Mazda 3 ทำไมขายสู้คนอื่นไม่ได้ ทั้งที่สวยและราคาก็พอๆกัน

hong_G

มี 3-4 เรื่อง ที่ Mazda เริ่มจะแพ้ภัยตัวเอง (ผมแฟน Mazda คนนึงนะ)

1. พื้นที่ใช้สอยภายในน้อยกว่าคู่แข่งทุก Gen (แต่พักหลังดีขึ้นบ้าง)

2. Defect ประจำตัว ที่ Mazda ไม่แก้ไข้ให้ชัดเจนซักที .... ทั้งเรื่องเกียร์ + น้ำดัน + ปั๊มติ๊ก
ไม่ว่าจะเป็นการ Recall หรือการปรับปรุงที่ไม่ใช่แค่ซ่อมแล้วกลับมาเสียกันอีก

3. ศูนย์บริการดีๆ ที่มีช่างเก่งๆ น้อยลง ส่วนใหญ่เจอปัญหาซ่อมไม่จบ ทั้งที่เป็นปัญหาไม่ยาก
รวมถึงค่าแรง ที่โดยเฉลี่ยสูงกว่าเจ้าตลาด แต่จ่ายแพง กลับไม่ได้รู้สึกว่าได้อะไร Value เพิ่มขึ้น

4. อะไหล่บางตัวแพงแบบงงๆ 
เช่น พวกบู๊ซยาง ช่วงล่าง เวลาซ่อมทีไม่มีทางเลือก ต้องเปลี่ยนยกปีกนก ซึ่งราคาก็โหดไม่เบา

ข้อ 2 -3 - 4 นี่แหละ ที่จะทำให้ Mazda เติบโตไปกว่านี้ได้ยาก
... ในขณะที่ ข้อ 2-3-4 นี่คือ จุดแข็งของเจ้าตลาดอย่าง Toyota / Isuzu



Jacob

ทำใจครับ รถอินดี้ไม่เน้นคนนั่งหลังก็ขายได้เฉพาะกลุ่มจริงๆ
ปล.แต่ถ้ารถกระบะใช้ platform ร่วมกับอิซูสุยังขายไม่ออก งั้นก็ไม่ได้ขึ้นกะรถละ



joufo

เพิ่มเงินไปเอา CX-30 คุ้มค่ากว่า

ที่เหลือก็คือ คำร่ำลือ เกี่ยวกับศูนย์บริการ
ทำให้หลายคนไป ค่ายอื่นดีกว่า



joekling

เริ่มที่ 1 ลบ. แพงเกินไปครับ



chaithawat

ถ้าเทียบกับอดีตรวมๆน่าจะถือว่าประสบความสำเร็จเลยก็ว่าได้ อันดับ 2-3 เกินหน้าเจ้าตลาดที่เคยทำมา



pjs6306

เตี้ยและแคบเกินไปครับ สำหรับ c seg มันควรจะเข้าออก นั่งสะดวกสบายกว่านี้ ผมว่ามาสด้า2 ยังเข้าออกได้สะดวกกว่านะ



KATANA

ผมว่าเค้าไม่สุดสักทางนะ

ตัวรถมันออกแนวดูซิ่งขึ้น แต่เครื่องกลับไม่ซิ่ง คือมันไม่สุด

ถ้าจะเอากลุ่มวัยทำงาน คนมีครอบครัว ก็ไม่ได้อีก มันแคบเกินไป ช่วงล่าง (เท่าที่อ่านรีวิว) ใช้งานทั่วไปก็น่าจะกระด้าง (ผมใช้มาสด้า 2 แฟนนั่งหลังยังบ่นเลย คงต้องเปลี่ยนรถ)



