับ
My car and Driving is My Life = เวอร์ไปไหม ??

ออฟไลน์ Slow But Sure

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 781
Re: เกิดและตายเพื่อรถ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มีนาคม 28, 2019, 13:55:28 »
ขอเสนอชื่อ Ayrton Senna

ออฟไลน์ lonely

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
Re: เกิดและตายเพื่อรถ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มีนาคม 28, 2019, 14:06:53 »
ขอเสนอชื่อ Ayrton Senna

---หมายถึง ไอตัน เซน่า ยอดนักขับ F1 ยุคก่อนมิคาเอล ชูมักเกอร์ใช่ไหมครับ
My car and Driving is My Life = เวอร์ไปไหม ??

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,226
    • อีเมล์
Re: เกิดและตายเพื่อรถ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มีนาคม 28, 2019, 14:09:59 »
ไม่ใช่ทั้ง 3 ข้อครับ เพราะ

ข้อ 1. นักแข่ง เขาได้ถวายหัวขนาดนั้นนะครับ เป็นเป็นอาชีพๆ หนึ่ง ซึ่งข้างหลังเขายังมีครอบครัว และหน้าที่รับผิดชอบอีกเยอะ ที่เสียชีวิตก็จากอุบัติเหตุ ซึ่งเขาไม่อยากให้เกิดหรอก เขา safety เต็มที่แล้ว
ข้อ 2. คล้ายๆ ข้อหนึ่ง แต่อาจจะไกล้เคียง น่าจะเป็นเจ้าของแบรนด์หรือผู้ที่ริเริ่มและสรรสร้างรถคันหนึ่งๆ มาด้วยหยาดเหงื่อแรงการ ซึ่งแต่ก่อนเจ้าของแบรนด์นั้นๆ จะเป็นผู้ร่วมปลุกปั้นรถค่ายตัวเองแบบคลุกคลี เป็น 1 ในทีมเลยก็ว่า แต่ปัจจุบัน อาจจะแค่บริหารแล้ว แต่ไม่ใช่ทีมวิศวกรนะ เขาก็แค่อาชีพๆ หนึ่ง
ข้อ 3. ผมก็ว่าไม่ใช่ แค่ความชอบ หรือ งานอดิเรก (แต่อาจจะไม่อยู่จริง อันนี้ไม่ทราบ)

แต่คำตอบผมคือ เต็กแว็นซ์ ครับ เพราะพวกนี้หลายคนไม่กลัวตาย เริ่มโตมากับรถ(มอเตอร์ไซต์) แล้วหลายคนก็โตไม่พ้นช่วงวัยนั้นๆ ก็ตายไปกับรถที่ตัวเองด้วย :-[ :-[

ออฟไลน์ lonely

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
Re: เกิดและตายเพื่อรถ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มีนาคม 28, 2019, 14:38:47 »
ไม่ใช่ทั้ง 3 ข้อครับ เพราะ

ข้อ 1. นักแข่ง เขาได้ถวายหัวขนาดนั้นนะครับ เป็นเป็นอาชีพๆ หนึ่ง ซึ่งข้างหลังเขายังมีครอบครัว และหน้าที่รับผิดชอบอีกเยอะ ที่เสียชีวิตก็จากอุบัติเหตุ ซึ่งเขาไม่อยากให้เกิดหรอก เขา safety เต็มที่แล้ว
ข้อ 2. คล้ายๆ ข้อหนึ่ง แต่อาจจะไกล้เคียง น่าจะเป็นเจ้าของแบรนด์หรือผู้ที่ริเริ่มและสรรสร้างรถคันหนึ่งๆ มาด้วยหยาดเหงื่อแรงการ ซึ่งแต่ก่อนเจ้าของแบรนด์นั้นๆ จะเป็นผู้ร่วมปลุกปั้นรถค่ายตัวเองแบบคลุกคลี เป็น 1 ในทีมเลยก็ว่า แต่ปัจจุบัน อาจจะแค่บริหารแล้ว แต่ไม่ใช่ทีมวิศวกรนะ เขาก็แค่อาชีพๆ หนึ่ง
ข้อ 3. ผมก็ว่าไม่ใช่ แค่ความชอบ หรือ งานอดิเรก (แต่อาจจะไม่อยู่จริง อันนี้ไม่ทราบ)

แต่คำตอบผมคือ เต็กแว็นซ์ ครับ เพราะพวกนี้หลายคนไม่กลัวตาย เริ่มโตมากับรถ(มอเตอร์ไซต์) แล้วหลายคนก็โตไม่พ้นช่วงวัยนั้นๆ ก็ตายไปกับรถที่ตัวเองด้วย :-[ :-[

---ถ้าไม่นับเด็กแวนซ์ มีใครที่ น่าจะ "คู่ควร" กับคำกล่าวข้างต้นอีกไหมครับ ขอบคุณครับ
My car and Driving is My Life = เวอร์ไปไหม ??

