โลกเปลี่ยน ตลาดรถเปลี่ยน แต่ความรู้สึกผมไม่เปลี่ยน

jaesz

ชวนคุยส่วนตัวนะครับ ไม่ซีเรียส

มองไปรอบๆตัว รถสมัยนี้มันเปลี่ยนไป ความทนทานหายไป ความจุกจิกมากขึ้น คนเลือกรถที่ของเล่นกระจุกกระจิก ไม่ได้สนความSolid ในการขับขี่เท่าไหร่ ช่วงล่างแข็งกระโดดเหมือนจะไปแข่งWRC พวงมาลัยเบาหวิว ขับเร็วเหมือนจะแน่นๆ แต่เอาไม่อยู่เวลาฉุกเฉิน 

ระบบไฟฟ้าใส่มาเยอะแยะ เวลามีปัญหาชวนปวดหัว

ผู้ผลิตก็ต้องเอาใจตลาด ตามใจคนซื้ออยู่แล้ว รถทุกวันนี้มันก็เลยออกมาแบบนี้สินะครับ ทำให่ภายนอกภายในมันดูfancy นิดหน่อยขายได้แล้ว essencen ของความเป็นรถมันก็หายไป

อาจจะเป็นที่ผมรู้สึกไปเองก็ได้นะครับ ไม่ต้องเครียด คนเราชอบอะไรไม่เหมือนกัน

เขียนเผื่อผูู้้ผลิตรถมาอ่าน จะได้รู้ว่า รถรุ่นธรรมดา ออพชันที่ไม่เกี่ยวกับการขับไม่ต้องมี Carplay airplay ไม่เอาก็ได้ เบรคมือสายสลิงก็ได้ เกียร์ธรรมดายิ่งดี โช๊คสปริงนุ่มนวล แอร์เย็น วิทยุใส่เองได้ อิมโมไม่ต้อง อุปกรณ์ความปลอดภัยครบก็พอยังมีคนอยากได้อยู่ อย่างน้อยก็ผมคนนึง555
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 22, 2021, 10:41:25 โดย Jæ »



StickyRize

ก็ตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป เวลาผ่านไปก็ต้องมีของที่มันล้ำๆ มาใส่ในรถเพิ่มขึ้นๆ ถ้าไม่ใส่มาก็เหมือนกับไม่พัฒนาอะครับ



WASADM

ถ้าถามผม อาจเป็นเพราะ มาตฐาน หรือ ความต้องการขั้นต่ำ มันเปลี่ยนไปตามยุคสมัยนะครับ

ยกตัวอย่างเช่น
ตัวผมเอง ขอแค่ เกียร์ auto / มีกล้องหลัง / ฟังเพลงผ่านโทรศัพท์ได้ แค่นี้ก็พอแล้วครับ

ในขณะที่น้องสาวผม หากจากผม 4 ปี ความต้องการขั้นต่ำที่เพิ่มมาก็ต้อง Apple carplay / push start / ไฟหน้า เปิดปิด auto / break hold

คำถามเดียวกัน ถามไปที่คุณพ่อผม ขอแค่แอร์เย็น / เกียร์ auto แค่นี้แกก็บอกเพียงพอแล้ว



PaPaMan

แนวโน้มโลกมันก็เปลี่ยนไปแบบนี้แหละครับ อนาคตรถยนต์ก็จะเป็นเสมือนเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ชิ้นนึงที่รวมเอาคอมพิวเตอร์, โทรศัพท์มือถือและลูกล้อเข้าไว้ด้วยกัน


ลูกหลานเราต่อไปในอนาคตถ้าเห็นรถยนต์ที่พวกเราใช้กันอยู่ในปัจจุบันอาจจะแปลกใจว่าคุณปู่ขับรถพวกนี้ไปได้อย่างไร



Tien.W

ทุกวันนี้ ...

