จาก eco sticker, NISSAN KICKS เป็นรถที่วิ่งในเมืองได้ประหยัดที่สุดแล้วหรือไม่

Chung

กำลังคิดเล่นๆ ว่า KICKS มีจุดขายอะไรบ้าง พอได้เห็นข้อมูล eco sicker อันกลับตาลปัตรของมันแล้วรู้สึกน่าสนใจ ชาวบ้านเขากินหนักตอนในเมือง นอกเมืองกินชิวๆ ต่อให้เป็น hybrid ทั่วไป ในเมืองก็ไม่ได้ประหยัดกว่านอกเมืองมากมาย แต่เจ้านี่ในเมืองเคลมที่ 27 km/l นอกเมือง 22 km/l ซึ่งต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ

เลยไม่แน่ใจว่าตัวเลขระดับ 27 กิโลเมตรลิตรในเมือง นี่ถือเป็นรถที่วิ่ง “ในเมือง” ได้ประหยัดที่สุดหรือยังครับ หรือมีรุ่นไหน eco sticker ระบุว่าวิ่งในเมืองประหยัดกว่านี้ครับ

กำลังคิดว่าถ้าในเมืองประหยัดที่สุดจริง มันก็พอจะเคลมเป็นจุดเด่นให้คนที่ใช้วิ่งในเมืองเป็นหลักหันมาสนใจได้อยู่นะครับนี่ เพราะน่าจะถือเป็นรถ hybrid ที่ตัวเริ่มต้นถูกที่สุดในเวลานี้ และในเมืองประหยัดมากกว่า hybrid ทั่วไปเอาเรื่อง แต่คงต้องรอดูการใช้งานจริงละครับว่าจะได้สมราคา eco sticker หรือไม่

รถแต่ละคันมันไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่ถ้ามีจุดเด่นที่แตะต้องได้ชัด และคนได้ใช้งานจุดเด่นนั้น ผมว่ามันมีตลาดของมันอยู่ครับ สำหรับผมมันยังไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่ (รักภายนอกแต่ไม่ชอบภายใน, วิ่งนอกเมืองมากกว่าในเมือง และเป็นคนขับรถค่อนข้างเร็ว) แต่ก็คิดว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยครับ



Chung

ปล. นอกเรื่องครับ เห็นคนเอาแรงม้ามอเตอร์ มาลบกับแรงม้าเครื่องยนต์ แล้วบอกว่าวิ่งอัดความเร็วสูง (150 km/hr +) นานๆ ไม่ได้ เพราะแรงม้าเครื่องยนต์ไม่พอจ่ายแรงม้ามอเตอร์ โดยอิง กฏการอนุรักษ์พลังงาน อันนี้ผมเห็นต่างอย่างมาก เพราะรถยนต์ที่วิ่งความเร็วสูงมันไม่ได้ใช้แรงม้าแรงบิดสูงสุดตลอดเวลานะครับ ช่วงที่มีภาระมากที่สุดคือช่วงการเพิ่มพลังงานจลน์ให้กับวัตถุจากความเร็วต่ำสู่ความเร็วสูง ซึ่งเป็นช่วงที่ต้องอัดกระแสไฟฟ้าจากทั้งเครื่องปั่นไฟเสริมกับไฟจากแบตเพื่อเรียกกำลัง แต่เมื่อถึงความเร็วเป้าหมายแล้ว พลังงานที่ป้อนให้กับมอเตอร์เพื่อรักษาความเร็วนั้นมันต่ำกว่าตอนเร่งขึ้นมามากครับ ดังนั้นไม่ใช่ปัญหาแน่นอนครับสำหรับ KICKS ที่ความเร็วสูงในระดับตามที่วิศวกรออกแบบเอาไว้

ถ้าเปรียบกับรถเครื่องยนต์สันดาป ลองเปิดหน้าจอดูอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันแบบเรียลไทม์ก็ได้ครับ ช่วงเหยียบอัดเพิ่มความเร็วขึ้นไปมันกินน้ำมันมหาศาล แต่พอได้ความเร็วเป้าหมายแล้วการรักษาความเร็วนั้นใช้รอบต่ำและกินน้ำมันต่ำกว่ามากครับ (ยกเว้นแต่จะเหยียบทำ top speed นะครับ อันนั้นตามมีตามเกิดของเครื่องแต่ละเครื่องละครับ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 20, 2020, 01:15:30 โดย Chung »



