ผู้เขียน หัวข้อ: ตอนนี้เวียดนาม อินโดนีเซียน่าลงทุนกว่าไทยไหมครับ  (อ่าน 3095 ครั้ง)

ออฟไลน์ love street

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 185
  • Thailand international automotive
    • อีเมล์
เวียดนามมีรถยนต์แบรนตัวเองแล้วและค่าแรงน่าจะถูกกว่าไทย ตุรกีก็ตามหลังมา ส่วนอินโดนีเซียนี่มีเหมืองที่ tesla ไปลงทุนแล้วน่ะครับ

ออฟไลน์ zionzz

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 197
น่าลงทุนไหมมันก็ใช่ครับตลาดใหญ่และกำลังโต มันน่าลงทุนทั้งนั้นแหละ

มันขึ้นอยู่กับว่าคุณจะมองมุมไหน จะบอกไว้เผื่อจะไปซื้อหุ้น ข่าวที่ออกมามันเป็นแค่ผิวครับ คุณต้องขุดข้อมูลประกอบอีกเยอะและเอามาวัดกับความเสี่ยงที่คุณรับได้ ถึงจะบอกได้ว่า น่าลงทุนกว่าไทยไหม

ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,706
เวียดนามมีรถยนต์แบรนตัวเองแล้วและค่าแรงน่าจะถูกกว่าไทย ตุรกีก็ตามหลังมา ส่วนอินโดนีเซียนี่มีเหมืองที่ tesla ไปลงทุนแล้วน่ะครับ

แสดงว่าปัจจุบันนี้คนเวียดนามใช้แต่รถแบรนด์ตัวเองแล้วใช่มั้ยครับ
บนถนนที่นั่นคงมีแต่รถแบรนด์เวียดนามวิ่งกันขวักไขว่กันแล้วสินะ
ไม่ได้อัพเดทข่าวมานาน ถ้ามีรูปให้ดูก็น่าจะดีครับ

แต่เอ… ถ้าที่นั่นค่าแรงถูกกว่าเรา กำลังซื้อก็น่าจะต่ำกว่าบ้านเรามั้ยครับ?!?

ไม่มีอะไรครับ แค่ชวนคิด ชวนวิเคราะห์จากเนื้อหาที่ยกขึ้นมา

ออฟไลน์ XyteBlaster

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,295
    • อีเมล์
ลงทุนด้านไหนครับ ถ้าด้านการเงิน ก็แบ่งพอร์ตไปได้ครับ ตลาดกำลังโต

แต่อย่าทุ่มไปหมดครับ อจ. เซียน ๆ ทั้งหลายยังแบ่งไปราว 20-30% ลองหาดูในคลิปได้ครับ

Gunther

  • บุคคลทั่วไป
สาเหตุที่เวียดนาม อินโดนีเซีย น่าลงทุนกว่าไทยก็เพราะว่า…..

เวียดนาม มี Vinfast
อินโดนีเซีย มี เหมืองแร่ที่ใช้ทำแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า
ในไทย ซึ่งได้เปรียบกว่า ทำให้ Tesla ในอาเซียนตั้งโรงงานผลิตรถ Tesla ในอินโดนีเซียเลยครับ

ออฟไลน์ U9WS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,176
  • slower is better
Foxconn​ ลงทุน IT เวียดนามรัวๆ
แต่กลับมาลงทุน BEV กับ Ptt ในไทย
แปลกใจทำไม Foxconn ไม่ดิวกับ Vingroup

อินโดคล้ายไทยคืออุดมไปด้วยรถญี่ปุ่นและผลิตในอาเซียน
แต่เวียดนามน่าสนใจทั้งรถญี่ปุ่นทั้งเกาหลีเยอะดีแถมนำเข้าจากญี่ปุ่นจากเกาหลีสเปคดีๆทั้งนั้น

ออฟไลน์ Staples

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,665
คนไทย อยากใช้รถไฟฟ้ามากกว่า 2 ประเทศที่ว่าครับ
อินโด อยากได้รถถูกๆ ทนๆ มากกว่ารถเทคโนโลยีใหม่ๆ
เวียตนาม เงินไม่เยอะ กำลังการซือไม่มาก

มองแค่ลูกค้าล้วนๆ ก่อน จะเห็นว่า คนไทยพร้อมกว่าชาติอื่น

ออฟไลน์ Sazabi

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 330
ไม่ครับ สิ่งที่ดึงดูดใจในการลงทุนของธุรกิจยานยนต์และชิ้นส่วนไม่ใช่ค่าแรง แต่เป็นเทคโนโลยีในการผลิตและห่วงโซ่อุปทาน ไปจนถึงยอดขายรถยนต์ของตลาดในประเทศเพราะยิ่งมีปริมาณการผลิตมากยิ่งคุ้มค่าต่อการ Localization

