ยอดจอง ZS EV ทะลุ 600 คันแล้ว รถไฟฟ้าอาจนิยมไวกว่าที่คิด

ซิ่งเข้าส้วม

ผมได้ยินคนข้างใน MG พูดกันว่ายอดจอง ZS EV ทั่วประเทศเกิน 600 คันไปแล้ว และคาดว่าจะเกิน 1,000 คันภายในต้นเดือนสิงหาคม

ซึ่งเทียบกับตอน MG3 เปิดตัวแล้วก็พอๆ กัน ทำให้ดูแล้วมีความเป็นไปได้ที่ยอดขายจะทรงๆ ที่ราวๆ 300 คันต่อเดือน ถ้ารถไม่ได้มีปัญหาร้ายแรงอะไร

ถ้าอิงตามตัวเลขในอดีต อัตราการเติบโตอาจเปลี่ยนจากเดือนละ 300 เป็นเดือนละ 600+ ภายในเวลาแค่ 2 ปี

ดังนั้นใน 3 ปีเราอาจเห็นรถยนต์ไฟฟ้าวิ่งในกทม. ราวๆ 10,000 คัน หรืออาจเติบโตแบบก้าวกระโดดเพราะรถญี่ปุ่นก็จะเข้ามาตลาดนี้ราวๆ ปี 2022

ผมเชื่อว่ารถไฟฟ้าในไทย เกิดไวแน่ๆ ครับ อย่างน้อยก็ใรกทม. เผื่อฝุ่นมันจะลดลงบ้างเล็กน้อยก็ยังดี



kabokaboh

ดีครับ

จะได้มีเสียงคนใช้งาน ev จริงๆ

ว่า บ้านเราเหมาะสมที่จะใข้ รถยนต์ไฟฟ้า แบบจริงจัง ได้หรือยัง

เพราะเวลามีคำถามแบบนี้ขึ้นมา มักจะมีคำตอบสองแนวทางเสมอ

ซึ่งส่วนมากก็ตอบจากการคาดเดา

คราวนี้คงมีคนที่ตอบได้จากการใช้งานจริงอ่ะนะ



Fly to dream

ดีเลย จะได้เห็​นแนวทางด้วย

ปล. รัฐบาล​ควรทำป้ายทะเบียนสีพิเศษ​ให้รถใช้ไฟฟ้านะ
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย



Weetting

chevrolet มีตัวรถไฟฟ้าที่ร่วมือกับ  saic (sgmw)หลายตัวเลยครับ

ถ้า MG  ทำได้ดีในไทย  ผมว่าGM  เอาแน่
THE Manual Gearbox Preservation Society
Drive diesel until last day



TeslaX

รอจัดการอะไหล่ให้ดีกว่านี้ก่อนแค่กระจกบานหลังยังไม่มีเปลี่ยนให้ รถตลาดวันเดียวก็มีของเลย



Auto

 5555    ผมเชื่อว่ายังไงก็ไม่เกิด         ที่มันขายดีเพราะ MG  ตั้งราคาไว้คนทั่วไปที่พอมีกำลังเขายังพอซื้อได้เป็นรถคันที่ 3-4    ลองไปสุ่มถามคนซื้อได้ว่าเป็นรถคันแรกหรือรถคันเดียวของบ้านหรือไม่          ลองตั้งราคาเท่ากับนิสสันลีฟก็ได้เห็นผลทันที             ค่ายใหญ่ทั่วไปที่จะเอารถมาขายราคาไม่มีทางถูกเหมือน MG  ตอนนี้แน่  ๆ  อย่างน้อยต้องมี 1.7 ล้านขึ้นไป    ราคาคงยังไม่ถูกเร็ว ๆ นี้หรอก    แน่นอนว่ามันทำตลาดไม่ได้มากถ้าทำราคาถูกได้จริงเท่ากับ MG  คงพอเกิดได้ละ      แต่ยากที่จะทำราคานั้น
อีกทั้งลูกค้าคนทั่วไปยังรอจุดชาร์จกันอยู่เลย      ต่อไปมีปัญหาแน่ ๆ  ผมฟังดูคนบ้านเราคิดมันผิดหลักการของรถไฟฟ้าที่มันเน้นชาร์จที่บ้านไม่ได้เน้นไปชาร์จจุดข้างนอกทั่วไป