กล้องมองหลัง / เซนเซอร์ถอย / กล้องรอบทิศทาง .. ยังเป็นสิ่งที่ไม่เคยสนใจ เหมือนเดิมครับ

คันล่าสุด (City Turbo) ถ้าไม่ติดว่า เจ้าของรถจะใช้ด้วย ผมถอดจอทิ้ง ติดวิทยุ 1 din clarion HX-D2 ไปละ

นอกนั้น ก็ว่ากันตาม การใช้งาน เช่น

1. ไฟหน้า xenon / led .. อันนี้จำเป็นสำหรับผม เพราะวิ่งทางไกล
2. Cruise Control .. พื้นฐานขั้นต่ำที่ต้องมี (ถ้าได้ Adaptive ยิ่งดี)
3. ระบบความปลอดภัยพื้นฐาน ถุงลมคู่หน้า / abs / ระบบช่วยการทรงตัว
4. กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ .. ของจำเป็นมาก สำหรับคนวิ่ง ตจว

นอกนั้น ก็ว่ากันไป ไม่ซีเรียสนัก



Salmon

เห็นด้วยครับ กับพวกออฟชัน fancy ที่ไม่จำเป็น จนรู้สึกว่าเราถูกบังคับให้เลือกใช้มากไปหรือไม่ บางอย่างเราก็เลือกไม่ได้
เช่น สีรถสีเข้มบังคับให้ใช้ภายในสีอ่อน รถสีอ่อนภายในสีดำ
แล้วก็ตัวเลือกรุ่นย่อยน้อยลงเหลือเกิน ยกเว้นกระบะ
สมัยก่อนจำได้ว่า  เลือกได้เลยว่า เบาะผ้า เบาะหนัง สีเบจ สีดำ สีภายนอกอะไรก็ได้

ส่วนตัวอยากได้แค่ เกียร์ Auto ไม่ cvt / เบาะหนัง พวงมาลัยหนัง / เบรคมือก้าน /พวงมาลัยไฟฟ้า / กระจกไฟฟ้า เซนทันล็อก
ไฟหน้าไม่ต้อง LED ก็ได้ชอบเหลืองๆ / แอร์ปรับปุ่ม / วิทยุปุ่ม ไม่ชอบจอ กวนสายตา



Sgt_Meen

เรื่องอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ก็ต้องเป็นไปตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปแหละครับ
เพราะชีวิตประจำวันเราเปลี่ยนไป จะกลับมาใช้ Cassette เทปในรถ ก็ไม่รู้จะหาซื้อได้ที่ไหน
เปิด Joox Youtube เลือกเพลงที่ต้องการได้เลย

ส่วนเรื่อง Performance ผมว่าถ้าลองเปิดใจดีดี ช่วงล่างและพวงมาลัยมันดีขึ้นเกือบทุกด้านนะครับ
นุ่มหนึบจริง ถ้าเทียบกับสมัยก่อนที่นุ่มย้วย สิ่งที่ทำให้รู้สึกกระด้าง น่าจะเป็น เทรนด์แม็กซ์โต ยางบาง
-Toyota Vios 1.5 1stGen
-Honda Accord 2.3 G6
-Honda Accord 2.4 G8
+Honda Accord 2.0 G8
-Mercedes-Benz E250CGI W212
+BMW 520d Sport G30
+Mercedes-Benz E300 Coupe C238



lek12

นั่นแหละครับ ทำไมไม่ใช้ Mobile Phones รุ่นกระเป๋าหาม เปลี่ยนมาเป็น Smartphones จอ HD กล้องเทพ ไปทำไม ความทนทานสู้ก็ไม่ได้

รถแต่ก่อนไม่มี มอเตอร์สตาร์ท ติดเครื่องที ต้องไปหมุนสตาร์ทด้วยมือ

รถแต่ก่อนไม่มี ระบบปรับอากาศ ต้องอาศัยลมผ่านทาง กระจกหูช้าง

ทุกสิ่งเปลี่ยนไปตาม ยุคสมัย เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้กับ คนใช้ ครับ



DiKiBoyZ

ผมกลับมองว่า มันดีขึ้นแทบทุกอย่าง

อย่างที่บอกว่าพวงมาลัยเบาหวิว ผมว่าคงชินกับ แรคแอนด์พีเนียน พอมาเจอ EPS ไปก็จะเบาขึ้น แต่การเบาก็แล้วแต่ละเจ้าเขาปรับเซ็ต บางเจ้าก็ไม่ได้เบาขนาดหวิวนะ กำลังดีด้วยซ้ำ ผมมีรถที่เป็น แรคแอนด์พีเนียน  และ EPS ในบ้านตอนนี้ แต่ผมยังชอบ EPS มากกว่า มันเบากว่า แรคแอนด์พีเนียน แต่มันกำลังดี ความเร็วสูงปรับหนึดขึ้น แข็งขึ้นได้ด้วย