เวียดนามมีแบรนด์รถยนต์ของตัวเองก็จริงแต่ยอดขายเป็นยังไงรู้มั้ยครับ 5 เดือนแรกขายได้แค่ 12,500 คัน โดยในจำนวนนั้น 7,500 คันคือ VINFAST Fadil ที่ซื้อสิทธิ์ของ OPEL Karl มาผลิต เพราะฉะนั้นรถยนต์ VINFAST จริงๆปีนี้เพิ่งจะขายได้ 5 พันคันเท่านั้น ในขณะที่ TOYOTA เวียดนามแค่ Vios รุ่นเดียวก็ขายไป 7 พันกว่าคันแล้ว ยิ่งมาเทียบกับตลาดไทยยิ่งห่างชั้นเพราะขนาดน้องเล็กอย่าง Suzuki 5 เดือนแรกยังขายในไทยไป 8.6 พันคัน จะเห็นว่าขนาดตลาดต่างกันมาก

อินโดนีเซียสิคู่แข่งตัวจริงของไทยในอุตยานยนต์ แต่ปัญหาของอินโดคือกำลังซื้อและเทคโนโลยีของตลาดที่พัฒนาช้ากว่าไทย อีกทั้งราคาเชื้อเพลิงยังถูกทำให้ยากต่อการเปิดตลาด HEV และ BEV แต่ล่าสุดทาง TOYOTA อินโดเริ่มจะลงทุนประกอบ HEV ในอินโดแล้วนับว่าตามหลังไทยเป็นสิบปี ส่วนที่ TESLA ไปลงทุนกับเหมืองอะไรนั่นมันไร้สาระครับ อย่างมากก็ผลิตแบตแต่ไม่ใช่การผลิตรถ ในบรรดารถยนต์ทั้งหลายที่มีโรงประกอบในประเทศไทยและอินโดนีเซียมีเพียง Suzuki เท่านั้นที่อินโดเป็น Lead plant ในภูมิภาคนี้ที่เหลือโรงงานไทยคือ Lead plant ทั้งหมด เมื่อไทยเป็น Lead plant ก็หมายความว่ามีเทคโนโลยีเหนือกว่า มีห่วงโซ่อุปทานกว้างกว่า มีการลงทุนจาก Supplier มากกว่า และที่สำคัญที่สุดจะได้ประกอบรถที่มีเทคโนโลยีใหม่ๆก่อนประเทศอื่นรวมทั้งเป็นฐานผลิตเพื่อส่งออกจาก ASEAN ด้วยเช่นกัน

ย้ำอีกครั้งว่าต้นทุนส่วนใหญ่ของรถยนต์ไม่ใช่ค่าแรง ต้นทุนส่วนใหญ่ของรถยนต์คือการลงทุนในเทคโนโลยีการผลิต เพราะฉะนั้นฐานผลิตรถยนต์ที่สำคัญมันจึงอยู่ในประเทศที่ค่าแรงสูงกว่าแต่มีเทคโนโลยีเหนือกว่า การลงทุนของอุตยานยนต์มันก็จะเกิดในประเทศที่มีเทคโนโลยีสูงกว่า ตลาดใหญ่กว่า เวียดนามไม่มีทางแซงไทยกับอินโดนีเซียได้ แต่อินโดไม่แน่อาจจะแซงไทยได้ถ้ากระตุ้นตลาดในประเทศให้โตกว่านี้ซักเท่าตัวได้สำเร็จ

ออฟไลน์ muzaa

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 494
1. Vietnam
  เอาแค่ Infrastructure ในการขึ้นโรงงานเอาแบบโรงงานที่ไม่ต้องเทคโนโลยีอะไรมากมายลองศึกษาก่อนนะครับว่า Infrastructure โดยเฉพาะในเมืองไกลๆที่ไม่ใช่ HOCHIMIN CITY เป็นอย่างไรบ้าง มีความพร้อมหรือไม่ลองไปศึกษาดูครับ
2. Indonesia
   คุณภาพการประกอบลองไปศึกษาก่อนนะครับว่าเป็นอย่างไร เพื่อนผมเคย Reject 530I E39  รถประกอบ Indonesia  3 คันรวดจากคุณภาพการประกอบแล้วเปลี่ยนใจมาเอา 523i sport ckd แทนเพราะงานเรียบร้อยกว่าเยอะ ถึงแม้ว่าปัจจุบันคุณภาพประกอบจะดีขึ้นแต่ทำไม Captiva ตัวสุดท่้ายที่ประกอบ INDO ทาง GM ต้อง QC แบบถี่ยิบมากกว่ารถประกอบในประเทศลองพิจารณาให้ดีๆครับว่าคุณภาพการประกอบรถยนต์เหมาะสมลงทุนหรือไม่นอกเหนือจาก Volume ภายในต่อปีที่มีเยอะมากครับ

ออฟไลน์ muzaa

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 494
สาเหตุที่เวียดนาม อินโดนีเซีย น่าลงทุนกว่าไทยก็เพราะว่า…..

