ผู้เขียน หัวข้อ: มา​ดู​ กฟภ.ขยายสถานีชาร์ต​ EV และอัตราค่าชาร์ตไฟฟ้าผ่านPEA​ VOLTA APP  (อ่าน 37496 ครั้ง)

ออฟไลน์ ชายโอ๊ต

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,034
เดี๋ยว งงคนับ ประด็น pea กับ ea มันไม่ควรจะคราม่านะ มันคนละบริบทกัน
pea  ตอนนี้ ตั้งใจ ขยายระยะการเดินทางออกไปทั่วประเทศ โดยใช้ตู้ dc fast charge เป็นตัวขับเคลื่อน
ซึ่งในตอนนี้ เริ่มต้นรองรับที่ 50kw ก่อน (ซึ่งก็หวังว่า ถ้าอนาคตขยับขยายได้ถึง 150kw น่าจะดีไม่น้อย แต่จริงๆ 50 ก็น้อยไปหน่อยจริงๆน่าจะสัก 80หรือ100kwไปเลย)

ในในเขตกรุงเทพและปริมณฑล(นอกที่ตั้งสำนักงานของ PEA) มันเป็นของ การไฟฟ้านครหลวง(mea) ถ้าจะมายอกว่า pea มีแค่ 62 และมีแต่ตจว.ก็ใช่สิ เพราะตั้งในเขตกทม.ไม่ได้
ว่าแต่ mea ทำอะไรอยู่ล่ะ เงียบกริบๆไหม

ส่วน EA อาศัยเดินเกมส์เน้นครอบคลุมพื้นที่ แต่ตอนนี้ก็มีแต่ ac ที่เปิดให้ได้ใช้กัน ส่วน DC จากที่ได้ข่าวล่าสุดคือ ลงทุนตั้งตู้ไปแล้ว แต่ไม่กล้าเปิดให้บริการ เพราะการไฟฟ้า(ที่ไหนหนอ) กำหลดอัตราค่าไฟขั้นต่ำต่อ 1 จุด dc คือจะคิดค่าไฟเดือนละ 3หมื่นบาทเป็นอย่างน้อย ไม่ว่าจะขายไฟให้เท่าไหร่ก็ตาม
ตรงนี้ถ้าเป็น พื้นที่ที่รับผิดชอบของpeaแล้วล่ะก็ pea ปลดล็อกไปแล้ว โดยจะคิดราคาเป็นเรท on-off peak (แต่เรทนี้โอเคไม่โอเค อีกเรื่องนึงนะ) 
ดังนั้น ถ้าเป็นตู้ของ ea ที่อยู่ในเขต pea ก็เปิดบริการได้แล้ว(สินะ) ส่วนในเขต กทม.ที่ตู้ea ตั้งอยู่เป็นส่วนใหญ่ ก็รอเจ้าของพื้นที่เขาคิดราคาค่าไฟใหม่ละกัน

แต่พอมาดูเรทการคิดราคาของ ea เพราะเขาเป็นเอกชน ก็ต้องมีค่าต้นทุน+ทำเลที่ตั้ง+แมนทาแนนซ์+กำไร ก็เข้าใจได้
ซึ่งพอมากำหนดราคาในตอนนี้ เล่นคิดเป็นนาที ไม่ได้คิดเป็นปริมาณกระแสไฟ มันก็เลยดูแพงไปสักหน่อย
ประกอบกับ ณ ตอนนี้ ยังอยู่ในช่วงทดลอง ยังมีหลายแห่งเปิดให้ใช้ไฟฟรีอยู่ ก็เป็นทางเลือกของคนใช้รถไฟฟ้า ที่ถือว่ายอมเป็นตัวทดสอบระบบให้กับเขา แลกกับใช้ไฟฟรี