ส่วนเรื่องช่วงล่าง และ การขับขี่ ผมว่า มันดีขึ้นทุกประตู เลย แต่เห็นด้วยว่า บางคัน บางยี่ห้อ บางรุ่น มันอาจจะสูญเสียคาร์แรคเตอร์ของตัวเองไป เมื่อเทียบกับ 10-20 ปีที่แล้ว ว่ารุ่นนี้ต้องขับดี แต่พอรุ่นใหม่ๆ อาจจะไม่ได้เน้นตัวนี้ แต่ไปเน้นตัวหน้าตา ความโฉบเฉี่ยวและออฟชั่นมากกว่า

บอดี้ ภายนอก ภายนอก ดีไซต์ ผมว่า ตามยุคตามสมัย อันนี้ไม่มีอะไรแปลก

เรื่องความคงทน หรือ จุกจิ๊ก ผมว่าเป็นบางคัน บางรุ่น เท่านั้นแหละ แต่ถ้าเทียบกับ gen เก่าๆ มันมีเพิ่มมาบ้าง ด้วยอะไรที่เพิ่มเข้ามาหลายอย่าง ของเพิ่มเจากเดิม 10 อย่าง ก็มี % เสียหาย หรือ ต้องดูแลเพิ่มขึ้นไปด้วย

แต่ผมว่าสุดท้ายอยู่ที่เราเลือกแหละครับ ผมว่า ถ้าไม่ได้ซื้อตามกระแส หรือ พวกสวยแต่รูปจูบไม่หอม มันก็ยังคงเป็นตัวตัวของมันอยู่ แต่กลิ่นอายอาจจะเปลี่ยนไปบ้าง



EVA01

สำหรับผมแยกเป็น 2 ประเด็นนะครับ
1. เรื่องสมรรถนะการขับขี่ ด้านนี้ผมมองว่ามันพัฒนาขึ้น เครื่องซับซ้อนขึ้น ทั้งเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพ (ทั้งความแรงและคามประหยัด) ไหนจะเรื่องรักษ์โลกอีก ก็เป็นที่มาว่ามันจถจุกจิกขึ้นตามไปด้วย ช่วงล่างก็เช่นเดียวกันที่มีข้อต่อเยอะขึ้นในขณะที่พยายามลดน้ำหนัก ก็ทำให้มีจุดเสียเยอะขึ้นและบอบบางขึ้นครับ
2. เร่ืองออฟชั่นจุกจิกๆ ระบบความปลอดภัยต่างๆ ที่มีพวกเซนเซอร์หรือระบบไฟฟ้าเข้ามามากขึ้นก็ทำให้จุดสเียมันเพิ่มขึ้นเช่นกัน

สุดท้ายเลยคือ บ.รถ เหมือนจะจงใจสร้างรถให้ต้องเปลี่ยนอะไหล่ตามอายุมากขึ้นด้วย หรือกะจะออกแบบให้ใช้แค่ 5-10 ปี ก็ไม่รู้แฮะ อย่างอะไหล่บางตัวก็เปลี่ยนมาใช้พลาสติกจากสมัยก่อนที่เป็นเหล็ก เป็นต้น (หรืออาจจะเกี่ยวกับการควบคุมต้นทุนด้วย)
https://SecreLocal.com - Local Live Chat - No Selfie - Anonymous Adult Dating -   Chat Local Girls



poomsira

เข้าใจเจ้าของกระทู้นะครับ ผมเองปั่นจักรยานเป็นหลัก แต่ก็มีรถยนต์หลายคัน ส่วนใหญ่จอด ก็ชอบรถรุ่นเก่าๆ ที่มีเบสิกๆ ง่ายๆ ไม่ซับซ้อนเหมือนกันครับ

แต่ว่า... ก็มีประสบการณ์ตรงที่ทำให้เปลี่ยนความคิด

เร็วๆ นี้ อยากระลึกความหลัง ไปซื้อรถยนต์ยุโรปเก่าๆ มาคันหนึ่ง เกียร์ธรรมดา เครื่องคาร์บู กระจกมือหมุน (แต่ยังดีมีเซ็นทรัลล็อก พวงมาลัยพาวเวอร์)
ในยุคที่ผมเด็กๆ รถรุ่นนี้เป็นรถระดับ Executive Car คันหนึ่งเลย ซื้อมาสนองกิเลสล้วนๆ ก็ขับไปซ่อมไป ขับสนุก (ต้องลุ้นว่าจะสตาร์ทติดไหม ติดแล้วขับๆ ไปจะดับไหม)