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,640
Re: เกิดและตายเพื่อรถ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มีนาคม 28, 2019, 14:56:59 »
ผู้กำเนิดแบรนด์รถหลายๆค่ายครับ คิดค้นอันนี้ให้เบนซ์ กว่าจะคิดทำให้รถเป็นรถแบบทุกวันนี้เป็นต้นแบบ ต้องให้เค้า
  ,ผู้ที่ทำให้รถเป็นของทุกคนและจับต้องได้ในราคาถูก และคิดสายการผลิตทำให้อุตสาหกรรมเป็นในแนวทางปัจจุบัน เฮนรี่ ฟอร์ด ทั้งถูกกลั่นแกล้งจากค่ายอื่นว่าเลียนแบบ ต่อสู้ในศาลกว่าจะได้ผลิตรถ กว่าจะออกมาเป็น Model T ที่ขายเป็นล้านคันในสมัยนั้น

นักแข่งผมให้ คอลลิน แมคเรย์
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,226
    • อีเมล์
Re: เกิดและตายเพื่อรถ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มีนาคม 28, 2019, 14:59:00 »
ไม่ใช่ทั้ง 3 ข้อครับ เพราะ

ข้อ 1. นักแข่ง เขาได้ถวายหัวขนาดนั้นนะครับ เป็นเป็นอาชีพๆ หนึ่ง ซึ่งข้างหลังเขายังมีครอบครัว และหน้าที่รับผิดชอบอีกเยอะ ที่เสียชีวิตก็จากอุบัติเหตุ ซึ่งเขาไม่อยากให้เกิดหรอก เขา safety เต็มที่แล้ว
ข้อ 2. คล้ายๆ ข้อหนึ่ง แต่อาจจะไกล้เคียง น่าจะเป็นเจ้าของแบรนด์หรือผู้ที่ริเริ่มและสรรสร้างรถคันหนึ่งๆ มาด้วยหยาดเหงื่อแรงการ ซึ่งแต่ก่อนเจ้าของแบรนด์นั้นๆ จะเป็นผู้ร่วมปลุกปั้นรถค่ายตัวเองแบบคลุกคลี เป็น 1 ในทีมเลยก็ว่า แต่ปัจจุบัน อาจจะแค่บริหารแล้ว แต่ไม่ใช่ทีมวิศวกรนะ เขาก็แค่อาชีพๆ หนึ่ง
ข้อ 3. ผมก็ว่าไม่ใช่ แค่ความชอบ หรือ งานอดิเรก (แต่อาจจะไม่อยู่จริง อันนี้ไม่ทราบ)

แต่คำตอบผมคือ เต็กแว็นซ์ ครับ เพราะพวกนี้หลายคนไม่กลัวตาย เริ่มโตมากับรถ(มอเตอร์ไซต์) แล้วหลายคนก็โตไม่พ้นช่วงวัยนั้นๆ ก็ตายไปกับรถที่ตัวเองด้วย :-[ :-[

---ถ้าไม่นับเด็กแวนซ์ มีใครที่ น่าจะ "คู่ควร" กับคำกล่าวข้างต้นอีกไหมครับ ขอบคุณครับ

มันมีหลายๆ คน ตามกลุ่มข้อ 2. ที่ผมบอกไว้นั้นละครับ เช่น

คนนึงเลยที่รู้จักกัน คือ Enzo Anselmo Giuseppe Maria Ferrari หรือเรารู้จักเขาในชื่อ Enzo Ferrari เป็นทั้งผู้ก่อตั้ง เป็นทั้งนับขับ เป็นทั้งทีมออกแบบ จะเราเห็น Ferrari โลดแล่นอยู่ในทุกวันนี้

อีกคน Ferruccio Lamborghini ที่เขาปลุกปั้น Lamborghini จากรถไถนา เป็น ยอด SuperCar อย่างที่มันเป็น ถึงภายหลังจะเปลี่ยนมือ เปลี่ยนเจ้าของแล้ว ก็แค่เรื่องธุรกิจ แต่สิ่งที่ถูกสร้างมาต่างหากที่มันบ่งบอกตัวตนของมัน

อีกคนก็ Christian Erland Harald von Koenigsegg หรือ Christian von Koenigsegg เจ้าของแบรนด์ Koenigsegg ที่ออกมาหลังแบรนด์ดังอิตาลี แต่เขาทำให้สวีเดนเป็นที่รู้จักได้ มาถึงทุกวันนี้ เขาก็ยังทำมันต่อไป

ผมว่ามีหลายคนมาก ที่ชีวิตเขาเกิด โต และ ตาย(บางคนนะ) ไปกับสิ่งที่เขาปลุกปั้น คลุกคลี และใช้ชีวิตอยู่กับมันจนนาทีสุดท้ายของชีวิต

ปล.คนเก่ากว่านี้ หรือ คนรุ่นใหม่ ก็มี แต่แค่ยังไม่เป็นที่รู้จัก ผมเคยอยู่อิตาลีมา ผมรู้สึกและมีคำถามว่า ทำไมรถแพงๆ รถซุปเปอร์คาร์ อิตาลี มันเยอะจัง พอไปเจออะไรหลายๆ อย่างมันทำให้รู้ว่า พวกนี้เขาทำแบบสิ่งที่รัก แบบศิลปะ อาจจะเรียกว่าอินดี้ ก็อาจจะเรียกได้ สุดท้าย มันจะออกมาในแบบที่ไม่เหมือนใคร และ เป็นเอกลักษณ์

