ผู้เขียน หัวข้อ: ยอดจอง ZS EV ทะลุ 600 คันแล้ว รถไฟฟ้าอาจนิยมไวกว่าที่คิด  (อ่าน 25416 ครั้ง)

ออฟไลน์ ซิ่งเข้าส้วม

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,150
ผมได้ยินคนข้างใน MG พูดกันว่ายอดจอง ZS EV ทั่วประเทศเกิน 600 คันไปแล้ว และคาดว่าจะเกิน 1,000 คันภายในต้นเดือนสิงหาคม

ซึ่งเทียบกับตอน MG3 เปิดตัวแล้วก็พอๆ กัน ทำให้ดูแล้วมีความเป็นไปได้ที่ยอดขายจะทรงๆ ที่ราวๆ 300 คันต่อเดือน ถ้ารถไม่ได้มีปัญหาร้ายแรงอะไร

ถ้าอิงตามตัวเลขในอดีต อัตราการเติบโตอาจเปลี่ยนจากเดือนละ 300 เป็นเดือนละ 600+ ภายในเวลาแค่ 2 ปี

ดังนั้นใน 3 ปีเราอาจเห็นรถยนต์ไฟฟ้าวิ่งในกทม. ราวๆ 10,000 คัน หรืออาจเติบโตแบบก้าวกระโดดเพราะรถญี่ปุ่นก็จะเข้ามาตลาดนี้ราวๆ ปี 2022

ผมเชื่อว่ารถไฟฟ้าในไทย เกิดไวแน่ๆ ครับ อย่างน้อยก็ใรกทม. เผื่อฝุ่นมันจะลดลงบ้างเล็กน้อยก็ยังดี

ออฟไลน์ kabokaboh

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 321
ดีครับ

จะได้มีเสียงคนใช้งาน ev จริงๆ

ว่า บ้านเราเหมาะสมที่จะใข้ รถยนต์ไฟฟ้า แบบจริงจัง ได้หรือยัง

เพราะเวลามีคำถามแบบนี้ขึ้นมา มักจะมีคำตอบสองแนวทางเสมอ

ซึ่งส่วนมากก็ตอบจากการคาดเดา

คราวนี้คงมีคนที่ตอบได้จากการใช้งานจริงอ่ะนะ

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,640
ดีเลย จะได้เห็​นแนวทางด้วย

ปล. รัฐบาล​ควรทำป้ายทะเบียนสีพิเศษ​ให้รถใช้ไฟฟ้านะ
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ Weetting

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,966
  • ช่วงล่าง+เครื่องยนต์
chevrolet มีตัวรถไฟฟ้าที่ร่วมือกับ  saic (sgmw)หลายตัวเลยครับ

ถ้า MG  ทำได้ดีในไทย  ผมว่าGM  เอาแน่
THE Manual Gearbox Preservation Society
Drive diesel until last day

ออฟไลน์ TeslaX

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,765
รอจัดการอะไหล่ให้ดีกว่านี้ก่อนแค่กระจกบานหลังยังไม่มีเปลี่ยนให้ รถตลาดวันเดียวก็มีของเลย

ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,629
 5555    ผมเชื่อว่ายังไงก็ไม่เกิด         ที่มันขายดีเพราะ MG  ตั้งราคาไว้คนทั่วไปที่พอมีกำลังเขายังพอซื้อได้เป็นรถคันที่ 3-4    ลองไปสุ่มถามคนซื้อได้ว่าเป็นรถคันแรกหรือรถคันเดียวของบ้านหรือไม่          ลองตั้งราคาเท่ากับนิสสันลีฟก็ได้เห็นผลทันที             ค่ายใหญ่ทั่วไปที่จะเอารถมาขายราคาไม่มีทางถูกเหมือน MG  ตอนนี้แน่  ๆ  อย่างน้อยต้องมี 1.7 ล้านขึ้นไป    ราคาคงยังไม่ถูกเร็ว ๆ นี้หรอก    แน่นอนว่ามันทำตลาดไม่ได้มากถ้าทำราคาถูกได้จริงเท่ากับ MG  คงพอเกิดได้ละ      แต่ยากที่จะทำราคานั้น
อีกทั้งลูกค้าคนทั่วไปยังรอจุดชาร์จกันอยู่เลย      ต่อไปมีปัญหาแน่ ๆ  ผมฟังดูคนบ้านเราคิดมันผิดหลักการของรถไฟฟ้าที่มันเน้นชาร์จที่บ้านไม่ได้เน้นไปชาร์จจุดข้างนอกทั่วไป