ซิ่งเข้าส้วม

5555    ผมเชื่อว่ายังไงก็ไม่เกิด         ที่มันขายดีเพราะ MG  ตั้งราคาไว้คนทั่วไปที่พอมีกำลังเขายังพอซื้อได้เป็นรถคันที่ 3-4    ลองไปสุ่มถามคนซื้อได้ว่าเป็นรถคันแรกหรือรถคันเดียวของบ้านหรือไม่          ลองตั้งราคาเท่ากับนิสสันลีฟก็ได้เห็นผลทันที             ค่ายใหญ่ทั่วไปที่จะเอารถมาขายราคาไม่มีทางถูกเหมือน MG  ตอนนี้แน่  ๆ  อย่างน้อยต้องมี 1.7 ล้านขึ้นไป    ราคาคงยังไม่ถูกเร็ว ๆ นี้หรอก    แน่นอนว่ามันทำตลาดไม่ได้มากถ้าทำราคาถูกได้จริงเท่ากับ MG  คงพอเกิดได้ละ      แต่ยากที่จะทำราคานั้น
อีกทั้งลูกค้าคนทั่วไปยังรอจุดชาร์จกันอยู่เลย      ต่อไปมีปัญหาแน่ ๆ  ผมฟังดูคนบ้านเราคิดมันผิดหลักการของรถไฟฟ้าที่มันเน้นชาร์จที่บ้านไม่ได้เน้นไปชาร์จจุดข้างนอกทั่วไป

ผมว่าคุณเทียบตอนนี้มันผิดเวลาครับ ในตอนนี้คนที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคือคนที่มีกำลังทรัพย์ในระดับหนึ่ง

คุณจะไปเทียบว่าคนที่ใช้ eco car หรือมีรถคันเดียวไม่ซื้อ แน่นอนครับเขาไม่มีเงินไปซื้อ เป็นเรื่องปกติเพราะมันเป็นเทคโนโลยีใหม่

เหมือนตอนโทรศัพท์มือถือเครื่องละแสน คนที่ใช้ก่อนก็คือคนมีเงินแค่หยิบมือเดียวครับ พอคนใช้มากขึ้น ราคาถูกลง เหลือหลักหมื่น คนก็ใช้มากขึ้นตามลำดับ

จนสุดท้ายเทคโนโลยีมันไปไกล ราคาถูกกว่าการมีโทรศัพท์บ้านทุกคนก็ใช้มือถือ

ซึ่งรถมันคงไปช้ากว่ามือถือ เพราะราคาแพงกว่า

แต่ถ้าเทียบสถานการณ์ตอนนี้ผมว่าก็เหมือนโทรศัพท์มือถือแบบบ้องข้าวหลามราคาหลักหมื่นแล้วครับ

จากที่ประเมินว่าอีก 30 ปีกว่าคนไทยจะใช้รถไฟฟ้าแพร่หลาย ผมว่าอาจจะได้เห็นคนใช้รถไฟฟ้า เกิน 50% ภายใน 15 ปีนี้ครับ




koko86

ถ้าเป็นไปตามที่คุณซิ่งเข้าส้วมวิเคราะห์จะดีมากๆเลยครับ
ต้องขอบคุณคนที่ตัดสินใจซื้อรถ ev ด้วย ว่า เป็นคนที่มีความเป็นผู้นำกล้าตัดสินใจ และใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมมากๆ

รถไฟฟ้าจะได้ค่อยๆเกิดเสียที

ถ้าอนาคต giga factory ในจีนของเทสล่าเสร็จ และทำพวงมาลัยขวาออกมา อาจได้ขับรถที่มีสมรรถนะเท่าbmw m3ในราคา2-3ล้านเพราะะภาษีถูก ทิศทางรถไฟฟ้าน่าจะดีขึ้นไปอีก
และตอนนี้ผู้นำรถไฟฟ้ากำลังเร่งวิจัย super capcityและ แบตเตอรี่solidstage ซึ่งจะเบาและชาร์จได้เร็วกว่าเดิมมากๆ ยิ่งน่าจะเป็นเทรนด์ของโลกมากขึ้นไปอีก (ปัจจุบันsuper charge v3ของเทสล่า ถ้าจำไม่ผิดชาร์จไม่ถึงชั่วโมง วิ่งได้เป็นร้อยโล )

ในวงจรธุรกิจมันต้องมีdemand กับ supplyค่อยๆสนับสนุนเป็นห่วงโซ่กันไป
หมายถึงมีรถ ev บริษัททำแท่นชาร์จก็อยากทำแท่นเพิ่ม
เมื่อมีแท่นชาร์จเพิ่ม คนก็อยากใช้รถev เพิ่มไปเอง

ถ้าใช้รถev กันเยอะๆ อีก4-5 ปี อากาศใน กทม น่าจะดีขึ้นกว่าปัจจุบันแน่นอน
ซึ่งคนที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดก็คือประชาชนอย่างเราๆทุกๆคนที่สุขภาพดีขึ้น นั่นเองครับ
เพราะ มลพิษทางอากาศนอกจากจะเป็นสาเหตุของโรคปอดภูมิแพ้แล้วยังเป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง เส้นเลือดสมอง และอื่นๆอีกมากมาย ทุกวันนี้ คนเสียชีวิตจากมลพิษทางอากาศมากกว่าโรคเอดส์เสียอีก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 07, 2019, 08:50:53 โดย koko86 »



Mp4_007

ดีแล้วครับ มีหนูทดลองเยอะๆอะดีครับ ใครรีบซื้อก่อนเลย ช่วยกันซื้อเยอะๆไม่งั้นรถไฟฟ้าคงไม่เกิด 
แต่ผมขอรอดีกว่า อีก10ปีค่อยซื้อก็ยังไม่สาย



Symphonic

อย่าเพิ่งโตเถึยงกันเลยครับ  ที่ผ่านมาเราโต้เถียงกันบนพื้นฐานของการคาดเดาทั้งนั้น

ข่าวนี้เป็นเรื่องที่น่ายินดีครับ เราจะได้มี feedback จากเจ้าของผู้ใช้จริงเป็นจำนวนมาก
และมีรูปแบบการใช้งานที่หลากหลายออกไป  สิ่งใดที่คาดเดากันไว้ ไม่ว่าจะเป็น
ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานจะถูกมาก  ค่าซ่อมบำรุงแทบจะไม่มี  ตัวรถไม่มีอะไรให้ต้องซ่อม
ก็จะได้รู้กันจริง ๆ กันล่ะคราวนี้  ที่สำคัญ เราจะได้รู้ว่า รถแบบนี้เหมาะกับ lifestyle แบบไหนครับ



earrt

http://www.headlightmag.com/news-bmw-forecasts-future-of-diesel-and-petrol-engines/

แบบนี้ัราคาน้ำมัน น่าจะถูกลงนะครับ เพราะความต้องการลดลง



ซิ่งเข้าส้วม

http://www.headlightmag.com/news-bmw-forecasts-future-of-diesel-and-petrol-engines/

