ผมไปเอามาจากเว็ปนึงนะครับ เค้าอธิบายมาดีเลย เข้าใจง่าย.
"ขอเรียนชี้แจงแบบนี้น่ะครับ ค่าที่อยู่ข้างแกลลอนน้ำมันเครื่อง เช่น 0W-20 , 5W-30 เป็นต้น ขอชี้แจงแบบนี้ครับ
ตัวเลขทั้ง2 ตัว คือค่าความข้นหรือใส หรือเบอร์ความหนาของฟิล์มน้ำมันแบบคร่าวๆหรือแบบกลุ่มใหญ่
ตัวเลขทั้ง 2 มีความสำคัญทั้งคู่
ตัวเลขหน้า คือ 0W, 5W, 10W และอื่นๆ จะมีประโยชน์กับเครื่องยนต์ขณะน้ำมันเครื่องเย็น หรือช่วง 20 นาทีแรกของการสตาร์ทเครื่องยนต์ เพราะขณะนั้น น้ำมันเครื่องจะมีอุณหภูมิต่ำ อีกทั้งเครื่องยนต์รุ่นใหม่สมัยใหม่มีดีไซด์ที่มีขนาดเครื่องยนต์เล็กลง ทำให้ชิ้นส่วนต่างๆของเครื่องยนต์ถูกบีบอัดให้เล็กตาม รวมทั้งท่อทางเดินน้ำมันเครื่องที่จะไหลไปหล่อลื่นและปกป้องส่วนต่างๆ ฉะนั้น ขณะสตาร์ทเครื่องยนต์ ชิ้นส่วนทุกส่วนหมุนแล้ว แต่บนเครื่องยนต์ยังไม่มีน้ำมันเครื่อง เนื่องจากแรงดึงดูดของโลกดึงน้ำมันเครื่องลงสู่อ่างน้ำมันเครื่องขณะที่เราดับเครื่องยนต์ค้างคืน จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องให้น้ำมันเครื่องวิ่งไปหล่อลื่นและป้องกันการเสียดสีของชิ้นส่วนให้เร็วที่สุด โดยเฉพาะชุดบนสุดของเครื่องยนต์ที่ภาษาช่างเรียกว่า ชุดกลไกกดวาล์ว เนื่องจากเป็นชิ้นส่วนที่มีเยอะที่สุด มีการเสียดสีรุนแรงที่สุด และเป็นจุดสุดท้ายที่น้ำมันเครื่องเดินทางมาถึง
ส่วนตัวเลข เช่น 20, 30, 40, 50 เป็นค่าความข้นใสหรือความหนาของฟิล์มน้ำมันที่จะอ้างอิงและมีประโยชน์กับเครื่องยนต์ขณะน้ำมันเครื่องร้อนถึง 100องศาC หรือติดเครื่องยนต์ไปแล้วประมาณ 20นาที หากเปรียบเทียบเปรียบเสมือนกับไซด์เสื้อผ้า แต่ละตัวเลขควรเลือกให้เหมาะสมกับเครื่องยนต์
ตัวเลขทั้ง 2 ค่า มีประโยชน์ในเมืองไทยทั้งคู่
*ขณะน้ำมันเครื่องเย็น ตัวเลขหน้า(0W) จะมีประโยชน์ในแง่การไหลเร็ว เพื่อลดการสึกหรอลดความร้อนจากการเสียดสีของชิ้นส่วน เบอร์น้อยฟิล์มบางไหลเร็ว เบอร์มากฟิล์มหนาไหลช้า
*ขณะน้ำมันเครื่องร้อน ตัวเลขหลัง(20 หรือ 30) จะมีประโยชน์ในแง่ของการลดช่องว่างและการรับแรงเสียดสีและการตัดเฉือนจากการเคลื่อนที่เสียดสีของชิ้นส่วนต่างๆ ควรเลือกจากปัจจัยสำคัญนี้ คือ สภาพความสมบูรณ์ของเครื่องยนต์ และ ลักษณะการใช้งาน เช่น
- เครื่องยนต์ใหม่ มีความฟิต ช่องว่างระหว่างชิ้นส่วนมีน้อย ควรเลือกค่าน้อยๆๆ เพื่อประโยชน์มากมาย เช่น อัตราเร่ง ประหยัดเชื้อเพลิง อายุเปลี่ยนถ่ายยาวกว่า แต่ทุกอย่างต้องมีข้อเสีย คือ น้ำมันใสจะเร็ดรอดผ่านเข้าไปเผาไหม้ออกทางท่อไอเสียง่าย จึงกินน้ำมันเครื่องมากกว่า
