สอบถามเรื่องน้ำมันเกียร์สังเคราะห์หน่อยครับ

Pongvit

สอบถามพี่ๆน้าๆทุกท่านพอดีเกิดข้อสงสัยว่า น้ำมันเกียร์CVTถ้าเปลี่ยนไปใช้เกรดสังเคราะห์ที่มีการระบุว่ารองรับมาตราฐานของรถยี่ห้อนั้นๆ

ยกตัวอย่างพวกยี่ห้อ Amsoil หรือ Redline เห็นในเอกสารระบุว่ารองรับมาตราฐานของรถหลายยี่ห้ออยู่ เช่น

Nissan
NS-1, NS-2, NS-3 Nissan CVT Fluid, pt# 999MP-NS200P (Jatco JFE10E, JF010E, JF011E)(RE0F09A, B, 10A)

Suzuki
TC / NS-2 / CVT Shell Green 1V, CVTF Green2, (Jatco JF012E)

มันจะดีกว่าของที่ศูนย์ไว้ Service ไหมครับ แล้วคุ้มไหมกับการลงทุนยอมเปลี่ยนไปใช้เกรดสังเคราะห์พวกนี้ เพราะที่ดูๆราคาสูงกว่ากันมากครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 12, 2020, 12:36:56 โดย Pongvit »



Sakutaro

มาลงชื่อรอฟังครับ :)
รถที่ใช้อยู่ผมเปลี่ยนที่ศูนย์ตลอด เพราะบอกตรงๆน้ำมันเกียร์ผมดูแลเองไม่เป็น น้ำมันเครื่องยังพอเล่นกับมันได้ แต่น้ำมันเกียร์นี่ยอมใจ เน้นเข้าก่อนระยะเอา
คันนึงก็ถูกแสนถูกรวมค่าแรง อีกคันแพงหน่อยแต่พอรับได้ครับ :)



Tien.W

วัดยังไงว่า "ดีกว่า"

ถ้ารถที่ไม่มีประเด็นเรื่องเกียร์ ส่วนตัวผมมองว่า ใช้ของศูนย์ แล้วถ่ายไว ก็เพียงพอแล้วครับ เช่นพวก Toyota หรือ HONDA ที่ไม่ใช่ CVT

ส่วนพวกที่มีประเด็น ..

มีเพื่อนในคลับ เคยลอง น้ำมันเกียร์ CVT ยี่ห้อหนึ่ง หลัง flush แล้วติดแผงออยล์มา พบว่า Temp เกียร์สูงมาก คือ ต่ำกว่าก่อนติด แต่ก็ยังสูงอยู่ จนกลับไปโวยวายคนติด เค้าก็บอกว่า น้ำมัน มันไม่ดี เลย flush ให้ใหม่ ก็ดีอยู่อาทิตย์เดียว ก็เหมือนเดิม

สุดท้าย เอาไป flush ยี่ห้อดัง ราคาแพง คราวนี้ชัดๆว่า Temp เกียร์ลงเร็ว ขึ้นช้า ตอนนั้นจับตัวเลขมาดูกันเลยครับ

.........

ส่วนตัวผม

ออกรถมาได้สัก 1 เดือน ก็เอาไป flush แล้วติดแผงออยล์ ใช้น้ำมันเกียร์นอกศูนย์ ที่ชัดก็คือ หลัง flush เสร็จ รถวิ่งลื่นกว่าเดิมเยอะเลย (รถผมวิ่งพันกม.เองมั้ง ตอนติดเนี่ย แล้วก่อนออกรถ ก็ให้เค้าเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ให้ใหม่ด้วยครับ)




CNX

ถ้าเน้นสมรรถนะ ตามท่านบนแนะนำครับ
ถ้าไม่เน้น อยากลองยี่ห้อทางเลือก ตามแต่งบที่สะดวก
CVT NS-3 ผมใช้ของไทย ลิตร2xxบาท 3-4ลิตร
ATF ของแท้ค่ายรถกับของไทยราคาไกล้เคียงกัน ผมสลับใช้ตามแต่จังหวะสะดวก
รถบ้านๆ2คัน ใช้งานปกติ ขับทั่วไป ยังไม่เจอปัญหาครับ
อื่นๆ น้ำมันเฟืองท้าย เทียบเบอร์ใช้ยี่ห้อไทย ก็OKครับ
วิถีพอเพียง วิถียั่งยืน