แบบนี้ัราคาน้ำมัน น่าจะถูกลงนะครับ เพราะความต้องการลดลง

ถ้าจะถึงขั้นนั้น น่าจะต้อง Mass แล้วครับ

ตอนนี้อยากเห็นกระบะไฟฟ้า รถบรรทุกไฟฟ้า รถเมล์ไฟฟ้า ถ้ามาครบแบบนั้นน้ำมันถูกลงแน่นอนครับ



tnp_super

ถ้ายอด MG ZS EV ขายได้แบบเกินเดือนละ 500 คันต่อเนื่องยาวๆ ผมคิดว่าต้องมีค่ายใหญ่ๆทำออกมาขายแน่นอน และเมื่อมีการแข่งขัน ก็จะมีการพัฒนาเรื่องเทคโนโลยีแบตเตอรี่ ซึ่งอาจมีรถที่วิ่งได้ไกลเกินพันกิโลต่อการชาร์จ 1 ครั้งแน่นอนในอนาคตอันใกล้ อันนี้ก็เดา



rvsmart

ถามว่าหมดพันคันแล้วราคาจะเป็นเท่าไหร่ครับ



toffyearn

ผมไม่เอากะเค้าด้วยคนนึง โดยเฉพาะตอนนี้
แต่ถ้าจีนไปไว ผมก็ว่าเมืองไทยก็น่าจะไวขึ้นด้วย แต่ผมมองว่ารถไฟฟ้า ไม่เหมาะกับคนใช้รถเมืองไทยเท่าไหร่
แล้วในอนาคต ราคาอาจไม่ได้ลดลงมากอย่างที่คิด ผมว่าที่จีนไปไว เพราะจีนอยากเป็นผู้นำด้านนี้เร่งเอง
การเปลี่ยนแปลงทั่วโลกยังค่อยเป็น ค่อยไป ตามตลาด เทคโนโลยี รวมทั้งราราคาน้ำมัน แล้วจีนมีแร่ที่ทำแบตเตอรี่อยู่เยอะ
ทำให้ได้เปรียบ แต่ในอนาคตแร่ต่างๆเหล่านี้ราคาน่าจะขยับขึ้น ค่าแรงจีนแต่ละปียังขึ้นสูงมาก จนผู้ประกอบการคนจีนบางรายยังบ่นเซทต้นทุนไม่ได้เลย



bmmac

ถ้า mg ทำดี ก็จะสร้างความเชื่อมั่น
ถ้าไม่ดี ก็ม้วนสื่อ ทุกเจ้า ต่อให้ราคาถูกสักเท่าไร
พฤติกรรมคนไทย ยังใช้รถเพื่อตอบทุกโจทย์ที่ต้องการ
ฉะนั้น ล้านนิดๆ งบเท่านี้ ตัวเลือกในตลาด เยอะมาก
ใครจะเสี่ยงกับ hello mg ผมยังมองว่า การชาร์จแบต
เจ้าของ ยังต้องปรับตัว



Smith686

5555    ผมเชื่อว่ายังไงก็ไม่เกิด         ที่มันขายดีเพราะ MG  ตั้งราคาไว้คนทั่วไปที่พอมีกำลังเขายังพอซื้อได้เป็นรถคันที่ 3-4    ลองไปสุ่มถามคนซื้อได้ว่าเป็นรถคันแรกหรือรถคันเดียวของบ้านหรือไม่          ลองตั้งราคาเท่ากับนิสสันลีฟก็ได้เห็นผลทันที             ค่ายใหญ่ทั่วไปที่จะเอารถมาขายราคาไม่มีทางถูกเหมือน MG  ตอนนี้แน่  ๆ  อย่างน้อยต้องมี 1.7 ล้านขึ้นไป    ราคาคงยังไม่ถูกเร็ว ๆ นี้หรอก    แน่นอนว่ามันทำตลาดไม่ได้มากถ้าทำราคาถูกได้จริงเท่ากับ MG  คงพอเกิดได้ละ      แต่ยากที่จะทำราคานั้น
อีกทั้งลูกค้าคนทั่วไปยังรอจุดชาร์จกันอยู่เลย      ต่อไปมีปัญหาแน่ ๆ  ผมฟังดูคนบ้านเราคิดมันผิดหลักการของรถไฟฟ้าที่มันเน้นชาร์จที่บ้านไม่ได้เน้นไปชาร์จจุดข้างนอกทั่วไป