ออฟไลน์ ซิ่งเข้าส้วม

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,150
5555    ผมเชื่อว่ายังไงก็ไม่เกิด         ที่มันขายดีเพราะ MG  ตั้งราคาไว้คนทั่วไปที่พอมีกำลังเขายังพอซื้อได้เป็นรถคันที่ 3-4    ลองไปสุ่มถามคนซื้อได้ว่าเป็นรถคันแรกหรือรถคันเดียวของบ้านหรือไม่          ลองตั้งราคาเท่ากับนิสสันลีฟก็ได้เห็นผลทันที             ค่ายใหญ่ทั่วไปที่จะเอารถมาขายราคาไม่มีทางถูกเหมือน MG  ตอนนี้แน่  ๆ  อย่างน้อยต้องมี 1.7 ล้านขึ้นไป    ราคาคงยังไม่ถูกเร็ว ๆ นี้หรอก    แน่นอนว่ามันทำตลาดไม่ได้มากถ้าทำราคาถูกได้จริงเท่ากับ MG  คงพอเกิดได้ละ      แต่ยากที่จะทำราคานั้น
อีกทั้งลูกค้าคนทั่วไปยังรอจุดชาร์จกันอยู่เลย      ต่อไปมีปัญหาแน่ ๆ  ผมฟังดูคนบ้านเราคิดมันผิดหลักการของรถไฟฟ้าที่มันเน้นชาร์จที่บ้านไม่ได้เน้นไปชาร์จจุดข้างนอกทั่วไป

ผมว่าคุณเทียบตอนนี้มันผิดเวลาครับ ในตอนนี้คนที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคือคนที่มีกำลังทรัพย์ในระดับหนึ่ง

คุณจะไปเทียบว่าคนที่ใช้ eco car หรือมีรถคันเดียวไม่ซื้อ แน่นอนครับเขาไม่มีเงินไปซื้อ เป็นเรื่องปกติเพราะมันเป็นเทคโนโลยีใหม่

เหมือนตอนโทรศัพท์มือถือเครื่องละแสน คนที่ใช้ก่อนก็คือคนมีเงินแค่หยิบมือเดียวครับ พอคนใช้มากขึ้น ราคาถูกลง เหลือหลักหมื่น คนก็ใช้มากขึ้นตามลำดับ

จนสุดท้ายเทคโนโลยีมันไปไกล ราคาถูกกว่าการมีโทรศัพท์บ้านทุกคนก็ใช้มือถือ

ซึ่งรถมันคงไปช้ากว่ามือถือ เพราะราคาแพงกว่า

แต่ถ้าเทียบสถานการณ์ตอนนี้ผมว่าก็เหมือนโทรศัพท์มือถือแบบบ้องข้าวหลามราคาหลักหมื่นแล้วครับ

จากที่ประเมินว่าอีก 30 ปีกว่าคนไทยจะใช้รถไฟฟ้าแพร่หลาย ผมว่าอาจจะได้เห็นคนใช้รถไฟฟ้า เกิน 50% ภายใน 15 ปีนี้ครับ


ออฟไลน์ koko86

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,593
    • อีเมล์
ถ้าเป็นไปตามที่คุณซิ่งเข้าส้วมวิเคราะห์จะดีมากๆเลยครับ
ต้องขอบคุณคนที่ตัดสินใจซื้อรถ ev ด้วย ว่า เป็นคนที่มีความเป็นผู้นำกล้าตัดสินใจ และใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมมากๆ

รถไฟฟ้าจะได้ค่อยๆเกิดเสียที

ถ้าอนาคต giga factory ในจีนของเทสล่าเสร็จ และทำพวงมาลัยขวาออกมา อาจได้ขับรถที่มีสมรรถนะเท่าbmw m3ในราคา2-3ล้านเพราะะภาษีถูก ทิศทางรถไฟฟ้าน่าจะดีขึ้นไปอีก
และตอนนี้ผู้นำรถไฟฟ้ากำลังเร่งวิจัย super capcityและ แบตเตอรี่solidstage ซึ่งจะเบาและชาร์จได้เร็วกว่าเดิมมากๆ ยิ่งน่าจะเป็นเทรนด์ของโลกมากขึ้นไปอีก (ปัจจุบันsuper charge v3ของเทสล่า ถ้าจำไม่ผิดชาร์จไม่ถึงชั่วโมง วิ่งได้เป็นร้อยโล )

ในวงจรธุรกิจมันต้องมีdemand กับ supplyค่อยๆสนับสนุนเป็นห่วงโซ่กันไป
หมายถึงมีรถ ev บริษัททำแท่นชาร์จก็อยากทำแท่นเพิ่ม
เมื่อมีแท่นชาร์จเพิ่ม คนก็อยากใช้รถev เพิ่มไปเอง

ถ้าใช้รถev กันเยอะๆ อีก4-5 ปี อากาศใน กทม น่าจะดีขึ้นกว่าปัจจุบันแน่นอน
ซึ่งคนที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดก็คือประชาชนอย่างเราๆทุกๆคนที่สุขภาพดีขึ้น นั่นเองครับ
เพราะ มลพิษทางอากาศนอกจากจะเป็นสาเหตุของโรคปอดภูมิแพ้แล้วยังเป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง เส้นเลือดสมอง และอื่นๆอีกมากมาย ทุกวันนี้ คนเสียชีวิตจากมลพิษทางอากาศมากกว่าโรคเอดส์เสียอีก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 07, 2019, 08:50:53 โดย koko86 »

ออฟไลน์ O_o"

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,359
ถ้า nissan leaf ตั้งราคารถไฟฟ้าล้านต้นๆ ZS EV อาจไม่ได้เกิดก็ได้ครับ แต่ถ้า ZS EV เปิดราคา 1.5 ล้าน ในราคานี้ โดยส่วนตัวคงเพิ่มงบก็คงไปออก nissan​ leaf ดีกว่าครับ เพราะ nissan​ ยังมีชื่อชั้นประสบการณ์​เรื่องรถไฟฟ้าดีกว่า MG ที่พึ่งทำขายออกมารุ่นแรก

ออฟไลน์ Mp4_007

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 787
ดีแล้วครับ มีหนูทดลองเยอะๆอะดีครับ ใครรีบซื้อก่อนเลย ช่วยกันซื้อเยอะๆไม่งั้นรถไฟฟ้าคงไม่เกิด 
แต่ผมขอรอดีกว่า อีก10ปีค่อยซื้อก็ยังไม่สาย

ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,703
อย่าเพิ่งโตเถึยงกันเลยครับ  ที่ผ่านมาเราโต้เถียงกันบนพื้นฐานของการคาดเดาทั้งนั้น

ข่าวนี้เป็นเรื่องที่น่ายินดีครับ เราจะได้มี feedback จากเจ้าของผู้ใช้จริงเป็นจำนวนมาก
และมีรูปแบบการใช้งานที่หลากหลายออกไป  สิ่งใดที่คาดเดากันไว้ ไม่ว่าจะเป็น
ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานจะถูกมาก  ค่าซ่อมบำรุงแทบจะไม่มี  ตัวรถไม่มีอะไรให้ต้องซ่อม
ก็จะได้รู้กันจริง ๆ กันล่ะคราวนี้  ที่สำคัญ เราจะได้รู้ว่า รถแบบนี้เหมาะกับ lifestyle แบบไหนครับ

ออฟไลน์ earrt

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 740
http://www.headlightmag.com/news-bmw-forecasts-future-of-diesel-and-petrol-engines/

