ผู้เขียน หัวข้อ: Mazda 2 1.5 Diesel มือสอง ตอนนี้ยังน่าเล่นไหมครับ  (อ่าน 15510 ครั้ง)

ออฟไลน์ ทาสแมว

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 161
  • twinair turbo engine
    • อีเมล์
Mazda 2 1.5 Diesel มือสองยังน่าเล่นไหมครับ รถปี 17-18

พอดีมีความคิดอยากจะเปลี่ยนรถ จาก City 2016 ไป Mazda 2 Diesel  Y 17-18

มีใครใช้ Mazda 2 Diesel อยู่บ้างไหมครับ แล้วมีปัญหาเยอะไหม ค่าซ่อม นู่นนี่นั่น จุกจิกไหมครับ  ::)

อยากได้ข้อมูลก่อนตัดสินใจครับ เพราะ City 2016 ที่ใช้อยู่วิ่ง 4 หมื่นกิโล ไม่เคยมีปัญหาเลย เครื่องยนต์ ระบบไฟ ทุกอย่างดีหมดไม่เคยเจอปัญหาเลยสักครั้ง :D

****

1 . อยากรู้ว่า Mazda 2 Diesel มือสอง ปี 17-18 ควรซื้ออยู่ช่วงราคาเท่าไหร่
2 . ปัญหาที่ต้องเจอมีอะไรบ้าง เยอะไหม (ต้องเตรียมค่าซ่อมอะไรบ้าง) หรือไม่ดีไม่ควรเล่น หนีไป!!!!! ตอบแบบนี้เลยก็ได้นะครับ 5555 ;D
เพิ่มข้อนึง
3 . City 1.5 S-AT ปี 16 สีดำมุก ใช้มา 4 หมื่นกิโล ขายมือน่าจะได้ราคาประมานเท่าไหร่ครับ ตีราคาให้หน่อย ยาง ประกันชั้น1 ภาษี พึ่งต่อเลย สดๆร้อนเลย





ออฟไลน์ PaPaMan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,185
Re: Mazda 2 1.5 Diesel มือสอง ตอนนี้ยังน่าเล่นไหมครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กันยายน 30, 2021, 11:53:39 »
เป็นผมไม่เปลี่ยนครับ city ปี16 วิ่งแค่ 4หมื่น วิ่งน้อยมากครับ แล้ว city gen นี้สวยกว่าตัวใหม่อีก ที่บ้านปี14 ก็ยังใช้ดีครับ เพิ่งเอาไปเคลือบแก้วมาอีกรอบสวยเหมือนใหม่เลยครับ


ปล.ไม่เคยใช้มาซือด่ะครับ

ออฟไลน์ MyName

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 8,145
  • I'm............................
Re: Mazda 2 1.5 Diesel มือสอง ตอนนี้ยังน่าเล่นไหมครับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กันยายน 30, 2021, 12:08:26 »
มาครับ มา เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง

ปัญหาที่ 2 ดีเซล 1.5D มีในตอนนี้ก็มีหลักๆ คือ
- เครื่องสันเร่งไม่ขึ้น อาการคือ เครื่องสั่นจนรู้สึกสั่นสะท้านทั้งคันคล้ายกับวิ่งทางขรุขระ และรถจะเร่งต่อไม่ขึ้น ความเร็วก็คาอยู่แบบนั้น มักเป็นช่วง 80-120 km/h สาเหตุวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญกันมาจาก เขม่า PM ในระบบการเผาไหม้ปกติที่จะถูกกรองไว้ด้วยตัวกรองเขม่า DPF รอการเผากำจัด กำจัดไม่หมดจนมีปัญหาต่อชิ้นส่วนเครื่องยนต์ เช่นฝาวาล์ว หัวฉีด จนทำให้ เกิดการจุดระเบิดผิดปกติในบางสูบ ซึ่งการที่เขม่าพวกนี้ถูกกำจัดไม่หมดมีหลายปัจจัย เช่นสภาพเขม่าเองที่จะเผาโดยความร้อนสูงได้ยากกว่าปกติ สภาพการขับขี่ที่ไม่สามารถใช้ความเร็วได้สูงกว่า 15 km/h ได้นานพอที่จะทำให้รถได้เผาเขม่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรืออื่นๆ
ซึ่งการแก้ไข ถ้าเอาแบบที่พึ่งพาการแก้ไขจากทางการรับประกันคุณภาพของ Mazda เอง ก็มีแค่อัพเดตซอฟแวร์ ECU และโปรแกรมสั่งเผาเขม่า ถ้าหนักก็เคลมชิ้นส่วนที่มีปัญหาเป็นเคสๆ ไป และยังไม่มีการรับประกันในระยะยาวว่าจะหายจริง ก็ต้องเฝ้าระวังกันไปครับ ส่วนมากก็จะเป็นในรถปี 2015-2017 แต่ 2018 ขึ้นไปก็เคยมีเกิดขึ้นมาแล้วบ้างครับแต่น้อยลงมาก ดังนั้นก็ยังคงต้องเฝ้าดูกันต่อไปอยู่
ส่วนวิธีแก้ไขอื่นๆ ที่อาจจะพึ่งพาตัวเอง ก็คืออุดตัดระบบ EGR / DPF นี้ไปเลย ซึ่งก็กำจัดต้นเหตุที่ทำให้เกิดเขม่าไปเลย แต่การที่รถไม่มีเขม่าอันนี้ยังต้องศึกษากันยาวๆ ด้วยเช่นกันว่ามันจะส่งผลอะไรอีกหรือเปล่าครับ
- โช๊ครั่ว อันนี้มักเป็นกับรถ 2015-2016 แต่ก็มีเคลมไปเรื่อยๆ จนตอนนี้ 2017 มาแทบไม่ได้ยินแล้ว แต่ก็ยังมี
- กลอนประตูล็อคมีเสียงดัง อิ๊ด จากข้างในเวลาล็อครถต่างๆ จะได้ยินชัด อันนี้ของผมก็เป็น ส่วนมากเกิดกับรถปี 2015-2017 ก็ได้เคลมชุดกลอนประตูข้างที่ดังไป
- สวิตช์แป้นเบรกมีปัญหา อันนี้เริ่มมีมาหลายคันในรถปี 2015 และมีบางคันของ 2​018 ก็เคยเกิดปัญหา​นี้ มีอาการคือสตาร์ทยากขึ้น แป้นเบรกแข็ง หรือถ้าสตาร์ทได้ก็มี ไฟ i-stop กระพริบ + ไฟกันลื่นมีปัญหาสี ส้มติดค้าง โชว์คู่กัน ถ้ารถหมดแงประกันแล้วก็สามรถเปลี่ยนเองได้เลยครับ เบิกอะไหล่มา 700 กว่าบาท
- กระจกมองข้างพับกางไม่สุด อันนี้ 2017 ขึ้นไปยันรถขายใหม่ตอนนี้ที่เป็นกระจกดีไซน์ไฟเลี้ยวเส้นเป็นกันเยอะ หลายคนบอกเกิดจากน้ำที่ฉีดล้างเข้ากระจก แต่จำนวนก็เพิ่มขึ้นกันรายวัน บางคันไม่เคยโดนน้ำเลยนอกจากฝนก็เป็น อันนี้เคลมได้ไม่มีปัญหา แต่จะเป็นอีกหรือไม่ยังไม่มีอะไรรับประกันได้
- ไฟ i-Eloop โชว์สีส้มติดค้าง คือชิ้นส่วนระบบ i-Eloop มีปัญหาครับ ไม่ว่าจะกล่อง DC-DC Converter หรือ Capacitor หรือ อื่นๆ อันนี้เป็นได้ไม่เลือกปี เป็นได้หมด 2015-ปัจจุบัน แต่ในส่วนของกล่อง DC-DC Converter ทางศูนย์ก็มีการ recall อยู่ครับ ถ้ารถเข้าข่ายก็จะได้เปลี่ยนกล่องตัวนี้มาเลย อันนี้ถ้ารถเข้าข่ายก็ดีไปครับ เพราะเปลี่ยนให้ฟรีแม้หมดประกัน แต่ถ้ารถหมดประกันก็หน้ามืดเลย 2x,xxx บาท ส่วน Capacitor ให้คิดซะว่ามันคือแบตเตอรี่เก็บไฟลูกนึงที่ใช้เก็บไฟที่ได้จากการแปลงพลังงานหมุนล้อตอนรถชะลอความเร็ว ไม่ช้าก็ไวยังไงก็เสื่อม ราคาก็เกือบๆ 2x,xxx บาทเช่นกันสำหรับของใหม่ศูนย์ แต่ทางเลือกข้างนอกก็เยอะครับ มีตั้งแต่มือ 2 5,xxx หรือมือ 1 ที่ข้างนอกพอหาได้ 1x,xxx ต้นๆ อยู่ หรือถ้าเป็นที่ Capacitor จริง ตอนนี้
- สลิงกระจกหน้าต่างคนขับขาดหรือหลุดจนทำตกราง อาการคือกระจกหน้าต่างคนขับเปิดไม่ได้ หรือกระจกเปิดลงมาแล้วปิดขึ้นไม่ได้ พึ่งมาเจอช่วงรถที่ผลิตหรือออกปลายปี 2019 ที่เป็นตัวหน้าเดิมจนถึงตัวใหม่ minor change 2020 นี้เลย ก็เคลมกันไป ส่วน 2021 มาเริ่มเงียบลงบ้างแล้ว
- ล่าสุด กำลังดังๆ ในตอนนี้เลย พวงมาลัยฝืด หมุนไม่สมูท หมุนแล้วไม่คืนเอง ฝืดตอนหมุนซ้ายมากกว่าหมุนขวา หรืออาจจะเป็นเท่าๆ กัน บางเคสมีเสียงดัง เวลาขับทางไกลต้องอาศัยการแต่งพวงมาลัยเยอะมากจนบางคนบ่นว่าล้าได้เลย มาเจอเยอะๆ ช่วงรถที่ผลิตหรือออกตั้งแต่ปี 2019 ที่เป็นตัวหน้าเดิมจนถึงตัวใหม่ minor change 2020-2021 ตอนนี้เหมือนสลิงกระจกหน้าต่างเลยแต่ต่างกันที่ตอนนี้ยังเป็นอยู่และก่อนหน้านี้มีประปราย ก็เคลมแร็คพวงมาลัยกันไปครับ แต่เคสนี้ได้ข่าวว่ามีครั้งที่ 2-3 มาอีกในบางคัน
ฯลฯ จริงๆ มีอีก แต่รวบรวมมาได้ที่ชัดๆ ก็ประมาณนี้ครับ บางท่านไม่เจอเลยก็มี บางท่านเจอนอกเหนือจากนี้ก็มี