phraeboy_mz2

ผมว่าอีกเหตุผลหนึ่งที่คนไม่ซื้อสาม อาจเป็นเพราะจอ display ไม่ใช่ touch screen แต่เป็นแบบหมุนปุ่มคอนโทรลที่คอนโซลกลางเอา ซึ่งมาสด้าอ้างเหตุผลว่าที่ไม่ใช่ทัชเพราะลดความเสียงที่ผู้ขับจะหันมองหน้าจอขณะขับลงเพราะกลัวว่าคนขับจะใช้สมาธิกับการทัชด้วยการจ้องจอมากเกินไป แต่ผมว่าตรรกกะนี้มันพิลึกเพราะถึงจะใช้มือหมุนปุ่ม ตาคนขับก้ต้องมองหน้าจออยู่ดี มันคงไม่มีใครจดจำตำแหน่งหน้าจอด้วยการหมุนปุ่มโดยไม่มองหรอก ดังนั้นสู้ใช้มือทัชเองก้ไม่ได้ และก้ไม่ใช่ว่ารถที่มีจอทัช จะเสี่ยงต่ออุบัติเหตุเสมอไป รถผมใช้จอทัชของไพโอเนียร์มาตั้งแต่ 2014 ก้ใช้ดีจนทุกวันนี้ เวลาแลดูก้ไม่ได้แลนาน เราก้จำตำแหน่งได้ ดังนั้น จอทัชจะสะดวกกว่าปุ่มหมุน ลูกค้าที่ชอบสาม แต่ไม่มีจอทัชก้คงไม่เอา ไปเอารุ่นอื่นที่มีจอทัชมากกว่า



SM.

เป็นผม ก็ไป CX-30 นะครับ

ดูกำลังการผลิตด้วยนะครับ บางครั้งแพ้เจ้าตลาดตั้งแต่ในโรงงานแล้ว แม้ผลิต 100% ก็เถอะ



sixsax

1.ตัวรถออกแบบอิงสไตล์รถยุโรป
คนไทยที่มีรสนิยมเส้นสายเรียบหรู ไม่ได้มากมายอะไร คนที่มีรสนิยมแบบนั้นก็ไปซื้อ BMW Alfa เลย
เส้นสายโหดๆ ซิ่งๆเป็นสิ่งที่วัยรุ่นส่วนใหญ่ต้องการ ซึ่งตรงกันข้ามกับ ดีไซน์ของ 3

2.คุณภาพบริการหลังการขาย จัดว่าแย่ ไม่สมราคาตัวรถ





sixsax

มาสด้าเองก็ต้องการให้ CX-30 มาช่วยกระตุ้นตลาด ด้วยความคุ้มค่าของตัวท๊อปที่ให้ออพชั่นครบๆ

คล้ายกับ กรณี C-HR ที่เป็นรถที่ติสท์เกินคนส่วนใหญ่จะกล้าซื้อ ==> โตต้าเลยต้องมี Cross ออกมากระตุ้นด้วยความคุ้มค่า ซึ่งเป็นสิ่งที่คนไทยส่วนใหญ่มองหา



+@ Krishna @+

ตลาดกลุ่มราคานี้ ตัวเลือกเยอะมากครับ  8)



starlight

ไม่เข้าใจอยู่อย่างนึง   ปัญหาหลักๆอย่างนึงของเค้าคือ ความไม่มั่นใจเรื่องศูนย์บริการหลังการขายของลูกค้า  ทำไมไม่แก้ไขตรงนี้ ให้ลูกค้าในวันนี้หรือ กลุ่มเป้าหมายในอนาคต มั่นใจในการซือไปใช้งาน 



SUN-PS

ตอนผมซื้อcivic hbก็ไปลองขับเปรียบเทียบกับmazda3นะครับ  ชั่งน้ำหนักทีละข้อมาสด้าแพ้กระจุยเลยครับ



เนื้อน่องไม่หนัง

ในกลุ่ม C-Seg ผมคงเลือก Civic ครับ
ส่วนตัวมองว่าดีไซน์ Mazda 3 ตัวเก่าลงตัวกว่า ตัว ปจบ. อารมรถยุโรปสวยมาจากโรงงาน ไม่เยอะ ไม่เลอะ ไม่เรียกแขก ตัวปจบ. ดูโมเดิร์นไปหน่อย ตอนนี้ยังไม่อิน ภายในผมว่ามันแคบไปหน่อย เมื่อเทียบกับจนาดตัวรถ โดยเฉพาะ เบาะหลัง
เครื่องยนต์ Mazda ไม่ได้แย่นะ แต่ Civic Turbo เขาดีกว่า ขาซิ่งทำต่อก็ง่ายกว่า
SERVICE Honda กินขาด ศูนย์ครอบคลุมกว่า ราคามิตรภาพกว่า มีทางเลือกเยอะกว่า