ออฟไลน์ lonely

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
Re: เกิดและตายเพื่อรถ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มีนาคม 28, 2019, 15:23:55 »
ไม่ใช่ทั้ง 3 ข้อครับ เพราะ

ข้อ 1. นักแข่ง เขาได้ถวายหัวขนาดนั้นนะครับ เป็นเป็นอาชีพๆ หนึ่ง ซึ่งข้างหลังเขายังมีครอบครัว และหน้าที่รับผิดชอบอีกเยอะ ที่เสียชีวิตก็จากอุบัติเหตุ ซึ่งเขาไม่อยากให้เกิดหรอก เขา safety เต็มที่แล้ว
ข้อ 2. คล้ายๆ ข้อหนึ่ง แต่อาจจะไกล้เคียง น่าจะเป็นเจ้าของแบรนด์หรือผู้ที่ริเริ่มและสรรสร้างรถคันหนึ่งๆ มาด้วยหยาดเหงื่อแรงการ ซึ่งแต่ก่อนเจ้าของแบรนด์นั้นๆ จะเป็นผู้ร่วมปลุกปั้นรถค่ายตัวเองแบบคลุกคลี เป็น 1 ในทีมเลยก็ว่า แต่ปัจจุบัน อาจจะแค่บริหารแล้ว แต่ไม่ใช่ทีมวิศวกรนะ เขาก็แค่อาชีพๆ หนึ่ง
ข้อ 3. ผมก็ว่าไม่ใช่ แค่ความชอบ หรือ งานอดิเรก (แต่อาจจะไม่อยู่จริง อันนี้ไม่ทราบ)

แต่คำตอบผมคือ เต็กแว็นซ์ ครับ เพราะพวกนี้หลายคนไม่กลัวตาย เริ่มโตมากับรถ(มอเตอร์ไซต์) แล้วหลายคนก็โตไม่พ้นช่วงวัยนั้นๆ ก็ตายไปกับรถที่ตัวเองด้วย :-[ :-[

---ถ้าไม่นับเด็กแวนซ์ มีใครที่ น่าจะ "คู่ควร" กับคำกล่าวข้างต้นอีกไหมครับ ขอบคุณครับ

มันมีหลายๆ คน ตามกลุ่มข้อ 2. ที่ผมบอกไว้นั้นละครับ เช่น

คนนึงเลยที่รู้จักกัน คือ Enzo Anselmo Giuseppe Maria Ferrari หรือเรารู้จักเขาในชื่อ Enzo Ferrari เป็นทั้งผู้ก่อตั้ง เป็นทั้งนับขับ เป็นทั้งทีมออกแบบ จะเราเห็น Ferrari โลดแล่นอยู่ในทุกวันนี้

อีกคน Ferruccio Lamborghini ที่เขาปลุกปั้น Lamborghini จากรถไถนา เป็น ยอด SuperCar อย่างที่มันเป็น ถึงภายหลังจะเปลี่ยนมือ เปลี่ยนเจ้าของแล้ว ก็แค่เรื่องธุรกิจ แต่สิ่งที่ถูกสร้างมาต่างหากที่มันบ่งบอกตัวตนของมัน

อีกคนก็ Christian Erland Harald von Koenigsegg หรือ Christian von Koenigsegg เจ้าของแบรนด์ Koenigsegg ที่ออกมาหลังแบรนด์ดังอิตาลี แต่เขาทำให้สวีเดนเป็นที่รู้จักได้ มาถึงทุกวันนี้ เขาก็ยังทำมันต่อไป

ผมว่ามีหลายคนมาก ที่ชีวิตเขาเกิด โต และ ตาย(บางคนนะ) ไปกับสิ่งที่เขาปลุกปั้น คลุกคลี และใช้ชีวิตอยู่กับมันจนนาทีสุดท้ายของชีวิต

ปล.คนเก่ากว่านี้ หรือ คนรุ่นใหม่ ก็มี แต่แค่ยังไม่เป็นที่รู้จัก ผมเคยอยู่อิตาลีมา ผมรู้สึกและมีคำถามว่า ทำไมรถแพงๆ รถซุปเปอร์คาร์ อิตาลี มันเยอะจัง พอไปเจออะไรหลายๆ อย่างมันทำให้รู้ว่า พวกนี้เขาทำแบบสิ่งที่รัก แบบศิลปะ อาจจะเรียกว่าอินดี้ ก็อาจจะเรียกได้ สุดท้าย มันจะออกมาในแบบที่ไม่เหมือนใคร และ เป็นเอกลักษณ์

---ขอบคุณครับที่ช่วยตอบ

3 คนที่ยกตัวอย่างมา เป็นตำนานทั้งนั้น โดยเฉพาะโคนิเซ็ค ได้ยินว่าโรงงานไฟไหม้แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้

เรื่องอิตาลี ผมก็คิดคล้ายๆ กัน ว่า Super Car ของโลก 2 ยี่ห้อดังๆ คือ เฟอร์รารี่ กับ ลัมโบกินี่ ก็กำเนิดมาจากอิตาลี

แล้วฝรั่งเศสล่ะครับ ดินแดนแห่งแฟชั่น มีรถ Super Car บ้างไหมครับ ผมรู้จักแค่ เปอโยต์ กับ ซีตรอง ขอบคุณครับ
My car and Driving is My Life = เวอร์ไปไหม ??