ส่วนการบำรุงรักษา เรื่องค่าอะไหล่นอกจากปัญหา i-Eloop ด้านบน หลักๆ ตอนนี้ที่จะให้เตรียมไว้ก็มี
- แบตเตอรี่ ลูกนึงอยู่ได้เฉลี่ย 1.5-2 ปี แบตเตอรี่ใช้ 65Ah CCA ไม่ต่ำกว่า 520 แต่ฐานเล็ก ดังนั้นหาแบตที่เป็นพวกรหัส Q85 ที่ใช้กับรถที่มี i-stop เฉพาะไว้ก็ดีครับ มีตั้งแต่ใกล้ๆ 2,xxx ไปจนถึงของดีก็ไม่เกิน 2,7xx
- ค่าแรง ถ้ารถยังเข้าศูนย์อยู่ ขอให้รู้ไว้ว่า ชม. นึงใน กทม. ปริมณฑล ตอนนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 700-750 บาท/ชม. แล้วครับ ถ้าอยากได้ถูกกว่านั้นต้องไป ตจว. กันเลยทีเดียว
- ค่าอุดตัด EGR/DPF อันนี้แล้วแต่ความสมัครใจเจ้าของรถ เพราะอย่างที่บอกปัญหาด้านบนไม่ได้เกิดขึ้นทุกคัน แต่บางคนก็อยากตัดต้นตอออกไปซึ่งอาจจะรับกับผลที่จะเกิดขึ้นตามมาภายหลังได้ ซึ่งอันนี้มีหลายเกรดและหลายระดับ อันนี้ต้องไปลองหาข้อมูลในคลับดู แต่สำหรับผมยังไม่ตัดถึงแม้จะเคยเจอปัญหาด้านบนเองมาแล้ว
- ชิ้นส่วนช่วงล่าง อันนี้ไม่ได้ระบุเจาะจงลงไปหรอก เพราะมันมีโอกาสเสียหรือเกิดเสียงในระยะเวลาไม่เกิน 5 ปีแรกได้ทุกชิ้นอยู่แล้ว แค่อยากให้เผื่อตรงนี้ไว้บ้างครับ

ทีนี้ถ้าเจาะจงแค่รถผมเอง ปี 2016 5 ปี 1 เดือน 21 วัน 126,xxx km
- 6 เดือน 13,xxx km เจอรถตัดเข้า safe mode (ไฟ TCS + Engine พร้อมรถ​กระตุก​คล้าย​ล็อค​เกียร์ 2) ดับสตาร์ท​ใหม่​เหลือ​แต่ไฟ Engine เข้า 0 เจอ code P2263 ได้เคลมเทอร์โบมา 1 ครั้งตอน 1 ปี 3 เดือน 32,xxx km และปัจจุบัน 3 ปี 5 เดือน 89,72x km ก็กลับมาเป็นอีก!! ด้วยความที่เข้า 0 ตลอดแม้จะหมดประกันแล้ว ทาง 0 เลยทำเรื่องเคลมฝาครอบวาล์ว (ตามที่ 0 ตรวจพบล่าสุด)​ ในลักษณะ goodwill ให้ ก็ได้เคลมมา ก็ยังต้องเฝ้าระวังกันต่อไป
- 5 เดือน 1x,xxx km เสียงกลอนประตูดังอี๊ด เคลมกลอนข้างขวาหลังตอน 2 ปี 7 เดือน 7x,xxx km และปัจจุบัน​ก็ดังที่ข้างหลังซ้าย
- 1 ปี 11 เดือน 5x,xxx km (จำเวลาแน่นอนไม่ได้ แต่เคลมในระยะเวลาที่เกิดอาการตามนี้)​ ขึ้นเนินมีเสียงคล้ายเหล็กกระแทก ก็เคลมยางรองเบ้าโช๊คมา ปัจจุบัน​ยังไม่ดังอีก
- 1 ปี 9 เดือน 46,xxx km เครื่อง​สั่น​ เร่​งไม่​ขึ้นรอบแรก มีไฟ Engine โชว์ตอนสั่น เข้า 0 เจอ code P0302 ยังไม่ได้เคลมอะไรเป็นชิ้นเป็นอันมานอกจากอัพเดตซอฟแวร์ ECU โปรแกรมเผาเขม่ามา 2 รอบ เป็นเรื่อยๆ อยู่ประมาณ 4 ครั้ง ก่อนที่รอบล่าสุดเป็นตอน 53,xxx km เข้า 0 ก็ทำแบบเดิม ปัจจุบัน​ยังไม่กลับมาอีก ก็ยังต้องเฝ้าระวังเช่นกัน
- 2 ปี 7 เดือน 7x,xxx km พวงมาลัยลอก เคลมไปพร้อมกลอนประตู
- 4 ปี 7 เดือน 11x,xxx km คอยล์ร้อนแอร์รั่ว อาการคือแอร์มีลมเย็นแค่คนขับ คนนั่งลมตามสภาพแวดล้อมเลย ทางศูนย์ทำเรื่องเคลม MST ให้เป็นกรณีพิเศษเนื่องจากมีการดูแลให้เพิ่มเติม 7 ปี กับรถช่วงปี 2015-2016 ซึ่งรถเราเข้าข่าย เลยได้จ่ายแค่ค่าน้ำยาหม้อน้ำที่หายไประหว่างถอดคอยล์ร้อนเท่านั้น
- 4 ปี 8 เดือน 118,xxx km โช๊คหลังซ้ายเริ่มรั่ว ยังไม่ได้เปลี่ยน ช็อตอยู่
- 4 ปี 11 เดือน 122,13x km ไฟ i-Eloop มีปัญหาติด (i-Eloop สีส้มติดค้าง + i-stop สีส้มกระพริบ) ยังไม่ได้เช็คว่าเป็นอะไรระหว่าง 2 อย่างที่บอกในปัญหา แต่ถอดปลั๊ก Capacitor ไว้แล้ว
รถผมก็ประมาณนี้ครับที่เป็นปัญหา ไม่นับอะไหล่สิ้นเปลืองหรือเสื่อมสภาพ​ตามการใช้งาน (ยาง แบต ผ้าเบรก ฯลฯ)