หรือ ขณะเดียวกัน ก็เป็นหน้าที่รับผิดชอบของศูนย์บริการรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายรถไป ก็ต้องหาตู้ชาร์จมาให้บริการ (จะฟรีหรือคิดเงินก็อีกเรื่องหนึ่ง) อย่างตอนนี้ zs ev ก็เริ่มติดตั้งตู้ dc fast charge (แบบเดียวกับของ ea เลย เพราะร่วมมือกันซื้อตู้เขามา) คาดว่าภายในปีนี้น่าจะครบทุกศูนย์ ซึ่ง ปัจจุบัน ทุกศูนย์ ยังฟรีอยู่สำหรับรถzs ev
ซึ่งถ้าผมเป็น zs ev (ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของbev ทั้งประเทศ)  ผมก็คงจะไปเติมที่ศูนย์ เพราะฟรี แถมยังเร็วกว่า(น่าจะได้ 80kw เต็มสเปกที่รถรองรับ)

ส่วนของ 7-11 แม้จะเป็นของ ea ก็จริง แต่เจ้าของคือ CP คนใช้ MG EV ก็คงน่าจะได้สิทธิพิเศษมากกว่ารถค่ายอื่นหน่อย
ถ้าจะใช้ bev ณ ตอนนี้ ก็ใช้ mg น่าจะสบายใจเรื่องจุดชาร์จมากสุด แห่ะๆ
เท่าที่ผมทราบ ในพื้นที่ของ กฟน เค้าทำ MOU กับ EA โดยให้ EA ลงทุนให้ครอบคลุม
ซึ่ง EA เองก็ได้สิทธิประโยชน์ที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ

ส่วนทำไม MEA ไม่ทำเอง ส่วนหนึ่งผมก็มองว่าเค้าไม่พร้อมจริงๆครับ
ส่วนเรื่องราคา ยังไงอนาคตก็ต้องมีการดูแลปรับเปลี่ยนให้เหมาะเและป็นธรรมต่อผู้บริโภคแน่ๆครับ
"ศัตรูแห่งความก้าวหน้า คือเวลาที่เสียไป"

ออฟไลน์ delete

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,963
    • อีเมล์
เดี๋ยว งงคนับ ประด็น pea กับ ea มันไม่ควรจะคราม่านะ มันคนละบริบทกัน
pea  ตอนนี้ ตั้งใจ ขยายระยะการเดินทางออกไปทั่วประเทศ โดยใช้ตู้ dc fast charge เป็นตัวขับเคลื่อน
ซึ่งในตอนนี้ เริ่มต้นรองรับที่ 50kw ก่อน (ซึ่งก็หวังว่า ถ้าอนาคตขยับขยายได้ถึง 150kw น่าจะดีไม่น้อย แต่จริงๆ 50 ก็น้อยไปหน่อยจริงๆน่าจะสัก 80หรือ100kwไปเลย)

ในในเขตกรุงเทพและปริมณฑล(นอกที่ตั้งสำนักงานของ PEA) มันเป็นของ การไฟฟ้านครหลวง(mea) ถ้าจะมายอกว่า pea มีแค่ 62 และมีแต่ตจว.ก็ใช่สิ เพราะตั้งในเขตกทม.ไม่ได้
ว่าแต่ mea ทำอะไรอยู่ล่ะ เงียบกริบๆไหม

ส่วน EA อาศัยเดินเกมส์เน้นครอบคลุมพื้นที่ แต่ตอนนี้ก็มีแต่ ac ที่เปิดให้ได้ใช้กัน ส่วน DC จากที่ได้ข่าวล่าสุดคือ ลงทุนตั้งตู้ไปแล้ว แต่ไม่กล้าเปิดให้บริการ เพราะการไฟฟ้า(ที่ไหนหนอ) กำหลดอัตราค่าไฟขั้นต่ำต่อ 1 จุด dc คือจะคิดค่าไฟเดือนละ 3หมื่นบาทเป็นอย่างน้อย ไม่ว่าจะขายไฟให้เท่าไหร่ก็ตาม
ตรงนี้ถ้าเป็น พื้นที่ที่รับผิดชอบของpeaแล้วล่ะก็ pea ปลดล็อกไปแล้ว โดยจะคิดราคาเป็นเรท on-off peak (แต่เรทนี้โอเคไม่โอเค อีกเรื่องนึงนะ) 
ดังนั้น ถ้าเป็นตู้ของ ea ที่อยู่ในเขต pea ก็เปิดบริการได้แล้ว(สินะ) ส่วนในเขต กทม.ที่ตู้ea ตั้งอยู่เป็นส่วนใหญ่ ก็รอเจ้าของพื้นที่เขาคิดราคาค่าไฟใหม่ละกัน