เวลาผมเอาไปจอดเทียบกับ eco-car สมัยนี้ ที่ราคาถูกกว่ารถยุโรปคันนี้ตอนมันเป็นป้ายแดงเมื่อสามสิบกว่าปีก่อน รถ eco-car สมัยนี้ดีกว่าทุกด้านครับ
1. แรงเยอะกว่า (แรงม้าต่อน้ำหนักยิ่งดีเข้าไปใหญ่)
2. ประหยัดน้ำมันกว่า(มากๆ)
3. ภายในกว้างขวางพอๆ กัน นั่งสบายพอๆ กัน  (ไม่ต้องเทียบข้ามยี่ห้อก็ได้ แค่เทียบ Camry ยุคสามสิบปีก่อน (รุ่นก่อนจะเข้าไทย) กับ Yaris สมัยนี้ ขนาดพอๆ กัน Yaris นั่งสบายกว่าด้วยซ้ำ)
4. ระบบความปลอดภัย eco-car แค่รุ่นเริ่มต้นสมัยนี้ ก็ดีกว่ารถยุโรปแข็งๆ หนาๆ เมื่อสามสิบก่อนอย่างมาก ถึงจะเกิดเหตุชนประสานงากัน eco-car อาจจะดูสภาพเละเทะกว่า แต่การออกแบบ crumple zone ระบบถุงลม ระบบเบรค  ระบบ traction control ต่างๆ ทำให้ eco-car สมัยนี้ปลอดภัยขึ้นมาก



Symphonic

สิ่งที่บริษัทรถยนต์มองต่อไปในอนาคต ความต้องการใช้รถยนต์จะแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลักๆ คือ

1) ต้องการใช้รถเพื่อการเดินทาง
     คืออยากไปไหน กดเรียก รถก็มารับ หรือมาให้ขับ
     ถึงที่หมายก็ลง ไม่ห่วงรถละ ไม่ต้องคิดเรื่องซ่อมบำรุงใดๆ

2) ต้องการเสพความสุขจากรถ
     คือมีรถเพื่อสนอง need ตัวเองเท่านั้น ไม่ต้องคิดถึงคนรอบข้าง
     ไม่ต้องห่วงความแคบ-กว้าง ความสะดวกใดๆ เพราะตอนไปกับ
     ครอบครัวก็ใช้บริการข้อ 1 ซึ่งเลือกรูปแบบรถที่จะใช้งานในแต่ละครั้งได้ด้วย

ทีนี้พอโจทย์แบ่งเป็น 2 แบบ ก็ลองคิดดูสิครับว่าคุณสมบัติของรถแต่ละแบบจะเป็นยังไง

ตอนนี้ คน Gen ใหม่ๆ ในหลายประเทศเริ่มไม่คิดจะซื้อรถกันแล้วนะครับ
เขาเริ่มที่จะไม่มองว่ารถยนต์เป็นสินทรัพย์กันแล้ว มองเป็นแค่ expense กันมากกว่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 22, 2021, 13:17:41 โดย Symphonic »



mongolias

เห็นด้วยว่าปัจจุบันออปชั่นมันเยอะแยะไปหมด แน่นอนยิ่งระบบเยอะ ความจุกจิกย่อมตามมาเป็นเงา
ผมอยากได้แค่ กระจกไฟฟ้า แอร์แบค เบรคABS เท่านั้น  แต่พอได้ใช้พวก BSM หรือ กล้องหลัง มันก็มีประโยชน์ดีนะครับ

ผมว่าเป็นไปตามวัฏจักรแหละ นวัตกรรมใหม่ๆ มีเพื่ออำนวยความสะดวกให้มนุษย์ ค่ายรถก็ใส่ระบบโน่นนั่นเต็มไปหมด



samaklen

คนรุ่นใหม่ ก็สัมผัสรับรู้สิ่งใหม่ๆ
ก็เป็นแบบนั้นครับ

คนที่เป็นผู้ใช้แบบช่างซ่อมบำรุง
ก็คิดว่าเนื้อแท้รถจำเป็นกว่าครับ
เมื่อก่อนใช้อะไรมา ทุ่นแรงน้อยกว่านี้
ก็ยังใช้ได้ดี มีความสุขกับมันได้





