เนื่องจากยางเก่าที่อยู่ใน Civic FD ของผมขนาด 205-55-16 เป็น Michelin Primacy 3ST หมดสภาพหลังจากใช้งานมา 4 ปี จึงมองหายางใหม่ก็ไม่พ้น Michelin Primacy 4 เพราะผมต้องการยางที่นุ่มเงียบ และจากการใช้งาน 3ST มาถือว่า ประทับใจ พอสมควรเลยและถือว่าโชคดีที่ช่วงนี้มีจัดโปรเลยได้ราคาถูกเป็นพิเศษ ส่วนตัวผมมีลูกเล็กต้องเดินทางด้วยกันทุกวันบนทางด่วน เป็นคนขับรถไม่เร็วมาก เต็มที่บนทางด่วนก็ 110-120 เร่งแซงอาจมี 130 บ้าง แต่ไม่ใช่พวกเท้าหนักครับ เลยมองหายางที่เป็นประเภท Comfort น่าจะตอบโจทย์มากกว่าครับ
ประสิทธิภาพหลังจากเปลี่ยนจาก 3ST มาเป็น Primacy 4 ลมยางเท่าเดิมคือ 34 ปอนด์ มันอาจจะเทียบตรงๆ ไม่ได้เพราะยางเก่าลากมาถึง 4 ปี แต่ผมใช้รถคนนี้ทุกวันพอจะจับนิสัยของ 3ST ได้หมดแล้ว และนี่คือสิ่งที่รู้สึกถึงความแตกต่างได้ครับ
1. ความเงียบ ถ้ายังประทับใจความเงียบของ 3ST เจ้า Primacy 4 ยังคงความดีนี้ไว้เหมือนเช่นเคยครับ แน่นอนว่ายางใหม่มันต้องเงียบกว่ายางเก่าที่ใช้งานมานานถึง 4 ปีอยู่แล้ว แต่ที่ผมพอจะบอกได้คือถ้าต้องการคาดหวังเรื่องความเงียบคุณไม่ผิดหวังแน่นอนครับ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับช่วงล่างของรถแต่ละคันด้วยนะครับ
2. ความนุ่มนวล เรื่องนี้บอกเลยว่าถ้าใครต้องการอารมณ์นุ่มแบบย้วยๆ ของ 3ST อาจจะผิดหวังเล็กน้อย เพราะเจ้า Primacy 4 นี้จะมีความเฟิร์มกว่า 3ST อย่างเห็นได้ชัดเลยครับ ในระยะแรกที่เพิ่งเปลี่ยนยางมันจะกระด้างพอสมควรแต่พอใช้ไปซัก 500km ขึ้นไปความนุ่มนวลจะดีขึ้นแต่เป็นความนุ่มนวลที่มีความแน่นกระชับแฝงอยู่ ทำให้รู้สึกมั่นใจเวลาขับขี่มากขึ้นครับ ดูที่แก้มยางตอนเติมลมเท่ากันจะเห็นเลยว่า 3ST จะดูเหมือนยางแบนมากกว่า และผมเข้าใจว่า Primacy 4 เขาน่าจะปรับปรุงให้แก้มยางมันหนาขึ้นครับ
3. ความเกาะถนน จากหัวข้อที่แล้วที่ผมบอกไว้ว่า Primacy 4 มีความเฟิร์มกว่า 3ST จึงมีผลทำให้การขับขี่ให้ความมั่นใจมากกว่าเดิม ในเรื่องของพวงมาลัยนั้น คมขึ้น และหนักมือขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่ 3ST พวงมาลัยจะเบากว่าและรู้สึกหวิวเล็กน้อยเวลาเปลี่ยนเลน ตั้งแต่เปลี่ยนยางเป็น Primacy 4 ผมรู้สึกตัวเลยว่า ผมขับรถเร็วขึ้นเปลี่ยนเลนเร็วขึ้น ซึ่งตรงนี้ผมว่ายางมันช่วยทำให้อารมฌ์ในการขับขี่เปลี่ยนไป ซึ่งถือเป็นข้อดีสำหรับคนที่ชอบยางแบบนุ่มนวล แต่ยังคงแฝงความมั่นใจในการขับขี่อยู่ การเข้าโค้งหรือเปลี่ยนเลนมั่นใจขึ้นกว่าเดิมแน่นอนครับ แต่ใครที่ชอบนุ่มนวลแบบย้วยๆ ผมบอกได้เลยว่าอาจจะผิดหวังครับ
4. เบรค ตรงนี้ผมบอกได้เลยว่า Primacy 4 เบรคจิกและมั่นใจกว่า 3ST แนนอนครับ เพราะที่ผ่านมาตอนใช้ 3ST ผมไม่ค่อยชอบมันเรื่องเบรคเท่าไหร่ เพราะรู้สึกว่ามันเหมือนเบรคไม่ค่อยอยู่มีอาการไหลนิดๆทุกครั้งที่เบรค และบางทีมักจะมีเสียงเอียดเวลายูเทิร์นรถ แต่ Primacy 4 ไม่เป็น เบรคหยุดมั่นใจกว่าเดิมมากครับ
5. การรีดน้ำ (**อัพเดทวันที่ 3 กค. 63 ใช้งานมาแล้วประมาณ 1x,xxx กิโลเมตร**)
ช่วงฝนตกที่ผ่านมา จากความรู้สึดคือมั่นใจขึ้นเวลาต้องวิ่งลุยฝน ปกติผมไม่ค่อยขับไวเท่าไหร่เวลาฝนตกอยู่แล้วเลยไม่รู้จะทดสอบยังไงนะครับ แต่เอาเป็นว่าจากการใช้งานถ้าขับ 80-100 ขณะฝนตกบนทางด่วน ยางตัวนี้รับมือได้สบายไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนเลนหรือเร่งแซงหรือเบรค ไม่รู้สึกแตกต่างเท่าไหร่กับตอนถนนแห้งครับ แต่..อยู่บนพื้นฐานความปลอดภัยประมาณว่าขับแบบปกติไม่ซิ่งนะครับ
สรุป
หลังจากใช้งานมาประมาณ 1,xxx km พอจะบอกได้ว่า ถ้าใครต้องการยางแบบ Comfort แต่ยังสามารถให้ความมั่นใจในการขับขี่ Michelin Primacy 4 นี้ตอบโจทย์แน่นอน รู้สึกว่าเขาพัฒนาให้แก้มยางแข็งขึ้น เนื้อยางรู้สึกได้เลยว่าเกาะถนนกว่า 3ST จากการควบคุมที่พวงมาลัยจะตึงมือกว่า เปลี่ยนเลนคมกว่า เบรคได้จิกหยุดนิ่งดีกว่า มันไม่ใช่ยางที่นุ่มนวลจนย้วย แต่ก็ให้ความสบายนุ่มนวลความเงียบผสมกับความมั่นใจในการขับขี่ได้เป็นอย่างดีครับ
ข้อดี (เทียบกับ 3ST)
- ความเงียบยังคงเป็นจุดเด่นอยู่เหมือนเดิม
- ให้ความมั่นใจในการขับขี่ได้ดียิ่งขึ้นกว่ารุ่นเก่า รู้สึกได้เลยว่ายางดูดถนนมากขึ้น พวงมาลัยหนักขึ้นคมขึ้น
- เบรคดีขึ้นอย่างชัดเจน
- ไม่มีเสียงเอียดเวลาเลี้ยวยูเทิร์น (ใช้งานที่ระยะทาง 1x,xxx km)
ข้อเสีย (เทียบกับ 3ST)
- ความนุ่มนวลลดลงจากรุ่นเก่า