ออฟไลน์ lonely

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
Re: เกิดและตายเพื่อรถ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มีนาคม 28, 2019, 15:28:32 »
ผู้กำเนิดแบรนด์รถหลายๆค่ายครับ คิดค้นอันนี้ให้เบนซ์ กว่าจะคิดทำให้รถเป็นรถแบบทุกวันนี้เป็นต้นแบบ ต้องให้เค้า
  ,ผู้ที่ทำให้รถเป็นของทุกคนและจับต้องได้ในราคาถูก และคิดสายการผลิตทำให้อุตสาหกรรมเป็นในแนวทางปัจจุบัน เฮนรี่ ฟอร์ด ทั้งถูกกลั่นแกล้งจากค่ายอื่นว่าเลียนแบบ ต่อสู้ในศาลกว่าจะได้ผลิตรถ กว่าจะออกมาเป็น Model T ที่ขายเป็นล้านคันในสมัยนั้น

นักแข่งผมให้ คอลลิน แมคเรย์

---นักแข่งผมให้ คอลลิน แมคเรย์ 
พอจะเล่าประวัติคร่าวๆ ของคอลลิน แมคเรย์ ให้ฟังได้ไหมครับ ขอบคุณครับ
My car and Driving is My Life = เวอร์ไปไหม ??

ออฟไลน์ the kit

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,314
Re: เกิดและตายเพื่อรถ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: มีนาคม 28, 2019, 15:28:43 »
ตอบ
1. นักแข่งรถที่อุทิศชีวิตเพื่อการแข่งขันในสนาม
- นักแข่งที่ตายเขาไม่ได้ตั้งใจจะอุทิศชีวิต!! แต่บังเอิญมันเป็นอุบัติเหตุ ถ้าเลือกได้ ใครจะอยากตายในแบบที่ตัวเองไม่ได้คาดคิด

2. ผู้สร้างรถยนต์ หรือผู้คิดค้นนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีต่างๆ ที่นำมาใช้กับรถยนต์
- ผู้สร้างรถยนต์ ก็คล้ายๆกับพ่อแม่คน ก็อยากจะเห็น
รถที่พวกเขาสร้างเหล่านั้น ได้รับความนิยมชมชอบ
คำพูดที่ว่า "เกิดและตายเพื่อรถ"
ถ้าเอามาพูดในหนัง ก็คงจะทําให้ ผู้ชม "อิน" ไม่น้อย

3. ผู้ใช้งานทั่วๆ ไป ที่รักและชอบในการขับรถ+การดูแลรักษารถให้อยู่ในสภาพดี
- ผู้ใช้ ไม่ว่าคนที่ดูแลรถเป็น หรือดูแลรถไม่เป็น
เป็นเพียงเจ้าของ แต่มีคนขับให้ ย่อมอยากจะให้รถของตนนั้นสภาพพร้อมใช้งานเสมอ ไม่อยากให้มีปัญหาใดๆเกิดขึ้น

ในคนที่รักรถมากๆ ก็อยากจะให้รถตัวเองดูสวย ดูเงาหรือดูเด่น กว่าเพื่อนร่วมรุ่น ก็เยอะ

แม้แต่เด็กแว้นเองหรือ พวก "ขาแรง" ต่างๆ
ผมเชื่อว่า ไม่มีใครอยาก "เกิดและตายเพื่อรถ"

คำพูดนี้ ถ้าเป็นความหมายตรงจะให้เหมาะกับคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
 "คงไม่ใช่"

แต่คนเล่นรถ นักเลงรถส่วนใหญ่ อาจจะเปรียบเปรยหรือพูดได้ว่า
"รักรถมากกว่าเมีย!!" อันนี้ซะมากกว่า
คนเล่นรถด้วยกันอาจจะปลื้ม
แต่คนที่เป็นเมีย!!!???
"Only live once, but if you do it right, Once is enough"

ออฟไลน์ Minister of Joy

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 295
Re: เกิดและตายเพื่อรถ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: มีนาคม 28, 2019, 15:32:01 »
ขอเสนอ Dominic Toretto ละกันครับ  :-X

ออฟไลน์ lonely

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
Re: เกิดและตายเพื่อรถ
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: มีนาคม 28, 2019, 15:52:05 »
ตอบ
1. นักแข่งรถที่อุทิศชีวิตเพื่อการแข่งขันในสนาม
- นักแข่งที่ตายเขาไม่ได้ตั้งใจจะอุทิศชีวิต!! แต่บังเอิญมันเป็นอุบัติเหตุ ถ้าเลือกได้ ใครจะอยากตายในแบบที่ตัวเองไม่ได้คาดคิด