เวียดนาม มี Vinfast
อินโดนีเซีย มี เหมืองแร่ที่ใช้ทำแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า
ในไทย ซึ่งได้เปรียบกว่า ทำให้ Tesla ในอาเซียนตั้งโรงงานผลิตรถ Tesla ในอินโดนีเซียเลยครับ

มี VINFAST แปลว่าน่าลงทุน ?
VINFAST ผลิตและขายได้ปีละกี่คันครับ พิจารณาให้ดี ไม่ใช่มี ก็คือมีแต่ยอดขายเป็นอย่างที่เห็นก็ไม่ได้ช่วยอะไรครับ และหากรัฐบาล vietnam จะ support เหมือน Malaysia Support Proton ถ้าเป็นแบบนั้นจะมีมาตราการกีดกันค่านรถต่างชาติในการตั้งโรงงานยิ่งกว่านี้อีกครับลองไปศึกษาช่วงที่ Proton เกิดใหม่ๆใน Malaysia นะครับว่ามีมาตราการปกป้อง Local อย่างไรก่อนที่ค่ายรถจะไปขอลงทุนในยุคนั้นครับ

ออฟไลน์ F.I.P.G.

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 114
2 ประเทศนั้น.....ใช่ครับ

ก่อนที่จะเข้าสู่เหตุผล อยากให้ทุกท่าน พิจารณาทั้ง 2 ล้อ และ 4 ล้อนะครับ
ปล. พยายามจับตา 2 ล้อไว้

เหตุผลที่ 2 ประเทศนั้นมีความน่าลงทุน
- บ้านเรากำลังเข้าสู่วัยสูงอายุ อัตราการเกิดเราน้อยลงไปเรื่อยๆ = ความต้องการลดลง
- ประชากรเขา มีแต่คนหนุ่มสาว และกำลังจะเป็นกลุ่มใหญ่ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
- นโยบายภาครัฐ 2 ประเทศนั้น กำลังเชิญชวนอย่างมาก เช่น เวียตนามส่งเสริมให้เรียนภาษาที่ 3 แบบจริงจัง
รวมถึงพัฒนาบุคลากรเพื่อเข้าสู่ระบบอุตสาหกรรม
(REF: http://www.aseanthai.net/mobile_detail.php?cid=4&nid=5758)

บริษัทที่เคยตั้งก่อนหน้านี้ก็แล้ว ยังอยู่คงเดิม (แต่ไม่โต=การลงทุนเทคใหม่น้อยลง เอาเม็ดเงินไปลงที่อื่น)
การเปลี่ยนแปลงที่สังเกตุได้ และค่อยๆคืบคลานมาทีละนิดๆ จะพบว่า

- MODEL

>>> ความหลากของ Segment รถ 4 ล้ออาจจะไม่เท่าไหร่
แต่ถ้าไปดู 2 ล้อ จะพบว่าประเทศดังกล่าว มีความหลากหลายสูงมาก
และมี "ยอดขายที่น่าพอใจ" อารมณ์เหมือนบ้านเรา
เมื่อ 15-20 ปีที่แล้วที่รถแปลกๆจะฮิตมาก

>>> ใช้ฐานผลิตของ 2 ประเทศนั้น เริ่มทำเป็น Global Model มากขึ้น (ลองศึกษาได้เลยครับ)



- R&D (จับตา)

>>>> สิ่งที่เราเคยว่าฝันไว้ว่า บ้านเราจะมีเครื่องจักรชิ้นใหม่ คือ งานวิจัยเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
พบว่าช่วง 5 ปีที่ผ่านมา งานวิจัยของ บ.ยานยนต์ บ้านเราถูกลดความสำคัญลง

>>>> 2-3 ปีที่ผ่านมา บริษัทแนวนี้รับแต่ Mid-career แถมเป็นแบบ contract
ทั้งๆที่ก่อนหน้า ตั้ง openhouse รับแต่เด็กจบใหม่อย่างเดียว หรือถ้ารับเด็กใหม่จริง
ก็มาเพื่อทดแทน ไม่ได้รับเพื่อขยายทีม

>>>> คนจาก อินโดนิเซีย เวียตนาม อินเดีย บังคลาเทศ ศรีลังกา  เข้ามาประจำอยู่ที่ศูนย์ R&D มากขึ้น 
เริ่มมีการถ่ายทอดวิทยาการทางเทคนิคต่างๆ ไปยังที่คาดว่าจะมีกำลังซื้อใหม่ในอนาคตขึ้นเรื่อยๆ 

>>>> ส่วนงานบ้านเราตอนนี้แค่ประคองตัวเมื่อก่อนอาจจะเคยขึ้น Clay Model กำหนด Concept การพัฒนารถได้หลายรุ่น  แต่ต่อไป เราอาจจะเหลือแค่รับพิมพ์เขียวมา เพื่อ Localize ชิ้นส่วนต่างๆให้เข้ากับโรงงานบ้านเราครับ

ปล.
1. แม้คุณภาพการประกอบบ้านเราจะเนี๊ยบ เป็นที่ยอมรับในสายตาต่างชาติ แต่ถ้ายังมีบางส่วนที่ยังทุบหม้อข้าวตัวเองวางยาสินค้า เพื่อเรียกร้องโบนัสสม่ำเสมอ ถึงวันนั้น บริษัทต่างๆ อาจจะลดความสำคัญลง ให้บ้านเหลือแค่ส่วนที่เป็น Trading (Sale and Service) ก็ได้ครับ

แม้วันนี้คนจะแย่ แต่ถ้าให้รายได้ดี เขาก็ยอมไปเสียเวลานิดนึงเพื่อพัฒนาคน เดี๋ยวทุนที่ลงไปก็ได้คืนครับ