แต่พอมาดูเรทการคิดราคาของ ea เพราะเขาเป็นเอกชน ก็ต้องมีค่าต้นทุน+ทำเลที่ตั้ง+แมนทาแนนซ์+กำไร ก็เข้าใจได้
ซึ่งพอมากำหนดราคาในตอนนี้ เล่นคิดเป็นนาที ไม่ได้คิดเป็นปริมาณกระแสไฟ มันก็เลยดูแพงไปสักหน่อย
ประกอบกับ ณ ตอนนี้ ยังอยู่ในช่วงทดลอง ยังมีหลายแห่งเปิดให้ใช้ไฟฟรีอยู่ ก็เป็นทางเลือกของคนใช้รถไฟฟ้า ที่ถือว่ายอมเป็นตัวทดสอบระบบให้กับเขา แลกกับใช้ไฟฟรี

หรือ ขณะเดียวกัน ก็เป็นหน้าที่รับผิดชอบของศูนย์บริการรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายรถไป ก็ต้องหาตู้ชาร์จมาให้บริการ (จะฟรีหรือคิดเงินก็อีกเรื่องหนึ่ง) อย่างตอนนี้ zs ev ก็เริ่มติดตั้งตู้ dc fast charge (แบบเดียวกับของ ea เลย เพราะร่วมมือกันซื้อตู้เขามา) คาดว่าภายในปีนี้น่าจะครบทุกศูนย์ ซึ่ง ปัจจุบัน ทุกศูนย์ ยังฟรีอยู่สำหรับรถzs ev
ซึ่งถ้าผมเป็น zs ev (ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของbev ทั้งประเทศ)  ผมก็คงจะไปเติมที่ศูนย์ เพราะฟรี แถมยังเร็วกว่า(น่าจะได้ 80kw เต็มสเปกที่รถรองรับ)

ส่วนของ 7-11 แม้จะเป็นของ ea ก็จริง แต่เจ้าของคือ CP คนใช้ MG EV ก็คงน่าจะได้สิทธิพิเศษมากกว่ารถค่ายอื่นหน่อย
ถ้าจะใช้ bev ณ ตอนนี้ ก็ใช้ mg น่าจะสบายใจเรื่องจุดชาร์จมากสุด แห่ะๆ
เท่าที่ผมทราบ ในพื้นที่ของ กฟน เค้าทำ MOU กับ EA โดยให้ EA ลงทุนให้ครอบคลุม
ซึ่ง EA เองก็ได้สิทธิประโยชน์ที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ

ส่วนทำไม MEA ไม่ทำเอง ส่วนหนึ่งผมก็มองว่าเค้าไม่พร้อมจริงๆครับ
ส่วนเรื่องราคา ยังไงอนาคตก็ต้องมีการดูแลปรับเปลี่ยนให้เหมาะเและป็นธรรมต่อผู้บริโภคแน่ๆครับ

เห็นเค้าลือกันว่า mea น้อยใจ ที่egat เลือกข้างจับมือกับ pea น่ะครับ ก็เลยดูจะไม่โปรโมทเท่าที่ควร อิอิ