Magl

ในเมือง รอบเดินเบาเป็นหลักคงประหยัด นอกเมืองใช้รอบสูงกว่า มอเตอร์ไฟฟ้าแรงบิดมาในรอบต่ำตั้งแต่เริ่ม ใครจะเหยียบอัดสุดตลอดเวลา พอได้ความเร็วมันเลี้ยงรอบจ่ายไฟได้



sukhontha

ปล. นอกเรื่องครับ เห็นคนเอาแรงม้ามอเตอร์ มาลบกับแรงม้าเครื่องยนต์ แล้วบอกว่าวิ่งอัดความเร็วสูง (150 km/hr +) นานๆ ไม่ได้ เพราะแรงม้าเครื่องยนต์ไม่พอจ่ายแรงม้ามอเตอร์ โดยอิง กฏการอนุรักษ์พลังงาน อันนี้ผมเห็นต่างอย่างมาก เพราะรถยนต์ที่วิ่งความเร็วสูงมันไม่ได้ใช้แรงม้าแรงบิดสูงสุดตลอดเวลานะครับ ช่วงที่มีภาระมากที่สุดคือช่วงการเพิ่มพลังงานจลน์ให้กับวัตถุจากความเร็วต่ำสู่ความเร็วสูง ซึ่งเป็นช่วงที่ต้องอัดกระแสไฟฟ้าจากทั้งเครื่องปั่นไฟเสริมกับไฟจากแบตเพื่อเรียกกำลัง แต่เมื่อถึงความเร็วเป้าหมายแล้ว พลังงานที่ป้อนให้กับมอเตอร์เพื่อรักษาความเร็วนั้นมันต่ำกว่าตอนเร่งขึ้นมามากครับ ดังนั้นไม่ใช่ปัญหาแน่นอนครับสำหรับ KICKS ที่ความเร็วสูงในระดับตามที่วิศวกรออกแบบเอาไว้

ถ้าเปรียบกับรถเครื่องยนต์สันดาป ลองเปิดหน้าจอดูอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันแบบเรียลไทม์ก็ได้ครับ ช่วงเหยียบอัดเพิ่มความเร็วขึ้นไปมันกินน้ำมันมหาศาล แต่พอได้ความเร็วเป้าหมายแล้วการรักษาความเร็วนั้นใช้รอบต่ำและกินน้ำมันต่ำกว่ามากครับ (ยกเว้นแต่จะเหยียบทำ top speed นะครับ อันนั้นตามมีตามเกิดของเครื่องแต่ละเครื่องละครับ)

ครับ  เห็นด้วยตามนี้



iamtoy320

ผมใช้ zs ev ตอนความเร็วสูงสุดมันก็กินกระแสไฟมากสุดครับ




delete

ปล. นอกเรื่องครับ เห็นคนเอาแรงม้ามอเตอร์ มาลบกับแรงม้าเครื่องยนต์ แล้วบอกว่าวิ่งอัดความเร็วสูง (150 km/hr +) นานๆ ไม่ได้ เพราะแรงม้าเครื่องยนต์ไม่พอจ่ายแรงม้ามอเตอร์ โดยอิง กฏการอนุรักษ์พลังงาน อันนี้ผมเห็นต่างอย่างมาก เพราะรถยนต์ที่วิ่งความเร็วสูงมันไม่ได้ใช้แรงม้าแรงบิดสูงสุดตลอดเวลานะครับ ช่วงที่มีภาระมากที่สุดคือช่วงการเพิ่มพลังงานจลน์ให้กับวัตถุจากความเร็วต่ำสู่ความเร็วสูง ซึ่งเป็นช่วงที่ต้องอัดกระแสไฟฟ้าจากทั้งเครื่องปั่นไฟเสริมกับไฟจากแบตเพื่อเรียกกำลัง แต่เมื่อถึงความเร็วเป้าหมายแล้ว พลังงานที่ป้อนให้กับมอเตอร์เพื่อรักษาความเร็วนั้นมันต่ำกว่าตอนเร่งขึ้นมามากครับ ดังนั้นไม่ใช่ปัญหาแน่นอนครับสำหรับ KICKS ที่ความเร็วสูงในระดับตามที่วิศวกรออกแบบเอาไว้

ถ้าเปรียบกับรถเครื่องยนต์สันดาป ลองเปิดหน้าจอดูอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันแบบเรียลไทม์ก็ได้ครับ ช่วงเหยียบอัดเพิ่มความเร็วขึ้นไปมันกินน้ำมันมหาศาล แต่พอได้ความเร็วเป้าหมายแล้วการรักษาความเร็วนั้นใช้รอบต่ำและกินน้ำมันต่ำกว่ามากครับ (ยกเว้นแต่จะเหยียบทำ top speed นะครับ อันนั้นตามมีตามเกิดของเครื่องแต่ละเครื่องละครับ)