ถ้า Mazda จะทำตัว Premium ขายราคา Premium ก็อยากให้ Service ได้แบบ Premium ด้วย



tOntrAnETY

มองแบบคนมีครอบครัวแล้วนะครับ  คือ mazda3  ไร้ประโยชน์เอามากๆ เมื่อเทียบกับอย่าง civic altis  เพราะ3แคบ มากๆๆๆๆ ครับ




โสดเป็นบางเวลา

เห็นข่าวน้ำดัน ปั๊มติ๊กพัง ค่าบริการแพง บ.แม่ฟ้องลูกค้า แต่ไม่เคยเห็นข่าวรีคอลหรือยอมรับปัญหาอย่างเป็นทางการ เลยขออยู่กับยี่ห้อเดิมๆดีกว่า



KATANA

ไม่เข้าใจอยู่อย่างนึง   ปัญหาหลักๆอย่างนึงของเค้าคือ ความไม่มั่นใจเรื่องศูนย์บริการหลังการขายของลูกค้า  ทำไมไม่แก้ไขตรงนี้ ให้ลูกค้าในวันนี้หรือ กลุ่มเป้าหมายในอนาคต มั่นใจในการซือไปใช้งาน

MZ2 ผม 4 หมื่นโล พวงมาลัยดังเอี๊ยดๆ เข้าไปแจ้งอาการเพื่อจะเคลม ช่างก็มาทดลองนั่ง ก็พบว่าดังจริง ถ่ายคลิปไว้ แล้วตรวจสอบมาบอกว่ามอเตอร์เสีย แจ้งเคลมไป

ผ่านไปเดือนกว่าๆ ไปทวงถาม ดันมาบอก "เสียงไม่ชัดเจน" จ้าาาาา และต้องเริ่มกระบวนการทดสอบใหม่หมด เหมือนครั้งที่แล้วไม่มีตัวตน

ตอนแรกเฉยๆ ตอนนี้เริ่มหงุดหงิดละครับ



Odd_yim

Gen นี้ตอนมาแรก ๆ ก็เฉย ๆ แต่พอเห็นตัวจริงแล้ว สวยหรู ดีครับ วัสดุภายในก็ดี แต่พอมาเทียบด้านสมรรถนะ ช่วงล่างก็ไม่ได้ ดีเด่น ต่างจากคู่แข่งมากนัก เครื่อง 2.0 ที่น่าจะทำตัวเลขได้ดีกว่านี้สักหน่อย และพอมาเจอศูนย์บริการ ที่ค้นทีไรก็เจอแต่คนร้องยี้  ต้องคนรักจริง ชอบจริง ถึงจะซื้อ Mazda 3 ครับ



BN`

อาจจะเป็นความน่าไว้ใจในระยะยาวก็ได้ครับ เพราะจุดนี้เป็นสิ่งสำคัญ หลายครอบครัวซื้อรถคันนึงแล้วใช้ยาว 10 - 15 ปีครับ

แต่ช่วงที่ผ่านมาผมก็เห็น Mazda 2 ทำยอดขายได้ดีนะครับขึ้นนำอันดับต้นๆใน Segment เลย อาจจะมีจุดเด่นด้านความประหยัดน้ำมัน



iPeck

ผมแฟน Mazda นะ ใช้มาตั้งแต่ Protege จนมาเปลี่ยนเป็น 3 Skyactiv (2014) ขายออก ถัดมาก็ CX-5 เบนซิล (2018) และล่าสุด ซื้อ New 3 Sedan เพิ่มเข้ามาอีกคัน ถามว่ามียี้ห้ออื่นในบ้านมั๊ยก็มี แต่คันที่ใช้เองเป็นล้วนเป็นแต่ Mazda

