ขอบคุณที่ยังไม่รำคาญไปซะก่อนครับ
ผมก็พยายามวิเคราะห์เท่าที่ความรู้อันน้อยนิดของผมจะพึงมีอ่ะครับ
เหมือนอ่านหนังสือด้วยครับ = อยากรู้ตอนจบ
-----------------------
ก่อนอื่นต้องขอบคุณที่เข้ามาให้รายละเอียดและตอบทุกกระทู้ของผมนะครับ
ซึ่ง Time line ผมขอบอกอีกรอบแบบคร่าวๆนะครับ
- ซื้อรถมา ช่วงก่อน 90,000โล คือ ขับปกติดี มีอาการกระด้างบ้างแต่ก็ไม่มาก
แปลว่า CR-V Gen 4 = เซ็ตรถมากำลังดีเลย- 90,000โล จนมาถึง 130000 อาการเริ่มชัดเจน (ยังใช้ล้อ17อยู่) ช่วงล่างมีอาการสะเทือน ไม่ซับแรงกระแทก รถไม่นิ่ง มีดีด มีเหวี่ยง เก็บทุกรายละเอียดของถนน
โช้คอัพ & ระบบช่วงล่าง = น่าจะเริ่มเสื่อมสภาพตามการใช้งาน
และถ้าใช้ยางเดิมติดรถถึง 90,000 โล โดยไม่เคยเปลี่ยนยาง = ยางมันน่าจะใกล้หมดสภาพ
- เปลี่ยนเป็นล้อ 18
สร้างภาระให้ช่วงล่างที่เสื่อมสภาพมากขึ้น จากล้อที่ใหญ่ขึ้น- เข้าไปเช็คที่อู่ช่วงล่าง โช็คเดิมคือตาย ไม่คืนตัว เลยลองเปลี่ยนเป็น Tein เลยละกัน ใส่กับสปริงเดิม เพราะคิดว่าอาการน่าจะดีขึ้น ( ว่ากันว่าโช๊ค Tein ตัวนี้ทำมาเพื่อ crv g4 โดยเฉพาะ ทำมาเพื่อความหนึบ นุ่ม ไม่กระด้าง ) เลยลองเปลี่ยนดู เผื่อจะดีตามที่เค้าโฆษณากัน แต่ปรากฎว่าอาการเหวี่ยง รถไม่นิ่ง รถตึงตัง ยังคงไม่หาย เริ่มขับไม่สนุก รู้สึกหงุดหงิดเวลาขับ แต่ได้ความหนึบที่ดีระดับหนึ่งมากกว่าโช๊คสแตนดาร์ด
โช้ค Tein = คงหนึบ & แข็งขึ้น ทำให้เสียความนุ่มนวลในช่วงความเร็วต่ำ แต่ได้ความหนึบ & เกาะถนนมากขึ้นในช่วงความเร็วสูง- ลองไปโฟกัสที่ยางดู เลยไปเปลี่ยนยางใหม่ Yokahama Rv02 225/60/18 เผื่อจะดีขึ้น ปรากฎว่าก็ยังเหมือนเดิม
เหมือนแก้ไม่ตรงจุด- ไปอู่ช่วงล่าง เปลี่ยน ลูกหมากแร็ค ลูกหมากกันโคลงหน้าหลัง ลูกหมากคันชัก ยางรองกันโคลงหน้าหลัง พวงมาลัยแน่นดีขึ้น แต่อาการเหวี่ยงๆ โยกๆ ก็ยังไม่หาย
ยังไม่ตรงสาเหตุที่แท้จริง = โช้คน่าจะแข็งไป ทำให้ขับไม่สบาย- ตัดสินใจไปที่บีควิก ( เพราะยังคิดว่าน่าจะเป็นที่โช๊คอยู่ ) เลยตัดสินใจกลับไปสู่สแตนดาร์ด คือ โช๊คเดิม เปลี่ยนเบ้าโช๊ค ยางรองเบ้าโช๊ค ยางกันกระแทก ยางรองสปริง หลังจากเปลี่ยนเสร็จ ขับรถกลับบ้าน (ถนนทางเข้าบ้านไม่ค่อยเรียบอยู่แล้ว) ความไม่นิ่งของรถยังคงมีอยู่ เวลาล้อลงหลุม รถจะดีดคืนตัวเร็วผิดปกติ เหมือนมันกระซากจนท้องปั่นป่วน
