ผู้เขียน หัวข้อ: รถที่สาดสีใหม่ ทำสีใหม่ Restore ทั้งคัน สีพวกนี้มันจะทนจริงๆหรอครับ?  (อ่าน 15351 ครั้ง)

ออฟไลน์ Teezy350

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 34
ผมเห็นช่วงนี้รับ Restore รถยุค 90 กันเยอะ เห็นใช้สีนกแก้วสาดสีใหม่ทั้งคัน คือทำบางจุดพอเข้าใจ แต่ถ้าทำใหม่ทั้งคัน สีมันจะทนเหมือนสีออกโรงงานจริงๆหรอครับ มันสีซีดแตกง่ายไหมครับการสาดสีแบบนี้

ออฟไลน์ Sit: )

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,453
    • อีเมล์
สาดทับไปเลยคงไม่ทน
แต่ถ้าลอกของเก่า เตรียมพื้นใหม่ โป๊วใหม่(ถ้าจำเป็น)ขัดผิวใหม่ เอาสนิมออกหมด เปลี่ยนชิ้นส่วนที่เกินรักษา รองพื้นใหม่ลงสีใหม่หมด มันก็อยู่ได้นานนะ รถผมทำมา 5 ปียังเงาดีไม่มีอะไร

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,640
สาดสีนี่ยังไงหรอครับ คือทับเลยหรอผมว่าไม่ทนนะ

แต่ทำดีใหม่ทั้งคันรื้อสีเดิมออกทนแน่นอนครับ
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ Arm

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,006
สาดเฉยๆหรือที่เขาเรียกกันว่าอาบน้ำ ยังไงก็ไม่ทนครับ

แต่ถ้าแบบ Restore ทำดีๆ ขัดถึงเหล็ก รองพื้นดีๆ อยู่ได้พอสมควรครับ ถ้าตากแดดทุกวันก็ 5 ปีเริ่มด่าง ถ้าใช้รักษามากๆขั้นต่ำก็ 10 ปีครับ
88' Accord CA 2.0 EX A/T
88' Accord CA 2.0 LX M/T
09' Corolla Altis 2.0 V Navi
15' Commuter 3.0 A/T
18' Pajero Sport 2.4 GT-Premium Limited Edition

TheRealMeaw

  • บุคคลทั่วไป
คือผมไม่แน่ใจนะว่าความเชื่อว่าสีรถใหม่คือสีที่ดีที่สุดมันยังใช้ได้อยู่ไหม แต่ที่ผมเจอมา มันก็มีทั้งที่ดี แล้วก็ไม่ดี เราก็มักจะได้ยินเรื่องสีของรถบางรุ่น บางสี ซีดไวกว่าสีอื่นเหมือนกัน ไม่ต้องนับเรื่องสีบาง สีเป็นผิวส้ม หรือว่ารถบางค่ายเป็นสนิมขึ้นมาตั้งแต่อายุยังไม่เท่าไหร่นะครับ มันไม่ตายตัว

ในทางเดียวกัน สีทำเนี่ย มันก็ทำดีได้ ทำให้ทนกว่ารถใหม่ได้เหมือนกัน เอาแค่การเลือกสี thinner based หรือ water based ก็ต่างกันแล้วครับ มันไม่ใช่ว่าเลือกสีนกแก้วแล้วจบเลย สีแต่ละแบบมันก็มีข้อดีข้อเสียของมันอยู่ สียี่ห้อธรรมดามันก็ทนได้นะครับ แล้วไหนจะประเภทของสีอีก แบบ 1K หรือ 2K พวกนี้ก็มีความต่างเหมือนกัน ถ้าจะว่ากันจริง ๆ ผมว่าสีในสมัยก่อนที่กฎเรื่องสิ่งแวดล้อมยังไม่เคร่งครัด ไม่ว่าจะจากโรงงานหรือทำเอา มันอยู่ทนกว่าเยอะครับ แต่ในเมื่อกฎมันบังคับ ยกเว้นว่าเราจะไปเอาสีที่ทำไว้เป็น old stock มาเราก็ไม่มีทางเลือกนี่ครับ