แบบนี้ัราคาน้ำมัน น่าจะถูกลงนะครับ เพราะความต้องการลดลง

ออฟไลน์ ซิ่งเข้าส้วม

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,150
http://www.headlightmag.com/news-bmw-forecasts-future-of-diesel-and-petrol-engines/

แบบนี้ัราคาน้ำมัน น่าจะถูกลงนะครับ เพราะความต้องการลดลง

ถ้าจะถึงขั้นนั้น น่าจะต้อง Mass แล้วครับ

ตอนนี้อยากเห็นกระบะไฟฟ้า รถบรรทุกไฟฟ้า รถเมล์ไฟฟ้า ถ้ามาครบแบบนั้นน้ำมันถูกลงแน่นอนครับ

ออฟไลน์ tnp_super

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,927
    • อีเมล์
ถ้ายอด MG ZS EV ขายได้แบบเกินเดือนละ 500 คันต่อเนื่องยาวๆ ผมคิดว่าต้องมีค่ายใหญ่ๆทำออกมาขายแน่นอน และเมื่อมีการแข่งขัน ก็จะมีการพัฒนาเรื่องเทคโนโลยีแบตเตอรี่ ซึ่งอาจมีรถที่วิ่งได้ไกลเกินพันกิโลต่อการชาร์จ 1 ครั้งแน่นอนในอนาคตอันใกล้ อันนี้ก็เดา

ออฟไลน์ rvsmart

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 672
ถามว่าหมดพันคันแล้วราคาจะเป็นเท่าไหร่ครับ

ออฟไลน์ toffyearn

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 628
ผมไม่เอากะเค้าด้วยคนนึง โดยเฉพาะตอนนี้
แต่ถ้าจีนไปไว ผมก็ว่าเมืองไทยก็น่าจะไวขึ้นด้วย แต่ผมมองว่ารถไฟฟ้า ไม่เหมาะกับคนใช้รถเมืองไทยเท่าไหร่
แล้วในอนาคต ราคาอาจไม่ได้ลดลงมากอย่างที่คิด ผมว่าที่จีนไปไว เพราะจีนอยากเป็นผู้นำด้านนี้เร่งเอง
การเปลี่ยนแปลงทั่วโลกยังค่อยเป็น ค่อยไป ตามตลาด เทคโนโลยี รวมทั้งราราคาน้ำมัน แล้วจีนมีแร่ที่ทำแบตเตอรี่อยู่เยอะ
ทำให้ได้เปรียบ แต่ในอนาคตแร่ต่างๆเหล่านี้ราคาน่าจะขยับขึ้น ค่าแรงจีนแต่ละปียังขึ้นสูงมาก จนผู้ประกอบการคนจีนบางรายยังบ่นเซทต้นทุนไม่ได้เลย

ออฟไลน์ bmmac

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 319
ถ้า mg ทำดี ก็จะสร้างความเชื่อมั่น
ถ้าไม่ดี ก็ม้วนสื่อ ทุกเจ้า ต่อให้ราคาถูกสักเท่าไร
พฤติกรรมคนไทย ยังใช้รถเพื่อตอบทุกโจทย์ที่ต้องการ
ฉะนั้น ล้านนิดๆ งบเท่านี้ ตัวเลือกในตลาด เยอะมาก
ใครจะเสี่ยงกับ hello mg ผมยังมองว่า การชาร์จแบต
เจ้าของ ยังต้องปรับตัว

