ถ้ากรมบังคับ ก็เป็นตามนั้นฝ่าผืนมีโทษ
b10,20 หลายปั้มเอามาขายแทน ยูโร5เยอะแล้ว หัวเชื้อมีขายที่หัวจ่ายไม่แพง
b7 ยูโร5 ไม่นานคงนับปั้มได้ เพราะคนนิยมเติมถูกกว่าไว้ก่อน
b20 ตอนแรกถูกกว่า b7 5บาท พอขายดีมากถูกกว่า 3 บาท
ฝุ่นพิษมาเร็วและหนักว่าปีที่แล้วขาย b50 b100 เลยดีกว่า
b20 เหม็นควันน้อยกว่า b7 ยูโร5 มากกว่าครึ่ง
ความแรงb20 ด้อยกว่าb7 ยูโร5 อืดกว่าตอนเร่ง แต่ถูกจนรับได้ ควันไม่ดำสะอาดกว่า
b20กินน้ำมันน้อยกว่า b7 ยูโร5 ที่ความเร็ว90-110กม. ทางไกล อย่างมีนัยยะสำคัญ
ออกจะเหลือเชื่อเหมือนกัน แต่กินน้อยกว่าจริง ทั้งที่อืดกว่าเห็นๆ
เหม็นควันน้อยกว่า เขม่าสะสมน้อยกว่า egrก็ตันช้ากว่า
แต่ต้องเปลี่ยนกรองโซล่าบ่อยๆ เพราะสิ่งหมักหมมในถังน้ำมันรถเก่าจะชะออกมาหมดแบบe85
น้ำมันปาล์มที่กลั่นได้ คุณสมบัติเหนือกว่าน้ำมันพืช จึงผสมเติมใส่รถดีเซลรางร่วมได้
ส่วนเรื่องเป็นไขถ้าเย็นกว่า10องศาต้องเติมสารกันการเป็นไข ดีเซลหมุนเร็วก็เป็นไขเหมือนกัน
รถยุโรป ยุ่น แค่เปลี่ยนกรองโซล่าบ่อยๆ ก็ใช้ได้แล้ว น้ำมันพืชกลั่นไม่มีกัดกร่อนชิ้นส่วนแบบเอเทอนอล
แต่ถ้าไม่เคยล้างegr dpf ท่อไอดี ไอเสีย หัวฉีด พอเติมb20จะไปล้างของเก่าจนไหลมาตันจุดใดจุดหนึ่ง
แต่ถ้าหัวฉีดจำเพาะยูโร5,6 เติมb20 ก็ต้องลองดู เพราะกำมะถันจะมีมากกว่าแต่น้อยกว่ายูโร4ล้วนๆ