2. เป็นห่วง Generation ใหม่ที่ความหลากหลายของงานยานยนต์จะลดลงครับ

3. ให้จับตาแบรนด์หลักเป็นสำคัญนะครับ!!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 17, 2021, 23:55:13 โดย F.I.P.G. »

ออฟไลน์ bodin

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 994
ด้านรถยนต์น่าลงทุนกว่ามากครับ ประชากรเราอยู่ในขาลง+เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ

ใน กทม.ก็สร้างรถไฟฟ้าหลายสายโยงกันเป็นแมงมุมถ้าใช้รถไฟฟ้าไปทำงานได้ก็ไม่ต้องซื้อรถ

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,333
ต้องดูว่าใครเป็นคนลงทุน ถ้าเป็นญี่ปุ่นคงไม่ย้ายแน่นอน

เพราะคนไทยปกครองง่าย แต่ถ้าคนไทยด้วยกันฟัดกันเอาตาย
เป็นเหตุผลนึงที่ไทยขายรถแพง แต่โล้นตัดเล็กตัดน้อยก็เอา
สู้เค้าไม่ได้ก็ขอเก่งกับคนไทยด้วยกันเองนี่แหละ

ออฟไลน์ Smith686

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,949
    • อีเมล์
       เศรษฐกิจเวียตนามกำลังโตขึ้นเรื่อยๆ  ส่วนไทยที่ผ่านมาค่อนข้างจะทรงตัว  เจอโควิดเข้าไป ปีนี้น่าจะติดลบ  อีก 10 ปีข้างหน้าเวียตนามอาจจะแซงไทย

https://statisticstimes.com/economy/projected-world-gdp-ranking.php

       หอการค้าไทย ชี้ โควิดยืดเยื้อ ฉุดเศรษฐกิจไทยทรุดหนัก ส่อติดลบ 2-4%
https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88/153437

ออฟไลน์ Smith686

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,949
    • อีเมล์
          เวียดนามโชว์ ‘GDP ไตรมาส 2’ โต 6.6% ขยายตัวเด่นสุดในอาเซียน แม้เผชิญหน้ากับโควิดกลายพันธุ์

https://thestandard.co/vietnam-show-gdp-on-second-quarter-grew-6-6-percents/

ออฟไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,006
    • อีเมล์
เดียวนะ VinFast กำลังเอาตัวเองไปเข้าตลาดหุ้นสหรัฐฯนะครับ ...

ทำไมไม่ลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนามอะ ไปลงอเมริกาทำไมละหือ ...

ถ้าเวียดนามน่าลงทุนอย่างที่ว่ามา VinFast ทำไมไม่ระดมทุนในประเทศตัวเอง เหาะไปอเมริกาทำไม ...


ออฟไลน์ Niti

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,033
  • Live is short. Live it!
ตอบเฉพาะเวียดนามนะครับ พอดีเคบทำงานอยุ่ที่โน่นหลายปี

ด้านฝั่งยานยนต์ ยังมี demand อีกเยอะแน่ เพราะเศรษฐกิจดี ประชากรเกือบ 100ล แล้ว คนยังมีเงินและความสามารถในการกู้ ตอน hamburger crisis นี่เขาไม่ยุบเลยนะครับ โตเอาด้วย แต่รอบนี้เป็นเรื่องสุขภาพก็ช้าลงบ้าง คนที่ผมรู้จักเขยิบตัวเองขึ้นจาก 2 ล้อ มาเป็น 4 ล้อ เกินครึ่งในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา

ข้อจำกัดของเขาคือหัวเมืองหลัก Hanoi Ho Chi Minh ถนนย่านกลางเมือง 80-90% จะยังค่อนข้างเล็ก แต่มีการปรับขยายบางเส้น และสร้างถนนวงแหวนแล้ว ที่จอดรถส่วนมากก็ยังเน้นสำหรับ 2 ล้อเป็นหลักครับ ตรงนี้ก็ต้องปรับอีก
-------------------------------------------------------------
In: 350Z DE / New Fortuner TRD / Harrier XU60*2 / Alphard AH30
Out: Miata NC RHT / 86 / IS250
-------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ mongolias

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,364
ไม่เคยไปเวียดนามเลยขอไม่ออกความเห็นนะครับ

ส่วนอินโดฯ ยังตามหลังบ้านเราค่อนข้างเยอะครับ infrastructure ที่โน่น ยังสู้บ้านเราไม่ได้ครับ
สิ่งที่ดีของอินโดฯ คือค่าแรงถูกครับ แต่เรื่องคุณภาพการประกอบยังสู้บ้านเราไม่ได้ครับ
ตัวผมมองว่าถ้าจะไปลงทุน คงเพื่อเน้นยอดขายภายในประเทศก่อน เรื่องส่งออกต้องพัฒนาอีกพอสมควรครับ

ออฟไลน์ delete

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,961
    • อีเมล์
tesla ยังไม่ได้ลงทุนอะไรในอินโดแม้แต่เหรียญเดียวนะคนับ
แต่เซ็น mou กันเฉยๆ (หาข้อสรุปกันอยู่ ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุป)