    ผมว่าคนที่มีรถ 3-4 คัน ซึ่งก็แสดงว่าเขามีเงินเยอะมาก  บ้านก็หลังใหญ่มากและแพงมากจึงจอดรถได้ 3-4 คัน  เขาคงไม่ซื้อ MG  คนที่ซื้อ MG น่าจะเป็นรถคันที่สองหรือคันแรกมากกว่า  คนพวกนี้ในประเทศไทยมีเป็นล้านคนนะครับ



Jacob

ยุค autopilot ก็กำลังจะมา เค้าพัฒนากันไปไกลจริงๆ ซึ่งรถก็ต้องเป็นไฟฟ้าถึงจะทำได้
เรื่องการเสียบปลั๊กคนไทยอาจไม่สะดวกเพราะเข้าปั้มมีเด็กปั้มมาเติม ไม่เหมือนเมืองนอกที่เติมเองเลยไม่รู้สึกแตกต่าง แต่ที่ชาร์จไร้สายก็มีแล้วแค่เอารถไปจอด เรียกได้ว่ามันสะดวกจนต่อให้น้ำมันถูกคนก็คงไม่คิดใช้รถน้ำมันกัน
ปล. เคยโพสต์เมื่อหลายปีก่อนว่ามีคนทำนายไว้ อีกสิบปีน้ำมันจะถูกกว่าน้ำ ดูท่าทางคงจะเป็นจริง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 07, 2019, 11:38:51 โดย Jacob »



masuoka

ราคาเริ่มจับต้องได้พอสมเหตุสมผลละสำหรับรถ EV แพงกว่านี้ขายยาก



off_033

ต้องขอบคุณคนที่กล้าลอง และคนที่ลองคิดว่าคงมีกำลังซื้อระดับนึงอาจจะคันที่ 2 3 4 ในบ้าน

มีคนซื้อดีแล้วครับ  จะได้เห็นของจริงว่ารถ EV ใช้จริงจะเป็นยังไงจุดชาร์ทพอมั้ย  มีปัญหาอะไรที่คาดไม่ถึงอีก

คิดว่าญี่ปุ่นทั้งหลายคงจับตาอยู่เหมือนกัน ถ้ามันไปได้ดีคงยอมงัดเอาของตัวเองมาร่วมวงเร็วขึ้น

ส่วนเรื่องอะไหล่หรือคุณภาพ MG ต้องพัฒนามากกว่านี้เพิ่มขึ้นเอง  ไม่งั้นจะกลายเป็นสะดุดขาตัวเองไปถ้าไปได้ดีตอนนี้ถือว่าแทบจะไม่มีคู่แข่ง EV เลยด้วยซ้ำ เพราะเจ้าอื่นแพงกว่ามาก โอกาสมาแล้วไม่น่าจะปล่อยไปง่ายๆหรอกครับ






seeker

รอจัดการอะไหล่ให้ดีกว่านี้ก่อนแค่กระจกบานหลังยังไม่มีเปลี่ยนให้ รถตลาดวันเดียวก็มีของเลย

เห็นด้วยครับ การบริการหลังการขายเป็นสิ่งสำคัญ

แต่ผมว่าถ้าตลาดจะเป็นของรถ ev ราคาต้องใกล้เคียงกับ b segment และมีอู่ซ่อมที่แพร่หลายกว่านี้ จุดเติมไฟที่มีกระจายไปสู่ภูมิภาค



lay

ข้อได้เปรียบอีกอย่างคือ   ZS ตัวเดิมก็ขายได้มากอยู่   อะไหล่หลายชิ้นใช้ร่วมกันได้  สบายใจกว่ายี่ฮ่ออื่นเยอะ



axister

ผมมองว่ายาก เหมือนเป็นการพิสูจน์ตัวของ mg มากกว่า

เนื่องจากทำราคามาได้ถูกมาก คนเลยมองระยะสั้นว่า แพงกว่ารถปกตินิดเดียว ออปชั่นล้นๆ แต่ไม่ต้องเติมน้ำมัน เฮ!
ยิ่งมีพวก sense of urgency แจกนี่แจกนั่น 1000คันแรก คุ้มจริงๆ เห็นแล้วยังอยากลองเลย