ส่วนตัวมองว่ามาสด้าทำรถมีบุคลิคในการขับได้สนุกชัดเจน ก่อนจะซื้อ New 3 ก็ไปลองเทียบยี่ห้ออื่นใน Segment เดียวกัน ก็ยังชอบความเป็น Mazda มากกว่าอยู่ดี เรื่องความสวยแต่ละคนก็มองไม่เหมือนกัน แต่ถึงจะเป็นแฟนมาสด้า แต่สิ่งที่อยากให้มาสด้าปรัลปรุงก็มีหลายเรื่องเช่น

1. อย่างนโยบายเรื่องน้ำมันเกียร์ อันนี้ไม่รู้เค้าคิดได้ไงว่าไม่ต้องเปลี่ยน ส่วนตัวแอบเปลี่ยนอู่นอกที่ชำนาญมาสด้าที่เบิกน้ำมันเกียร์จาก 0 มาใส่ มันก็เป็นการเพิ่มความยุ่งยากให้กับผู้ใช้อีกทาง ไหนจะต้องเข้าทั้ง 0 เพื่อเช็คระยะและรักษาวารันตีรถ ในทางกลับกันก็ต้องแอบเข้า อู่นอก เพื่อรักษาเกียร์ของรถตัวเอง ส่วนคนที่ไม่เคยเปลี่ยนน้ำมันเกียร์เลยจนถึงปัจจุบันก็มีหลายเคสที่เกียร์พังและบางส่วนกว่ามาสด้าจะยอมรับผิดชอบ ก็เสียอารมณ์เสียความรู้สึกกันไป

2. ปัญหาเดิมๆ แก้แล้วไม่จบ ถึงบางอย่างจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร แต่สร้างความรำคาญให้กับคนใช้ได้เหมือนกัน เช่นปัญหากระจกพับกางเองไม่ได้ อันนี้เป็นมาตั่งแต่ 3 Sky รุ่นแรก จนมา CX-5 ก็ยังเจอ แก้แล้วซักพักกลับมาเป็นอีก สลับข้างกันไป ก็เคลมวนไป

3. งานเคลมคุณภาพที่เคลมยากขึ้นทุกวัน อันนี้รู้สึกได้เลยว่าเดี๋ยวนี้ กว่าจะเปลี่ยนอะไรให้แต่ละชิ้น ยากเย็นกว่าเมื่อก่อนมาก มากๆ เจอช่างดี ก็ดีไป ยอมรับปัญหารีบส่งเรื่องให้ เจอช่างกวนหน่อย ขนาดนั่งเทสไปด้วยกัน กลับบอกว่าปกติ ไม่มีปัญหา ไม่ได้ยิน บางครั้งมันเสียเวลาปนเซ็ง ต้องให้ลูกค้าเริ่มมีอารมณ์ทุกอย่างถึงจะง่ายขึ้น

4. ถ้ามาสด้ายังคงไม่ปรับเรื่องงานบริการหลังการขาย มันจะกลายเป็นปากต่อปากจากคนที่ใช้จริง คนที่จะซื้อใหม่ ถ้าไม่ได้ชอบจริงๆจะถอยห่าง ส่วนลูกค้าเดิมๆถึงรักแค่ไหนแต่ถ้าไม่ปรับปรุง คันต่อไปอาจไม่ซื้อใช้อีก

5. ตัวเลือกเครื่องยนต์น้อยเหลือเกิน จะมีให้เลือกได้บ้างก็แค่ CX-5 อย่าง New Mazda 3 เมืองนอกมี เครื่อง 2.5(ไม่มีTurbo) มี 1.8 ดีเซล ให้เลือก เมืองไทยมี 2.0 สหกรณ์ลากยาวมาตั้งแต่ 2014



spn

เริ่มที่ 1 ลบ. แพงเกินไปครับ
เห็นด้วยครับ ราคาเริ่มต้นแพงไป ถ้ามีตัวราคาสัก 860-910K ยังพอน่ามอง