ครับ  เห็นด้วยตามนี้

มันน่าจะเป็นไปตามผลการทดสอบของเวบญี่ปุ่น ที่เคยเทส note e-power เทียบ fit hybrid
ในเมือง กับ เฉลี่ยรวม พอกัน
แต่พอนอกเมือง ฟิตได้ 17-18 แต่ โนต เหลือ 14 หายไปเยอะเลย
น่าจะเป็นไปตามกฎการอนุรักษ์พลังงาน คือต้องเติมพลังงานเข้าไปมากขึ้นเพื่อชดเชยการกินไฟที่สุงขึ้น เครื่องยนต์ก็เลยต้องปั่นรอบสูงขึ้นตามไปด้วย



Lammerison

ข้อได้เปรียบของมอเตอร์ไฟฟ้า ก็คือการวิ่งในเมืองนี้แหละ



MyName

ปล. นอกเรื่องครับ เห็นคนเอาแรงม้ามอเตอร์ มาลบกับแรงม้าเครื่องยนต์ แล้วบอกว่าวิ่งอัดความเร็วสูง (150 km/hr +) นานๆ ไม่ได้ เพราะแรงม้าเครื่องยนต์ไม่พอจ่ายแรงม้ามอเตอร์ โดยอิง กฏการอนุรักษ์พลังงาน อันนี้ผมเห็นต่างอย่างมาก เพราะรถยนต์ที่วิ่งความเร็วสูงมันไม่ได้ใช้แรงม้าแรงบิดสูงสุดตลอดเวลานะครับ ช่วงที่มีภาระมากที่สุดคือช่วงการเพิ่มพลังงานจลน์ให้กับวัตถุจากความเร็วต่ำสู่ความเร็วสูง ซึ่งเป็นช่วงที่ต้องอัดกระแสไฟฟ้าจากทั้งเครื่องปั่นไฟเสริมกับไฟจากแบตเพื่อเรียกกำลัง แต่เมื่อถึงความเร็วเป้าหมายแล้ว พลังงานที่ป้อนให้กับมอเตอร์เพื่อรักษาความเร็วนั้นมันต่ำกว่าตอนเร่งขึ้นมามากครับ ดังนั้นไม่ใช่ปัญหาแน่นอนครับสำหรับ KICKS ที่ความเร็วสูงในระดับตามที่วิศวกรออกแบบเอาไว้

ถ้าเปรียบกับรถเครื่องยนต์สันดาป ลองเปิดหน้าจอดูอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันแบบเรียลไทม์ก็ได้ครับ ช่วงเหยียบอัดเพิ่มความเร็วขึ้นไปมันกินน้ำมันมหาศาล แต่พอได้ความเร็วเป้าหมายแล้วการรักษาความเร็วนั้นใช้รอบต่ำและกินน้ำมันต่ำกว่ามากครับ (ยกเว้นแต่จะเหยียบทำ top speed นะครับ อันนั้นตามมีตามเกิดของเครื่องแต่ละเครื่องละครับ)

แต่ผมหล่ะกลับคิดว่าที่กล่าวมานั้นเป็นเรื่องของเครื่องยนต์สันดาปที่มีหลายอัตราทดเกียร์ครับ

มอเตอร์ไฟฟ้า เกียร์มีอัตราทดเดียว มอเตอร์หมุนมาเท่าไหร่ แปลงใส่อัตราทดเกียร์ก็ลงล้อไปเท่านั้นเลย
ตอนที่มอเตอร์หมุนช้าก็ได้ความเร็วต่ำ ตอนมอเตอร์หมุนเร็วก็ได้ความเร็วสูง ความเร็วคงที่แต่ความเร็วสูงมอเตอร์ก็ยังต้องหมุนเร็วเพื่อรักษาความเร็ว
ตอนที่มอเตอร์หมุนเร็วนี่แหละที่ผมว่าอาจจะกินพลังงานมากสุด เลยทำให้อัตราสิ้นเปลืองนอกเมืองดรอปกว่าในเมืองเพราะต้องใช้เครื่องปั่นไฟช่วงที่ใช้พลังงานไฟฟ้ามากจากการขับเร็วขึ้นมา