2. ผู้สร้างรถยนต์ หรือผู้คิดค้นนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีต่างๆ ที่นำมาใช้กับรถยนต์
- ผู้สร้างรถยนต์ ก็คล้ายๆกับพ่อแม่คน ก็อยากจะเห็น
รถที่พวกเขาสร้างเหล่านั้น ได้รับความนิยมชมชอบ
คำพูดที่ว่า "เกิดและตายเพื่อรถ"
ถ้าเอามาพูดในหนัง ก็คงจะทําให้ ผู้ชม "อิน" ไม่น้อย

3. ผู้ใช้งานทั่วๆ ไป ที่รักและชอบในการขับรถ+การดูแลรักษารถให้อยู่ในสภาพดี
- ผู้ใช้ ไม่ว่าคนที่ดูแลรถเป็น หรือดูแลรถไม่เป็น
เป็นเพียงเจ้าของ แต่มีคนขับให้ ย่อมอยากจะให้รถของตนนั้นสภาพพร้อมใช้งานเสมอ ไม่อยากให้มีปัญหาใดๆเกิดขึ้น

ในคนที่รักรถมากๆ ก็อยากจะให้รถตัวเองดูสวย ดูเงาหรือดูเด่น กว่าเพื่อนร่วมรุ่น ก็เยอะ

แม้แต่เด็กแว้นเองหรือ พวก "ขาแรง" ต่างๆ
ผมเชื่อว่า ไม่มีใครอยาก "เกิดและตายเพื่อรถ"

คำพูดนี้ ถ้าเป็นความหมายตรงจะให้เหมาะกับคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
 "คงไม่ใช่"

แต่คนเล่นรถ นักเลงรถส่วนใหญ่ อาจจะเปรียบเปรยหรือพูดได้ว่า
"รักรถมากกว่าเมีย!!" อันนี้ซะมากกว่า
คนเล่นรถด้วยกันอาจจะปลื้ม
แต่คนที่เป็นเมีย!!!???


---ผมรักรถยิ่งกว่าเมียครับ---แม้จะยังไม่มีทั้งแฟนหรือเมีย

แต่.....................

ผมจะรักเมียให้มากกว่ารถ ถ้าเมียซื้อ BMW, Volvo, Lexus หรือ Audi ให้ซักคันครับ  ;)

My car and Driving is My Life = เวอร์ไปไหม ??

ออฟไลน์ lonely

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
Re: เกิดและตายเพื่อรถ
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: มีนาคม 28, 2019, 15:53:45 »
ขอเสนอ Dominic Toretto ละกันครับ  :-X


พี่ดอม = ฉันไม่มีเพื่อน มีแต่ครอบครัว
My car and Driving is My Life = เวอร์ไปไหม ??

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,640
Re: เกิดและตายเพื่อรถ
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: มีนาคม 28, 2019, 15:56:13 »
ผู้กำเนิดแบรนด์รถหลายๆค่ายครับ คิดค้นอันนี้ให้เบนซ์ กว่าจะคิดทำให้รถเป็นรถแบบทุกวันนี้เป็นต้นแบบ ต้องให้เค้า
  ,ผู้ที่ทำให้รถเป็นของทุกคนและจับต้องได้ในราคาถูก และคิดสายการผลิตทำให้อุตสาหกรรมเป็นในแนวทางปัจจุบัน เฮนรี่ ฟอร์ด ทั้งถูกกลั่นแกล้งจากค่ายอื่นว่าเลียนแบบ ต่อสู้ในศาลกว่าจะได้ผลิตรถ กว่าจะออกมาเป็น Model T ที่ขายเป็นล้านคันในสมัยนั้น

นักแข่งผมให้ คอลลิน แมคเรย์


---นักแข่งผมให้ คอลลิน แมคเรย์ 
พอจะเล่าประวัติคร่าวๆ ของคอลลิน แมคเรย์ ให้ฟังได้ไหมครับ ขอบคุณครับ

เป็นนักแข่ง Rally WRC ในตำนานเลยครับ ถ้าสมัยนี้ก็ Loeb ใช่มั้ย แต่สมัยก่อนคือ colin mcrae หลักๆเลย WRC ที่ความแชมป์มากมาย และไม่ใช้แค่นั้น ยังเคยแข่ง Le mans และก็ Dakar Rally ด้วย แต่น่าเสียดายที่ต้องมาตายเพราะ ฮ.ตก แถวๆบ้านตัวเองพร้อมลูก ทั้งๆที่อายุยังไม่เยอะเลย ปี 2007 นี่เอง  ปัจจุบันเกมส์ยังมีเค้าอยู่บนปกเลย DiRT2 เกมแนวรถ Rally
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 28, 2019, 16:35:11 โดย Fly to dream »
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

Nonlamer

  • บุคคลทั่วไป
Re: เกิดและตายเพื่อรถ
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: มีนาคม 28, 2019, 16:02:02 »
ยางรถยนต์ครับ เกิดมาเพื่อรถ และตายเพื่อรถ มาเป็นทาสให้รถบดขยี้ หรือแม้แต่โดนเบิร์นเพื่อความสะใจของคน ......... เด๋ว  :P
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 28, 2019, 16:03:41 โดย Nonlamer »

ออฟไลน์ lonely

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
Re: เกิดและตายเพื่อรถ
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: มีนาคม 28, 2019, 16:13:23 »
ยางรถยนต์ครับ เกิดมาเพื่อรถ และตายเพื่อรถ มาเป็นทาสให้รถบดขยี้ หรือแม้แต่โดนเบิร์นเพื่อความสะใจของคน ......... เด๋ว  :P


---ขนาดนั้น 

ถ้าอย่างนั้น ต้องนับเครื่องยนต์ด้วย = ห้วใจของรถ เกิดและตายเพื่อรถอย่างแท้จริง
My car and Driving is My Life = เวอร์ไปไหม ??