madboy

ว่าไปก็อยากให้มีรถที่แบบเข้าถึงง่ายๆ ไม่ต้องมีอะไรมากมาย แบบแจ๊ส GD เกียร์ธรรมดา

หรือแม้กระทั่งรถกระบะคันเล็ก ขนาดแบบ แฟมิเลีย สมัยก่อน เครื่องสัก 1.5 เบนซิน ไม่ต้องมีระบบอัดอากาศ เกียร์ธรรมดา พอแว้ววววว  ;)



moobarn

ส่วนตัวผมคิดว่ารถที่มีอุปกรณ์อย่าง BMW E30 เกียร์ธรรมดา ก็โอเคแล้วครับ หรือเป็นแนวรถไม่จุกจิก ทนทานในมุมมองผมก็ Altis 1.6 เกียร์ธรรมดาครับ แต่ในชีวิตจริงก็มีปัจจัยหลายอย่างประกอบกันทำให้เลือกใช้ตัวอื่นครับ



Teera

ตามยุคตามสมัยครับ 60-70-80-90-00-10-20
มันมีการเปลี่ยนแปลงอยุ่แล้วรับได้ครับ

ที่รับไม่ค่อยได้ คือ เดี๋ยวนี้ มันฉลาด นิดหน่อยก็เตือน ทุกครั้งที่ เตือน เงินมันกระเด็นออกจากกระเป๋า
จะไม่สนใจมันก็ไม่ได้ เดี๋ยวพัง

ที่รับไม่ค่อยได้คือ เอกลักษณ์ ของแต่ละรุ่น มันหายไป
มันเหมือนใส่เสื้อ Size S,M,L XL
แยกไม่ค่อยออก ถ้าไม่เป็นแฟนพันธ์ุแท้จริงๆ

สมัยวัยรุ่น Toyota มี 2J ,Nissan มี RB ,Mazda มี Rotary
ฺBenz มี AMG บางรุ่น เดี๋ยวนี้ หาแบบไม่มี AMG หายากว่า
BM ต้อง M เดี๋ยวนี้ M power และ อีกหลาย M
เครื่องเดียว ลากไป 3 โฉม

พวกนี้ ที่ มันไม่สนุกเหมือนเดิมครับ



Underseven

อ.ว.ท.ม. ครับ แค่มาครบก็หรูแล้ว  :-X

เดี๋ยวนี้คนสมาธิสั้นมากขึ้น
เพราะต้องรับรู้หรือตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสิ่งเร้าเทคโนโลยีที่รวดเร็วขึ้น
ไม่มีเหมือนเค้า ก็ดูเก่าตกยุค ตามไม่ทันโลก

อีกหน่อยผมว่าคงซื้อรถใช้ไม่คุ้ม
อาจต้องเช่าใช้ 1-2 ปีเปลี่ยน




alpha14

โลกเปลี่ยนก็ขายนวัตกรรมใหม่ๆมากขึ้น ถ้าขายแบบนั้นคงไม่ค่อนมีคนซื้อ รถกลายเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างเหลือเชื่อ เป็นการเกทับระหว่างค่ายรถด้วยกันที่ต้องนำหน้าคู่แข่ง จนลืมความทนทานไปแล้ว เพราะคอนเซ็พป์ต้องการให้คนเปลี่ยนรถใหม่บ่อยๆ



ภูมิใจไหม?

ผมมีความคิดคล้าย ๆ แบบนี้ครับ แต่ก็ไม่เหมือนเสียทีเดียว

มันทำให้ผมอยากได้ mazda MX5 เกียร์ธรรมดา หลังคาผ้าเปิดด้วยมือ

ไม่ต้องการระบบออโต้ใด ๆ นอกจากกระจกพับและปรับไฟฟ้า

เบาะปรับมือเลื่อนไวทันใจดี cruise control ไม่ต้องใส่มาเพราะไม่ได้ใช้

เบรคมือเป็นก้านก็ดีอยู่แล้ว ออโต้ start stop น่ารำคาญมาก ไม่อยากได้

อะไรประมาณนี้ครับ แต่ก็ยังต้องการไฟ DRL อยู่นะครับ และก็ android auto สั่งการด้วยเสียง