เห็นด้วยเรื่องราคาครับ ราคามันต้องสะท้อนต้นทุน+กำไร และจูงใจให้ผู้บริโภคใช้
อย่างที่บอกว่า ตอนนี้ ดูเหมือนจะออกราคามาแบบไม่รอรัฐจัดระเบียบ ออกใครออกมันมาก่อน
เหมือนอย่างตอนที่ออกข้อกำหนด(ที่งี่เง่ามากๆ) มาแต่แรกๆว่าจะต้องจ่ายค่าไฟต่อจุด DC ขั้นต่ำ3หมื่นต่อเดือน ไม่ว่าจะมีการใช้งานหรือไม่ก็ตาม นั่นหล่ะครับ ซึ่งเข้าใจว่า ตอนนี้เหมือนจะปลดล็อกไปแล้ว (หรือยังก็ไม่รู้ ไม่มีข่าวคราวเลย เงียบสุดๆ)

MacH1

  • บุคคลทั่วไป
เดี๋ยว งงคนับ ประด็น pea กับ ea มันไม่ควรจะคราม่านะ มันคนละบริบทกัน
pea  ตอนนี้ ตั้งใจ ขยายระยะการเดินทางออกไปทั่วประเทศ โดยใช้ตู้ dc fast charge เป็นตัวขับเคลื่อน
ซึ่งในตอนนี้ เริ่มต้นรองรับที่ 50kw ก่อน (ซึ่งก็หวังว่า ถ้าอนาคตขยับขยายได้ถึง 150kw น่าจะดีไม่น้อย แต่จริงๆ 50 ก็น้อยไปหน่อยจริงๆน่าจะสัก 80หรือ100kwไปเลย)

ในในเขตกรุงเทพและปริมณฑล(นอกที่ตั้งสำนักงานของ PEA) มันเป็นของ การไฟฟ้านครหลวง(mea) ถ้าจะมายอกว่า pea มีแค่ 62 และมีแต่ตจว.ก็ใช่สิ เพราะตั้งในเขตกทม.ไม่ได้
ว่าแต่ mea ทำอะไรอยู่ล่ะ เงียบกริบๆไหม

ส่วน EA อาศัยเดินเกมส์เน้นครอบคลุมพื้นที่ แต่ตอนนี้ก็มีแต่ ac ที่เปิดให้ได้ใช้กัน ส่วน DC จากที่ได้ข่าวล่าสุดคือ ลงทุนตั้งตู้ไปแล้ว แต่ไม่กล้าเปิดให้บริการ เพราะการไฟฟ้า(ที่ไหนหนอ) กำหลดอัตราค่าไฟขั้นต่ำต่อ 1 จุด dc คือจะคิดค่าไฟเดือนละ 3หมื่นบาทเป็นอย่างน้อย ไม่ว่าจะขายไฟให้เท่าไหร่ก็ตาม
ตรงนี้ถ้าเป็น พื้นที่ที่รับผิดชอบของpeaแล้วล่ะก็ pea ปลดล็อกไปแล้ว โดยจะคิดราคาเป็นเรท on-off peak (แต่เรทนี้โอเคไม่โอเค อีกเรื่องนึงนะ) 
ดังนั้น ถ้าเป็นตู้ของ ea ที่อยู่ในเขต pea ก็เปิดบริการได้แล้ว(สินะ) ส่วนในเขต กทม.ที่ตู้ea ตั้งอยู่เป็นส่วนใหญ่ ก็รอเจ้าของพื้นที่เขาคิดราคาค่าไฟใหม่ละกัน

แต่พอมาดูเรทการคิดราคาของ ea เพราะเขาเป็นเอกชน ก็ต้องมีค่าต้นทุน+ทำเลที่ตั้ง+แมนทาแนนซ์+กำไร ก็เข้าใจได้
ซึ่งพอมากำหนดราคาในตอนนี้ เล่นคิดเป็นนาที ไม่ได้คิดเป็นปริมาณกระแสไฟ มันก็เลยดูแพงไปสักหน่อย
ประกอบกับ ณ ตอนนี้ ยังอยู่ในช่วงทดลอง ยังมีหลายแห่งเปิดให้ใช้ไฟฟรีอยู่ ก็เป็นทางเลือกของคนใช้รถไฟฟ้า ที่ถือว่ายอมเป็นตัวทดสอบระบบให้กับเขา แลกกับใช้ไฟฟรี