ดังนั้น สรุปเลย การจะซื้อ 2 ดีเซลได้นั้น
1. มั่นใจว่าเป็นคนที่มีความรู้เรื่องการบำรุงรักษาระดับนึง
2. มั่นใจว่าตัวเองได้ใช้งานนอกเมืองเป็นประจำพอที่จะใช้ให้รถสามารถเผาเขม่าได้สมบูรณ์หากไม่ตัด EGR/DPF
3. มั่นใจว่ารับกับอัตราเร่งที่ตอนปลายไม่ได้ดีตามนิสัยดีเซลได้
4. มั่นใจว่ารับกับภายในที่แคบและเบาะที่เล็กไม่ได้นั่งไม่สบายอะไรได้
5. รับกับค่าแรงศูนย์ได้ รับไม่ได้ไปอู่นอก
6. รับได้ว่าถ้ารถเกิดปัญหา การแก้ไขปัญหาหลักๆ อาจจะต้องพึ่งตัวเองเยอะหน่อย หวังการพึ่งพาจากศูนย์ได้ยากนิดนึง
ถ้า 6 ข้อเบื้องต้นนี้โอเค ชอบในรถจริงๆ จัดไปครับ ไม่มีอะไรเกินกว่าการได้ลองพบประสบการณ์กับตัวเองแล้ว
Cars
2022 - Nissan Almera 1.0 Turbo VL
2016 - Mazda 2 1.5XD High Plus L
2008 - Mitsubishi Space Wagon 2.4 GLS Ltd. !User'Review Click here!
1997 - Daihatsu Mira

Motorcycles
2023 - Vespa Sprint S 150 i
2012 - Yamaha Mio 125 GTX

ออฟไลน์ Spada_Valess

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 748
    • อีเมล์
Re: Mazda 2 1.5 Diesel มือสอง ตอนนี้ยังน่าเล่นไหมครับ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กันยายน 30, 2021, 12:22:06 »
ถ้าผมยังไม่มีรถ งบไม่เกิน 5 แสน ตัวนี้ละครับที่ผมจะใช้ ตอนนี้ที่บ้านมีอยู่คันนึงซื้อมือ1 มาปี 2017เป็นรถที่ดีมากคุ้มราคามาก กับราคาเท่านี้ แรงประหยัดขับสนุกมาก ถ้าทำจบแล้วนะครับ
ได้รถมาที่ต้องทำ เตรียมงบไว้ 5 หมื่น อุด egr ปิด dpf เปลี่ยนของเหลว เปลี่ยนวาลน้ำ มีอู่ที่ทำจนชำนาญแล้วจบแน่นอนครับ อยากแรงด้วยเปลี่ยน turbo 1.9 0-200 ไม่เกิน 20วิ กินน้ำมัน 18km/l +
https://www.facebook.com/watch/?ref=search&v=581679556174722&external_log_id=5faf6978-5a58-4dcc-940c-443718c8342f&q=mazda%202%200-
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 30, 2021, 12:24:18 โดย Spada_Valess »

ออฟไลน์ Highway Star

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,934
Re: Mazda 2 1.5 Diesel มือสอง ตอนนี้ยังน่าเล่นไหมครับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กันยายน 30, 2021, 12:43:27 »
ไม่ค่อยน่าเปลี่ยนอะครับกลัวเจ็บตัวไม่คุ้ม หลายด้านที่มาสด้าดีกว่าซิตี้แต่ค่าดูแลความจุกจิกมากกว่าคันเดิมแน่ๆ รถปีใกล้เคียงกันเซกเมนต์เดียวกันรถที่อยู่กับเรามาก่อนแต่อ้อนแต่ออกย่อมดีกว่าแน่ๆครับ ถ้าไม่มีรถหรือยังไม่มีรถเซกเมนต์นี้ก็น่าลองราคาหล่นมาค่อนข้างเยอะครับ

ออฟไลน์ red898

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 206
    • อีเมล์
Re: Mazda 2 1.5 Diesel มือสอง ตอนนี้ยังน่าเล่นไหมครับ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กันยายน 30, 2021, 13:04:45 »
ลองsearch google ดูครับ "mazda 2 diesel ฟ้อง"

ออฟไลน์ I-PULSE

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 977
Re: Mazda 2 1.5 Diesel มือสอง ตอนนี้ยังน่าเล่นไหมครับ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กันยายน 30, 2021, 13:53:47 »
M2 แรงกว่าประหยัดน้ำมันกว่า แต่จุกจิกอยู่นะ ในขณะที่ city แทบไม่ต้องดูแลไรเลยแค่ทำตามรอบไป

ออฟไลน์ Aleister TJ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,004
  • มีเงินเป็นล้านก็ซื้อเมื่อวานไม่ได้ แต่ถ้าร้อยล้านก็ช่างเมื่อวานมันเถอะ
    • อีเมล์
Re: Mazda 2 1.5 Diesel มือสอง ตอนนี้ยังน่าเล่นไหมครับ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กันยายน 30, 2021, 13:59:21 »
ผมใช้ตัว 2016 อยู่ ตอนนี้วิ่งมา 13x,xxx กิโลแล้ว ตั้งแต่ใช้มาเจอปัญหาดังนี้

1. DPF ตัน วิ่งอยู่ดีๆเหยียบคันเร่งไม่ขึ้น เอาไปถอดออก+จูนใหม่ หายเป็นปลิดทิ้งแถมแรงกว่าเดิมเยอะ
2. ทำช่วงล่างใหม่ เนื่องจากช่วงล่างเดิมเอาแรงบิดที่จูนมาเกือบ 400nm ไม่อยู่
3. รถเร่งไม่ขึ้น มีอาการกระตุกตลอดเวลา เปลี่ยนกรองโซล่า หาย
4. เครื่องสั่นมากกว่าเดิม เช็กแล้วยางรองแท่นเครื่องเริ่มเสื่อม ยังไม่ได้ไปเปลี่ยน

