Tesla ออกอัพเดตให้รถกว่า 285,000 คันในประเทศจีน จากปัญหา cruise control เปิดเอง

Wiki

Tesla ต้องออกอัพเดตให้รถกว่า 285,000 คันในประเทศจีน หลังพบข้อกังวลเกี่ยวกับระบบ cruise control เปิดเองได้อัตโนมัติ ทำให้ความเร็วเพิ่มฉับพลัน โดยผู้ใช้ไม่ทันตั้งตัว แม้หน่วยงานรัฐของประเทศจีนจะใช้คำว่า “เรียกคืน” แต่ผู้ใช้เพียงแค่ต้องอัพเดตซอฟต์แวร์จากบ้านโดยไม่ต้องนำรถไปเข้าศูนย์

หน่วยงานกำกับดูแลมาตรฐานตลาดของประเทศจีน (State Administration for Market Regulation) ระบุว่ารถที่ถูก “เรียกคืน” ส่วนใหญ่เป็น Model 3 และ Model Y ที่ผลิต ณ Gigafactory เซี่ยงไฮ้ รวม 249,855 คัน ส่วน Model 3 อีก 35,655 คัน เป็นรถนำเข้า

The Wall Street Journal ผู้รายงานเรื่องนี้ ระบุว่า Tesla ไม่ตอบกลับอีเมลสอบถามที่ถูกส่งไปยังที่อยู่อีเมลสำหรับสื่อ อาจจะเพราะ Tesla ยุบฝ่ายสื่อไปในปีที่แล้ว แต่มีการโพสต์ขอโทษใน Weibo ของบริษัท

Tesla เริ่มส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในจีนครั้งแรกช่วงสิ้นปี 2019 และตั้งเป้าผลิตให้ได้ 500,000 คันต่อปี ปัจจุบันประเทศจีนเป็นตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ Tesla ยังประสบปัญหาประปราย ทั้งการระบาดของ COVID-19ในปีก่อน กองทัพจีนห้ามใช้รถยนต์ Tesla ในกิจการกองทัพ การต้องทำตามมาตรฐานข้อมูลที่แตกต่างจากประเทศอื่น และการให้บริการหลังการขายที่ดูเหมือนจะไม่พอใจชาวจีนนัก

ในรายงานไม่มีข้อมูลว่าข้อผิดพลาดนี้ส่งผลแค่กับเวอร์ชั่นซอฟต์แวร์ของรถที่ใช้ในประเทศจีนหรือไม่ แต่ก่อนหน้านี้เคยมีอุบัติเหตุรถ Tesla Model S ในสหรัฐอเมริกา ที่มีข้อสันนิษฐานว่าอาจจะเกิดจาก cruise control เช่นกัน

ีที่มา - https://www.blognone.com/node/123460


เพิ่มเติมจากข่าวปัญหาระบบเบรคทำงานขัดข้องของ Tesla ในจีน อาจจะเกี่ยวเนื่องกับข่าวนี้เช่นกัน








deertesla

รถไฟฟ้าที่หลายคนอยากได้    ทั้งที่ความรู้และความชำนาญในการทำรถสักคันยังไม่เท่าไหร่เน้นฉาบฉวยแบบสินค้าไอที  แต่ยังไงความรู้ความชำนาญในการผลิตรถก็สำคัญต่อการทำรถคันนึงครับ  เพราะถ้าไม่ดีก็สร้างความอันตรายให้ต่อคนขับและคนอื่นๆเค้าครับ



เต๋า AV

อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด เสียได้ตั้งแต่ออกจากร้าน



axister

รถไฟฟ้าที่หลายคนอยากได้    ทั้งที่ความรู้และความชำนาญในการทำรถสักคันยังไม่เท่าไหร่เน้นฉาบฉวยแบบสินค้าไอที  แต่ยังไงความรู้ความชำนาญในการผลิตรถก็สำคัญต่อการทำรถคันนึงครับ  เพราะถ้าไม่ดีก็สร้างความอันตรายให้ต่อคนขับและคนอื่นๆเค้าครับ

มันไม่เกี่ยวกับรถไฟฟ้าหรือคนปั่นจักรยานอ่ะครับ

เราต้องแยก powertrain กับ technology รึเปล่าครับ เครื่อง ice ถ้าเทคโนโลยีพัฒนามาไม่พร้อมมันก็พาบ้งได้เหมือนกันรึเปล่าครับ