มี interface ที่เหมือนกันหมดทุกคัน ใช้ง่ายดี ผมติดซะแล้วครับ



BN`

ส่วนตัวผมยังเลือก เครื่อง NA + เกียร์อัตโนมัติแบบดั้งเดิม เป็นอันดับแรกๆก่อนเสมอครับ แน่นอนว่าในตลาดตอนนี้มันเหลือเพียงแค่ไม่กี่รุ่น

ปกติผมใช้รถ 10 ปี up ดังนั้นขอเน้นความทนทาน ไม่จุกจิก เป็นลำดับแรกก่อนครับ ส่วนออฟชั่น เทคโนโลยีเสริม ไม่ซีเรียสครับ

แต่ถ้าอนาคตไม่มี เครื่อง NA + เกียร์อัตโนมัติแบบดั้งเดิม ให้เลือกแล้วจริงๆ ผมก็ขอเลือก Toyota Honda Lexus เป็นอับดับแรกก่อนครับ

ผมยังไว้ใจในคุณภาพรถญี่ปุ่นอยู่ครับ ส่วนตัวแล้วผมซีเรียส และ ให้ความสำคัญกับ Reliability มากๆครับ ต้องทนมือทนเท้าได้ ห้ามจุกจิก



AgentMolder

ผมมองคนละแบบ

ผมกลับมองว่ารถยนต์ มันก็เปลี่ยนแปลง ปรับปรุง ให้เป็นไปตามยุสมัย เหมือนอุปกรณ์เครื่องใช้คนเราทั่วไปล่ะครับ มือถือ คอมพ์ ทีวี ไม่เว้นแม้รถยนต์

ผมเองขับรถมาก็ 30 กว่าปีแล้ว ใช้ตั้งแต่รถมือหมุนกระจก ไม่มีวิทยุ ยังดีที่มีแอร์ 555 จนมาตอนนี้ ให้เลือก ผมก็ชอบรถ ณ ยุคนี้มากกว่าอยู่ดี สิ่งอำนวยความสะดวกใส่มาเพื่อเป็นปัจจุบัน Map Carplay ระบบไฟฟ้าช่วยเหลือต่างๆ มันก็มีตามยุคสมัย แล้วมันก็ดีด้วย ขับรถไปมีความสุขกับการขับ การใช้ Gadget การได้มอง Dashboard สวยๆ ก็เป็นความสุขอย่างนึง

ทั้งนี้ไม่คิดเรื่องว่ามันจะเสียได้ง่ายนะครับ ซึ่งมันไม่เกี่ยวกับ User มันอยู่ที่ผู้ผลิตล้วนๆ เราๆ user ทำอะไรไม่ได้ ยอมรับมันไป

อ้อ ไม่นับความรู้สึกชอบเป็นการส่วนตัวนะ ผมเอาแค่การใช้งานในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่ Holiday Use
2005 Toyota Vios 1st Gen
2012 Honda Civic FD
2018 Toyota Camry ACV70
2023 Toyota Yaris Cross
2024 Porsche 718 Cayman Style Edition
2025 MB E-Class E220d W214



headcutterz

ไม่ชอบอย่างเดียวคือไฟหน้าไฟท้าย led ที่เปลี่ยนหลอดไม่ได้ เวลาเสียต้องเปลี่ยนทั้งโคมหมื่นกว่าบาทครับ    เดี๋ยวนี้ใส่มาตั้งแต่ ecocar เลย คันไหนไม่มีกลายเป็นเชย  แต่พอเสียขึ้นมาจะนึกถึงข้อดีของโคมแบบเปลี่ยนหลอดได้ครับ



SM.

เข้าใจว่า มันคงต้องพัฒนาไปเรื่อยๆแหละครับ หยุดนิ่งไม่ได้ แต่ทั้งนี้การพัฒนาต่างๆ ก็ต้องมี reliable ด้วย ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่ต้องพัฒนากันหนักๆเลย



Fly to dream

แสดงว่าเริ่มเป็นคนที่คนละยุคไปเรื่อยๆละครับ
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย



manonmoon

อุปกรณ์ความปลอดภัยโดยเฉพาะระบบ active safety ที่เพิ่มขึ้น เหมือนจะเอามาชดเชยสมาธิของผู้ขับรถทุกวันนี้ที่มีน้อยลงกว่ายุคก่อน