อันนี้เดานะครับ ตรงไหนที่ผมตกหล่นหรืออยากเสริมให้ผมรู้ก็ลอง reply ผมมาหน่อยเผื่อที่ผมเข้าใจมันยังผิด
2022 - Nissan Almera 1.0 Turbo VL
2016 - Mazda 2 1.5XD High Plus L
2008 - Mitsubishi Space Wagon 2.4 GLS Ltd. !User'Review Click here!
1997 - Daihatsu Mira Mint 850cc AT



lexus

ปล. นอกเรื่องครับ เห็นคนเอาแรงม้ามอเตอร์ มาลบกับแรงม้าเครื่องยนต์ แล้วบอกว่าวิ่งอัดความเร็วสูง (150 km/hr +) นานๆ ไม่ได้ เพราะแรงม้าเครื่องยนต์ไม่พอจ่ายแรงม้ามอเตอร์ โดยอิง กฏการอนุรักษ์พลังงาน อันนี้ผมเห็นต่างอย่างมาก เพราะรถยนต์ที่วิ่งความเร็วสูงมันไม่ได้ใช้แรงม้าแรงบิดสูงสุดตลอดเวลานะครับ ช่วงที่มีภาระมากที่สุดคือช่วงการเพิ่มพลังงานจลน์ให้กับวัตถุจากความเร็วต่ำสู่ความเร็วสูง ซึ่งเป็นช่วงที่ต้องอัดกระแสไฟฟ้าจากทั้งเครื่องปั่นไฟเสริมกับไฟจากแบตเพื่อเรียกกำลัง แต่เมื่อถึงความเร็วเป้าหมายแล้ว พลังงานที่ป้อนให้กับมอเตอร์เพื่อรักษาความเร็วนั้นมันต่ำกว่าตอนเร่งขึ้นมามากครับ ดังนั้นไม่ใช่ปัญหาแน่นอนครับสำหรับ KICKS ที่ความเร็วสูงในระดับตามที่วิศวกรออกแบบเอาไว้

ถ้าเปรียบกับรถเครื่องยนต์สันดาป ลองเปิดหน้าจอดูอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันแบบเรียลไทม์ก็ได้ครับ ช่วงเหยียบอัดเพิ่มความเร็วขึ้นไปมันกินน้ำมันมหาศาล แต่พอได้ความเร็วเป้าหมายแล้วการรักษาความเร็วนั้นใช้รอบต่ำและกินน้ำมันต่ำกว่ามากครับ (ยกเว้นแต่จะเหยียบทำ top speed นะครับ อันนั้นตามมีตามเกิดของเครื่องแต่ละเครื่องละครับ)

แต่ผมหล่ะกลับคิดว่าที่กล่าวมานั้นเป็นเรื่องของเครื่องยนต์สันดาปที่มีหลายอัตราทดเกียร์ครับ

มอเตอร์ไฟฟ้า เกียร์มีอัตราทดเดียว มอเตอร์หมุนมาเท่าไหร่ แปลงใส่อัตราทดเกียร์ก็ลงล้อไปเท่านั้นเลย
ตอนที่มอเตอร์หมุนช้าก็ได้ความเร็วต่ำ ตอนมอเตอร์หมุนเร็วก็ได้ความเร็วสูง ความเร็วคงที่แต่ความเร็วสูงมอเตอร์ก็ยังต้องหมุนเร็วเพื่อรักษาความเร็ว
ตอนที่มอเตอร์หมุนเร็วนี่แหละที่ผมว่าอาจจะกินพลังงานมากสุด เลยทำให้อัตราสิ้นเปลืองนอกเมืองดรอปกว่าในเมืองเพราะต้องใช้เครื่องปั่นไฟช่วงที่ใช้พลังงานไฟฟ้ามากจากการขับเร็วขึ้นมา

อันนี้เดานะครับ ตรงไหนที่ผมตกหล่นหรืออยากเสริมให้ผมรู้ก็ลอง reply ผมมาหน่อยเผื่อที่ผมเข้าใจมันยังผิด