รถพลังงานไฟฟ้ามันเป็น future tech เค้าเลยพยายามยัดอะไรหวือหวามา มาพ่วงด้วย

ความไม่พร้อมอันนี้คือ tesla มากกว่าที่นำเสนอ option หลายๆอย่างควบคุมด้วย software ที่ช่วยขับขี่ที่พัฒนามาไม่สมบูรณ์มากกว่าครับ

ถ้า tesla ทำรถ ice เอาเทคโนโลยีที่มีปัญหาไปยัดมันก็บ้งได้เหมือนกันนะ



Zephyrs

รถไฟฟ้าที่หลายคนอยากได้    ทั้งที่ความรู้และความชำนาญในการทำรถสักคันยังไม่เท่าไหร่เน้นฉาบฉวยแบบสินค้าไอที  แต่ยังไงความรู้ความชำนาญในการผลิตรถก็สำคัญต่อการทำรถคันนึงครับ  เพราะถ้าไม่ดีก็สร้างความอันตรายให้ต่อคนขับและคนอื่นๆเค้าครับ
ท่านก็เกินไป ผมไม่ได้ปกป้องแบรนด์เขา ไม่ได้มีเอี่ยว ไม่ได้ถือหุ้น Tesla แต่พอรู้ด้านเทคโนโลยีในระดับนึง
ของพวกนี้มันต้องใช้เวลา สมาร์ทโฟนรุ่นแรกๆก็ไม่ใช่ว่าจะ Flawless แต่ถ้าไม่เริ่มต้นก็ไม่มีคนทำ
พวกเทคโนโลยีขับเองทุกยี่ห้อก็ไม่ได้เคลมว่ามันขับแทนได้ 100% เคลมตลอดว่ายังไงก็ต้องมีคนขับช่วยตลอด

ของสมัยนี้มันเหลือไม่กี่ชิ้นแล้วที่ไม่มีสมองกลไม่มีคอมพิวเตอร์อยู่ในนั้น ละขึ้นชื่อว่าสมองมันก็ต้องมีการเรียนรู้ ต้องเทรนมันตลอด
การจะให้ทดสอบมันในแลปอย่างเดียวมันก็ไม่ไหว มันก็ต้องให้ออกไปข้างนอกไปเจอสภาพจริง จากนั้นก็เก็บข้อมูลส่งกลับมาที่บริษัท
เป็น Big Data ที่ค่อยมาจัดเรียงข้อมูลดูแนวโน้ม วิเคราะห์และศึกษาว่าจะแก้ไปในทิศทางไหนให้ถูกต้อง
ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกเคยเห็นอยู่คลิปนึงที่ไปขับในเวียดนามหรือสักประเทศนึงนี่แหละที่มอไซเยอะๆ รถมันแพนิคจนปิดระบบแล้วเตือนให้คนขับควบคุมโดยด่วน
เหตุการณ์อย่างนี้ถามว่าในแลปจะมี Simulation กี่แบบเองที่ครอบคลุมถึงเรื่องนี้? ถ้าระบบคอมพิวเตอร์มันไม่ได้ออกแบบมารอบคอบจริงๆ ป่านี้เราคงเห็นข่าวเทสล่าทับมอไซตายเป็นเบือแล้ว

ผมมองว่าที่เทสล่าทำไม่ได้ฉาบฉวย อย่าลืมว่า ตลาดหลักของเขาถ้าไม่นับจีน ก็คือประเทศที่ฟ้องร้องกันเก่งที่สุดในโลกประเทศนึงนะครับ



deertesla

รถไฟฟ้าที่หลายคนอยากได้    ทั้งที่ความรู้และความชำนาญในการทำรถสักคันยังไม่เท่าไหร่เน้นฉาบฉวยแบบสินค้าไอที  แต่ยังไงความรู้ความชำนาญในการผลิตรถก็สำคัญต่อการทำรถคันนึงครับ  เพราะถ้าไม่ดีก็สร้างความอันตรายให้ต่อคนขับและคนอื่นๆเค้าครับ
ท่านก็เกินไป ผมไม่ได้ปกป้องแบรนด์เขา ไม่ได้มีเอี่ยว ไม่ได้ถือหุ้น Tesla แต่พอรู้ด้านเทคโนโลยีในระดับนึง
ของพวกนี้มันต้องใช้เวลา สมาร์ทโฟนรุ่นแรกๆก็ไม่ใช่ว่าจะ Flawless แต่ถ้าไม่เริ่มต้นก็ไม่มีคนทำ
พวกเทคโนโลยีขับเองทุกยี่ห้อก็ไม่ได้เคลมว่ามันขับแทนได้ 100% เคลมตลอดว่ายังไงก็ต้องมีคนขับช่วยตลอด