ออฟไลน์ Activehybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,554
Re: เกิดและตายเพื่อรถ
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: มีนาคม 28, 2019, 16:20:32 »
ยกให้คนที่ใช้เวลาไปกับเรื่องรถๆ
บางทีผมนึกถึงคนที่ชอบรถยอมผ่อนรถราคาแพงๆแต่ตัวเองได้กินข้าวแบบเขียมๆครับ

Nonlamer

  • บุคคลทั่วไป
Re: เกิดและตายเพื่อรถ
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: มีนาคม 28, 2019, 16:27:56 »
ยางรถยนต์ครับ เกิดมาเพื่อรถ และตายเพื่อรถ มาเป็นทาสให้รถบดขยี้ หรือแม้แต่โดนเบิร์นเพื่อความสะใจของคน ......... เด๋ว  :P


---ขนาดนั้น 

ถ้าอย่างนั้น ต้องนับเครื่องยนต์ด้วย = ห้วใจของรถ เกิดและตายเพื่อรถอย่างแท้จริง

ยางอุทิศตนมากกว่าเยอะครับ ตายแล้วตายอีก ซ้ำๆซากๆ ตั้งแต่รุ่นทวดยันโหลน บางรุ่นวันเดียวตาย ลุยทางวิบากก็แบกไว้ โดนตะปูทิ่มลมออกก็แบกรถสุดชีวิต ใครจะทำเพื่อรถได้มากกว่ายางอีกครับ

ออฟไลน์ lonely

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
Re: เกิดและตายเพื่อรถ
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: มีนาคม 28, 2019, 16:31:08 »
ยกให้คนที่ใช้เวลาไปกับเรื่องรถๆ
บางทีผมนึกถึงคนที่ชอบรถยอมผ่อนรถราคาแพงๆแต่ตัวเองได้กินข้าวแบบเขียมๆครับ

---ตัวของผมนี่ไง หมดค่าซ่อมรถตั้งแต่ปี 2558 - ปัจจุบัน เกือบจะแสนบาทแล้ว

การไปเที่ยว+การซื้อของเล่นที่อยากได้+การกินอะไรดีๆ แพงๆ บ้าง ต้องหยุดทุกอย่าง
เพื่อ "ถวาย" ค่าซ่อมรถ

 :'( :'( :'(
My car and Driving is My Life = เวอร์ไปไหม ??

ออฟไลน์ lonely

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
Re: เกิดและตายเพื่อรถ
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: มีนาคม 28, 2019, 16:52:14 »
ยางรถยนต์ครับ เกิดมาเพื่อรถ และตายเพื่อรถ มาเป็นทาสให้รถบดขยี้ หรือแม้แต่โดนเบิร์นเพื่อความสะใจของคน ......... เด๋ว  :P


---ขนาดนั้น 

ถ้าอย่างนั้น ต้องนับเครื่องยนต์ด้วย = ห้วใจของรถ เกิดและตายเพื่อรถอย่างแท้จริง

ยางอุทิศตนมากกว่าเยอะครับ ตายแล้วตายอีก ซ้ำๆซากๆ ตั้งแต่รุ่นทวดยันโหลน บางรุ่นวันเดียวตาย ลุยทางวิบากก็แบกไว้ โดนตะปูทิ่มลมออกก็แบกรถสุดชีวิต ใครจะทำเพื่อรถได้มากกว่ายางอีกครับ


ยางก็ยางครับ ตามนั้น
My car and Driving is My Life = เวอร์ไปไหม ??

ออฟไลน์ ภูมิใจไหม?

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,144
  • SNK vs Playmore
Re: เกิดและตายเพื่อรถ
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: มีนาคม 28, 2019, 17:13:51 »
ผู้กำเนิดแบรนด์รถหลายๆค่ายครับ คิดค้นอันนี้ให้เบนซ์ กว่าจะคิดทำให้รถเป็นรถแบบทุกวันนี้เป็นต้นแบบ ต้องให้เค้า
  ,ผู้ที่ทำให้รถเป็นของทุกคนและจับต้องได้ในราคาถูก และคิดสายการผลิตทำให้อุตสาหกรรมเป็นในแนวทางปัจจุบัน เฮนรี่ ฟอร์ด ทั้งถูกกลั่นแกล้งจากค่ายอื่นว่าเลียนแบบ ต่อสู้ในศาลกว่าจะได้ผลิตรถ กว่าจะออกมาเป็น Model T ที่ขายเป็นล้านคันในสมัยนั้น