ออฟไลน์ Smith686

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,946
    • อีเมล์
5555    ผมเชื่อว่ายังไงก็ไม่เกิด         ที่มันขายดีเพราะ MG  ตั้งราคาไว้คนทั่วไปที่พอมีกำลังเขายังพอซื้อได้เป็นรถคันที่ 3-4    ลองไปสุ่มถามคนซื้อได้ว่าเป็นรถคันแรกหรือรถคันเดียวของบ้านหรือไม่          ลองตั้งราคาเท่ากับนิสสันลีฟก็ได้เห็นผลทันที             ค่ายใหญ่ทั่วไปที่จะเอารถมาขายราคาไม่มีทางถูกเหมือน MG  ตอนนี้แน่  ๆ  อย่างน้อยต้องมี 1.7 ล้านขึ้นไป    ราคาคงยังไม่ถูกเร็ว ๆ นี้หรอก    แน่นอนว่ามันทำตลาดไม่ได้มากถ้าทำราคาถูกได้จริงเท่ากับ MG  คงพอเกิดได้ละ      แต่ยากที่จะทำราคานั้น
อีกทั้งลูกค้าคนทั่วไปยังรอจุดชาร์จกันอยู่เลย      ต่อไปมีปัญหาแน่ ๆ  ผมฟังดูคนบ้านเราคิดมันผิดหลักการของรถไฟฟ้าที่มันเน้นชาร์จที่บ้านไม่ได้เน้นไปชาร์จจุดข้างนอกทั่วไป

    ผมว่าคนที่มีรถ 3-4 คัน ซึ่งก็แสดงว่าเขามีเงินเยอะมาก  บ้านก็หลังใหญ่มากและแพงมากจึงจอดรถได้ 3-4 คัน  เขาคงไม่ซื้อ MG  คนที่ซื้อ MG น่าจะเป็นรถคันที่สองหรือคันแรกมากกว่า  คนพวกนี้ในประเทศไทยมีเป็นล้านคนนะครับ

ออฟไลน์ Jacob

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,803
ยุค autopilot ก็กำลังจะมา เค้าพัฒนากันไปไกลจริงๆ ซึ่งรถก็ต้องเป็นไฟฟ้าถึงจะทำได้
เรื่องการเสียบปลั๊กคนไทยอาจไม่สะดวกเพราะเข้าปั้มมีเด็กปั้มมาเติม ไม่เหมือนเมืองนอกที่เติมเองเลยไม่รู้สึกแตกต่าง แต่ที่ชาร์จไร้สายก็มีแล้วแค่เอารถไปจอด เรียกได้ว่ามันสะดวกจนต่อให้น้ำมันถูกคนก็คงไม่คิดใช้รถน้ำมันกัน
ปล. เคยโพสต์เมื่อหลายปีก่อนว่ามีคนทำนายไว้ อีกสิบปีน้ำมันจะถูกกว่าน้ำ ดูท่าทางคงจะเป็นจริง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 07, 2019, 11:38:51 โดย Jacob »

ออฟไลน์ masuoka

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,156
ราคาเริ่มจับต้องได้พอสมเหตุสมผลละสำหรับรถ EV แพงกว่านี้ขายยาก

ออฟไลน์ off_033

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,264
    • อีเมล์
ต้องขอบคุณคนที่กล้าลอง และคนที่ลองคิดว่าคงมีกำลังซื้อระดับนึงอาจจะคันที่ 2 3 4 ในบ้าน

มีคนซื้อดีแล้วครับ  จะได้เห็นของจริงว่ารถ EV ใช้จริงจะเป็นยังไงจุดชาร์ทพอมั้ย  มีปัญหาอะไรที่คาดไม่ถึงอีก

คิดว่าญี่ปุ่นทั้งหลายคงจับตาอยู่เหมือนกัน ถ้ามันไปได้ดีคงยอมงัดเอาของตัวเองมาร่วมวงเร็วขึ้น

ส่วนเรื่องอะไหล่หรือคุณภาพ MG ต้องพัฒนามากกว่านี้เพิ่มขึ้นเอง  ไม่งั้นจะกลายเป็นสะดุดขาตัวเองไปถ้าไปได้ดีตอนนี้ถือว่าแทบจะไม่มีคู่แข่ง EV เลยด้วยซ้ำ เพราะเจ้าอื่นแพงกว่ามาก โอกาสมาแล้วไม่น่าจะปล่อยไปง่ายๆหรอกครับ




ออฟไลน์ seeker

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,525
รอจัดการอะไหล่ให้ดีกว่านี้ก่อนแค่กระจกบานหลังยังไม่มีเปลี่ยนให้ รถตลาดวันเดียวก็มีของเลย