จะนิยมได้มั้ยคงต้องรอใช้งานไปสัก 4-5เดือน ด้วยที่เป็นรถ mg ถูกละเข้าถึงง่าย
แต่ความเชื่อมั่นในแบรนด์ยังน้อยมาก รถมีปัญหาเยอะสาวกก็อวยไม่ลืมหูลืมตา

รถไฟฟ้าจะเป็นที่นิยมได้ต้องเกิดจากการที่รัฐยื่นมือมาช่วย ไม่ใช่แค่เรื่องราคา แต่เรื่องปั้มชาร์จหรืออื่นๆต้องตามมาด้วย

ตอนนี้ EV เป็นเหมือนกระแส หลายๆห้างทำที่จอดพิเศษมา ทำให้มันดูน่าใช้บวกกับราคาที่ mg ทำมามันดี

อนาคตถ้า EV mass ขึ้นมาจริงๆ ผู้อยู่คอนโดก็จะเริ่มเกิดปัญหา แย่งที่ชาร์จกัน ห้างก็ไม่ได้ไปเมื่อไหร่ก็ได้จอดชาร์จแล้ว

ไหนจะต้องไปแย่งกับพวก ยุโรปเสียบปลั๊กที่ตั้งกรุ๊ปไลน์มาส่งต่อที่จอดกันอีก

ปัญหาเรื่องอะไหล่แพงคงไม่ได้มากมายเท่าไหร่แล้ว แบตก็ถูงลงเยอะจากอดีต แต่ติดตรงรัฐไม่หนับหนุนจริงจัง




punn

ผมเชื่อว่ามีบางส่วนที่ซื้อเป็นรถคันเดียวของบ้าน  ;D
ดีไม่ดี คันแรกก็คงมีไม่น้อย

เนื่องจากราคารวมถึงของแถม และคำโปรยเรื่องเซอร์วิส
ในเมื่อราคาเท่ากัน ความแรงกินขาดหรือพอฟัดมือ 1 ทุกยี่ห้อ
เป็นคนทั่วไปมีลังเลไม่น้อย บวกกับข่าวต่างๆ
ที่เร่งสร้างความเชื่อความมั่นใจ และกูรูพูดในทางเดียวกัน
รถ EV ๆๆ คืออนาคตของมวลมหามนุษยชาติ

การตลาดที่น่ากลัวจริงๆ เทคนิคแบบการเชียร์หุ้นเลย
อาจจะดีจริง หรืออาจจะมีจุดอ่อนเยอะ รอดูกันต่อไปครับ
เป็นคนโลกปกติธรรมดา :)
ไม่โลกสวย และไม่โลกมืด อยู่กับความเป็นจริงและพลังงานบวก ..

ปราชญ์สอนสิ่งไหน คนก็จะจำสิ่งนั้น
ประสบการณ์เจอแบบไหน คนก็จะคิดทางนั้น
ต่างคนต่างประสบการณ์เรียนรู้สิ่งเดียวกัน ก็จะออกมาแตกต่างกันไปครับ



tumsung

ถ้าเป็นไปตามที่คุณซิ่งเข้าส้วมวิเคราะห์จะดีมากๆเลยครับ
ต้องขอบคุณคนที่ตัดสินใจซื้อรถ ev ด้วย ว่า เป็นคนที่มีความเป็นผู้นำกล้าตัดสินใจ และใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมมากๆ

รถไฟฟ้าจะได้ค่อยๆเกิดเสียที

ถ้าอนาคต giga factory ในจีนของเทสล่าเสร็จ และทำพวงมาลัยขวาออกมา อาจได้ขับรถที่มีสมรรถนะเท่าbmw m3ในราคา2-3ล้านเพราะะภาษีถูก ทิศทางรถไฟฟ้าน่าจะดีขึ้นไปอีก
และตอนนี้ผู้นำรถไฟฟ้ากำลังเร่งวิจัย super capcityและ แบตเตอรี่solidstage ซึ่งจะเบาและชาร์จได้เร็วกว่าเดิมมากๆ ยิ่งน่าจะเป็นเทรนด์ของโลกมากขึ้นไปอีก (ปัจจุบันsuper charge v3ของเทสล่า ถ้าจำไม่ผิดชาร์จไม่ถึงชั่วโมง วิ่งได้เป็นร้อยโล )

ในวงจรธุรกิจมันต้องมีdemand กับ supplyค่อยๆสนับสนุนเป็นห่วงโซ่กันไป
หมายถึงมีรถ ev บริษัททำแท่นชาร์จก็อยากทำแท่นเพิ่ม
เมื่อมีแท่นชาร์จเพิ่ม คนก็อยากใช้รถev เพิ่มไปเอง

ถ้าใช้รถev กันเยอะๆ อีก4-5 ปี อากาศใน กทม น่าจะดีขึ้นกว่าปัจจุบันแน่นอน
ซึ่งคนที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดก็คือประชาชนอย่างเราๆทุกๆคนที่สุขภาพดีขึ้น นั่นเองครับ
เพราะ มลพิษทางอากาศนอกจากจะเป็นสาเหตุของโรคปอดภูมิแพ้แล้วยังเป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง เส้นเลือดสมอง และอื่นๆอีกมากมาย ทุกวันนี้ คนเสียชีวิตจากมลพิษทางอากาศมากกว่าโรคเอดส์เสียอีก

คิดว่า อีก 5 ปีคนทั่วไปนอกเมืองเริ่มยอมรับ อีก 10 ปี น่าจะเกิดได้
ส่วนตัวคิดว่าเมืองไทยตอนนี้เหมาะกับเครื่อง e-power ของNissan มากกว่าครับ



โอมายวาโมะชินเดริว

รอราคามือสองครับ
รถไฟฟ้า รถไฮบริด ราคามือสอง น่าเล่นมาก อิอิ



Left lane driver

รอจัดการอะไหล่ให้ดีกว่านี้ก่อนแค่กระจกบานหลังยังไม่มีเปลี่ยนให้ รถตลาดวันเดียวก็มีของเลย
Toyota รอกระจก 6 เดือนก็มีมาแล้วครับ



Akara

5555    ผมเชื่อว่ายังไงก็ไม่เกิด         ที่มันขายดีเพราะ MG  ตั้งราคาไว้คนทั่วไปที่พอมีกำลังเขายังพอซื้อได้เป็นรถคันที่ 3-4    ลองไปสุ่มถามคนซื้อได้ว่าเป็นรถคันแรกหรือรถคันเดียวของบ้านหรือไม่          ลองตั้งราคาเท่ากับนิสสันลีฟก็ได้เห็นผลทันที             ค่ายใหญ่ทั่วไปที่จะเอารถมาขายราคาไม่มีทางถูกเหมือน MG  ตอนนี้แน่  ๆ  อย่างน้อยต้องมี 1.7 ล้านขึ้นไป    ราคาคงยังไม่ถูกเร็ว ๆ นี้หรอก    แน่นอนว่ามันทำตลาดไม่ได้มากถ้าทำราคาถูกได้จริงเท่ากับ MG  คงพอเกิดได้ละ      แต่ยากที่จะทำราคานั้น
อีกทั้งลูกค้าคนทั่วไปยังรอจุดชาร์จกันอยู่เลย      ต่อไปมีปัญหาแน่ ๆ  ผมฟังดูคนบ้านเราคิดมันผิดหลักการของรถไฟฟ้าที่มันเน้นชาร์จที่บ้านไม่ได้เน้นไปชาร์จจุดข้างนอกทั่วไป

