พอดีผมได้มีโอกาสเป็นเจ้าของ Toyota GR Supra ตัวใหม่โดยที่ได้รับโควต้า 5 คันแรกของ Toyota Thailand ครับ โดยส่วนตัวเป็นแฟนรถสปอร์ตของโตโยต้าอยู่แล้วและก็เป็นแฟน BMW ด้วยครับจึงตัดสินใจจอง GR Supra อย่างรวดเร็วทั้งๆที่ยังไม่เคยได้ลองนั่งด้วยซ้ำ
ผมติดตามการพัฒนาของรถรุ่นนี้มาตั้งแต่มี spy shot สักช่วงปี 2017 และก็หาข้อมูลต่างๆจากเว็บบอร์ดซูปร้าของต่างประเทศ (ซึ่งมีสมาชิกที่เป็นทีมวิศวกรมาแอบบอกใบ้ทีละนิดๆ) พอตัวรถออกมาจริงๆก็ตามคาดทุกอย่างครับ บางคนอาจจะผิดหวังที่รถไม่ได้อลังการแบบรถต้นแบบ แต่สำหรับรถราคาเท่านี้ผมว่ามันก็ได้ครบมากๆแล้วครับ
เกริ่นก่อนว่าก่อนจะได้มาเป็นเจ้าของรถคันนี้ผมก็มีรถหลายรุ่นและได้ลองรถอีกหลายๆคันที่ในไทยมักเอามาเปรียบกับ GR Supra ทั้งในเรื่องราคาและกำลังเครื่องครับ ทั้ง BMW M2, Mercedes-AMG C43, Porsche Cayman, Mustang GT, และ Nissan Z ผมเลยจะเอารถต่างๆเหล่านี้มาเทียบด้วย
ก่อนอื่นเลยอยากจะเริ่มที่ดีไซน์ภายนอกของรถครับ หลายท่านอาจจะมองว่าซูปร้าใหม่ไม่สวยหรือดูแปลกๆ ซึ่งผมว่าถ้ามองจากภาพถ่ายก็อาจจะใช่ครับ แต่พอออกมาเป็นรถคันจริงผมกลับมองว่ารูปทรงสดุดตาแปลกใหม่ต่างจาก BMW Z4 โดยสิ้นเชิง ดีไซน์ในบางจุดอาจจะดูรกๆแต่พอออกมาโดยรวมทั้งคันแล้วกลับลงตัว รถคันนี้ถ้าเอาไปจอดข้างๆ Porsche Cayman แล้วทำให้ Cayman ดูจืดไปเลย เส้นสายต่างๆของ Supra เน้นให้รถดูแบนและกว้าง ดีเทลในจุดต่างๆจะเน้นเส้นสายแนวราบเยอะมากครับซึ่งก็ยิ่งทำให้รถดูแบนราบกับพื้นถนนมากกว่าเดิม โดยรวมจากที่ผมได้ขับรถคันนี้มา 30 กม. คนให้ความสนใจมากไม่แพ้ supercar แต่ส่วนมากจะเป็นผู้ชายครับ 55
ส่วนภายในหลายๆคนคงทราบว่าใช้อะไหล่จาก BMW มาเยอะมาก ส่วนตัวผมเคยใช้ BMW มาหลายรุ่นรวมไปถึง F30 และ F87 ซึ่งมีของที่ใช้ร่วมกันกับ Supra อยู่หลายจุด นั่นก็ทำให้ผมสามารถใช้งานฟังชั่นต่างๆเป็นได้อย่างรวดเร็ว แต่การดีไซน์ dashboard กลับทำให้ผมรู้สึกแตกต่างจาก BMW ทั่วไปครับ Dash ของ Supra จะตรงราบไม่เอียงเข้ามาหาคนขับแบบ BMW ท่านั่งกับการมองออกไปด้านหน้าทำให้ผมนึกถึง Honda S2000 ที่เคยใช้เมื่อสิบกว่าปีก่อน หน้ารถยาวแต่ก็แอบมีจุดที่นูนขึ้นมาของฝากระโปรงหน้าด้านข้างรถที่ไว้ใช้กะระยะได้โดยเฉพาะเวลาจะเล็ง curb บนสนามแข่ง