นอกนั้นก็ดูแลทั่วไป เปลี่ยน นมค ทุก 10,000 km นมก ทุก 40,000 km เปลี่ยนอะไหล่ช่วงล่างที่เสื่อมสภาพ โดยรวมผมว่ามันไม่จุกจิกเลยนะ แก้ปัญหาใหญ่ๆของมันได้ก็จบ ใช้ยาวๆ ผมอยากขายหลายทีละก็ขายไม่ลง มันแรงและประหยัดน้ำมันแบบโกงมาก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 30, 2021, 14:00:57 โดย Aleister TJ »
My Car History ~

Honda City ZX
Toyota Yaris 1.2E
Mazda3 Skyactive 2.0S
Mazda 2 SkyActiv 1.5 High Plus L
Mitsubishi Pajero Sport 2.4 Elite

ออฟไลน์ Devil13

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,997
Re: Mazda 2 1.5 Diesel มือสอง ตอนนี้ยังน่าเล่นไหมครับ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กันยายน 30, 2021, 14:30:47 »
เปลี่ยนไป มาสด้า ผมว่าต่างไม่เยอะครับ
รถวิ่งน้อย ยังใช้การได้ดี ใช้ต่อเเถอะครับ
ราคามือ 2 เดาว่า 4 แสน (ลองไปดูราคาขายในเวป แล้ว- 5หมื่นบาท)
ถ้าตั้งใจจะขายไม่ควรต่อประกันชั้น 1 ไม่ควรเปลี่ยนยาง หรือทำอะไรทั้งนั้น ยิ่งทำเยอะ ยิ่งหมดเงินเยอะ
ตอนขายไม่มีใครสนใจว่าจะทำอะไรมาเหรอก ตีราคาตามปีและสภาพครับ

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,640
Re: Mazda 2 1.5 Diesel มือสอง ตอนนี้ยังน่าเล่นไหมครับ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กันยายน 30, 2021, 15:28:55 »
ซื้อมาเอาไปถอด DPF ทิ้ง รีแมฟ ปิดระบบสมบูรณ์ไปเลย
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,427
Re: Mazda 2 1.5 Diesel มือสอง ตอนนี้ยังน่าเล่นไหมครับ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: กันยายน 30, 2021, 15:33:00 »
ผมว่า City ยังใช้น้อยอยู่เลยนะครับ ยังไม่น่าเปลี่ยนเลย

ออฟไลน์ ๑ ๒ ๓

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,023
    • ร้าน เอที คอมสำโรง
    • อีเมล์
Re: Mazda 2 1.5 Diesel มือสอง ตอนนี้ยังน่าเล่นไหมครับ
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กันยายน 30, 2021, 15:41:28 »
ถ้าชอบแต่ง ชอบทำ และชอบฟีล มาสด้า  ผมมองว่าคุ้มกับราคา แค่ความเสี่ยงครับ ยิ่งตอนนี้ราคาถูกหรือพอๆกับเบนซินปีเดียวกันซะอีก  และอะไหล่ตอนนี้เกลื่อนมากเลยครับ 

อย่างไฟหน้าแต่ก่อนแพงมากเดี่ยวนี้เกลื่อน 3000-4000 บาท  คาปาฯของใหม่ 22,000 หามือสองดีๆ 3,500 บาท อื่นๆจิปาถะ

มีเพื่อนเยอะ และชอบก็จัดไปครับ
รับซื้อ ขาย ซ่อม แลกเปลี่ยนคอมพิวเตอร์,โน้ตบุ๊ค และอุปกรณ์

ออฟไลน์ GOBBS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,033
Re: Mazda 2 1.5 Diesel มือสอง ตอนนี้ยังน่าเล่นไหมครับ
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: กันยายน 30, 2021, 16:00:19 »
บอกเท่าที่ใช้อยู่นะ รถปี 15 จองตอนมกรา ออกคันแรกๆของตัวนี้เลย ใช้มา 1.5แสนโล วิ่ง ตจว.เป็นหลัก กทม.มีบ้าง
XDL HB ตัว top ตัวแรก ล้อ 16
รถเดิมๆ ยางใช้รุ่นเดิม เบอร์เดิม แม็กเดิม ซื้อเนวีใส่เพิ่ม...
- เรื่องเครื่อง ระบบไฟ IE คาปา DPF EGR ยังไม่เจออะไรครับ เคยเจอไฟเตือนเพราะน้ำมันไม่น่าจะสะอาดตอนลงใต้มารอบ แต่ขับกลับได้ไม่มีปัญหาอะไร ระทึกนิดนึง
- เปลื่ยนยางหุ้มโชคไปรอบ ผุแบบเห็นๆตอน 1.3แสนโล
- แบต ตามที่ข้างบนบอก
- รุ่นแรก เสาไม่ใช่ครีบฉลาม ยางหุ้มเสาวิทยุเริ่มเสื่อม
- เสียงเริ่มเข้าตามขอบประตู ยางขอบประตูเริ่มเสี่อมตามอายุ ... แต่ส่วนตัวคิดว่าดีกว่า Jazz อีกคันที่บ้าน คันนั้น 3ปีดังหมด(ดังแต่ไม่พัง)
- เปลื่ยนสายพาน ตอน 1.1แสนโล
- เปลื่ยนน้ำมันเกียร์ ครั้งแรกที่ 1.3แสนโลครับ(ระทึกดี) เพราะนโยบายเก่านั่นละ...โชคดีมากที่ไม่ลาโลก แนะนำให้เปลื่ยนสัก 6หมื่นโลก็ได้นะ เปลื่ยนแล้วรู้สึกดีขึ้น แต่ก่อนเปลื่ยนก็ไม่ได้แย่อะไร
- ประหยัดน้ำมันจริง แต่ควรเติมพรีเมี่ยมยูโร5 สุดท้ายด้วยค่าน้ำมัน 34บาทต่อลิตร .... ใช้คันอื่นเติม E20 25บาทต่อลิตร จ่ายก็พอๆกันรึเปล่า..แต่แรงบิดตอนขึ้นเขานี่แซบจริง คันเล็กๆ ไต่ดอยนี่สนุกมาก(ถ้าหาไม่ได้ หรือแพง ยูโร4 B7 ก็ได้ครับ หาไม่ได้จริงๆ B10 ก็ได้ ไม่พังแต่ควรเติมพรีเมียมสลับบ้าง)...ผมเติมบางจากตลอดเท่าที่พอหาได้
- รถแอบแข็ง ชอบรถนิ่มๆ ผ่านไป
- ยางถ้าตัว top ขอบ16 หายากและแอบแพง ยางติดรถ dunlop รุ่นนี้บางคนว่าห่วย ผมว่าเฉยๆ ไม่แย่ เกาะพอประมาณ ประหยัดและทนด้วย
- ศูนย์ ตามสภาพจ้า ค่าแรงต่อ ชม.แพงจริง แต่ไม่ค่อยลากงาน พอรับได้ราคาไม่โดดมาก 5ปีผ่านมาก็ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่อย่าไปเทียบกับเจ้าใหญ่
- อะไหล่แพงกว่ายี่ห้อตลาดนะ แต่งานผลิตดี ข้อนี้ไม่ดีไม่แย่
- navi แอบโง่ แต่จับสัญญาณดีไม่มีหลุด พารอดตายมาหนนึง
- พวงมาลัยลอกนิดๆ ผมมีเหงื่อที่มือเยอะด้วย
OK.นะ ซื้อได้ แต่ไม่เสียดายคันเดิมเหรอ ไม่ค่อยได้ใช้ .... ส่วนตัวถ้าขับคนเดียว หรือนั่งสอง เน้นการขับสนุกๆ เลาะตามเขา มันเป็นรถที่ดีมากแต่ด้านอื่น เฉยๆนะ
.....2006 honda jazz idsi
.....2015 mazda2 skyD
..ใช้รถเท่าที่จำเป็นกันเถอะครับ...รถมันติด