ยังไม่ต้องข้ามไปถึงเรื่องกระบวนการนะครับ ตอนเตรียมผิวทำยังไง ขัดดีไหม เช็ดเอาน้ำมันหรือสิ่งสกปรกออกไปหมดหรือเปล่า ทิ้งเหล็กพื้นไว้ไม่ยอมพ่นสีนานไหม โป๊วหนาไหม ความชื้นเข้าไปได้หรือเปล่า อีกเรื่องคือการโป๊วนี่ไม่ใช่เรื่องที่แย่นะครับ มันเป็นแค่การเตรียมผิวอย่างหนึ่งเท่านั้น และมันทำให้ผิวเรียบขึ้น แต่ถ้าใครจะใช้ผิดประเภท โป๊วสีจนหนา อันนั้นมันก็คือเรื่องของคนทำครับ ไม่ใช่ว่าโป๊วแล้วแย่ แล้วสีทำให้ดีก็ไม่ได้จำเป็นต้องลอกถึงเหล็กนะครับ หรือถ้าในทางกลับกัน ลอกถึงเหล็กก็ไม่ได้แปลว่าสีมันจะทนกว่าไม่ลอก ประเด็นคือการทำสีให้ดี มันก็ใช้เงิน ใช้งบประมาณเยอะ เป็นเรื่องปกติครับ แต่มันก็ไม่ใช่ว่าอู่ที่ทำสีราคาแพงแล้วจะทำดี แต่มันแพงได้จากการโปรโมทก็เยอะ

การทำสีจะใช้ลูกกลิ้งทำ มันก็ทนอยู่ได้หลายปีได้เหมือนกันนะครับ ปัจจัยมันเยอะขนาดนี้ เราจะสรุปได้จริง ๆ เหรอครับว่าสีทำมันจะทนได้ไม่เท่าสีโรงงาน? หรือยิ่งไปกว่านั้น เราแน่ใจได้อยู่ไหมครับว่าสีโรงงานมันเป็นสิ่งที่ต้องรักษาเอาไว้ ห้ามทำให้มันเสียหายไปไม่ว่าจะในกรณีใดก็ตาม? มันแล้วแต่คนจะคิดมั้งครับ แต่จากที่ผมเห็นกระบวณการทำสีของอู่ที่มีคุณภาพมา ผมไม่คิดว่าการทำสีมันจะเป็นเรื่องที่แย่ครับ ถ้าเราก้าวข้ามมุมมองการใช้รถแบบพ่อค้ารถมือสองได้ ผมว่าชีวิตมีความสุขขึ้นเยอะ รถเป็นรอยก็ทำสีไป รถมีปัญหาอะไรก็รื้อออกมาแก้ ไม่ใช่ว่ากลัวว่าทำแล้วมันจะไม่เหมือนเดิม แกะแล้วน็อตขยับเดี๋ยวมูลค่าหาย ถ้ากลัวถึงขนาดนั้นก็น่าจะได้แต่จอดไว้เฉย ๆ ครับไม่ได้ขับหรอก โอเค ถ้าใครจะมีความสุขกับการนั่งมองรถเฉย ๆ ผมก็ไม่แย้งอะไรนะครับเพราะคนเรามีความสุขที่ไม่เหมือนกันได้

โดยสรุป ถ้ามีเงิน จะทำให้ทุกอย่างกลับไปเป็นเหมือนเดิมมันทำได้หมดนั่นแหละครับ

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,190
    • อีเมล์
สาด หรือ อาบน้ำ ไม่เรียก restore มั้งครับ และก็ไม่ทนด้วย