ของสมัยนี้มันเหลือไม่กี่ชิ้นแล้วที่ไม่มีสมองกลไม่มีคอมพิวเตอร์อยู่ในนั้น ละขึ้นชื่อว่าสมองมันก็ต้องมีการเรียนรู้ ต้องเทรนมันตลอด
การจะให้ทดสอบมันในแลปอย่างเดียวมันก็ไม่ไหว มันก็ต้องให้ออกไปข้างนอกไปเจอสภาพจริง จากนั้นก็เก็บข้อมูลส่งกลับมาที่บริษัท
เป็น Big Data ที่ค่อยมาจัดเรียงข้อมูลดูแนวโน้ม วิเคราะห์และศึกษาว่าจะแก้ไปในทิศทางไหนให้ถูกต้อง
ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกเคยเห็นอยู่คลิปนึงที่ไปขับในเวียดนามหรือสักประเทศนึงนี่แหละที่มอไซเยอะๆ รถมันแพนิคจนปิดระบบแล้วเตือนให้คนขับควบคุมโดยด่วน
เหตุการณ์อย่างนี้ถามว่าในแลปจะมี Simulation กี่แบบเองที่ครอบคลุมถึงเรื่องนี้? ถ้าระบบคอมพิวเตอร์มันไม่ได้ออกแบบมารอบคอบจริงๆ ป่านี้เราคงเห็นข่าวเทสล่าทับมอไซตายเป็นเบือแล้ว

ผมมองว่าที่เทสล่าทำไม่ได้ฉาบฉวย อย่าลืมว่า ตลาดหลักของเขาถ้าไม่นับจีน ก็คือประเทศที่ฟ้องร้องกันเก่งที่สุดในโลกประเทศนึงนะครับ
ผมมองว่าฉาบฉวยนะดูที่การออกแบบแผงหน้าปัดของรถก็ได้ครับ  มันไม่เอื้อให้เหมาะสำหรับคนที่ชอบขับรถเลยสักนิด  แผงควบคุมต่างเป็นจอทั้งหมด  มันต้องละสายตาแล้ว  ส่วนเนื่องซอฟแวร์มันต้องปิดได้ด้วยคนขับตัวเองครับ  อย่าบังคับให้เปิดออโตโดยระบบเอง  กับเรื่องงานประกอบทั้งหลายที่ยังมีหลุดคือเค้ายังอ่อนด้อยประสบการณ์ครับ มองปัญหาของฮอนด้าเป็นเรื่องเล็กไปเลย  คนที่ไม่ได้ชอบขับรถ ไม่ได้รักการขับรถมาควบคุมดูแลการออกแบบบเลยหลายๆอย่างยังทำให้มีข้อผิดพลาดมาเยอะครับ  เพราะรถไฟฟ้ายี่ห้ออื่นๆยังไม่มีปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยแบบเทศเทศล่าเลย

รถไฟฟ้าที่หลายคนอยากได้    ทั้งที่ความรู้และความชำนาญในการทำรถสักคันยังไม่เท่าไหร่เน้นฉาบฉวยแบบสินค้าไอที  แต่ยังไงความรู้ความชำนาญในการผลิตรถก็สำคัญต่อการทำรถคันนึงครับ  เพราะถ้าไม่ดีก็สร้างความอันตรายให้ต่อคนขับและคนอื่นๆเค้าครับ
ท่านก็เกินไป ผมไม่ได้ปกป้องแบรนด์เขา ไม่ได้มีเอี่ยว ไม่ได้ถือหุ้น Tesla แต่พอรู้ด้านเทคโนโลยีในระดับนึง
ของพวกนี้มันต้องใช้เวลา สมาร์ทโฟนรุ่นแรกๆก็ไม่ใช่ว่าจะ Flawless แต่ถ้าไม่เริ่มต้นก็ไม่มีคนทำ
พวกเทคโนโลยีขับเองทุกยี่ห้อก็ไม่ได้เคลมว่ามันขับแทนได้ 100% เคลมตลอดว่ายังไงก็ต้องมีคนขับช่วยตลอด

