การเข้าเกียร์ S เป้นการปรับอัตราทดให้มีค่าสูง อัตราทดสูง (เสมือนเกียรฺต่ำ) จะหน่วงกว่าอัตราทดต่ำ (เสมือนเกียร์สูง) ที่ไหลกว่า
เอนจิ้งเบรค CVT มันไม่ชัดเพราะมันต่อเนื่อง ไม่หน้าคว่ำจากการปรับอัตราทดที่ต่างกันแบบ เกียร์ conv
อัตราทดเกียร์ Conv สูงสุด เกียร์ 1 อยู่ที่ 3.4 ขณะที่ CVT สูงสุด 2.5 ต่างกันขนาดนี้ ไม่ต้องสืบใครหน่วงกว่าใคร
แต่ด้วยสเตปการทดของ CVT ต่อเนื่อง ดังนั้นการหน่วงมันจะสมูทอี มากกว่า Conv ชัดเจน ขับเป็น น่าจะคุมง่ายกว่า
ปล. ลงเขาชันๆ พยายามขับช้าๆ ย้ำเบรคลดความเร็วเป็นช่วงๆ ไม่ให้เฟด ข้างหลังด่าช่างมัน อยากแซงๆ ไป
เพราะ CVT ยังงัย มันก้ยังลื่นกว่า Conv ทำให้เบรคมีภาระมากกว่า
เริ่มเยอะแร่ะ ไหนจะเกียร์ L เกียร์ S ไหนจะอัตตราทด สงสัยต่อ อัตตราทดต่างกันแต่ดันทำงานได้เหมือนกัน แสดงว่าต้องมีตัวแปรอื่นอีกใช่ไหมครับ เช่นรอบเครื่องใช้เท่ากันไหม หรือ ถ้าทดเกียร์ S แต่เซ็ตรอบเครื่องเป็น L อะไรแบบนี้ได้ไหม หรือมีตัวแปรอื่นๆอีก
การทดเกียร์ หลายนๆ ระดับ L , S เราจะพบในรถ เก็งเล้ก เกียร Auto มันก็เหมือนรถ MT คือเราทดให้มันได้ แรงบิดมาช่วย ในรอบต่ำๆ ไงครับ ที่นี้ อธิบาย รถ NA นิดนึง คือแรงบิดมันจะน้อย มาก ๆ กว่าจะได้แรงบิดสูงสุด ก็โน่น เกือบ 5000 รอบ
มันจึงต้องมีเกียร หลายระดับเพื่อล้อค อัตราทดเพือสร้างแรงบิดช่วยไง
ที่นี้ มาดู City 2020 แรงบิด มันมากว่า NA เดิมๆ ที่ 2000 รอบมันมาเกือบ 2 เท่าของรถเดิมเลย พูดให้เห็นภาพคือ มัน ช่วยได้ ทั้งแรงบิดขึ้นและ เอนจิ้นเบรคขณะลงเขาในตัวได้เลย
เดี่ยวจะมาหาว่าอวย นี่ผมพูด อธิบาย ไม่ใช่มโนนะ
ถึงบอกให้ไป ลองขับก่อน 1.0 T `เนี่ยจะได้ ล้างภาพจำเดิมๆ มโนเดิมๆ ทิ้งไป