ต้องทำใหม่ รองพื้นใหม่ อาจจะมีปะผุด้วยซ้ำ อันนี้อยู่ยาวๆ แต่ก็แพงด้วยเช่นกัน

เจอร้านอินดี้ ทำครึ่งปียังมี

ออฟไลน์ final

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 582
    • อีเมล์
คือผมไม่แน่ใจนะว่าความเชื่อว่าสีรถใหม่คือสีที่ดีที่สุดมันยังใช้ได้อยู่ไหม แต่ที่ผมเจอมา มันก็มีทั้งที่ดี แล้วก็ไม่ดี เราก็มักจะได้ยินเรื่องสีของรถบางรุ่น บางสี ซีดไวกว่าสีอื่นเหมือนกัน ไม่ต้องนับเรื่องสีบาง สีเป็นผิวส้ม หรือว่ารถบางค่ายเป็นสนิมขึ้นมาตั้งแต่อายุยังไม่เท่าไหร่นะครับ มันไม่ตายตัว

ในทางเดียวกัน สีทำเนี่ย มันก็ทำดีได้ ทำให้ทนกว่ารถใหม่ได้เหมือนกัน เอาแค่การเลือกสี thinner based หรือ water based ก็ต่างกันแล้วครับ มันไม่ใช่ว่าเลือกสีนกแก้วแล้วจบเลย สีแต่ละแบบมันก็มีข้อดีข้อเสียของมันอยู่ สียี่ห้อธรรมดามันก็ทนได้นะครับ แล้วไหนจะประเภทของสีอีก แบบ 1K หรือ 2K พวกนี้ก็มีความต่างเหมือนกัน ถ้าจะว่ากันจริง ๆ ผมว่าสีในสมัยก่อนที่กฎเรื่องสิ่งแวดล้อมยังไม่เคร่งครัด ไม่ว่าจะจากโรงงานหรือทำเอา มันอยู่ทนกว่าเยอะครับ แต่ในเมื่อกฎมันบังคับ ยกเว้นว่าเราจะไปเอาสีที่ทำไว้เป็น old stock มาเราก็ไม่มีทางเลือกนี่ครับ

ยังไม่ต้องข้ามไปถึงเรื่องกระบวนการนะครับ ตอนเตรียมผิวทำยังไง ขัดดีไหม เช็ดเอาน้ำมันหรือสิ่งสกปรกออกไปหมดหรือเปล่า ทิ้งเหล็กพื้นไว้ไม่ยอมพ่นสีนานไหม โป๊วหนาไหม ความชื้นเข้าไปได้หรือเปล่า อีกเรื่องคือการโป๊วนี่ไม่ใช่เรื่องที่แย่นะครับ มันเป็นแค่การเตรียมผิวอย่างหนึ่งเท่านั้น และมันทำให้ผิวเรียบขึ้น แต่ถ้าใครจะใช้ผิดประเภท โป๊วสีจนหนา อันนั้นมันก็คือเรื่องของคนทำครับ ไม่ใช่ว่าโป๊วแล้วแย่ แล้วสีทำให้ดีก็ไม่ได้จำเป็นต้องลอกถึงเหล็กนะครับ หรือถ้าในทางกลับกัน ลอกถึงเหล็กก็ไม่ได้แปลว่าสีมันจะทนกว่าไม่ลอก ประเด็นคือการทำสีให้ดี มันก็ใช้เงิน ใช้งบประมาณเยอะ เป็นเรื่องปกติครับ แต่มันก็ไม่ใช่ว่าอู่ที่ทำสีราคาแพงแล้วจะทำดี แต่มันแพงได้จากการโปรโมทก็เยอะ