เห็นด้วยครับ การบริการหลังการขายเป็นสิ่งสำคัญ

แต่ผมว่าถ้าตลาดจะเป็นของรถ ev ราคาต้องใกล้เคียงกับ b segment และมีอู่ซ่อมที่แพร่หลายกว่านี้ จุดเติมไฟที่มีกระจายไปสู่ภูมิภาค

ออฟไลน์ lay

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,270
ข้อได้เปรียบอีกอย่างคือ   ZS ตัวเดิมก็ขายได้มากอยู่   อะไหล่หลายชิ้นใช้ร่วมกันได้  สบายใจกว่ายี่ฮ่ออื่นเยอะ

ออฟไลน์ axister

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,180
ผมมองว่ายาก เหมือนเป็นการพิสูจน์ตัวของ mg มากกว่า

เนื่องจากทำราคามาได้ถูกมาก คนเลยมองระยะสั้นว่า แพงกว่ารถปกตินิดเดียว ออปชั่นล้นๆ แต่ไม่ต้องเติมน้ำมัน เฮ!
ยิ่งมีพวก sense of urgency แจกนี่แจกนั่น 1000คันแรก คุ้มจริงๆ เห็นแล้วยังอยากลองเลย

จะนิยมได้มั้ยคงต้องรอใช้งานไปสัก 4-5เดือน ด้วยที่เป็นรถ mg ถูกละเข้าถึงง่าย
แต่ความเชื่อมั่นในแบรนด์ยังน้อยมาก รถมีปัญหาเยอะสาวกก็อวยไม่ลืมหูลืมตา

รถไฟฟ้าจะเป็นที่นิยมได้ต้องเกิดจากการที่รัฐยื่นมือมาช่วย ไม่ใช่แค่เรื่องราคา แต่เรื่องปั้มชาร์จหรืออื่นๆต้องตามมาด้วย

ตอนนี้ EV เป็นเหมือนกระแส หลายๆห้างทำที่จอดพิเศษมา ทำให้มันดูน่าใช้บวกกับราคาที่ mg ทำมามันดี

อนาคตถ้า EV mass ขึ้นมาจริงๆ ผู้อยู่คอนโดก็จะเริ่มเกิดปัญหา แย่งที่ชาร์จกัน ห้างก็ไม่ได้ไปเมื่อไหร่ก็ได้จอดชาร์จแล้ว

ไหนจะต้องไปแย่งกับพวก ยุโรปเสียบปลั๊กที่ตั้งกรุ๊ปไลน์มาส่งต่อที่จอดกันอีก

ปัญหาเรื่องอะไหล่แพงคงไม่ได้มากมายเท่าไหร่แล้ว แบตก็ถูงลงเยอะจากอดีต แต่ติดตรงรัฐไม่หนับหนุนจริงจัง


ออฟไลน์ punn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,593
  • may the force lead your way ...
ผมเชื่อว่ามีบางส่วนที่ซื้อเป็นรถคันเดียวของบ้าน  ;D
ดีไม่ดี คันแรกก็คงมีไม่น้อย

เนื่องจากราคารวมถึงของแถม และคำโปรยเรื่องเซอร์วิส
ในเมื่อราคาเท่ากัน ความแรงกินขาดหรือพอฟัดมือ 1 ทุกยี่ห้อ
เป็นคนทั่วไปมีลังเลไม่น้อย บวกกับข่าวต่างๆ
ที่เร่งสร้างความเชื่อความมั่นใจ และกูรูพูดในทางเดียวกัน
รถ EV ๆๆ คืออนาคตของมวลมหามนุษยชาติ

การตลาดที่น่ากลัวจริงๆ เทคนิคแบบการเชียร์หุ้นเลย
อาจจะดีจริง หรืออาจจะมีจุดอ่อนเยอะ รอดูกันต่อไปครับ
เป็นคนโลกปกติธรรมดา :)
ไม่โลกสวย และไม่โลกมืด อยู่กับความเป็นจริงและพลังงานบวก ..

