ผมไม่รู้ว่า ฮอนด้า เขาใช้ o2 windband หรือเปล่า เคยได้ยินมาว่า รถรุ่นใหม่เดี๋ยวนี้ o2 ติดรถจะเป็น wind band กัน เพราะเผื่อเรื่องใช้น้ำมันได้หลากหลายกว่า e10 20 85 สามารถสลับใช้กันได้ ไม่เหมือนรถรุ่นเก่าที่ o2 ติดรถจะเป็น narrow band อันนั้นจะหยาบบอกได้แค่หนา บาง เลย การใช้น้ำมันเลยไม่สามารถทำได้หลากหลายเท่ารุ่นใหม่
ถ้า o2 ติดรถเป็น windband และตำแหน่งการติดตั้ง o2 โรงงานจะติดตั้งที่หน้าแคทกันอยู่แล้ว นอกจากบางรุ่นที่การวัดทั้งก่อนเข้าและหลังออกจากแคทก็จะมี o2 อยู่หน้าหลังเลย การวัดจาก obd แบบนี้ก็น่าจะเชื่อถือได้อยู่
ส่วนอะไรที่จะทำ afr เปลี่ยนไปก็คงต้องไล่ดูครับ แต่เรื่อง afr เปลี่ยนไปจะทำให้เบรคแล้วรอบตกไหม อันนี้ผมก็ยังไม่เคยเป็นเหมือนกันครับ
1.
รถผม Honda City ZX ปี 07 เติมน้ำมันได้แค่ E10-95 ครับ = น่าจะเป็น O2 Sensor แบบเก่า (Narrow Band ??)
รถน้องสาว Honda City Gen 4 ปี 2015 เติมน้ำมันได้ถึง E85 = น่าจะเป็น O2 Sensor แบบใหม่ (Wide Band ??)
2. ค่า AFR จากแอพ Torque Pro นั้น รถ City ZX ไม่สามารถแสดงค่าได้ครับ โชว์ค่าได้ประมาณ 12 ค่า
ส่วนรถน้องสาว Honda City Gen 4 ปี 2015
แอพ Torque Pro สามารถแสดงค่า AFR ได้เลยครับ รวมถึงค่าอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งมากกว่า City ZX มากครับ3. ส่วนอะไรที่จะทำ afr เปลี่ยนไป = ผมคิดว่า เครื่องยนต์จะทำงานได้สมบูรณ์
ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ได้แก่ น้ำมันเชื้อเพลิง, ไฟ (หัวเทียน+การจุดระเบิด) อากาศ
น้ำมันเชื้อเพลิง = เปลี่ยนเรกูเรเตอร์น้ำมันแล้ว, หัวฉีดล้าง+ทดสอบการจ่ายน้ำมันแล้ว
เหลือแต่ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงที่ยังไม่ได้เปลี่ยนครับไฟ (หัวเทียน+การจุดระเบิด) = คอยล์จุดระเบิดเปลี่ยนของแท้เบิกศูนย์ 4 ตัว+เปลี่ยนหัวเทียนเกรดธรรมดาแล้ว ยี่ห้อ NGK BKR6E-11
อากาศ = เปลี่ยนท่อลมทั้งหมด เป็นแบบซิลิโคนแล้ว+ถอดท่อร่วมไอดี มาล้าง และตรวจหารอยรั่วแล้ว, เปลี่ยนมอเตอร์เดินเบาเบิกศูนย์แล้ว
4. ผมว่ารถของผมนั้น อาการมันมี แต่ไม่เด่นชัดมาก ทำให้หาสาเหตุยาก = อู่ หรือ ศูนย์ไหนๆ ก็ไม่ค่อยอยากรับทำครับ
ผมจึงต้องมาหาความรู้จากเพื่อนๆ สมาชิก เพื่อนำไปลองคุยกับอู่ และดูว่าทางอู่นั้นๆ ยอมทำให้ตามที่เราต้องการแค่ไหนครับ
5. ช่างที่อู่ เคยถามผมทีเล่น ทีจริงว่า เปลี่ยนไปหลายอย่างแล้ว ถ้าไม่หาย จะทำอย่างไร = ผมตอบว่า เปลี่ยนคนขับ รับรองหายชัวร์