การทำสีจะใช้ลูกกลิ้งทำ มันก็ทนอยู่ได้หลายปีได้เหมือนกันนะครับ ปัจจัยมันเยอะขนาดนี้ เราจะสรุปได้จริง ๆ เหรอครับว่าสีทำมันจะทนได้ไม่เท่าสีโรงงาน? หรือยิ่งไปกว่านั้น เราแน่ใจได้อยู่ไหมครับว่าสีโรงงานมันเป็นสิ่งที่ต้องรักษาเอาไว้ ห้ามทำให้มันเสียหายไปไม่ว่าจะในกรณีใดก็ตาม? มันแล้วแต่คนจะคิดมั้งครับ แต่จากที่ผมเห็นกระบวณการทำสีของอู่ที่มีคุณภาพมา ผมไม่คิดว่าการทำสีมันจะเป็นเรื่องที่แย่ครับ ถ้าเราก้าวข้ามมุมมองการใช้รถแบบพ่อค้ารถมือสองได้ ผมว่าชีวิตมีความสุขขึ้นเยอะ รถเป็นรอยก็ทำสีไป รถมีปัญหาอะไรก็รื้อออกมาแก้ ไม่ใช่ว่ากลัวว่าทำแล้วมันจะไม่เหมือนเดิม แกะแล้วน็อตขยับเดี๋ยวมูลค่าหาย ถ้ากลัวถึงขนาดนั้นก็น่าจะได้แต่จอดไว้เฉย ๆ ครับไม่ได้ขับหรอก โอเค ถ้าใครจะมีความสุขกับการนั่งมองรถเฉย ๆ ผมก็ไม่แย้งอะไรนะครับเพราะคนเรามีความสุขที่ไม่เหมือนกันได้

โดยสรุป ถ้ามีเงิน จะทำให้ทุกอย่างกลับไปเป็นเหมือนเดิมมันทำได้หมดนั่นแหละครับ

เห็นด้วยครับ

ออฟไลน์ AboveGod

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,039
คือผมไม่แน่ใจนะว่าความเชื่อว่าสีรถใหม่คือสีที่ดีที่สุดมันยังใช้ได้อยู่ไหม แต่ที่ผมเจอมา มันก็มีทั้งที่ดี แล้วก็ไม่ดี เราก็มักจะได้ยินเรื่องสีของรถบางรุ่น บางสี ซีดไวกว่าสีอื่นเหมือนกัน ไม่ต้องนับเรื่องสีบาง สีเป็นผิวส้ม หรือว่ารถบางค่ายเป็นสนิมขึ้นมาตั้งแต่อายุยังไม่เท่าไหร่นะครับ มันไม่ตายตัว

ในทางเดียวกัน สีทำเนี่ย มันก็ทำดีได้ ทำให้ทนกว่ารถใหม่ได้เหมือนกัน เอาแค่การเลือกสี thinner based หรือ water based ก็ต่างกันแล้วครับ มันไม่ใช่ว่าเลือกสีนกแก้วแล้วจบเลย สีแต่ละแบบมันก็มีข้อดีข้อเสียของมันอยู่ สียี่ห้อธรรมดามันก็ทนได้นะครับ แล้วไหนจะประเภทของสีอีก แบบ 1K หรือ 2K พวกนี้ก็มีความต่างเหมือนกัน ถ้าจะว่ากันจริง ๆ ผมว่าสีในสมัยก่อนที่กฎเรื่องสิ่งแวดล้อมยังไม่เคร่งครัด ไม่ว่าจะจากโรงงานหรือทำเอา มันอยู่ทนกว่าเยอะครับ แต่ในเมื่อกฎมันบังคับ ยกเว้นว่าเราจะไปเอาสีที่ทำไว้เป็น old stock มาเราก็ไม่มีทางเลือกนี่ครับ

ยังไม่ต้องข้ามไปถึงเรื่องกระบวนการนะครับ ตอนเตรียมผิวทำยังไง ขัดดีไหม เช็ดเอาน้ำมันหรือสิ่งสกปรกออกไปหมดหรือเปล่า ทิ้งเหล็กพื้นไว้ไม่ยอมพ่นสีนานไหม โป๊วหนาไหม ความชื้นเข้าไปได้หรือเปล่า อีกเรื่องคือการโป๊วนี่ไม่ใช่เรื่องที่แย่นะครับ มันเป็นแค่การเตรียมผิวอย่างหนึ่งเท่านั้น และมันทำให้ผิวเรียบขึ้น แต่ถ้าใครจะใช้ผิดประเภท โป๊วสีจนหนา อันนั้นมันก็คือเรื่องของคนทำครับ ไม่ใช่ว่าโป๊วแล้วแย่ แล้วสีทำให้ดีก็ไม่ได้จำเป็นต้องลอกถึงเหล็กนะครับ หรือถ้าในทางกลับกัน ลอกถึงเหล็กก็ไม่ได้แปลว่าสีมันจะทนกว่าไม่ลอก ประเด็นคือการทำสีให้ดี มันก็ใช้เงิน ใช้งบประมาณเยอะ เป็นเรื่องปกติครับ แต่มันก็ไม่ใช่ว่าอู่ที่ทำสีราคาแพงแล้วจะทำดี แต่มันแพงได้จากการโปรโมทก็เยอะ