ผมก็เข้าใจแบบเดียวกันเลยครับ
แต่เสริมนิดนึง เนื่องจากเครื่องมันไม่ได้ต่อเข้ากับระบบขับเคลื่อน มันน่าจะทำให้แรงเสียดทานต่ำ น่าจะอารมเราใส่nเล้วเบิ้ลรอบ
คงได้ประโยชน์จากตรงนี้ช่วยส่วนนึง แต่ต้องรอดูการขับใช้จริงว่าจะกินมากหรือน้อยกว่าeco stickerแค่ใหน



beston

ปล. นอกเรื่องครับ เห็นคนเอาแรงม้ามอเตอร์ มาลบกับแรงม้าเครื่องยนต์ แล้วบอกว่าวิ่งอัดความเร็วสูง (150 km/hr +) นานๆ ไม่ได้ เพราะแรงม้าเครื่องยนต์ไม่พอจ่ายแรงม้ามอเตอร์ โดยอิง กฏการอนุรักษ์พลังงาน อันนี้ผมเห็นต่างอย่างมาก เพราะรถยนต์ที่วิ่งความเร็วสูงมันไม่ได้ใช้แรงม้าแรงบิดสูงสุดตลอดเวลานะครับ ช่วงที่มีภาระมากที่สุดคือช่วงการเพิ่มพลังงานจลน์ให้กับวัตถุจากความเร็วต่ำสู่ความเร็วสูง ซึ่งเป็นช่วงที่ต้องอัดกระแสไฟฟ้าจากทั้งเครื่องปั่นไฟเสริมกับไฟจากแบตเพื่อเรียกกำลัง แต่เมื่อถึงความเร็วเป้าหมายแล้ว พลังงานที่ป้อนให้กับมอเตอร์เพื่อรักษาความเร็วนั้นมันต่ำกว่าตอนเร่งขึ้นมามากครับ ดังนั้นไม่ใช่ปัญหาแน่นอนครับสำหรับ KICKS ที่ความเร็วสูงในระดับตามที่วิศวกรออกแบบเอาไว้

ถ้าเปรียบกับรถเครื่องยนต์สันดาป ลองเปิดหน้าจอดูอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันแบบเรียลไทม์ก็ได้ครับ ช่วงเหยียบอัดเพิ่มความเร็วขึ้นไปมันกินน้ำมันมหาศาล แต่พอได้ความเร็วเป้าหมายแล้วการรักษาความเร็วนั้นใช้รอบต่ำและกินน้ำมันต่ำกว่ามากครับ (ยกเว้นแต่จะเหยียบทำ top speed นะครับ อันนั้นตามมีตามเกิดของเครื่องแต่ละเครื่องละครับ)
น่าจะ lock ความเร็วสูงสุดนะครับ เคยไปขับ serera e power มาที่ญี่ปุ่น ก็ 120+ พอได้ครับ ไม่มีปัญหาขับได้เรื่อยๆ ยาวๆ รอบมาเลยแต่ไม่ได้พุงขนาดหลังติดเบาะ แต่รู้สึก 160 นี่จะสุดแล้วไปต่อไม่ได้ แต่ไม่แน่ใจนะครับ ไม่กล้าขับนาน กลัวโดนจับ แต่มีคนบอกมาว่าเครื่องคนละตัว อันนี้ gen 2 บอกว่าดีขึ้น



Salmon

ปล. นอกเรื่องครับ เห็นคนเอาแรงม้ามอเตอร์ มาลบกับแรงม้าเครื่องยนต์ แล้วบอกว่าวิ่งอัดความเร็วสูง (150 km/hr +) นานๆ ไม่ได้ เพราะแรงม้าเครื่องยนต์ไม่พอจ่ายแรงม้ามอเตอร์ โดยอิง กฏการอนุรักษ์พลังงาน อันนี้ผมเห็นต่างอย่างมาก เพราะรถยนต์ที่วิ่งความเร็วสูงมันไม่ได้ใช้แรงม้าแรงบิดสูงสุดตลอดเวลานะครับ ช่วงที่มีภาระมากที่สุดคือช่วงการเพิ่มพลังงานจลน์ให้กับวัตถุจากความเร็วต่ำสู่ความเร็วสูง ซึ่งเป็นช่วงที่ต้องอัดกระแสไฟฟ้าจากทั้งเครื่องปั่นไฟเสริมกับไฟจากแบตเพื่อเรียกกำลัง แต่เมื่อถึงความเร็วเป้าหมายแล้ว พลังงานที่ป้อนให้กับมอเตอร์เพื่อรักษาความเร็วนั้นมันต่ำกว่าตอนเร่งขึ้นมามากครับ ดังนั้นไม่ใช่ปัญหาแน่นอนครับสำหรับ KICKS ที่ความเร็วสูงในระดับตามที่วิศวกรออกแบบเอาไว้