แม้แต่อินเดีย เทสล่าก็ยังไม่ลงทุนอะไรทั้งสิ้น

และล่าสุดของล่าสุด เทสล่าเพิ่งลงนามสั่งซื้อแร่นิกเกิลและลิเทียม(เดิมสั่งลิเทียมอยู่แล้ว) จาก BHP ในเหมืองแร่ที่ออสเตรเลียไป

ถ้าใช้ตรรกะว่า เทสล่าจะทำรง.แบตที่อินโด ดังนั้นอินโดจะได้รง.ประกอบรถยนต์ไปด้วย
ก็ต้องใช้กับออสเตรเลียได้ เทสล่าตั้งรง.ประกอบรถยนต์ที่ออสเตรเลียไม่ดีกว่ารึ โดยที่ค่าแรงไม่ใช่ปัจจัยหลักที่ทำให้ตัดสินใจ

ผมว่าอินโดกับเทสล่า รอให้มีความคืบหน้ามากกว่านี้ก่อนดีกว่าคนับค่อยฟันธง

ออฟไลน์ Sazabi

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 330
2 ประเทศนั้น.....ใช่ครับ

ก่อนที่จะเข้าสู่เหตุผล อยากให้ทุกท่าน พิจารณาทั้ง 2 ล้อ และ 4 ล้อนะครับ
ปล. พยายามจับตา 2 ล้อไว้

เหตุผลที่ 2 ประเทศนั้นมีความน่าลงทุน
- บ้านเรากำลังเข้าสู่วัยสูงอายุ อัตราการเกิดเราน้อยลงไปเรื่อยๆ = ความต้องการลดลง
- ประชากรเขา มีแต่คนหนุ่มสาว และกำลังจะเป็นกลุ่มใหญ่ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
- นโยบายภาครัฐ 2 ประเทศนั้น กำลังเชิญชวนอย่างมาก เช่น เวียตนามส่งเสริมให้เรียนภาษาที่ 3 แบบจริงจัง
รวมถึงพัฒนาบุคลากรเพื่อเข้าสู่ระบบอุตสาหกรรม
(REF: http://www.aseanthai.net/mobile_detail.php?cid=4&nid=5758)

บริษัทที่เคยตั้งก่อนหน้านี้ก็แล้ว ยังอยู่คงเดิม (แต่ไม่โต=การลงทุนเทคใหม่น้อยลง เอาเม็ดเงินไปลงที่อื่น)
การเปลี่ยนแปลงที่สังเกตุได้ และค่อยๆคืบคลานมาทีละนิดๆ จะพบว่า

- MODEL

>>> ความหลากของ Segment รถ 4 ล้ออาจจะไม่เท่าไหร่
แต่ถ้าไปดู 2 ล้อ จะพบว่าประเทศดังกล่าว มีความหลากหลายสูงมาก
และมี "ยอดขายที่น่าพอใจ" อารมณ์เหมือนบ้านเรา
เมื่อ 15-20 ปีที่แล้วที่รถแปลกๆจะฮิตมาก

>>> ใช้ฐานผลิตของ 2 ประเทศนั้น เริ่มทำเป็น Global Model มากขึ้น (ลองศึกษาได้เลยครับ)



- R&D (จับตา)

>>>> สิ่งที่เราเคยว่าฝันไว้ว่า บ้านเราจะมีเครื่องจักรชิ้นใหม่ คือ งานวิจัยเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
พบว่าช่วง 5 ปีที่ผ่านมา งานวิจัยของ บ.ยานยนต์ บ้านเราถูกลดความสำคัญลง

>>>> 2-3 ปีที่ผ่านมา บริษัทแนวนี้รับแต่ Mid-career แถมเป็นแบบ contract
ทั้งๆที่ก่อนหน้า ตั้ง openhouse รับแต่เด็กจบใหม่อย่างเดียว หรือถ้ารับเด็กใหม่จริง
ก็มาเพื่อทดแทน ไม่ได้รับเพื่อขยายทีม

>>>> คนจาก อินโดนิเซีย เวียตนาม อินเดีย บังคลาเทศ ศรีลังกา  เข้ามาประจำอยู่ที่ศูนย์ R&D มากขึ้น 
เริ่มมีการถ่ายทอดวิทยาการทางเทคนิคต่างๆ ไปยังที่คาดว่าจะมีกำลังซื้อใหม่ในอนาคตขึ้นเรื่อยๆ 

>>>> ส่วนงานบ้านเราตอนนี้แค่ประคองตัวเมื่อก่อนอาจจะเคยขึ้น Clay Model กำหนด Concept การพัฒนารถได้หลายรุ่น  แต่ต่อไป เราอาจจะเหลือแค่รับพิมพ์เขียวมา เพื่อ Localize ชิ้นส่วนต่างๆให้เข้ากับโรงงานบ้านเราครับ

ปล.
1. แม้คุณภาพการประกอบบ้านเราจะเนี๊ยบ เป็นที่ยอมรับในสายตาต่างชาติ แต่ถ้ายังมีบางส่วนที่ยังทุบหม้อข้าวตัวเองวางยาสินค้า เพื่อเรียกร้องโบนัสสม่ำเสมอ ถึงวันนั้น บริษัทต่างๆ อาจจะลดความสำคัญลง ให้บ้านเหลือแค่ส่วนที่เป็น Trading (Sale and Service) ก็ได้ครับ

แม้วันนี้คนจะแย่ แต่ถ้าให้รายได้ดี เขาก็ยอมไปเสียเวลานิดนึงเพื่อพัฒนาคน เดี๋ยวทุนที่ลงไปก็ได้คืนครับ

2. เป็นห่วง Generation ใหม่ที่ความหลากหลายของงานยานยนต์จะลดลงครับ

3. ให้จับตาแบรนด์หลักเป็นสำคัญนะครับ!!