การทำสีจะใช้ลูกกลิ้งทำ มันก็ทนอยู่ได้หลายปีได้เหมือนกันนะครับ ปัจจัยมันเยอะขนาดนี้ เราจะสรุปได้จริง ๆ เหรอครับว่าสีทำมันจะทนได้ไม่เท่าสีโรงงาน? หรือยิ่งไปกว่านั้น เราแน่ใจได้อยู่ไหมครับว่าสีโรงงานมันเป็นสิ่งที่ต้องรักษาเอาไว้ ห้ามทำให้มันเสียหายไปไม่ว่าจะในกรณีใดก็ตาม? มันแล้วแต่คนจะคิดมั้งครับ แต่จากที่ผมเห็นกระบวณการทำสีของอู่ที่มีคุณภาพมา ผมไม่คิดว่าการทำสีมันจะเป็นเรื่องที่แย่ครับ ถ้าเราก้าวข้ามมุมมองการใช้รถแบบพ่อค้ารถมือสองได้ ผมว่าชีวิตมีความสุขขึ้นเยอะ รถเป็นรอยก็ทำสีไป รถมีปัญหาอะไรก็รื้อออกมาแก้ ไม่ใช่ว่ากลัวว่าทำแล้วมันจะไม่เหมือนเดิม แกะแล้วน็อตขยับเดี๋ยวมูลค่าหาย ถ้ากลัวถึงขนาดนั้นก็น่าจะได้แต่จอดไว้เฉย ๆ ครับไม่ได้ขับหรอก โอเค ถ้าใครจะมีความสุขกับการนั่งมองรถเฉย ๆ ผมก็ไม่แย้งอะไรนะครับเพราะคนเรามีความสุขที่ไม่เหมือนกันได้

โดยสรุป ถ้ามีเงิน จะทำให้ทุกอย่างกลับไปเป็นเหมือนเดิมมันทำได้หมดนั่นแหละครับ

+1 ตามความเห็นนี้เลย

ส่วนใหญ่ที่บอกสีไม่ดีเท่าสีเดิมโรงงาน ส่วนใหญ่ก็ซ่อมอู่ที่ฝีมือไม่ดี ใช้ของคุณภาพไม่ได้

ถ้าอู่มีฝีมือถึงๆ ของเกรดดีๆ ผลงานออกมาดีกว่าสีเดิมโรงงานแน่ๆ แล้วก็ความทน เคลือบ ดูแลดีๆ เกิน10ปี  10ปี ทำสีครั้งนึงผมว่าคุ้มแล้วนะ


ออฟไลน์ bodin

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 997
รถยุค90 ถ้ามันยังคุ้มค่าลงทุนทำสีคงต้องพวกรถสะสมทำแล้วมาจอดในโรงรถแล้วครับ ไม่โดนแดดโดนฝนทำยังไงมันก็ทน

ส่วนรถบ้านไว้ขนของขนคนอายุขนาดนั้นราคาทำสีใหม่ท่วมราคารถไม่ต้องทำแล้วครับขับไปทั้งอย่างนั้นก็ได้

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,463
ถ้าอาบน้ำมันไม่ทนอยู่แล้ว  แต่ถ้าทำแบบสมบูรณ์  ก็ทน

อย่างรถผมที่ใช้อยู่  ซื้อปี 55  (รถทำสีมาแล้ว)  ปีนี้  63  แปดปีมาแล้วสีก็ยังดีอยู่  เสียหายตามการใช้งานบ้าง  แค่นั้น