ปราชญ์สอนสิ่งไหน คนก็จะจำสิ่งนั้น
ประสบการณ์เจอแบบไหน คนก็จะคิดทางนั้น
ต่างคนต่างประสบการณ์เรียนรู้สิ่งเดียวกัน ก็จะออกมาแตกต่างกันไปครับ

ออฟไลน์ tumsung

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 128
ถ้าเป็นไปตามที่คุณซิ่งเข้าส้วมวิเคราะห์จะดีมากๆเลยครับ
ต้องขอบคุณคนที่ตัดสินใจซื้อรถ ev ด้วย ว่า เป็นคนที่มีความเป็นผู้นำกล้าตัดสินใจ และใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมมากๆ

รถไฟฟ้าจะได้ค่อยๆเกิดเสียที

ถ้าอนาคต giga factory ในจีนของเทสล่าเสร็จ และทำพวงมาลัยขวาออกมา อาจได้ขับรถที่มีสมรรถนะเท่าbmw m3ในราคา2-3ล้านเพราะะภาษีถูก ทิศทางรถไฟฟ้าน่าจะดีขึ้นไปอีก
และตอนนี้ผู้นำรถไฟฟ้ากำลังเร่งวิจัย super capcityและ แบตเตอรี่solidstage ซึ่งจะเบาและชาร์จได้เร็วกว่าเดิมมากๆ ยิ่งน่าจะเป็นเทรนด์ของโลกมากขึ้นไปอีก (ปัจจุบันsuper charge v3ของเทสล่า ถ้าจำไม่ผิดชาร์จไม่ถึงชั่วโมง วิ่งได้เป็นร้อยโล )

ในวงจรธุรกิจมันต้องมีdemand กับ supplyค่อยๆสนับสนุนเป็นห่วงโซ่กันไป
หมายถึงมีรถ ev บริษัททำแท่นชาร์จก็อยากทำแท่นเพิ่ม
เมื่อมีแท่นชาร์จเพิ่ม คนก็อยากใช้รถev เพิ่มไปเอง

ถ้าใช้รถev กันเยอะๆ อีก4-5 ปี อากาศใน กทม น่าจะดีขึ้นกว่าปัจจุบันแน่นอน
ซึ่งคนที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดก็คือประชาชนอย่างเราๆทุกๆคนที่สุขภาพดีขึ้น นั่นเองครับ
เพราะ มลพิษทางอากาศนอกจากจะเป็นสาเหตุของโรคปอดภูมิแพ้แล้วยังเป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง เส้นเลือดสมอง และอื่นๆอีกมากมาย ทุกวันนี้ คนเสียชีวิตจากมลพิษทางอากาศมากกว่าโรคเอดส์เสียอีก

คิดว่า อีก 5 ปีคนทั่วไปนอกเมืองเริ่มยอมรับ อีก 10 ปี น่าจะเกิดได้
ส่วนตัวคิดว่าเมืองไทยตอนนี้เหมาะกับเครื่อง e-power ของNissan มากกว่าครับ

ออฟไลน์ Hadoken Shoryuken

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,281
รอราคามือสองครับ
รถไฟฟ้า รถไฮบริด ราคามือสอง น่าเล่นมาก อิอิ

ออฟไลน์ Left lane driver

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 700
รอจัดการอะไหล่ให้ดีกว่านี้ก่อนแค่กระจกบานหลังยังไม่มีเปลี่ยนให้ รถตลาดวันเดียวก็มีของเลย
Toyota รอกระจก 6 เดือนก็มีมาแล้วครับ