ทัศนวิสัยโดยรวมถือว่าไม่เลวร้ายถ้าเคยใช้รถสปอร์ตมาก่อนแต่รถคันนี้กระจกให้มาน้อยครับ กระจกหน้าต่างด้านข้างนี่เล็กกว่า Porsche Cayman พอสมควรเลยเพราะแนวหลังคาที่กดลาดลงมา ซึ่งจุดนี้ก็ทำให้การเข้าออกยากนิดหน่อยยิ่งถ้าคนขับตัวสูงหัวชนขอบหลังคาแน่นอน ส่วนวัสดุภายในผมว่าดีกว่าทั้ง F30 และ F87 แต่จะไม่หวือหวาเท่า G29 Z4 วัสดุ soft touch มีให้ทั่วห้องโดยสาร Supra ครับ ซึ่งผมว่าดูพรีเมียมกว่าวัสดุที่ใช้ใน R35 GT-R ตัวก่อน facelift ด้วยซ้ำ
มาถึงการขับนะครับเทียบจากรถผมเอง (ที่ยังรันอินอยู่) และรถเทสของ TMT ที่ผมได้ไปลองมาในสนามทดสอบ โดยรวมผมว่า Supra เป็นรถที่เหมาะกับการขับแบบ daily use มากๆ จะว่าไปแล้วแอบดีกว่า Porsche ด้วยซ้ำในเรื่องนี้ การซับแรงกระแทกจากพื้นถนนและการเก็บเสียงทำได้ดีมากๆ เกียร์ ZF ใช้งานได้นุ่มนวลมากกว่าเกียร์คลัชคู่ทุกแบบที่ผมเคยลองมา แต่การเปลี่ยนเกียร์ก็จะไม่เร็วเท่าครับ แต่ก็ถือว่าเร็วกว่าเกียร์ 9 speed ของ C43 และสั่งได้ตามเท้ามากกว่า กำลังเครื่องพอๆกับ M2 lci และ C43 แต่ปลายจะไม่ดึงแรงเท่า Mustang GT จุดเด่นของเครื่อง B58 ผมว่าคือความนุ่มนวลและอาการ turbo lag ที่แทบจะไม่มีแล้ว เทียบกับ N55 ใน M2 ที่ยังแอบต้องรอรอบบ้าง
handling ของ Supra ก็ดีแบบที่คาดไว้ครับ การตอบสนองต่างๆไวตามสั่ง ถึงความรู้สึกจะไม่หนักแน่นหรือดิบเท่า M2 แต่ผมว่าตัวรถ Supra ให้ความรู้สึกบาลานซ์ระหว่างหน้าและหลังรถมากกว่า M2 จะมีติก็ตรงเบรคครับซึ่งผมว่า Supra แป้นเบรคควรจะเฟิมกว่านี้ ความรู้สึกจากพวกมาลัยถือว่าใช้ได้ครับ ถึงพวกมาลัยจะเบาแต่ก็ให้ฟีทแบ็คของพื้นถนนมาบ้างเทียบกับพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้าทั่วไป จะมี Porsche ที่ทำจุดนี้ได้ดีกว่าครับ
สรุปสั้นๆตรงนี้ก่อน ผมให้ Supra เป็นรถสปอร์ต GT ที่ขับดีมากๆคันนึงขับ ถ้าไม่นับพวกพื้นที่หรือความจุของผมว่ามันเหมาะกับการใช้งานในกรุงเทพมากกว่า BMW M2 พอสมควร (แต่ฟิลลิ่ง M2 จะดิบกว่าถ้าชอบแนวนั้น) Supra เกือบจะขับสบายพอๆกับ C43 แล้ว แต่บทจะบู้ก็น้องๆ Porsche Cayman S เลยครับ โดยรวมถ้าจะซื้อมาใช้งานทุกวันก็ได้ หรือจะจอดสวยๆไว้ดูเล่นที่บ้านก็ได้เช่นกัน ไว้มีเวลาแล้วจะมาอัพเดทข้อมูลและรูปเพิ่มนะครับ