พื้นฐานของ 2 ล้อและ 4 ล้อต่างกันเยอะครับ

2 ล้อต้นทุนไปตกที่ค่าแรงพอสมควร ชิ้นส่วนน้อย เทคโนโลยีต่ำ ความปลอดภัยไม่เน้นมาก ราคาไม่แพง กำไรต่ำ ตลาดเน้นประเทศที่มีประชากรมาก ยิ่งประชากรมากยิ่งขายได้เยอะเพราะราคาไม่แพง เพราะฉะนั้นมันเป็นอุตสาหกรรมที่มีโอกาสย้ายฐานได้เร็วกว่า ประเทศไหนค่าแรงถูก คนเยอะ ยอดขายเยอะมันก็ไปที่นั่นเพราะ 2 ล้อเทคโนโลยีมันต่ำไหลไปได้เร็ว

4 ล้อต้นทุนไม่ได้อยู่ที่ค่าแรงแต่อยู่ที่เทคโนโลยีการผลิต ชิ้นส่วนเยอะมาก เทคโนโลยีสูง เน้นความปลอดภัย ราคาแพง กำไรมาก ตลาดเน้นประเทศที่มีกำลังซื้อ ประชากรมากกว่าแต่กำลังซื้อต่ำก็อาจขายได้เท่าประเทศที่มีประชากรน้อยกว่าแต่กำลังซื้อสูง ยกตัวอย่างเวียดนามประชากรมากกว่าไทยแต่ยอดขายรถยนต์น้อยกว่าไทยเกินเท่าตัว อินโดนีเซียประชากรมากกว่าไทย 3 เท่าแต่ยอดขายรถยนต์เท่ากับประเทศไทย อุตสาหกรรมนี้แทบไม่มีการย้ายฐานยิ่งประเทศที่มีทั้งตลาดในประเทศที่ดีและส่งออกได้เยอะยิ่งไม่มีการย้ายออกมีแต่เติบโตมากขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่เกี่ยวกับค่าแรงเพราะทุกวันนี้อเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น จีน ที่มีค่าแรงสูงปรี๊ดก็ยังเป็นฐานผลิตรถยนต์ 4 ล้อที่สำคัญที่สุดของโลกกันทั้งหมด

เผอิญว่าเว็บนี้เค้าเน้น 4 ล้อไม่ใช่ 2 ล้อ เพราะฉะนั้นเวียดนามจะน่าลงทุนกว่าไทยก็ต่อเมื่อตลาดรถยนต์ใหญ่เท่าประเทศไทย และมีเทคโนโลยีการผลิตในระดับเดียวกันเท่านั้น ถ้ายังทำไม่ได้ก็ไม่มีใครอยากไป Localize อุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์ที่นั่น ยิ่งชิ้นส่วนที่ใช้เทคโนโลยีสูงๆยิ่งไม่มีเพราะขนาดประเทศไทยตอนนี้ยังยากเพราะขนาด Volume ที่ไทยผลิตทั้งขายในประเทศและส่งออกไปหลายๆประเทศมันก็ยังไม่คุ้มการลงทุน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 18, 2021, 10:46:47 โดย Sazabi »

ออฟไลน์ masuoka

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,156
รอดูสงครามอิทธิพลเศรษฐกิจอเมริกากับจีนในทะเลจีนใต้เลยครับ ตอนนี้อเมริกาเริ่มลุกหนักในอาเซียนแล้ว แถมขู่เป็นนัยๆให้อาเซียนเลือกข้าง อาเซียนอาจจะวงแตกก็คราวนี้แหละครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 18, 2021, 10:46:12 โดย masuoka »

ออฟไลน์ F.I.P.G.