ออฟไลน์ Akara

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 286
    • อีเมล์
5555    ผมเชื่อว่ายังไงก็ไม่เกิด         ที่มันขายดีเพราะ MG  ตั้งราคาไว้คนทั่วไปที่พอมีกำลังเขายังพอซื้อได้เป็นรถคันที่ 3-4    ลองไปสุ่มถามคนซื้อได้ว่าเป็นรถคันแรกหรือรถคันเดียวของบ้านหรือไม่          ลองตั้งราคาเท่ากับนิสสันลีฟก็ได้เห็นผลทันที             ค่ายใหญ่ทั่วไปที่จะเอารถมาขายราคาไม่มีทางถูกเหมือน MG  ตอนนี้แน่  ๆ  อย่างน้อยต้องมี 1.7 ล้านขึ้นไป    ราคาคงยังไม่ถูกเร็ว ๆ นี้หรอก    แน่นอนว่ามันทำตลาดไม่ได้มากถ้าทำราคาถูกได้จริงเท่ากับ MG  คงพอเกิดได้ละ      แต่ยากที่จะทำราคานั้น
อีกทั้งลูกค้าคนทั่วไปยังรอจุดชาร์จกันอยู่เลย      ต่อไปมีปัญหาแน่ ๆ  ผมฟังดูคนบ้านเราคิดมันผิดหลักการของรถไฟฟ้าที่มันเน้นชาร์จที่บ้านไม่ได้เน้นไปชาร์จจุดข้างนอกทั่วไป

ผมว่าคุณเทียบตอนนี้มันผิดเวลาครับ ในตอนนี้คนที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคือคนที่มีกำลังทรัพย์ในระดับหนึ่ง

คุณจะไปเทียบว่าคนที่ใช้ eco car หรือมีรถคันเดียวไม่ซื้อ แน่นอนครับเขาไม่มีเงินไปซื้อ เป็นเรื่องปกติเพราะมันเป็นเทคโนโลยีใหม่

เหมือนตอนโทรศัพท์มือถือเครื่องละแสน คนที่ใช้ก่อนก็คือคนมีเงินแค่หยิบมือเดียวครับ พอคนใช้มากขึ้น ราคาถูกลง เหลือหลักหมื่น คนก็ใช้มากขึ้นตามลำดับ

จนสุดท้ายเทคโนโลยีมันไปไกล ราคาถูกกว่าการมีโทรศัพท์บ้านทุกคนก็ใช้มือถือ

ซึ่งรถมันคงไปช้ากว่ามือถือ เพราะราคาแพงกว่า

แต่ถ้าเทียบสถานการณ์ตอนนี้ผมว่าก็เหมือนโทรศัพท์มือถือแบบบ้องข้าวหลามราคาหลักหมื่นแล้วครับ

จากที่ประเมินว่าอีก 30 ปีกว่าคนไทยจะใช้รถไฟฟ้าแพร่หลาย ผมว่าอาจจะได้เห็นคนใช้รถไฟฟ้า เกิน 50% ภายใน 15 ปีนี้ครับ
นึกถึงเมื่อก่อนตอนใช้โนเกีย ชาร์จทีอยู่ได้เป็นอาทิตย์ ขณะที่สมาร์ทโฟนอยู่ได้วันเดียว ผมไม่เอาด้วยแน่เพราะขี้เกียจชาร์จบ่อยๆ ต้องพกที่ชาร์จไหม ไหนจะต้องหาปลั๊กไฟอีก ไปต่างจังหวัดหวัดจะใช้เน็ตที่ไหน ดูๆแล้วอีกหลาย10ปี ไม่มีทางจะเป็นแมสได้เลย ไหนจะตัวเครื่อง ไหนจะผู้ให้บริการ ไหนจะค่าเน็ตที่แพงระดับหูฉี่ก็ว่าได้ คงกระจุกตัวอยู่ที่ กทม กับเป็นของเล่นคนรวยเท่านั้น ผ่านไปไม่กี่ปี ผมใช้สมาร์ทโฟนเป็นคนท้ายๆด้วยซ้ำ(IPhone 4s)และลืมข้อดีของโนเกียไปหมดแล้ว ยังงงอยู่เลยว่าผ่านจุดนั้นมาได้ยังไง ในนี้มีใครใช้สมาร์ทโฟนหลังจาก iPhone 4s บ้าง

ออฟไลน์ Sit: )

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,463
    • อีเมล์
รอชมครับ
ไม่กล้าเห็นด้วยหรือโต้แย้งใดๆ