H3T

 ผมอยากได้ Jimny รุ่น lite ที่เพิ่งเปิดตัวมาก
 แอร์ลูกบิด ไฟฮาโลเจน วิทยุ เบาะปรับแมนนวล
 ล้อกะทะ
 
 ยังไม่นับพื้นฐานตัวรถ เครื่อง na เกียร์ธรรมดา ช่วงล่างคานแข็ง คอยสปริง 4 ล้อ 
 ถ้าไทยมี FTA กับ อินเดีย นะ



Carrera

โตมากับ BMW สมัยก่อน รถขับสนุก ไม่จำเป็นต้องช่วงล่างแข็ง  มันไปพร้อมกันได้ แถมถ่ายทอดฟีลลิ่งพวงมาลัยให้คนขับสนุกได้ด้วย

BMW สมัยใหม่ไม่ใช่แบบนั้นละ  มันขาดคาแรคเตอร์ของการเป็นรถที่พยายามเป็นส่วนนึงกับคนขับ ยิ่งกับพวกเกียร์ธรรมดายิ่งสนุก

ตรงนี้ที่ผมว่ารถสมัยใหม่มันทำไม่ได้ มันขาดการสื่อสารกับคนขับ พยายามเซตมาให้แข็ง เพื่อเหมือนจะสปอร์ต แต่รถสปอร์ตจนเสียความสมดุลไป

โดยเฉพาะรถยุโรปยุคหลังนี่ผมว่านอกจากอัตราเร่งที่ต้องหาทางตรงยาวๆเพื่อ Enjoy กับมัน  มากกว่าจะเป็นรถที่ไม่ต้องแรงมากนัก แต่ enjoy กับคันเร่งได้เต็มที่ไม่ต้องระวังมากจนเกินไป

ยังติดใจการขับรถเก่าๆ ไม่ต้องแรงมาก เข้าโค้งแคบๆ กดคันเร่งมิดได้ ไม่อันตราย เท้าซ้ายเหยียบครัช มือซ้ายสับเกียร กับฟีลลิ่งพวงมาลัยดิบๆ ที่เหมือนเราได้คุมรถด้วยตัวเอง มันสนุกกว่ากันมากจริงๆ

กลับกลายเป็นว่า ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นดันทำรถให้เป็นหนึ่งเดียว ใส่ใจฟีลลิ่งการขับมากกว่าค่ายยุโรปเสียอีก

จำนวนเงินเท่ากัน ซื้อ C Coupe ทั้งหรูกว่า แรงกว่า สวยกว่า  แต่ผมเลือก ขอเป็น All New  BRZ 86 หรืออาจจะ All New Z ใหม่ก็แล้วกัน  เพราะเกียร์ธรรมดาเป็นหลักเลย

BMW เมื่อก่อน Ultimate Driving Machine สนุกได้ในทุกรุ่น
ส่วนตอนนี้ เน้นขาย SUV ซีดาน แฮทแบค ขับหน้า  จอล้ำๆ ไฟภายในเยอะๆ มี Gestures Control (Ultimate Tech Machine)

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 23, 2021, 04:32:27 โดย Butterzai »



Newhang

ถ้าโล้นๆ ราคาถูกแบบนี้โอเค
แต่ถ้าโล้นๆ แต่ขายแพง แบบนี้คงไม่สนับสนุน

ส่วนตัวผมคิดว่า ของ hitech ไม่จำเป็นต้องเสียง่าย แต่มันอยู่ที่การออกแบบมากกว่า

บางทีชอบของเก่ามาก มีอายุสักหน่อยก็ซื้อรถคลาสสิกเก็บได้เลย
เหมือนอารมณ์คนเล่นแผ่นเสียงยุคนี้ จะเอาเสียงดี หรือ จะเอาเท่ห์เอามันส์เพราะดูอินดี้ หรือเอาสะดวก  แต่ไม่ได้หมายความว่าของใหม่อะไรก็ไม่ดี แบบนี้ไม่ใช่นะครับ

แต่ส่วนตัวผมชอบของใหม่ ยกเว้นของใหม่มันแย่กว่าของเก่าจริงๆ ซึ่งมันก็มีให้เห็นบ่อยซึ่งส่วนมากเป็นที่การออกแบบ ไม่ใช่ปัญหาจากเทคโนโลยี่ใหม่ที่ก่อให้เกิดปัญหา



Turin

เห็นด้วยทุกประการ ... เรามันตกยุคแล้วครับ