DiKiBoyZ

น้ำมันเกียร์ เป็นอะไรที่ sensitive มากกกกก ในความคิดผมนะ

ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรง ใช้ของศูนย์ตรงรุ่น ตรงเกียร์ จบๆ เลย เปลี่ยนถ่ายตามระยะ

ยกเว้น........พวกน้ำมันเกียร์ที่บอกว่า Lifetime (อย่างรถผม และ หลายๆ ท่านน่าจะเจอ) หรือที่เขา recommended ไว้ประมาณ 200,000 km มั้ง(แล้วแต่รุ่น แล้วแต่ยี่ห้อ)

ผมต้องไปเปลี่ยนข้างนอกศูนย์ แต่ใช้ของศูนย์ ผมเปลี่ยนถ่าย ที่ 50,000 km เปลี่ยนไป 8 ลิตร แบบใช้เครื่องดูดออก (ทั้งหมดในเกียร์ใช้ 11 ลิตร)

ส่วนยี่ห้ออื่น ผมไม่กล้าแตะเลย กลัวเจ็บหนักทีหลัง



SRY

ใช้แต่ vavoline ครับ ลื่นกว่า 0 จนเปลี่ยนถ่ายครับ 0 ลื่นต้นๆ เก่ามาอืดครับ



AboveGod

เอาจากรถที่ใช้

ex ใช้เกรด J4

ถ่ายของ0ไม่เป็นไร แต่ถ้าถ่ายยี่ห้ออื่น J4 เหมือนกัน ถ้าเกรดไม่ดีพอ พังทุกคัน

ต้องเกรดดีมากๆ ซึ่งจะแพงกว่าของ0พอควร ใช้ของ0ก็พอแล้ว



DiKiBoyZ

เอาจากรถที่ใช้

ex ใช้เกรด J4

ถ่ายของ0ไม่เป็นไร แต่ถ้าถ่ายยี่ห้ออื่น J4 เหมือนกัน ถ้าเกรดไม่ดีพอ พังทุกคัน

ต้องเกรดดีมากๆ ซึ่งจะแพงกว่าของ0พอควร ใช้ของ0ก็พอแล้ว

J4 สำหรับดีเซลหรือป่าวครับ

ถ้าใช่ ถึงจะ J4, K4 มันก็แยกย่อยอีกนะครับ เช่น ค่า Viscosity เป็นต้น เกรด J4 เหมือนกัน แต่ Viscosity มีทั้งแบบ Low และ Ultra-Low อีก อันนี้ละ ที่รถบางคัน จะใช้พร่ำเพรื่อ ไม่ได้เลย

ผมไม่กล้าใช้ของนอกศูนย์ ก็เพราะเรื่องนี้ละ



AboveGod

เอาจากรถที่ใช้

ex ใช้เกรด J4

ถ่ายของ0ไม่เป็นไร แต่ถ้าถ่ายยี่ห้ออื่น J4 เหมือนกัน ถ้าเกรดไม่ดีพอ พังทุกคัน

ต้องเกรดดีมากๆ ซึ่งจะแพงกว่าของ0พอควร ใช้ของ0ก็พอแล้ว

J4 สำหรับดีเซลหรือป่าวครับ

ถ้าใช่ ถึงจะ J4, K4 มันก็แยกย่อยอีกนะครับ เช่น ค่า Viscosity เป็นต้น เกรด J4 เหมือนกัน แต่ Viscosity มีทั้งแบบ Low และ Ultra-Low อีก อันนี้ละ ที่รถบางคัน จะใช้พร่ำเพรื่อ ไม่ได้เลย

ผมไม่กล้าใช้ของนอกศูนย์ ก็เพราะเรื่องนี้ละ

J4 แบบในรูปนี้ครับ แต่ถ้าเป็นยี่ห้ออื่น กระป๋องเหล็กสีฟ้ามั้งครับ ที่เขียนว่าเติมได้ มีหลายคันใส่แล้วพัง

ถ้าเกรดดีกว่าแล้วใส่ได้ก็เช่น Amsoil แต่ก็แพงกว่าของศูนย์เยอะเลย