หลายคนออก Civic ตัวเริ่ม มีงบก็ค่อยมาแต่งได้
เพื่อนผชอบ M3  แต่เห็นราคาแล้วลอการซื้อไปก่อน
Altis รุ่นล่างไม่สวยก็จริง แต่มีตัวที่ราคาเอื้อมถึง
Revo 2.8 J B-cab 4x4
Kia Jumbo K2700 1JZ GE + LPG
Camry 2.5 HV Premium
E220d w213



witta

คำตอบเดียวเลยคือ "แพงเกินไม่สอดคล้องกับ option"
เริ่ม 8แสนปลาย-จบที่1ล้านไม่เกินล้านสอง
+
ตัวล่างมีกล้องมองหลัง
ตัวกลางมีไฟ DRL
ตัวท้อปมี sunroof+เบาะหนังสีแดง
แค่นี้ก็ปังแล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 23, 2020, 08:47:37 โดย witta »
Vios 1.5 vvti 2004
Civic 1.8 FB 2013



7one011

มี 3-4 เรื่อง ที่ Mazda เริ่มจะแพ้ภัยตัวเอง (ผมแฟน Mazda คนนึงนะ)

1. พื้นที่ใช้สอยภายในน้อยกว่าคู่แข่งทุก Gen (แต่พักหลังดีขึ้นบ้าง)

2. Defect ประจำตัว ที่ Mazda ไม่แก้ไข้ให้ชัดเจนซักที .... ทั้งเรื่องเกียร์ + น้ำดัน + ปั๊มติ๊ก
ไม่ว่าจะเป็นการ Recall หรือการปรับปรุงที่ไม่ใช่แค่ซ่อมแล้วกลับมาเสียกันอีก

3. ศูนย์บริการดีๆ ที่มีช่างเก่งๆ น้อยลง ส่วนใหญ่เจอปัญหาซ่อมไม่จบ ทั้งที่เป็นปัญหาไม่ยาก
รวมถึงค่าแรง ที่โดยเฉลี่ยสูงกว่าเจ้าตลาด แต่จ่ายแพง กลับไม่ได้รู้สึกว่าได้อะไร Value เพิ่มขึ้น

4. อะไหล่บางตัวแพงแบบงงๆ 
เช่น พวกบู๊ซยาง ช่วงล่าง เวลาซ่อมทีไม่มีทางเลือก ต้องเปลี่ยนยกปีกนก ซึ่งราคาก็โหดไม่เบา

ข้อ 2 -3 - 4 นี่แหละ ที่จะทำให้ Mazda เติบโตไปกว่านี้ได้ยาก
... ในขณะที่ ข้อ 2-3-4 นี่คือ จุดแข็งของเจ้าตลาดอย่าง Toyota / Isuzu
เห็นด้วยครับ



rtong

จริงๆ แล้ว Mazda สามารถทำให้ลูกค้าซื้อรถคันแรกได้ แต่ไม่สามารถทำให้ซื้อคันที่ 2 และ 3 ได้

จริง



Jack_23


https://www.autofun.co.th/news/%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%88%E0%B8%B9%E0%B8%9A%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%AD%E0%B8%A1-%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%A1-2019-mazda-3-%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B9%81%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89-5978


เห็นมีเพื่อนสงสัยนี่เป็นโฆษณาครับ เลยมาอธิบายหน่อย ขอบคุณสำหรับทางเว็บไม่ได้ห้ามแปะลิ้งค์ครับ ขอบคุณมาก ๆครับที่ให้พวกเรามีโอกาสแชร์เรื่องที่น่าสนใจ ตอนแรกผมเห็นลิ้งค์นี้ดูสนุกดี ก็มาแชร์กับเพื่อน ๆ ครับ ผมมาเล่นเว็ปนี้ก็ไม่นานค่ะ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับผม



holidayaholic

ดีไซน์รถเฉพาะทางไป คนแก่ไม่กล้าใช้ครับ



mayinlove

เจอไข่โด่ดีไซน์เข้าไป คนนั่งหลังกลายเป็นบ๊ะจ่างเลย > <
ขยายที่วางขาให้พอๆกับ Model 3 หน่อยก็ไม่ได้ ไข่โด่ทำยอดขายพังแท้ๆ ช่างไทยก็ไม่เก่งแต่ดันเรียกค่าแรงซะแพง อะไหล่ก็แพงอีก ไม่พอใจก็ฟ้องลูกค้าอีก -*-



I_AM_M

เจอค่าแรง850เข้าไป ศูนย์ได้ปิดซะเองขายไม่ออก