ออฟไลน์ neung23

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,661
สีเดิมๆลูบผิวออก แต่งริ้วรอยพ่นกลับมันไม่เป็นไรหรอกคับ ผมทำมา5-6ปี ยังปกติ แต่ที่เคยเจอคือ รถชนมามีเคาะดัดหนักๆโป๊วเก็บรอยเคาะมา ชั้นสีโป๊วนี่แหละ พองดันชั้นสีนอกออกมา ไม่ก็แตกเป็นร่อง แต่รถที่เคลมประกันริ้วรอยทั่วไปไม่เป็นไรหรอกคับ
2013 W204 C250 AMG Plus
2011 Prius
2010 X5 xDrive 4.8i
2003 E39 523i Sport

ออฟไลน์ porasit33

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,189
จริงๆสีๆนึงที่พ่นรถ มันผ่านกระบวนการต่างๆมากมาย
แล้วก็มีหลายสูตร หลายรุ่น ทีนี้กว่าจะพ่นออกมาได้
ต้องปรับส่วนผสมหลายๆอย่างจนมันทน ได้ตามมาตรฐาน
ที่ทางค่ายรถให้ spec กับบริษัทสีไว้ เกือบๆ 30 มาตรฐาน
การพ่น การอบ ก็เหมือนกัน มันมีผลหมด

ทีนี้พอเป็นสีซ่อม มันเลยเป็นการพ่น ตามความเชี่ยวชาญของคนพ่น
ซึ่งไม่สามารถการันตีใดๆได้เลยว่าสีที่ซ่อมไป จะมีคุณภาพอย่างๆไร
เพราะแต่ละครั้งที่ซ่อม ไม่เหมือนกันซะทีเดียว
แถมสีซ่อมจะเป็นสีเกรดที่ใช้ซ่อม มันไม่เหมือนสีเดิมโรงงาน
แต่มันก็มีมาตรฐานของมันระดับนึง

สิ่งที่บอกได้ว่าดีไม่ดีเลยเป็นแค่สิ่งที่ตาเห็นเท่านั้น
เช่น ความเหมือน ความเนียน ตำหนิ ฝุ่น ความหนา

รถคันนึงออกสีใหม่ พ่นเป็นสิบๆคัน พ่นทิ้ง กว่าจะได้คุณภาพตามมาตรฐาน
กับรถที่พ่นครั้งเดียว มันก็ตอบยากจริงๆครับ ว่ามันจะทนเหมือนกันมั้ย

แล้วเราอยู่ในยุคที่แข่งกันลดต้นทุน ตั้งแต่ผู้ผลิตสี
ไปจนถึงลดเวลาการพ่นการอบ สีรถยุคนี้เลยไม่ทนเท่าแต่ก่อน
เพราะมันดันออกแบบมาให้ทนแค่ในระยะประกันก็พอ

ทีนี้สีซ่อมมีระยะประกันแค่ไหน ลองเปรียบเทียบกับระยะประกันของสีโรงงานเอานะครับ
ทีนี้มันขึ้นอยู่กับช่างแล้ว ว่าจะพิถีพิถันกับรถเราแค่ไหน
แล้วเราระเรงแว็กข้าง เคลือบบ้าง ตากฝน ตากแดด มันก็ทนลดลงไปตามการใช้งานอีกที

ส่วนทนไม่ทนมันบอกไม่ได้

ออฟไลน์ lonely

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
คือผมไม่แน่ใจนะว่าความเชื่อว่าสีรถใหม่คือสีที่ดีที่สุดมันยังใช้ได้อยู่ไหม แต่ที่ผมเจอมา มันก็มีทั้งที่ดี แล้วก็ไม่ดี เราก็มักจะได้ยินเรื่องสีของรถบางรุ่น บางสี ซีดไวกว่าสีอื่นเหมือนกัน ไม่ต้องนับเรื่องสีบาง สีเป็นผิวส้ม หรือว่ารถบางค่ายเป็นสนิมขึ้นมาตั้งแต่อายุยังไม่เท่าไหร่นะครับ มันไม่ตายตัว