ของสมัยนี้มันเหลือไม่กี่ชิ้นแล้วที่ไม่มีสมองกลไม่มีคอมพิวเตอร์อยู่ในนั้น ละขึ้นชื่อว่าสมองมันก็ต้องมีการเรียนรู้ ต้องเทรนมันตลอด
การจะให้ทดสอบมันในแลปอย่างเดียวมันก็ไม่ไหว มันก็ต้องให้ออกไปข้างนอกไปเจอสภาพจริง จากนั้นก็เก็บข้อมูลส่งกลับมาที่บริษัท
เป็น Big Data ที่ค่อยมาจัดเรียงข้อมูลดูแนวโน้ม วิเคราะห์และศึกษาว่าจะแก้ไปในทิศทางไหนให้ถูกต้อง
ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกเคยเห็นอยู่คลิปนึงที่ไปขับในเวียดนามหรือสักประเทศนึงนี่แหละที่มอไซเยอะๆ รถมันแพนิคจนปิดระบบแล้วเตือนให้คนขับควบคุมโดยด่วน
เหตุการณ์อย่างนี้ถามว่าในแลปจะมี Simulation กี่แบบเองที่ครอบคลุมถึงเรื่องนี้? ถ้าระบบคอมพิวเตอร์มันไม่ได้ออกแบบมารอบคอบจริงๆ ป่านี้เราคงเห็นข่าวเทสล่าทับมอไซตายเป็นเบือแล้ว

ผมมองว่าที่เทสล่าทำไม่ได้ฉาบฉวย อย่าลืมว่า ตลาดหลักของเขาถ้าไม่นับจีน ก็คือประเทศที่ฟ้องร้องกันเก่งที่สุดในโลกประเทศนึงนะครับ
รถไฟฟ้าที่หลายคนอยากได้    ทั้งที่ความรู้และความชำนาญในการทำรถสักคันยังไม่เท่าไหร่เน้นฉาบฉวยแบบสินค้าไอที  แต่ยังไงความรู้ความชำนาญในการผลิตรถก็สำคัญต่อการทำรถคันนึงครับ  เพราะถ้าไม่ดีก็สร้างความอันตรายให้ต่อคนขับและคนอื่นๆเค้าครับ

มันไม่เกี่ยวกับรถไฟฟ้าหรือคนปั่นจักรยานอ่ะครับ

เราต้องแยก powertrain กับ technology รึเปล่าครับ เครื่อง ice ถ้าเทคโนโลยีพัฒนามาไม่พร้อมมันก็พาบ้งได้เหมือนกันรึเปล่าครับ

รถพลังงานไฟฟ้ามันเป็น future tech เค้าเลยพยายามยัดอะไรหวือหวามา มาพ่วงด้วย

ความไม่พร้อมอันนี้คือ tesla มากกว่าที่นำเสนอ option หลายๆอย่างควบคุมด้วย software ที่ช่วยขับขี่ที่พัฒนามาไม่สมบูรณ์มากกว่าครับ

ถ้า tesla ทำรถ ice เอาเทคโนโลยีที่มีปัญหาไปยัดมันก็บ้งได้เหมือนกันนะ
รถไฟฟ้าที่ว่านี้ผมพูดถึงเทศเทศล่าครับ  พอดีตกยี่ห้อ



Sazabi

มันไม่เกี่ยวกับคุณภาพของรถยนต์ไฟฟ้า เพราะระบบ Autonomous Driving จะอยู่ในรถยนต์สันดาป HEV หรือ BEV ก็ได้



deertesla

มันไม่เกี่ยวกับคุณภาพของรถยนต์ไฟฟ้า เพราะระบบ Autonomous Driving จะอยู่ในรถยนต์สันดาป HEV หรือ BEV ก็ได้
อ่านด้วยครับผมพูดถึงยี่ห้อเทสล่าครับ พอดีพิมพ์ตกหล่น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 29, 2021, 17:22:29 โดย deertesla »