- เครื่องยนต์ปานกลางหรือเก่า ช่องว่างระหว่างชิ้นส่วนมีมาก ก็ควรเลือกฟิลฺ์มน้ำมันหนาหรือเบอร์มากๆ เพื่อช่วยลดช่องว่างและลดเสียงดัง ลดการสูญเสียกำลังอัดของเครื่องยนต์ ข้อดีคือ ฟิล์มหนาการสึกหรอต่ำ กินน้ำมันเครื่องน้อย แต่ข้อเสีย วิ่งไม่ออก กินน้ำมันเชื้อเพลิง อายุเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องสั้นกว่า
อีกปัจจัยที่สำคัญคือ ลักษณะการใช้งาน นั้นคือ หากเราเป็นเครื่องยนต์ใหม่ เลือกน้ำมันเครื่องเพื่อลดการประหยัดเชื้อเพลิง ก็ต้องเลือกเบอร์น้ำมันที่มีค่าน้อย เช่น XW-20 เป็นต้น แต่หากนำเครื่องยนต์ใหม่ไปใช้งานรอบเครื่องยนต์สูงเป็นประจำ วิ่งเร็วมากๆ ขึ้นเขาลงเขา ทำให้ความร้อนสะสมในน้ำมันเครื่องสูง อาจทำให้น้ำมันเครื่องเบอร์ 20 อาจจะบางลง จึงควรเลือกเบอร์ 30 มาแก้ปัญหาแทน
สรุปคือ เบอร์น้ำมันเครื่องมีประโยชน์ทั้งคู่ ควรเลือกให้เหมาะสมและแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นของเครื่องยนต์ และตอบโจทย์ลักษณะการใช้งานของเรา เช่น เน้นประหยัดเชื้อเพลิง หรือ เน้นการใช้งานความเร็วหรือขึ้นเขาเป็นประจำ
หมายเหตุ ความร้อนในน้ำมันเครื่อง อยู่ระหว่าง 80-150 องศา C ฉะนั้น อุณหภูมิบรรยากาศภายนอกจะมีผลช่วง 20นาทีแรกเท่านั้น จึงไม่ต้องกังวลกับเบอร์ 20 เมืองไทยจะใช้ได้เหรอ ใช้ได้ครับหากเครื่องยนต์เราฟิตพอ เบอร์น้ำมันเครื่องเปรียบเสมือนการเลือกไซด์เสื้อผ้าให้เหมาะสมกับไซดของเรา
ส่วนชนิดของน้ำมันเครื่องพื้นฐานก็มีผลมาก น้ำมันเครื่องค่าความหนืดต่ำ หรือฟิล์มบางๆส่วนใหญ่จะเป็นน้ำมันพื้นฐานสังเคราะห์ 100% เพียงแต่คุณภาพขึ้นอยู่กับความสามารถของและเทคโนโลยีของน้ำมันยี่ห้อนั้นๆ
ค่าน้ำมันเครื่องที่ศูนย์บริการบริษัทรถยนต์ยี่ห้อต่างๆเลือกใช้เป็นค่าที่เลือกมาเพื่อตอบโจทย์คุณประโยชน์ของเครื่องยนต์ที่โฆษณาขายรถไว้ เช่น รถยนต์สมัยใหม่เน้นตอบโจทย์เรื่องประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ฉะนั้น ต้องเลือกเบอร์ที่ตอบโจทย์นั้น เช่น รถยนต์อีโค้คาร์ กฏหมายกำหนดต้องมีค่าการประหยัดเชื้อเพลิงที่ 20 กิโลเมตร/ลิตร ฉะนั้น เบอร์น้ำมันเครื่องที่ตอบโจทย์นี้ได้มีต่าเดียวเท่านั้นขณะนี้ คือ 0W-20 ทำให้ศูนย์บริการจึงเลือกเบอร์นี้ในการบริการ ทำให้คนให้บริการก็ไม่อยากอธิบายมาก คนซื้อก็ไม่ถามมาก ค่าความหนืด 0W-20 จึงกลายเป็นน้ำมันเครื่องสำหรับอีโค้คาร์ โดยปริยาย แต่จริงๆมันคือค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องที่ตอบโจทย์เรื่องประหยัดเชื้อเพลิง แต่ไม่ตอบโจทย์คนขับรถเร็วหรือขึ้นเขา-ลงเขา ดังนั้น หากเครื่องยนต์ของคุณใหม่และฟิต ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ขนาดเล็กหรือใหญ่ต้องการน้ำมันเครื่องที่ช่วประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด 0W-20 คือค่าที่ควรเลือกใช้ที่สุด"