ออฟไลน์ I_AM_M

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 329
    • อีเมล์
Re: Mazda 2 1.5 Diesel มือสอง ตอนนี้ยังน่าเล่นไหมครับ
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: กันยายน 30, 2021, 18:48:31 »
ไม่น่าคุ้มครับ ของเดิมดีอยู่แล้ว ต้องมาเติมพรี่เมี่ยมน้ำมันแพงต่อให้ประหยัดก็เถอะ ก็ชดเชยค่าน้ำมัน บวกลบแล้วพอๆกันกับซิตี้ และเบาะก็เล็กแข็งนั่งไปสบายแคบกว่าดเวยครับ

ออฟไลน์ Akrachai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 350
    • อีเมล์
Re: Mazda 2 1.5 Diesel มือสอง ตอนนี้ยังน่าเล่นไหมครับ
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: กันยายน 30, 2021, 19:46:37 »
ผมใช้ตัว 2016 อยู่ ตอนนี้วิ่งมา 13x,xxx กิโลแล้ว ตั้งแต่ใช้มาเจอปัญหาดังนี้

1. DPF ตัน วิ่งอยู่ดีๆเหยียบคันเร่งไม่ขึ้น เอาไปถอดออก+จูนใหม่ หายเป็นปลิดทิ้งแถมแรงกว่าเดิมเยอะ
2. ทำช่วงล่างใหม่ เนื่องจากช่วงล่างเดิมเอาแรงบิดที่จูนมาเกือบ 400nm ไม่อยู่
3. รถเร่งไม่ขึ้น มีอาการกระตุกตลอดเวลา เปลี่ยนกรองโซล่า หาย
4. เครื่องสั่นมากกว่าเดิม เช็กแล้วยางรองแท่นเครื่องเริ่มเสื่อม ยังไม่ได้ไปเปลี่ยน

นอกนั้นก็ดูแลทั่วไป เปลี่ยน นมค ทุก 10,000 km นมก ทุก 40,000 km เปลี่ยนอะไหล่ช่วงล่างที่เสื่อมสภาพ โดยรวมผมว่ามันไม่จุกจิกเลยนะ แก้ปัญหาใหญ่ๆของมันได้ก็จบ ใช้ยาวๆ ผมอยากขายหลายทีละก็ขายไม่ลง มันแรงและประหยัดน้ำมันแบบโกงมาก


400nm แต่หยั่งว่าเนอะให้มาก็ 250nm แล้ว แรงจริงๆตัวนี้

ออฟไลน์ The_Wizard

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 258
Re: Mazda 2 1.5 Diesel มือสอง ตอนนี้ยังน่าเล่นไหมครับ
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: กันยายน 30, 2021, 20:59:26 »
เพื่อนผมใช้อยู่ เป็นรถวิ่งไปทำงานข้ามจังหวัดวันละ 120 km ประจำ ก็ใช้ได้ดี ประหยัด มีแต่ซ่อมบำรุงตามระยะเป็นหลัก แต่บ่นอยู่ว่าอะไหล่แพง
แต่ส่วนตัวถ้าเป็นผม ผมจะเลี่ยงเครื่องดีเซล เพราะคิดว่าอนาคตถ้าถึงเวลาต้องซ่อม ค่าใช้จ่ายน่าจะสูงกว่ารถเบนซินแน่ๆ อีกอย่างมันก็มีจุดที่ต้องดูแลเยอะกว่า
อีกอย่าง เจ้าของกระทู้ใช้ซิตี้ 2016 อยู่แล้ว ผมอยากแนะนำให้ใช้คันเก่าน่าจะดีกว่าครับ ยกเว้นว่าจะหาเพื่อสลับกันใช้สองคันก็อีกเรื่องนึง

ออฟไลน์ Aleister TJ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,004
  • มีเงินเป็นล้านก็ซื้อเมื่อวานไม่ได้ แต่ถ้าร้อยล้านก็ช่างเมื่อวานมันเถอะ
    • อีเมล์
Re: Mazda 2 1.5 Diesel มือสอง ตอนนี้ยังน่าเล่นไหมครับ
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: กันยายน 30, 2021, 21:41:51 »
ผมใช้ตัว 2016 อยู่ ตอนนี้วิ่งมา 13x,xxx กิโลแล้ว ตั้งแต่ใช้มาเจอปัญหาดังนี้

1. DPF ตัน วิ่งอยู่ดีๆเหยียบคันเร่งไม่ขึ้น เอาไปถอดออก+จูนใหม่ หายเป็นปลิดทิ้งแถมแรงกว่าเดิมเยอะ
2. ทำช่วงล่างใหม่ เนื่องจากช่วงล่างเดิมเอาแรงบิดที่จูนมาเกือบ 400nm ไม่อยู่
3. รถเร่งไม่ขึ้น มีอาการกระตุกตลอดเวลา เปลี่ยนกรองโซล่า หาย
4. เครื่องสั่นมากกว่าเดิม เช็กแล้วยางรองแท่นเครื่องเริ่มเสื่อม ยังไม่ได้ไปเปลี่ยน

นอกนั้นก็ดูแลทั่วไป เปลี่ยน นมค ทุก 10,000 km นมก ทุก 40,000 km เปลี่ยนอะไหล่ช่วงล่างที่เสื่อมสภาพ โดยรวมผมว่ามันไม่จุกจิกเลยนะ แก้ปัญหาใหญ่ๆของมันได้ก็จบ ใช้ยาวๆ ผมอยากขายหลายทีละก็ขายไม่ลง มันแรงและประหยัดน้ำมันแบบโกงมาก


400nm แต่หยั่งว่าเนอะให้มาก็ 250nm แล้ว แรงจริงๆตัวนี้

แรงแต่ต้นครับ หลังจากนั้นใครไหวไปก่อนเลย 55 แค่นี้ก็เกินพอสำหรับผมละ ออก ตจว เร่งแซงไม่ต้องลุ้น
My Car History ~

Honda City ZX
Toyota Yaris 1.2E
Mazda3 Skyactive 2.0S
Mazda 2 SkyActiv 1.5 High Plus L
Mitsubishi Pajero Sport 2.4 Elite

ออฟไลน์ Padungpong

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 112
Re: Mazda 2 1.5 Diesel มือสอง ตอนนี้ยังน่าเล่นไหมครับ
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2021, 05:47:40 »
เคยใช้อยู่สองปีครับ  เป็นรถที่ดี  แรง  ประหยัด   แต่ต้องตัดใจขายเพราะสำหรับผมมัน"แข็ง"

ออฟไลน์ 123ruj

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 195
    • อีเมล์
Re: Mazda 2 1.5 Diesel มือสอง ตอนนี้ยังน่าเล่นไหมครับ
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2021, 08:30:22 »
อยากเจ็บแต่ไม่จบ
555

ออฟไลน์ pladaek

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,021
  • FF1.5SMG
Re: Mazda 2 1.5 Diesel มือสอง ตอนนี้ยังน่าเล่นไหมครับ
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2021, 08:56:25 »
เป็นรถมือสองที่ผมเล็งไว้เหมือนกัน
ถ้าได้มาอย่างแรก ผมจะตัด DPF ออกเลย
ไม่ได้ขับรถเพื่อทำเวลาที่ดีที่สุด.. แต่ขับรถเพื่อเจอช่วงเวลาที่ดีที่สุด..