หรือ ขณะเดียวกัน ก็เป็นหน้าที่รับผิดชอบของศูนย์บริการรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายรถไป ก็ต้องหาตู้ชาร์จมาให้บริการ (จะฟรีหรือคิดเงินก็อีกเรื่องหนึ่ง) อย่างตอนนี้ zs ev ก็เริ่มติดตั้งตู้ dc fast charge (แบบเดียวกับของ ea เลย เพราะร่วมมือกันซื้อตู้เขามา) คาดว่าภายในปีนี้น่าจะครบทุกศูนย์ ซึ่ง ปัจจุบัน ทุกศูนย์ ยังฟรีอยู่สำหรับรถzs ev
ซึ่งถ้าผมเป็น zs ev (ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของbev ทั้งประเทศ)  ผมก็คงจะไปเติมที่ศูนย์ เพราะฟรี แถมยังเร็วกว่า(น่าจะได้ 80kw เต็มสเปกที่รถรองรับ)

ส่วนของ 7-11 แม้จะเป็นของ ea ก็จริง แต่เจ้าของคือ CP คนใช้ MG EV ก็คงน่าจะได้สิทธิพิเศษมากกว่ารถค่ายอื่นหน่อย
ถ้าจะใช้ bev ณ ตอนนี้ ก็ใช้ mg น่าจะสบายใจเรื่องจุดชาร์จมากสุด แห่ะๆ
เท่าที่ผมทราบ ในพื้นที่ของ กฟน เค้าทำ MOU กับ EA โดยให้ EA ลงทุนให้ครอบคลุม
ซึ่ง EA เองก็ได้สิทธิประโยชน์ที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ

ส่วนทำไม MEA ไม่ทำเอง ส่วนหนึ่งผมก็มองว่าเค้าไม่พร้อมจริงๆครับ
ส่วนเรื่องราคา ยังไงอนาคตก็ต้องมีการดูแลปรับเปลี่ยนให้เหมาะเและป็นธรรมต่อผู้บริโภคแน่ๆครับ

เห็นเค้าลือกันว่า mea น้อยใจ ที่egat เลือกข้างจับมือกับ pea น่ะครับ ก็เลยดูจะไม่โปรโมทเท่าที่ควร อิอิ

เห็นด้วยเรื่องราคาครับ ราคามันต้องสะท้อนต้นทุน+กำไร และจูงใจให้ผู้บริโภคใช้
อย่างที่บอกว่า ตอนนี้ ดูเหมือนจะออกราคามาแบบไม่รอรัฐจัดระเบียบ ออกใครออกมันมาก่อน
เหมือนอย่างตอนที่ออกข้อกำหนด(ที่งี่เง่ามากๆ) มาแต่แรกๆว่าจะต้องจ่ายค่าไฟต่อจุด DC ขั้นต่ำ3หมื่นต่อเดือน ไม่ว่าจะมีการใช้งานหรือไม่ก็ตาม นั่นหล่ะครับ ซึ่งเข้าใจว่า ตอนนี้เหมือนจะปลดล็อกไปแล้ว (หรือยังก็ไม่รู้ ไม่มีข่าวคราวเลย เงียบสุดๆ)

วงในว่าคณะทำงานกำลังดำเนินการอยุ่คับ ตอนนี้ ตู้ DC เริ่มมีทยอยเปิดใช้แล้วของ EA เก็บ 9 บาทต่อ kwh

ผมไปใช้DC ฟรี ของ egat บางกรวย เค้าเอามิเตอร์มาตั้งไว้รอแล้ว ค่าชาร์ตที่เค้าเล็งไว้คือ 5.50 บาท/kwh