ถ้าเปรียบกับรถเครื่องยนต์สันดาป ลองเปิดหน้าจอดูอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันแบบเรียลไทม์ก็ได้ครับ ช่วงเหยียบอัดเพิ่มความเร็วขึ้นไปมันกินน้ำมันมหาศาล แต่พอได้ความเร็วเป้าหมายแล้วการรักษาความเร็วนั้นใช้รอบต่ำและกินน้ำมันต่ำกว่ามากครับ (ยกเว้นแต่จะเหยียบทำ top speed นะครับ อันนั้นตามมีตามเกิดของเครื่องแต่ละเครื่องละครับ)

แต่ผมหล่ะกลับคิดว่าที่กล่าวมานั้นเป็นเรื่องของเครื่องยนต์สันดาปที่มีหลายอัตราทดเกียร์ครับ

มอเตอร์ไฟฟ้า เกียร์มีอัตราทดเดียว มอเตอร์หมุนมาเท่าไหร่ แปลงใส่อัตราทดเกียร์ก็ลงล้อไปเท่านั้นเลย
ตอนที่มอเตอร์หมุนช้าก็ได้ความเร็วต่ำ ตอนมอเตอร์หมุนเร็วก็ได้ความเร็วสูง ความเร็วคงที่แต่ความเร็วสูงมอเตอร์ก็ยังต้องหมุนเร็วเพื่อรักษาความเร็ว
ตอนที่มอเตอร์หมุนเร็วนี่แหละที่ผมว่าอาจจะกินพลังงานมากสุด เลยทำให้อัตราสิ้นเปลืองนอกเมืองดรอปกว่าในเมืองเพราะต้องใช้เครื่องปั่นไฟช่วงที่ใช้พลังงานไฟฟ้ามากจากการขับเร็วขึ้นมา

อันนี้เดานะครับ ตรงไหนที่ผมตกหล่นหรืออยากเสริมให้ผมรู้ก็ลอง reply ผมมาหน่อยเผื่อที่ผมเข้าใจมันยังผิด

คิดเหมือนคุณอีกเสียงครับ ว่ามอเตอร์หมุนเร็วก็กินไฟเยอะตาม เครื่องต้องเร่งรอบสูงปั่นไฟแน่ๆ
ถ้าเอาให้สมบูรณ์ ควรมีเกียร์ต่อจากหลังมอเตอร์อีกที คิดเล่นๆนะครับ



Jacob

รถไฟฟ้า ความเร็วต่ำประหยัด ต่อให้เร่งบ่อย แต่แรงบิดเหลือๆไม่ใช่ปัญหา แล้วตอนชะลอยังชาร์จกลับได้อีก แต่พอความเร็วสูง มอเตอร์ยิ่งหมุนเร็วยิ่งกินไฟ

ส่วนรถที่ใช้เครื่องยนต์ ความเร็วต่ำ ต้องเร่งบ่อยๆจะกินน้ำมัน ถ้าความเร็วสูงและคงที่จะประหยัดเพราะมีระบบเกียร์

จึงไม่แปลกที่ e power ขับในเมืองจะประหยัดกว่าขับทางไกลความเร็วสูง

ปล. ถ้าทำให้มีเกียร์ตอนความเร็วสูง มอเตอร์ปั่นช้าลงแต่ความเร็วเท่าเดิมก็คงประหยัดขึ้น แต่ยังไม่เห็นใครทำนะ ถ้าอยากประหยัดเวลาขับไกลแนะนำไปใช้ไฮบริดแบบปกติดีกว่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 20, 2020, 10:35:17 โดย Jacob »



PaPaMan

ถ้าตาม eco sticker พวก PHEV ประหยัดกว่าครับ
ยกตัวอย่าง (จาก eco sticker) BMW 330e 2.1 L/100km , 530e 1.8 L/100km



Symphonic

ปล. นอกเรื่องครับ เห็นคนเอาแรงม้ามอเตอร์ มาลบกับแรงม้าเครื่องยนต์ แล้วบอกว่าวิ่งอัดความเร็วสูง (150 km/hr +) นานๆ ไม่ได้ เพราะแรงม้าเครื่องยนต์ไม่พอจ่ายแรงม้ามอเตอร์ โดยอิง กฏการอนุรักษ์พลังงาน อันนี้ผมเห็นต่างอย่างมาก เพราะรถยนต์ที่วิ่งความเร็วสูงมันไม่ได้ใช้แรงม้าแรงบิดสูงสุดตลอดเวลานะครับ ช่วงที่มีภาระมากที่สุดคือช่วงการเพิ่มพลังงานจลน์ให้กับวัตถุจากความเร็วต่ำสู่ความเร็วสูง ซึ่งเป็นช่วงที่ต้องอัดกระแสไฟฟ้าจากทั้งเครื่องปั่นไฟเสริมกับไฟจากแบตเพื่อเรียกกำลัง แต่เมื่อถึงความเร็วเป้าหมายแล้ว พลังงานที่ป้อนให้กับมอเตอร์เพื่อรักษาความเร็วนั้นมันต่ำกว่าตอนเร่งขึ้นมามากครับ ดังนั้นไม่ใช่ปัญหาแน่นอนครับสำหรับ KICKS ที่ความเร็วสูงในระดับตามที่วิศวกรออกแบบเอาไว้