ออฟไลน์ KATANA

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 260
Re: Mazda 2 1.5 Diesel มือสอง ตอนนี้ยังน่าเล่นไหมครับ
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2021, 10:03:14 »
ถามเป็นความรู้หน่อยครับ

รถดีเซลใหม่ๆ ที่ไปอุด EGR หรือถอด DPF ทิ้ง เวลารถอายุเกิน 7 ปี ต้องตรวจสภาพ มันผ่านมั้ยครับเรื่องค่ามลพิษ

ออฟไลน์ sudlor_gang

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 565
Re: Mazda 2 1.5 Diesel มือสอง ตอนนี้ยังน่าเล่นไหมครับ
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2021, 11:35:56 »
คงไม่เปลี่ยนหรอกคับ city ดีกว่าหลายๆด้าน
แรงน้อยกว่า กับช่วงล่างดีน้อยกว่า

แต่ซ่อมถูกไม่จุกจิก มั่นใจระยะยาวและราคาขายต่อมากกว่าเยอะ

Gunther

  • บุคคลทั่วไป
Re: Mazda 2 1.5 Diesel มือสอง ตอนนี้ยังน่าเล่นไหมครับ
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2021, 11:50:56 »
Mazda 2 1.5 Diesel มือสอง ในตอนนี้ ประมาณ 150,000-200,000 บาทครับ

แบบนี้ ไปเล่น Honda City e:HEV จะดีกว่าไหมครับ แต่ยอมเสียเรื่องสนิม แต่การบำรุงรักษาที่ดีกว่า Mazda 1.5 Diesel อัตราการประหยัดน้ำมันและประสิทธิภาพในการขับขี่ คล้ายๆ Mazda 1.5 Diesel

ออฟไลน์ Bond007

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 788
Re: Mazda 2 1.5 Diesel มือสอง ตอนนี้ยังน่าเล่นไหมครับ
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2021, 11:54:53 »
ต้องถามเหตุผลก่อนว่า เหตุใด ถึงอยากเปลี่ยนครับ

เพราะ City ถือว่ายังไม่เก่านะ เป็นผมทนใช้ไปก่อน

แล้วทำงานเก็บเงินรอครับ

ปล.ผมเคยใช้ Mazda 2 ดีเซล 2015 stage 2 (จูน+เปลี่ยนท่อยกเส้น)

ออฟไลน์ totu

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 120
Re: Mazda 2 1.5 Diesel มือสอง ตอนนี้ยังน่าเล่นไหมครับ
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2021, 14:11:20 »
ผมเดาว่าคุณน่าจะใช่คนเดียวกับที่ถามผมในคลิปที่รีวิว Mazda 2 Diesel
เพื่อนๆสมาชิกที่ใช้รุ่นนี้มา ให้ข้อมูลได้ละเอียดมากๆ ลองตัดสินใจดูครับ
ถ้าเป็นผมในเงื่อนไขนี้ จะเปลี่ยนมามาสด้าก็ต่อเมื่อ ของเดิมแรงไม่พอ ชอบฟิลลิ่งการขับของมาสด้า รับได้กับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นครับ  :)

ออฟไลน์ ทาสแมว

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 161
  • twinair turbo engine
    • อีเมล์
Re: Mazda 2 1.5 Diesel มือสอง ตอนนี้ยังน่าเล่นไหมครับ
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2021, 15:00:02 »
ผมเดาว่าคุณน่าจะใช่คนเดียวกับที่ถามผมในคลิปที่รีวิว Mazda 2 Diesel
เพื่อนๆสมาชิกที่ใช้รุ่นนี้มา ให้ข้อมูลได้ละเอียดมากๆ ลองตัดสินใจดูครับ
ถ้าเป็นผมในเงื่อนไขนี้ จะเปลี่ยนมามาสด้าก็ต่อเมื่อ ของเดิมแรงไม่พอ ชอบฟิลลิ่งการขับของมาสด้า รับได้กับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นครับ  :)


 ;D ครับคนเดียวกัน ประเด็นคือชอบต้นจัดๆ ปลายไม่เท่าไหร่เพราะไม่ชอบขับเร็วครับ ไปลองเทสไดรแล้วชอบเลย แต่ราคา 8 แสนสำหรับรถใหม่ ทำให้ต้องหยุดไว้ก่อน กำลังชั่งใจกับปัญหาที่จะตามมานี่แหละครับ เพราะพี่ๆใน HLM ที่ตอบมานี่ ก็มีกลัวๆ เรื่องปัญหาจุกจิกที่จะต้องเจออยู่เหมือนกันครับ

ออฟไลน์ ทาสแมว

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 161
  • twinair turbo engine
    • อีเมล์
Re: Mazda 2 1.5 Diesel มือสอง ตอนนี้ยังน่าเล่นไหมครับ
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2021, 15:01:39 »
มาครับ มา เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง

ปัญหาที่ 2 ดีเซล 1.5D มีในตอนนี้ก็มีหลักๆ คือ
- เครื่องสันเร่งไม่ขึ้น อาการคือ เครื่องสั่นจนรู้สึกสั่นสะท้านทั้งคันคล้ายกับวิ่งทางขรุขระ และรถจะเร่งต่อไม่ขึ้น ความเร็วก็คาอยู่แบบนั้น มักเป็นช่วง 80-120 km/h สาเหตุวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญกันมาจาก เขม่า PM ในระบบการเผาไหม้ปกติที่จะถูกกรองไว้ด้วยตัวกรองเขม่า DPF รอการเผากำจัด กำจัดไม่หมดจนมีปัญหาต่อชิ้นส่วนเครื่องยนต์ เช่นฝาวาล์ว หัวฉีด จนทำให้ เกิดการจุดระเบิดผิดปกติในบางสูบ ซึ่งการที่เขม่าพวกนี้ถูกกำจัดไม่หมดมีหลายปัจจัย เช่นสภาพเขม่าเองที่จะเผาโดยความร้อนสูงได้ยากกว่าปกติ สภาพการขับขี่ที่ไม่สามารถใช้ความเร็วได้สูงกว่า 15 km/h ได้นานพอที่จะทำให้รถได้เผาเขม่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรืออื่นๆ
ซึ่งการแก้ไข ถ้าเอาแบบที่พึ่งพาการแก้ไขจากทางการรับประกันคุณภาพของ Mazda เอง ก็มีแค่อัพเดตซอฟแวร์ ECU และโปรแกรมสั่งเผาเขม่า ถ้าหนักก็เคลมชิ้นส่วนที่มีปัญหาเป็นเคสๆ ไป และยังไม่มีการรับประกันในระยะยาวว่าจะหายจริง ก็ต้องเฝ้าระวังกันไปครับ ส่วนมากก็จะเป็นในรถปี 2015-2017 แต่ 2018 ขึ้นไปก็เคยมีเกิดขึ้นมาแล้วบ้างครับแต่น้อยลงมาก ดังนั้นก็ยังคงต้องเฝ้าดูกันต่อไปอยู่
ส่วนวิธีแก้ไขอื่นๆ ที่อาจจะพึ่งพาตัวเอง ก็คืออุดตัดระบบ EGR / DPF นี้ไปเลย ซึ่งก็กำจัดต้นเหตุที่ทำให้เกิดเขม่าไปเลย แต่การที่รถไม่มีเขม่าอันนี้ยังต้องศึกษากันยาวๆ ด้วยเช่นกันว่ามันจะส่งผลอะไรอีกหรือเปล่าครับ
- โช๊ครั่ว อันนี้มักเป็นกับรถ 2015-2016 แต่ก็มีเคลมไปเรื่อยๆ จนตอนนี้ 2017 มาแทบไม่ได้ยินแล้ว แต่ก็ยังมี
- กลอนประตูล็อคมีเสียงดัง อิ๊ด จากข้างในเวลาล็อครถต่างๆ จะได้ยินชัด อันนี้ของผมก็เป็น ส่วนมากเกิดกับรถปี 2015-2017 ก็ได้เคลมชุดกลอนประตูข้างที่ดังไป
- สวิตช์แป้นเบรกมีปัญหา อันนี้เริ่มมีมาหลายคันในรถปี 2015 และมีบางคันของ 2​018 ก็เคยเกิดปัญหา​นี้ มีอาการคือสตาร์ทยากขึ้น แป้นเบรกแข็ง หรือถ้าสตาร์ทได้ก็มี ไฟ i-stop กระพริบ + ไฟกันลื่นมีปัญหาสี ส้มติดค้าง โชว์คู่กัน ถ้ารถหมดแงประกันแล้วก็สามรถเปลี่ยนเองได้เลยครับ เบิกอะไหล่มา 700 กว่าบาท
- กระจกมองข้างพับกางไม่สุด อันนี้ 2017 ขึ้นไปยันรถขายใหม่ตอนนี้ที่เป็นกระจกดีไซน์ไฟเลี้ยวเส้นเป็นกันเยอะ หลายคนบอกเกิดจากน้ำที่ฉีดล้างเข้ากระจก แต่จำนวนก็เพิ่มขึ้นกันรายวัน บางคันไม่เคยโดนน้ำเลยนอกจากฝนก็เป็น อันนี้เคลมได้ไม่มีปัญหา แต่จะเป็นอีกหรือไม่ยังไม่มีอะไรรับประกันได้
- ไฟ i-Eloop โชว์สีส้มติดค้าง คือชิ้นส่วนระบบ i-Eloop มีปัญหาครับ ไม่ว่าจะกล่อง DC-DC Converter หรือ Capacitor หรือ อื่นๆ อันนี้เป็นได้ไม่เลือกปี เป็นได้หมด 2015-ปัจจุบัน แต่ในส่วนของกล่อง DC-DC Converter ทางศูนย์ก็มีการ recall อยู่ครับ ถ้ารถเข้าข่ายก็จะได้เปลี่ยนกล่องตัวนี้มาเลย อันนี้ถ้ารถเข้าข่ายก็ดีไปครับ เพราะเปลี่ยนให้ฟรีแม้หมดประกัน แต่ถ้ารถหมดประกันก็หน้ามืดเลย 2x,xxx บาท ส่วน Capacitor ให้คิดซะว่ามันคือแบตเตอรี่เก็บไฟลูกนึงที่ใช้เก็บไฟที่ได้จากการแปลงพลังงานหมุนล้อตอนรถชะลอความเร็ว ไม่ช้าก็ไวยังไงก็เสื่อม ราคาก็เกือบๆ 2x,xxx บาทเช่นกันสำหรับของใหม่ศูนย์ แต่ทางเลือกข้างนอกก็เยอะครับ มีตั้งแต่มือ 2 5,xxx หรือมือ 1 ที่ข้างนอกพอหาได้ 1x,xxx ต้นๆ อยู่ หรือถ้าเป็นที่ Capacitor จริง ตอนนี้
- สลิงกระจกหน้าต่างคนขับขาดหรือหลุดจนทำตกราง อาการคือกระจกหน้าต่างคนขับเปิดไม่ได้ หรือกระจกเปิดลงมาแล้วปิดขึ้นไม่ได้ พึ่งมาเจอช่วงรถที่ผลิตหรือออกปลายปี 2019 ที่เป็นตัวหน้าเดิมจนถึงตัวใหม่ minor change 2020 นี้เลย ก็เคลมกันไป ส่วน 2021 มาเริ่มเงียบลงบ้างแล้ว
- ล่าสุด กำลังดังๆ ในตอนนี้เลย พวงมาลัยฝืด หมุนไม่สมูท หมุนแล้วไม่คืนเอง ฝืดตอนหมุนซ้ายมากกว่าหมุนขวา หรืออาจจะเป็นเท่าๆ กัน บางเคสมีเสียงดัง เวลาขับทางไกลต้องอาศัยการแต่งพวงมาลัยเยอะมากจนบางคนบ่นว่าล้าได้เลย มาเจอเยอะๆ ช่วงรถที่ผลิตหรือออกตั้งแต่ปี 2019 ที่เป็นตัวหน้าเดิมจนถึงตัวใหม่ minor change 2020-2021 ตอนนี้เหมือนสลิงกระจกหน้าต่างเลยแต่ต่างกันที่ตอนนี้ยังเป็นอยู่และก่อนหน้านี้มีประปราย ก็เคลมแร็คพวงมาลัยกันไปครับ แต่เคสนี้ได้ข่าวว่ามีครั้งที่ 2-3 มาอีกในบางคัน
ฯลฯ จริงๆ มีอีก แต่รวบรวมมาได้ที่ชัดๆ ก็ประมาณนี้ครับ บางท่านไม่เจอเลยก็มี บางท่านเจอนอกเหนือจากนี้ก็มี

ส่วนการบำรุงรักษา เรื่องค่าอะไหล่นอกจากปัญหา i-Eloop ด้านบน หลักๆ ตอนนี้ที่จะให้เตรียมไว้ก็มี
- แบตเตอรี่ ลูกนึงอยู่ได้เฉลี่ย 1.5-2 ปี แบตเตอรี่ใช้ 65Ah CCA ไม่ต่ำกว่า 520 แต่ฐานเล็ก ดังนั้นหาแบตที่เป็นพวกรหัส Q85 ที่ใช้กับรถที่มี i-stop เฉพาะไว้ก็ดีครับ มีตั้งแต่ใกล้ๆ 2,xxx ไปจนถึงของดีก็ไม่เกิน 2,7xx
- ค่าแรง ถ้ารถยังเข้าศูนย์อยู่ ขอให้รู้ไว้ว่า ชม. นึงใน กทม. ปริมณฑล ตอนนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 700-750 บาท/ชม. แล้วครับ ถ้าอยากได้ถูกกว่านั้นต้องไป ตจว. กันเลยทีเดียว
- ค่าอุดตัด EGR/DPF อันนี้แล้วแต่ความสมัครใจเจ้าของรถ เพราะอย่างที่บอกปัญหาด้านบนไม่ได้เกิดขึ้นทุกคัน แต่บางคนก็อยากตัดต้นตอออกไปซึ่งอาจจะรับกับผลที่จะเกิดขึ้นตามมาภายหลังได้ ซึ่งอันนี้มีหลายเกรดและหลายระดับ อันนี้ต้องไปลองหาข้อมูลในคลับดู แต่สำหรับผมยังไม่ตัดถึงแม้จะเคยเจอปัญหาด้านบนเองมาแล้ว
- ชิ้นส่วนช่วงล่าง อันนี้ไม่ได้ระบุเจาะจงลงไปหรอก เพราะมันมีโอกาสเสียหรือเกิดเสียงในระยะเวลาไม่เกิน 5 ปีแรกได้ทุกชิ้นอยู่แล้ว แค่อยากให้เผื่อตรงนี้ไว้บ้างครับ