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 114
2 ประเทศนั้น.....ใช่ครับ

ก่อนที่จะเข้าสู่เหตุผล อยากให้ทุกท่าน พิจารณาทั้ง 2 ล้อ และ 4 ล้อนะครับ
ปล. พยายามจับตา 2 ล้อไว้

เหตุผลที่ 2 ประเทศนั้นมีความน่าลงทุน
- บ้านเรากำลังเข้าสู่วัยสูงอายุ อัตราการเกิดเราน้อยลงไปเรื่อยๆ = ความต้องการลดลง
- ประชากรเขา มีแต่คนหนุ่มสาว และกำลังจะเป็นกลุ่มใหญ่ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
- นโยบายภาครัฐ 2 ประเทศนั้น กำลังเชิญชวนอย่างมาก เช่น เวียตนามส่งเสริมให้เรียนภาษาที่ 3 แบบจริงจัง
รวมถึงพัฒนาบุคลากรเพื่อเข้าสู่ระบบอุตสาหกรรม
(REF: http://www.aseanthai.net/mobile_detail.php?cid=4&nid=5758)

บริษัทที่เคยตั้งก่อนหน้านี้ก็แล้ว ยังอยู่คงเดิม (แต่ไม่โต=การลงทุนเทคใหม่น้อยลง เอาเม็ดเงินไปลงที่อื่น)
การเปลี่ยนแปลงที่สังเกตุได้ และค่อยๆคืบคลานมาทีละนิดๆ จะพบว่า

- MODEL

>>> ความหลากของ Segment รถ 4 ล้ออาจจะไม่เท่าไหร่
แต่ถ้าไปดู 2 ล้อ จะพบว่าประเทศดังกล่าว มีความหลากหลายสูงมาก
และมี "ยอดขายที่น่าพอใจ" อารมณ์เหมือนบ้านเรา
เมื่อ 15-20 ปีที่แล้วที่รถแปลกๆจะฮิตมาก

>>> ใช้ฐานผลิตของ 2 ประเทศนั้น เริ่มทำเป็น Global Model มากขึ้น (ลองศึกษาได้เลยครับ)



- R&D (จับตา)

>>>> สิ่งที่เราเคยว่าฝันไว้ว่า บ้านเราจะมีเครื่องจักรชิ้นใหม่ คือ งานวิจัยเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
พบว่าช่วง 5 ปีที่ผ่านมา งานวิจัยของ บ.ยานยนต์ บ้านเราถูกลดความสำคัญลง

>>>> 2-3 ปีที่ผ่านมา บริษัทแนวนี้รับแต่ Mid-career แถมเป็นแบบ contract
ทั้งๆที่ก่อนหน้า ตั้ง openhouse รับแต่เด็กจบใหม่อย่างเดียว หรือถ้ารับเด็กใหม่จริง
ก็มาเพื่อทดแทน ไม่ได้รับเพื่อขยายทีม

>>>> คนจาก อินโดนิเซีย เวียตนาม อินเดีย บังคลาเทศ ศรีลังกา  เข้ามาประจำอยู่ที่ศูนย์ R&D มากขึ้น 
เริ่มมีการถ่ายทอดวิทยาการทางเทคนิคต่างๆ ไปยังที่คาดว่าจะมีกำลังซื้อใหม่ในอนาคตขึ้นเรื่อยๆ 

>>>> ส่วนงานบ้านเราตอนนี้แค่ประคองตัวเมื่อก่อนอาจจะเคยขึ้น Clay Model กำหนด Concept การพัฒนารถได้หลายรุ่น  แต่ต่อไป เราอาจจะเหลือแค่รับพิมพ์เขียวมา เพื่อ Localize ชิ้นส่วนต่างๆให้เข้ากับโรงงานบ้านเราครับ

ปล.
1. แม้คุณภาพการประกอบบ้านเราจะเนี๊ยบ เป็นที่ยอมรับในสายตาต่างชาติ แต่ถ้ายังมีบางส่วนที่ยังทุบหม้อข้าวตัวเองวางยาสินค้า เพื่อเรียกร้องโบนัสสม่ำเสมอ ถึงวันนั้น บริษัทต่างๆ อาจจะลดความสำคัญลง ให้บ้านเหลือแค่ส่วนที่เป็น Trading (Sale and Service) ก็ได้ครับ

แม้วันนี้คนจะแย่ แต่ถ้าให้รายได้ดี เขาก็ยอมไปเสียเวลานิดนึงเพื่อพัฒนาคน เดี๋ยวทุนที่ลงไปก็ได้คืนครับ

2. เป็นห่วง Generation ใหม่ที่ความหลากหลายของงานยานยนต์จะลดลงครับ

3. ให้จับตาแบรนด์หลักเป็นสำคัญนะครับ!!

พื้นฐานของ 2 ล้อและ 4 ล้อต่างกันเยอะครับ

2 ล้อต้นทุนไปตกที่ค่าแรงพอสมควร ชิ้นส่วนน้อย เทคโนโลยีต่ำ ความปลอดภัยไม่เน้นมาก ราคาไม่แพง กำไรต่ำ ตลาดเน้นประเทศที่มีประชากรมาก ยิ่งประชากรมากยิ่งขายได้เยอะเพราะราคาไม่แพง เพราะฉะนั้นมันเป็นอุตสาหกรรมที่มีโอกาสย้ายฐานได้เร็วกว่า ประเทศไหนค่าแรงถูก คนเยอะ ยอดขายเยอะมันก็ไปที่นั่นเพราะ 2 ล้อเทคโนโลยีมันต่ำไหลไปได้เร็ว