ถ้าเปรียบกับรถเครื่องยนต์สันดาป ลองเปิดหน้าจอดูอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันแบบเรียลไทม์ก็ได้ครับ ช่วงเหยียบอัดเพิ่มความเร็วขึ้นไปมันกินน้ำมันมหาศาล แต่พอได้ความเร็วเป้าหมายแล้วการรักษาความเร็วนั้นใช้รอบต่ำและกินน้ำมันต่ำกว่ามากครับ (ยกเว้นแต่จะเหยียบทำ top speed นะครับ อันนั้นตามมีตามเกิดของเครื่องแต่ละเครื่องละครับ)

แต่ผมหล่ะกลับคิดว่าที่กล่าวมานั้นเป็นเรื่องของเครื่องยนต์สันดาปที่มีหลายอัตราทดเกียร์ครับ

มอเตอร์ไฟฟ้า เกียร์มีอัตราทดเดียว มอเตอร์หมุนมาเท่าไหร่ แปลงใส่อัตราทดเกียร์ก็ลงล้อไปเท่านั้นเลย
ตอนที่มอเตอร์หมุนช้าก็ได้ความเร็วต่ำ ตอนมอเตอร์หมุนเร็วก็ได้ความเร็วสูง ความเร็วคงที่แต่ความเร็วสูงมอเตอร์ก็ยังต้องหมุนเร็วเพื่อรักษาความเร็ว
ตอนที่มอเตอร์หมุนเร็วนี่แหละที่ผมว่าอาจจะกินพลังงานมากสุด เลยทำให้อัตราสิ้นเปลืองนอกเมืองดรอปกว่าในเมืองเพราะต้องใช้เครื่องปั่นไฟช่วงที่ใช้พลังงานไฟฟ้ามากจากการขับเร็วขึ้นมา

อันนี้เดานะครับ ตรงไหนที่ผมตกหล่นหรืออยากเสริมให้ผมรู้ก็ลอง reply ผมมาหน่อยเผื่อที่ผมเข้าใจมันยังผิด

ผมก็เข้าใจแบบเดียวกันเลยครับ
แต่เสริมนิดนึง เนื่องจากเครื่องมันไม่ได้ต่อเข้ากับระบบขับเคลื่อน มันน่าจะทำให้แรงเสียดทานต่ำ น่าจะอารมเราใส่nเล้วเบิ้ลรอบ
คงได้ประโยชน์จากตรงนี้ช่วยส่วนนึง แต่ต้องรอดูการขับใช้จริงว่าจะกินมากหรือน้อยกว่าeco stickerแค่ใหน

+1 ในแง่ที่ไม่มีชุดเกียร์ทดต่อจากมอเตอร์ ทำให้อัตราสิ้นเปลืองแปรผันตรง ๆ กับความเร็วรถ (รอบการหมุนของมอเตอร์)

แต่เรื่องเครื่องยนต์ไม่ได้ต่อตรงเข้ากับระบบขับเคลือน ทำให้แรงเสียดทานต่ำ (โหลดต่ำ) อารมณ์เบิ้ลเครื่องที่เกียร์ว่างนั้น คงไม่ใช่อ่ะครับ
อย่าลืมว่า เครื่องยนต์ไม่ได้หมุนตัวเปล่าแบบเกียร์ว่าง แต่มันหมุนฉุด Generator หรือเครื่องปั่นไฟอยู่  เปรียบเทียบได้เหมือนกับ
ที่พี่ปั่นจักรยานออกกำลังกายในฟิตเนส ถ้า load generator ต่ำ ๆ พี่จะปั่นสบายมาก สามารถปั่นยิกแบบเบิ้ลเครื่องที่เกียร์ว่างได้เลย
ไม่เหนื่อย แต่แทบจะไม่ได้เบิร์นแคลอรี่ (ไฟฟ้า) ออกมา  แต่ถ้าปรับ load ให้หนึดขึ้น เผาแคลได้เยอะขึ้น (ได้ไฟมากขี้น)
แต่ปั่นแล้วเหนื่อย (กินน้ำมันมาก)  ครับ