นักแข่งผมให้ คอลลิน แมคเรย์

แต่เค้าคอปเตอร์ตกเสียชีวิตนะครับ

ล้อเล่นครับ

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,640
Re: เกิดและตายเพื่อรถ
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: มีนาคม 28, 2019, 17:26:09 »
ผู้กำเนิดแบรนด์รถหลายๆค่ายครับ คิดค้นอันนี้ให้เบนซ์ กว่าจะคิดทำให้รถเป็นรถแบบทุกวันนี้เป็นต้นแบบ ต้องให้เค้า
  ,ผู้ที่ทำให้รถเป็นของทุกคนและจับต้องได้ในราคาถูก และคิดสายการผลิตทำให้อุตสาหกรรมเป็นในแนวทางปัจจุบัน เฮนรี่ ฟอร์ด ทั้งถูกกลั่นแกล้งจากค่ายอื่นว่าเลียนแบบ ต่อสู้ในศาลกว่าจะได้ผลิตรถ กว่าจะออกมาเป็น Model T ที่ขายเป็นล้านคันในสมัยนั้น

นักแข่งผมให้ คอลลิน แมคเรย์

แต่เค้าคอปเตอร์ตกเสียชีวิตนะครับ

ล้อเล่นครับ

ใช่ครับ พร้อมลูกด้วย  :'( :'(
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ punn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,596
  • may the force lead your way ...
Re: เกิดและตายเพื่อรถ
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: มีนาคม 28, 2019, 18:38:26 »
คนที่เข้าข่ายชัดเจนก็น่าจะพวก ข้อ 2
พวกที่ปั้นแบรนด์ สร้างนวัตกรรม สิ่งที่เกิดมาก็มักจะรักเหมือนลูกครับ
ซึ่งมีความผูกพัน ล้มลุกคลุกคลานกันมาเพื่อให้กำเนิดแบรนด์หรือนวัตกรรมรถยนต์
เป็นความเกี่ยวข้องยังถึงที่สุด ทุ่มเททั้งชีวิตและจิตใจ

ข้อ 1 กับ 3 ก็เป็นได้สำหรับผู้คลั่งไคล้รถยนต์
มีรถยนต์เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จหรือการใช้ชีวิต

------

กับต้องมาขยายความคำว่าเกิดและตายเพื่อรถกันหน่อย

เกิดมาเพื่อรถ ที่จขกทหมายถึง น่าจะประมาณ เห็นรถแล้วชอบ
ชอบขับ ชอบดู ชอบศึกษา ประหนึ่งรักแรกพบอะไรอย่างนี้ใช่มั้ยครับ

ตายเพื่อรถ น่าจะประมาณที่หลายคนพูดกัน ซื้อรถ ซ่อมรถ ขอให้ได้ขับหรือให้มันสมบูรณ์
ตัวเองจะแย่ยังไงหรืออดแค่ไหนก็ยอม แบบนี้มั้ยครับ

คงไม่ได้หมายถึง ตายเพราะรถยนต์นะครับ  :'(

------
เป็นคนโลกปกติธรรมดา :)
ไม่โลกสวย และไม่โลกมืด อยู่กับความเป็นจริงและพลังงานบวก ..

ปราชญ์สอนสิ่งไหน คนก็จะจำสิ่งนั้น
ประสบการณ์เจอแบบไหน คนก็จะคิดทางนั้น
ต่างคนต่างประสบการณ์เรียนรู้สิ่งเดียวกัน ก็จะออกมาแตกต่างกันไปครับ

ออฟไลน์ Pegasus7700

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,815
Re: เกิดและตายเพื่อรถ
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: มีนาคม 28, 2019, 19:03:49 »
ไม่มีแน่นอน
...ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป...

MERCEDES BENZ W212 '12
FORD FOCUS 2.0 Gdi '13
HONDA Civic RS '20
VOLVO XC60 Hybrid Inscription '19
FORD EVEREST 2.0 Bi Turbo '22

ออฟไลน์ lonely

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
Re: เกิดและตายเพื่อรถ
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: มีนาคม 28, 2019, 19:58:15 »
คนที่เข้าข่ายชัดเจนก็น่าจะพวก ข้อ 2
พวกที่ปั้นแบรนด์ สร้างนวัตกรรม สิ่งที่เกิดมาก็มักจะรักเหมือนลูกครับ
ซึ่งมีความผูกพัน ล้มลุกคลุกคลานกันมาเพื่อให้กำเนิดแบรนด์หรือนวัตกรรมรถยนต์
เป็นความเกี่ยวข้องยังถึงที่สุด ทุ่มเททั้งชีวิตและจิตใจ

ข้อ 1 กับ 3 ก็เป็นได้สำหรับผู้คลั่งไคล้รถยนต์
มีรถยนต์เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จหรือการใช้ชีวิต