ถ้าเปลี่ยนโช้คเดิมโรงงาน = น่าจะไปเปลี่ยนที่ศูนย์ Honda มากกว่าครับตอนนี้เริ่มจิตตก ไม่รู้จะไปแก้ตรงจุดไหนต่อ แต่ก็มีอยู่ไม่กี่อย่างที่ยังไม่ลองเปลี่ยน คือ สปริงสแตนดาร์ด บูชปีกนก ลูกหมากคอม้า
ปัญหาทุกอย่างย่อมมีทางแก้ = ผมเชื่อเสมอว่า "รถ เป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น ดังนั้น ถ้าเราหาสาเหตุที่แท้จริงเจอ มันน่าจะแก้ปัญหาได้"
แนวทางผม ก็อย่างที่บอก ถ้าเป็นผมตอนนี้
1. ขับเข้าศูนย์ Honda ลองเปลี่ยน สปริงโรงงานใหม่ 4 ต้นก่อน = ถ้ารถหายเด้ง ก็คือ จบ
1.1 บูชปีกนก ถ้ามันแตกลายงา หรือฉีกขาด ก็ส่งผลกับการควบคุมรถเหมือนกัน = เข้าใจว่า CR-V เปลี่ยนเฉพาะตัวบูชปีกนกได้
ไม่ต้องเปลี่ยนยกปีกนกเหมือน City Zx
เมื่อกลางเดือนที่แล้ว ผมเปลี่ยนปีกนกแท้เบิกศูนย์ L+R เป็นชุดที่ 2 แล้ว
ชุดแรกของติดรถ = ใช้ได้ 8 ปี 80,000 กม. บูชฉีก
ชุดที่ 2 เปลี่ยนที่ Honda Rama 7 = ใช้ได้ 4 ปี 20,000 กม. บูชแตกลายงา
ชุดที่ 3 = รอดูว่า จะใช้ได้เท่าไร
2. ถ้ารถยังไม่หายเด้ง = เปลี่ยนโช้คเดิมที่ศูนย์ Honda ใหม่ 4 ต้น + หาล้อเดิมตรงรุ่น ขนาด 17 นิ้วมาใส่ + เปลี่ยนอะไหล่ช่วงล่างชิ้นอื่นๆ ที่เสื่อมสภาพ
ตามอายุรถ
3. ถ้ายังไม่หายอีก = ผมจะลองไปร้าน Auto Part Center ตัวแทนจำหน่ายโช้ค Monroe = ผมสนใจสโลแกนของทางร้านที่ว่า "บินได้ รูดได้"
ลองใส่ โช้ค Custom + สปริงหลอดของทางร้าน และไปลองรถเลย ถ้าไม่นุ่มอย่างที่คิด
ทางร้านชอบพูดว่า = ถอดคืนร้านไม่ต้องจ่ายตังค์ (แต่ไม่รู้ต้องจ่ายค่าติดตั้งไหมอ่ะ ??)
อ้อ..ตอนนี้เหมือนศูนย์รถจะไม่ตรงด้วยครับ กินขวาหน่อยๆ เวลายูเทรินพวงมาลัยหมุนคืนไม่สุด ต้องใช้มือช่วยอีกที ( ไม่รู้ว่าเป็นที่ศูนย์รถรึเปล่า)
ศูนย์ล้อ น่าจะมีปัญหา ในเรื่องของมุม Toe = รถผมเป็นตั้งแต่ตอนป้ายแดง เลี้ยวแล้วพวงมาลัยไม่คืน ต้องสาวพวงมาลัยช่วย
จนตอนที่เปลี่ยนล้อจาก 14 นิ้ว เป็น 15 นิ้ว และได้ตั้งศูนย์ล้อใหม่ = เลี้ยวแล้ว พวงมาลัยคืน
แต่ผมเข้าใจว่า ศูนย์ล้อของรถ (มุม Toe, มุม Camber) = ไม่น่าจะเกี่ยวกับการ "เด้ง" ของรถนะครับถ้าเงินไม่ใช่ปัญหา = พรุ่งนี้ไปศูนย์ Honda ที่น่าจะไว้ใจได้ เช่น ศูนย์ Honda Rama 7 หรือ ศูนย์ Honda แถวบ้าน
ให้ทางศูนย์ตรวจสอบช่วงล่าง + List รายการที่ควรเปลี่ยนออกมาครับ
ได้ผลประการใด = วานบอกด้วยครับ
ผมก็อยากรู้ตอนจบเหมือนกันครับ