Symphonic

ถ้าตาม eco sticker พวก PHEV ประหยัดกว่าครับ
ยกตัวอย่าง (จาก eco sticker) BMW 330e 2.1 L/100km , 530e 1.8 L/100km

พวก PHEV ต้องเอาอัตรากินไฟมาคิดรวมกับอัตรากินน้ำมันด้วยครับ เพราะมีค่าไฟตอนเสียบชาร์จไฟ

ช่วงเดือนผ่านมาที่ค่าน้ำมันถูก  ก็น่าคิดเหมือนกันว่าพวก EV จะสิ้นเปลืองบาท / กม มากกว่า HEV หรือรถใช้น้ำมันรึเปล่า



Suchya

รถไฟฟ้าไม่ต้องเพิ่มเกียร์เข้ามา  แต่ใช้วิธีเพิ่มขดลวดในมอร์เตอร์สำหรับรอบสูงแทนก็ได้ครับ



SM.

ผมรอผู้ใช้จริง มารีวิวครับ ผมว่าน่าเชื่อถือกว่าเยอะ

อัตราการกินน้ำมัน ค่อนข้างจะต้องดูจากผู้ใช้ และ สถานที่ ด้วยนะครับ



Gordon Freeman

ผมว่านี่คงเป็นเหตุผลที่ Hybrid ของฮอนด้าเอาเครื่องมาขับล้อตอนลอยตัวนอกเมือง

แต่ผมชอบ E-Power มากกว่านะ ดูท่าจะซับซ้อนน้อยกว่า อะไหล่กับการบำรุงรักษาน่าจะถูกกว่า
2011 Kawasaki Ninja 650 (Sold)
2012 Ford Fiesta 1.6 Sport Ultimate (Sold)
2013 Suzuki Swift Eco GLX 1.25 (Sold)
2015 Honda Civic 1.8 (Sold)
2017 Toyota Fortuner 2.4 (Sold)
2019 Honda Jazz S MT (Sold)
2020 Nissan Almera VL 1.0T
2022 Isuzu D-Max Cab 4 1.9 AT
2023 Neta V



Chung

ถ้าตาม eco sticker พวก PHEV ประหยัดกว่าครับ
ยกตัวอย่าง (จาก eco sticker) BMW 330e 2.1 L/100km , 530e 1.8 L/100km

ผมลืมกลุ่ม plug-in ไปเลย
จริงครับ ถ้าอ้างอิงตาม Eco Sticker กลุ่ม plug-in ให้ค่าในเมืองประหยัดกว่ามากครับ คงจะอ้างเป็นรถ hybrid ที่วิ่งในเมืองประหยัดที่สุดไม่ได้แล้วครับ  ;D

ส่วนประเด็นเรื่องแรงม้า ประเด็นของผมมีเพียงว่า เครื่อง 79 ม้า ก็ปั่นไฟให้มอเตอร์ 129 ม้า วิ่งด้วยความเร็วสูงสุดที่กำหนดได้ต่อเนื่องครับ

แต่เรื่องเปลืองน้ำมัน เชื่อว่ากินดุแน่นอนครับที่ความเร็วสูง น่าจะดุกว่ารถเครื่องยนต์ปกติเอาเรื่องเลยครับ (ผมถึงบอกว่าคันนี้น่าจะยังไม่ตอบโจทย์ผม เพราะผมวิ่งนอกเมืองและขับเร็ว)

ที่เปิดประเด็นมาเพราะเห็นผ่านตาคนอ้างกฏอนุรักษ์พลังงานบอกว่า พอวิ่งความเร็วสูงสุด พอแบตหมดรถจะเหลือ 79แรงม้า ความเร็วจะตกลง ซึ่งผมไม่คิดอย่างนั้นครับ เพราะ 79 แรงม้าก็น่าจะรักษาความเร็วที่ความเร็วสูงสุดตามที่วิศวกรออกแบบได้ เพราะช่วงที่มันต้องใช้แรงม้าสูง คือเฉพาะตอนเร่งอัดทำความเร็วจากความเร็วต่ำขึ้นมาครับ ความหมายผมมีแค่นั้น ไม่ได้หมายความว่าวิ่งเร็วจะยังประหยัดครับ ทั้งนี้ต้องขอบคุณทุกความเห็นด้วยครับ