ผมว่าคุณเทียบตอนนี้มันผิดเวลาครับ ในตอนนี้คนที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคือคนที่มีกำลังทรัพย์ในระดับหนึ่ง

คุณจะไปเทียบว่าคนที่ใช้ eco car หรือมีรถคันเดียวไม่ซื้อ แน่นอนครับเขาไม่มีเงินไปซื้อ เป็นเรื่องปกติเพราะมันเป็นเทคโนโลยีใหม่

เหมือนตอนโทรศัพท์มือถือเครื่องละแสน คนที่ใช้ก่อนก็คือคนมีเงินแค่หยิบมือเดียวครับ พอคนใช้มากขึ้น ราคาถูกลง เหลือหลักหมื่น คนก็ใช้มากขึ้นตามลำดับ

จนสุดท้ายเทคโนโลยีมันไปไกล ราคาถูกกว่าการมีโทรศัพท์บ้านทุกคนก็ใช้มือถือ

ซึ่งรถมันคงไปช้ากว่ามือถือ เพราะราคาแพงกว่า

แต่ถ้าเทียบสถานการณ์ตอนนี้ผมว่าก็เหมือนโทรศัพท์มือถือแบบบ้องข้าวหลามราคาหลักหมื่นแล้วครับ

จากที่ประเมินว่าอีก 30 ปีกว่าคนไทยจะใช้รถไฟฟ้าแพร่หลาย ผมว่าอาจจะได้เห็นคนใช้รถไฟฟ้า เกิน 50% ภายใน 15 ปีนี้ครับ
นึกถึงเมื่อก่อนตอนใช้โนเกีย ชาร์จทีอยู่ได้เป็นอาทิตย์ ขณะที่สมาร์ทโฟนอยู่ได้วันเดียว ผมไม่เอาด้วยแน่เพราะขี้เกียจชาร์จบ่อยๆ ต้องพกที่ชาร์จไหม ไหนจะต้องหาปลั๊กไฟอีก ไปต่างจังหวัดหวัดจะใช้เน็ตที่ไหน ดูๆแล้วอีกหลาย10ปี ไม่มีทางจะเป็นแมสได้เลย ไหนจะตัวเครื่อง ไหนจะผู้ให้บริการ ไหนจะค่าเน็ตที่แพงระดับหูฉี่ก็ว่าได้ คงกระจุกตัวอยู่ที่ กทม กับเป็นของเล่นคนรวยเท่านั้น ผ่านไปไม่กี่ปี ผมใช้สมาร์ทโฟนเป็นคนท้ายๆด้วยซ้ำ(IPhone 4s)และลืมข้อดีของโนเกียไปหมดแล้ว ยังงงอยู่เลยว่าผ่านจุดนั้นมาได้ยังไง ในนี้มีใครใช้สมาร์ทโฟนหลังจาก iPhone 4s บ้าง



Sit: )

รอชมครับ
ไม่กล้าเห็นด้วยหรือโต้แย้งใดๆ



mamaman



ยอด 600 คัน ผมว่า มันเกิดแล้วละ
นี่ MG ZS นะ รถคลาส เดียวกับ CR-V / Mazda CX-5
อย่าลืมสิ นี่รถ CKD นะ MG ไม่ได้ลงทุนไรเลย แค่นำเข้า 555555

ผมไม่ได้หมายถึง EV ต้องมาแทน
แค่มันมี ให้เห็นวิ่งเยอะๆ หน่อยก็พอแล้ว

เป็นก้าวแรกที่ดีครับ สู้ต่อไป MG