4 ล้อต้นทุนไม่ได้อยู่ที่ค่าแรงแต่อยู่ที่เทคโนโลยีการผลิต ชิ้นส่วนเยอะมาก เทคโนโลยีสูง เน้นความปลอดภัย ราคาแพง กำไรมาก ตลาดเน้นประเทศที่มีกำลังซื้อ ประชากรมากกว่าแต่กำลังซื้อต่ำก็อาจขายได้เท่าประเทศที่มีประชากรน้อยกว่าแต่กำลังซื้อสูง ยกตัวอย่างเวียดนามประชากรมากกว่าไทยแต่ยอดขายรถยนต์น้อยกว่าไทยเกินเท่าตัว อินโดนีเซียประชากรมากกว่าไทย 3 เท่าแต่ยอดขายรถยนต์เท่ากับประเทศไทย อุตสาหกรรมนี้แทบไม่มีการย้ายฐานยิ่งประเทศที่มีทั้งตลาดในประเทศที่ดีและส่งออกได้เยอะยิ่งไม่มีการย้ายออกมีแต่เติบโตมากขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่เกี่ยวกับค่าแรงเพราะทุกวันนี้อเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น จีน ที่มีค่าแรงสูงปรี๊ดก็ยังเป็นฐานผลิตรถยนต์ 4 ล้อที่สำคัญที่สุดของโลกกันทั้งหมด

เผอิญว่าเว็บนี้เค้าเน้น 4 ล้อไม่ใช่ 2 ล้อ เพราะฉะนั้นเวียดนามจะน่าลงทุนกว่าไทยก็ต่อเมื่อตลาดรถยนต์ใหญ่เท่าประเทศไทย และมีเทคโนโลยีการผลิตในระดับเดียวกันเท่านั้น ถ้ายังทำไม่ได้ก็ไม่มีใครอยากไป Localize อุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์ที่นั่น ยิ่งชิ้นส่วนที่ใช้เทคโนโลยีสูงๆยิ่งไม่มีเพราะขนาดประเทศไทยตอนนี้ยังยากเพราะขนาด Volume ที่ไทยผลิตทั้งขายในประเทศและส่งออกไปหลายๆประเทศมันก็ยังไม่คุ้มการลงทุน

ขอบคุณสำหรับมุมมองครับ

จากความเห็นของคุณ Sazabi เป็นอีกความเห็นนึงที่น่าสนใจครับ  ข้อมูลที่ผมมีเชื่อว่าเวลาบริษัทเหล่านี้มอง เขามองภาพใหญ่แบบมากๆ ของทุกอย่างที่คิดว่ามั่นคงตอนนี้ อาจจะไม่มั่นคงในอนาคต  หรืออาจจะพลิกกลับกลายเป็นเราดีกว่าเก่า อันนี้ต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ครับ

ผมเชื่อว่าบางท่านที่เขามาอ่านในที่อยู่ในแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์อยู่แล้ว น่าจะเจอทางหนีทีไล่กันบ้างแล้ว ขอให้ทุกท่านมีความสุขและพัฒนาทักษะให้เป็นที่ต้องการของตลาดต่อไปครับ

ออฟไลน์ BN`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,067
ส่วนตัวผมมองว่าน่าลงทุนในเวียดนามครับ ตอนนี้หลายประเภทโรงงานอุตสาหกรรมระดับโลกก็ย้ายไปตั้งฐานผลิตที่เวียดนามแล้ว

ออฟไลน์ Sazabi

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 330

ขอบคุณสำหรับมุมมองครับ

จากความเห็นของคุณ Sazabi เป็นอีกความเห็นนึงที่น่าสนใจครับ  ข้อมูลที่ผมมีเชื่อว่าเวลาบริษัทเหล่านี้มอง เขามองภาพใหญ่แบบมากๆ ของทุกอย่างที่คิดว่ามั่นคงตอนนี้ อาจจะไม่มั่นคงในอนาคต  หรืออาจจะพลิกกลับกลายเป็นเราดีกว่าเก่า อันนี้ต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ครับ

ผมเชื่อว่าบางท่านที่เขามาอ่านในที่อยู่ในแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์อยู่แล้ว น่าจะเจอทางหนีทีไล่กันบ้างแล้ว ขอให้ทุกท่านมีความสุขและพัฒนาทักษะให้เป็นที่ต้องการของตลาดต่อไปครับ

จริงๆแล้วสำหรับ 4 ล้อช่วง 2-3 ปีข้างหน้าก็จะมีแผนไปประกอบที่เวียดนามมากขึ้นนิดหน่อย แต่จะไปในลักษณะส่งชิ้นส่วนจากไทยไปประกอบไม่ได้ไปกันทั้งยวงห่วงโซ่อุปทาน และสาเหตุที่จะมีการย้ายไปประกอบที่เวียดนามมากขึ้นก็เป็นเพราะสำหรับรถยนต์หลายๆยี่ห้อโรงงานในประเทศไทยจะเพิ่มความสำคัญมากขึ้น ทั้งขยายขนาดการเป็นฐานผลิตเพื่อส่งออก รวมถึงการขยับขึ้นไปประกอบรถยนต์ชนิดใหม่ๆอย่าง HEV มากขึ้น ทำให้ต้องกระจายงานประกอบบางส่วนออกไปให้โรงงานในความดูแลทั้งที่อินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม เพื่อไม่ให้งานที่ไทยโหลดมากเกินไป