------

กับต้องมาขยายความคำว่าเกิดและตายเพื่อรถกันหน่อย

เกิดมาเพื่อรถ ที่จขกทหมายถึง น่าจะประมาณ เห็นรถแล้วชอบ
ชอบขับ ชอบดู ชอบศึกษา ประหนึ่งรักแรกพบอะไรอย่างนี้ใช่มั้ยครับ

ตายเพื่อรถ น่าจะประมาณที่หลายคนพูดกัน ซื้อรถ ซ่อมรถ ขอให้ได้ขับหรือให้มันสมบูรณ์
ตัวเองจะแย่ยังไงหรืออดแค่ไหนก็ยอม แบบนี้มั้ยครับ

คงไม่ได้หมายถึง ตายเพราะรถยนต์นะครับ  :'(

------


ความเห็นของคุณ punn คือสิ่งที่ผมคิดในใจเลยครับ

ผมอาจจะไม่ได้เกิดเพื่อรถ

แต่มี "แนวโน้ม" จะตายเพื่อรถ เพราะผมแทบจะหมดเนื้อหมดตัวกับค่าซ่อมรถแล้วครับ  :'( :'( :'(
My car and Driving is My Life = เวอร์ไปไหม ??

ออฟไลน์ scotch_fillet

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,520
    • อีเมล์
Re: เกิดและตายเพื่อรถ
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: มีนาคม 28, 2019, 23:01:22 »
ทำงานแทบตายเผื่อเอามาผ่อนรถ ... นับไหมอ่ะคับ?

ออฟไลน์ mochalatte

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 357
Re: เกิดและตายเพื่อรถ
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: มีนาคม 29, 2019, 00:44:06 »
ถ้ามันคือปรัชญา

สําหรับผมมันแปลว่า passion
“เป็นความรู้สึกที่แรง แทบควบคุมไม่ได้”

ผบ ต้องมาพยามตบหน้าเราแรงกว่า! แล้วอ้างว่า ขอให้ในอยู่ในโลกความเป็นจริง
เค้าไม่ได้คิดผิด แต่ passion มันคงต่างกัน

ให้ตายก้อจะทำ เพราะผมไม่สามารถอยู่ในโลกที่ไม่มีความฝันเดียวกันได้เหมือน ผบ

สุดท้าย ความฝันของผมเปลี่ยนไป
เพราะทุกความฝันมันมาพร้อมราคาและเวลา
เหมือน ผบ ยื่นกระสุนให้พร้อมเหนี่ยวไก
ผมเลือกไม่ เพราะตายได้ครั้งเดียว
ชีวิตผมได้ถูกพรากไปแล้ว จาก passion
ที่เคยมี

ออฟไลน์ lonely

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
Re: เกิดและตายเพื่อรถ
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: มีนาคม 29, 2019, 01:27:28 »
ทำงานแทบตายเผื่อเอามาผ่อนรถ ... นับไหมอ่ะคับ?



น่าจะพอได้ครับ
My car and Driving is My Life = เวอร์ไปไหม ??

ออฟไลน์ lonely

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
Re: เกิดและตายเพื่อรถ
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: มีนาคม 29, 2019, 01:29:08 »
ถ้ามันคือปรัชญา

สําหรับผมมันแปลว่า passion
“เป็นความรู้สึกที่แรง แทบควบคุมไม่ได้”

ผบ ต้องมาพยามตบหน้าเราแรงกว่า! แล้วอ้างว่า ขอให้ในอยู่ในโลกความเป็นจริง
เค้าไม่ได้คิดผิด แต่ passion มันคงต่างกัน

ให้ตายก้อจะทำ เพราะผมไม่สามารถอยู่ในโลกที่ไม่มีความฝันเดียวกันได้เหมือน ผบ

สุดท้าย ความฝันของผมเปลี่ยนไป
เพราะทุกความฝันมันมาพร้อมราคาและเวลา
เหมือน ผบ ยื่นกระสุนให้พร้อมเหนี่ยวไก
ผมเลือกไม่ เพราะตายได้ครั้งเดียว
ชีวิตผมได้ถูกพรากไปแล้ว จาก passion
ที่เคยมี

มันคือเหตุการณ์จริงๆ ที่เกิดขึ้นกับคุณ mochalatte ??
My car and Driving is My Life = เวอร์ไปไหม ??

ออฟไลน์ Devil13

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,999
Re: เกิดและตายเพื่อรถ
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: มีนาคม 29, 2019, 06:57:31 »
ถ้าตายเพื่อรถและเกิดเพื่อรถ ผมว่านักแข่งเท่านั้น
หลายๆคนชอบรถก็จริงแต่เป็นนักแข่งไม่ได้ การเป็นนักแข่งต้องคัดเลือกอย่างสาหัส ผลงานต้องดีมากที่สุดในกลุ่ม เค้าจะเลี้ยงนักแข่งไว้แค่คนเดียว
แถมอายุต้องไม่เยอะ ให้แค่2 ต้นๆ บางคนถึงแม้จะเก่งแต่อายุเกิน เค้าก็มองว่าไม่คุ้มกับการลงทุนกว่าจะปั้นกว่าจะท๊อปฟอร์ม พอแก่สัก 3กลางๆก็สู้เด็กรุนใหม่ไม่ได้แล้ว