ในทางเดียวกัน สีทำเนี่ย มันก็ทำดีได้ ทำให้ทนกว่ารถใหม่ได้เหมือนกัน เอาแค่การเลือกสี thinner based หรือ water based ก็ต่างกันแล้วครับ มันไม่ใช่ว่าเลือกสีนกแก้วแล้วจบเลย สีแต่ละแบบมันก็มีข้อดีข้อเสียของมันอยู่ สียี่ห้อธรรมดามันก็ทนได้นะครับ แล้วไหนจะประเภทของสีอีก แบบ 1K หรือ 2K พวกนี้ก็มีความต่างเหมือนกัน ถ้าจะว่ากันจริง ๆ ผมว่าสีในสมัยก่อนที่กฎเรื่องสิ่งแวดล้อมยังไม่เคร่งครัด ไม่ว่าจะจากโรงงานหรือทำเอา มันอยู่ทนกว่าเยอะครับ แต่ในเมื่อกฎมันบังคับ ยกเว้นว่าเราจะไปเอาสีที่ทำไว้เป็น old stock มาเราก็ไม่มีทางเลือกนี่ครับ

ยังไม่ต้องข้ามไปถึงเรื่องกระบวนการนะครับ ตอนเตรียมผิวทำยังไง ขัดดีไหม เช็ดเอาน้ำมันหรือสิ่งสกปรกออกไปหมดหรือเปล่า ทิ้งเหล็กพื้นไว้ไม่ยอมพ่นสีนานไหม โป๊วหนาไหม ความชื้นเข้าไปได้หรือเปล่า อีกเรื่องคือการโป๊วนี่ไม่ใช่เรื่องที่แย่นะครับ มันเป็นแค่การเตรียมผิวอย่างหนึ่งเท่านั้น และมันทำให้ผิวเรียบขึ้น แต่ถ้าใครจะใช้ผิดประเภท โป๊วสีจนหนา อันนั้นมันก็คือเรื่องของคนทำครับ ไม่ใช่ว่าโป๊วแล้วแย่ แล้วสีทำให้ดีก็ไม่ได้จำเป็นต้องลอกถึงเหล็กนะครับ หรือถ้าในทางกลับกัน ลอกถึงเหล็กก็ไม่ได้แปลว่าสีมันจะทนกว่าไม่ลอก ประเด็นคือการทำสีให้ดี มันก็ใช้เงิน ใช้งบประมาณเยอะ เป็นเรื่องปกติครับ แต่มันก็ไม่ใช่ว่าอู่ที่ทำสีราคาแพงแล้วจะทำดี แต่มันแพงได้จากการโปรโมทก็เยอะ

การทำสีจะใช้ลูกกลิ้งทำ มันก็ทนอยู่ได้หลายปีได้เหมือนกันนะครับ ปัจจัยมันเยอะขนาดนี้ เราจะสรุปได้จริง ๆ เหรอครับว่าสีทำมันจะทนได้ไม่เท่าสีโรงงาน? หรือยิ่งไปกว่านั้น เราแน่ใจได้อยู่ไหมครับว่าสีโรงงานมันเป็นสิ่งที่ต้องรักษาเอาไว้ ห้ามทำให้มันเสียหายไปไม่ว่าจะในกรณีใดก็ตาม? มันแล้วแต่คนจะคิดมั้งครับ แต่จากที่ผมเห็นกระบวณการทำสีของอู่ที่มีคุณภาพมา ผมไม่คิดว่าการทำสีมันจะเป็นเรื่องที่แย่ครับ ถ้าเราก้าวข้ามมุมมองการใช้รถแบบพ่อค้ารถมือสองได้ ผมว่าชีวิตมีความสุขขึ้นเยอะ รถเป็นรอยก็ทำสีไป รถมีปัญหาอะไรก็รื้อออกมาแก้ ไม่ใช่ว่ากลัวว่าทำแล้วมันจะไม่เหมือนเดิม แกะแล้วน็อตขยับเดี๋ยวมูลค่าหาย ถ้ากลัวถึงขนาดนั้นก็น่าจะได้แต่จอดไว้เฉย ๆ ครับไม่ได้ขับหรอก โอเค ถ้าใครจะมีความสุขกับการนั่งมองรถเฉย ๆ ผมก็ไม่แย้งอะไรนะครับเพราะคนเรามีความสุขที่ไม่เหมือนกันได้

โดยสรุป ถ้ามีเงิน จะทำให้ทุกอย่างกลับไปเป็นเหมือนเดิมมันทำได้หมดนั่นแหละครับ

ความคิดเห็นที่เฉียบขาดมาก
My car and Driving is My Life = เวอร์ไปไหม ??

ออฟไลน์ kabutoro

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 901
จากที่ถกกันถ้าเป็นรภยุค 90 ที่ไม่ใช่รถที่มีไว้เก็บสะสมแล้วละก็การ wrap สติ้กเกอร์ ก็อาจเป็นตัวเลือกทีดีกว่ารึเปล่าครับ(ในกรณีที่เปลี่ยนสติ้กเกอร์ทุก2ปี)  :-\ :-\

ออฟไลน์ POKKHET

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 232
    • อีเมล์
ถ้าพูดถึงความคงทน คิดว่า
ผิวที่ดี และการเตรียมผิวที่ดีเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการทำสีเหมือนการตอกเสาเข็มของบ้าน
เตรียมผิวไม่ดีไม่ละเอียด สีหรือเคลียร์จะเทพแค่ไหน ผลงานออกมาประสิทธิภาพก็แย่ลง

ผลิตภัณฑ์ที่ดี สี เคลียร์ สีพื้น สีโป้ว ของมีมาตรฐาน มันก็จะอยู่กับเราได้นานขึ้น

ฝีมือช่างที่ดี มองชิ้นงานขาดว่าควรทำอะไรบ้าง เข้าใจในผลิตภัณฑ์ แก้ไขปัญหา

อุปกรณ์พร้อม ความสะอาด การเตรียมผิวสุดท้ายก่อนพ่น กาพ่นสี สายลม

อันนี้แค่ความเห็นส่วนตัวนะครับ รายละเอียดในการทำสีรถมันเยอะกว่าที่พิมพ์ไว้มากครับ
พอได้มาอยู่ในวงการก็ยังมีการได้เห็นเทคนิกของช่างแบบเซียนๆ ให้เห็นอีกโขเลยครับ

ออฟไลน์ lonely

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
ถ้าพูดถึงความคงทน คิดว่า
ผิวที่ดี และการเตรียมผิวที่ดีเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการทำสีเหมือนการตอกเสาเข็มของบ้าน
เตรียมผิวไม่ดีไม่ละเอียด สีหรือเคลียร์จะเทพแค่ไหน ผลงานออกมาประสิทธิภาพก็แย่ลง

ผลิตภัณฑ์ที่ดี สี เคลียร์ สีพื้น สีโป้ว ของมีมาตรฐาน มันก็จะอยู่กับเราได้นานขึ้น

ฝีมือช่างที่ดี มองชิ้นงานขาดว่าควรทำอะไรบ้าง เข้าใจในผลิตภัณฑ์ แก้ไขปัญหา

อุปกรณ์พร้อม ความสะอาด การเตรียมผิวสุดท้ายก่อนพ่น กาพ่นสี สายลม

อันนี้แค่ความเห็นส่วนตัวนะครับ รายละเอียดในการทำสีรถมันเยอะกว่าที่พิมพ์ไว้มากครับ
พอได้มาอยู่ในวงการก็ยังมีการได้เห็นเทคนิกของช่างแบบเซียนๆ ให้เห็นอีกโขเลยครับ

ความเอาใจใส่ของช่าง = สำคัญที่สุด รองลงมาคือสีที่เลือกใช้
My car and Driving is My Life = เวอร์ไปไหม ??