ทีนี้ถ้าเจาะจงแค่รถผมเอง ปี 2016 5 ปี 1 เดือน 21 วัน 126,xxx km
- 6 เดือน 13,xxx km เจอรถตัดเข้า safe mode (ไฟ TCS + Engine พร้อมรถ​กระตุก​คล้าย​ล็อค​เกียร์ 2) ดับสตาร์ท​ใหม่​เหลือ​แต่ไฟ Engine เข้า 0 เจอ code P2263 ได้เคลมเทอร์โบมา 1 ครั้งตอน 1 ปี 3 เดือน 32,xxx km และปัจจุบัน 3 ปี 5 เดือน 89,72x km ก็กลับมาเป็นอีก!! ด้วยความที่เข้า 0 ตลอดแม้จะหมดประกันแล้ว ทาง 0 เลยทำเรื่องเคลมฝาครอบวาล์ว (ตามที่ 0 ตรวจพบล่าสุด)​ ในลักษณะ goodwill ให้ ก็ได้เคลมมา ก็ยังต้องเฝ้าระวังกันต่อไป
- 5 เดือน 1x,xxx km เสียงกลอนประตูดังอี๊ด เคลมกลอนข้างขวาหลังตอน 2 ปี 7 เดือน 7x,xxx km และปัจจุบัน​ก็ดังที่ข้างหลังซ้าย
- 1 ปี 11 เดือน 5x,xxx km (จำเวลาแน่นอนไม่ได้ แต่เคลมในระยะเวลาที่เกิดอาการตามนี้)​ ขึ้นเนินมีเสียงคล้ายเหล็กกระแทก ก็เคลมยางรองเบ้าโช๊คมา ปัจจุบัน​ยังไม่ดังอีก
- 1 ปี 9 เดือน 46,xxx km เครื่อง​สั่น​ เร่​งไม่​ขึ้นรอบแรก มีไฟ Engine โชว์ตอนสั่น เข้า 0 เจอ code P0302 ยังไม่ได้เคลมอะไรเป็นชิ้นเป็นอันมานอกจากอัพเดตซอฟแวร์ ECU โปรแกรมเผาเขม่ามา 2 รอบ เป็นเรื่อยๆ อยู่ประมาณ 4 ครั้ง ก่อนที่รอบล่าสุดเป็นตอน 53,xxx km เข้า 0 ก็ทำแบบเดิม ปัจจุบัน​ยังไม่กลับมาอีก ก็ยังต้องเฝ้าระวังเช่นกัน
- 2 ปี 7 เดือน 7x,xxx km พวงมาลัยลอก เคลมไปพร้อมกลอนประตู
- 4 ปี 7 เดือน 11x,xxx km คอยล์ร้อนแอร์รั่ว อาการคือแอร์มีลมเย็นแค่คนขับ คนนั่งลมตามสภาพแวดล้อมเลย ทางศูนย์ทำเรื่องเคลม MST ให้เป็นกรณีพิเศษเนื่องจากมีการดูแลให้เพิ่มเติม 7 ปี กับรถช่วงปี 2015-2016 ซึ่งรถเราเข้าข่าย เลยได้จ่ายแค่ค่าน้ำยาหม้อน้ำที่หายไประหว่างถอดคอยล์ร้อนเท่านั้น
- 4 ปี 8 เดือน 118,xxx km โช๊คหลังซ้ายเริ่มรั่ว ยังไม่ได้เปลี่ยน ช็อตอยู่
- 4 ปี 11 เดือน 122,13x km ไฟ i-Eloop มีปัญหาติด (i-Eloop สีส้มติดค้าง + i-stop สีส้มกระพริบ) ยังไม่ได้เช็คว่าเป็นอะไรระหว่าง 2 อย่างที่บอกในปัญหา แต่ถอดปลั๊ก Capacitor ไว้แล้ว
รถผมก็ประมาณนี้ครับที่เป็นปัญหา ไม่นับอะไหล่สิ้นเปลืองหรือเสื่อมสภาพ​ตามการใช้งาน (ยาง แบต ผ้าเบรก ฯลฯ)

ดังนั้น สรุปเลย การจะซื้อ 2 ดีเซลได้นั้น
1. มั่นใจว่าเป็นคนที่มีความรู้เรื่องการบำรุงรักษาระดับนึง
2. มั่นใจว่าตัวเองได้ใช้งานนอกเมืองเป็นประจำพอที่จะใช้ให้รถสามารถเผาเขม่าได้สมบูรณ์หากไม่ตัด EGR/DPF
3. มั่นใจว่ารับกับอัตราเร่งที่ตอนปลายไม่ได้ดีตามนิสัยดีเซลได้
4. มั่นใจว่ารับกับภายในที่แคบและเบาะที่เล็กไม่ได้นั่งไม่สบายอะไรได้
5. รับกับค่าแรงศูนย์ได้ รับไม่ได้ไปอู่นอก
6. รับได้ว่าถ้ารถเกิดปัญหา การแก้ไขปัญหาหลักๆ อาจจะต้องพึ่งตัวเองเยอะหน่อย หวังการพึ่งพาจากศูนย์ได้ยากนิดนึง
ถ้า 6 ข้อเบื้องต้นนี้โอเค ชอบในรถจริงๆ จัดไปครับ ไม่มีอะไรเกินกว่าการได้ลองพบประสบการณ์กับตัวเองแล้ว



ขอบคุณมากๆเลยครับ  ::)

ออฟไลน์ ทาสแมว

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 161
  • twinair turbo engine
    • อีเมล์
Re: Mazda 2 1.5 Diesel มือสอง ตอนนี้ยังน่าเล่นไหมครับ
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2021, 15:06:00 »
ผมใช้ตัว 2016 อยู่ ตอนนี้วิ่งมา 13x,xxx กิโลแล้ว ตั้งแต่ใช้มาเจอปัญหาดังนี้

1. DPF ตัน วิ่งอยู่ดีๆเหยียบคันเร่งไม่ขึ้น เอาไปถอดออก+จูนใหม่ หายเป็นปลิดทิ้งแถมแรงกว่าเดิมเยอะ
2. ทำช่วงล่างใหม่ เนื่องจากช่วงล่างเดิมเอาแรงบิดที่จูนมาเกือบ 400nm ไม่อยู่
3. รถเร่งไม่ขึ้น มีอาการกระตุกตลอดเวลา เปลี่ยนกรองโซล่า หาย
4. เครื่องสั่นมากกว่าเดิม เช็กแล้วยางรองแท่นเครื่องเริ่มเสื่อม ยังไม่ได้ไปเปลี่ยน

นอกนั้นก็ดูแลทั่วไป เปลี่ยน นมค ทุก 10,000 km นมก ทุก 40,000 km เปลี่ยนอะไหล่ช่วงล่างที่เสื่อมสภาพ โดยรวมผมว่ามันไม่จุกจิกเลยนะ แก้ปัญหาใหญ่ๆของมันได้ก็จบ ใช้ยาวๆ ผมอยากขายหลายทีละก็ขายไม่ลง มันแรงและประหยัดน้ำมันแบบโกงมาก


มันแรงและประหยัดน้ำมันแบบโกงมาก

 นี่คือ 1 เหตุผลที่เลือก M2 ตัวนี้เลยครับ แต่ราคาน้ำมันช่วงนี้ก็ขึ้นเอาๆ 555:'(

ออฟไลน์ ทาสแมว

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 161
  • twinair turbo engine
    • อีเมล์
Re: Mazda 2 1.5 Diesel มือสอง ตอนนี้ยังน่าเล่นไหมครับ
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2021, 15:09:21 »
บอกเท่าที่ใช้อยู่นะ รถปี 15 จองตอนมกรา ออกคันแรกๆของตัวนี้เลย ใช้มา 1.5แสนโล วิ่ง ตจว.เป็นหลัก กทม.มีบ้าง
XDL HB ตัว top ตัวแรก ล้อ 16
รถเดิมๆ ยางใช้รุ่นเดิม เบอร์เดิม แม็กเดิม ซื้อเนวีใส่เพิ่ม...
- เรื่องเครื่อง ระบบไฟ IE คาปา DPF EGR ยังไม่เจออะไรครับ เคยเจอไฟเตือนเพราะน้ำมันไม่น่าจะสะอาดตอนลงใต้มารอบ แต่ขับกลับได้ไม่มีปัญหาอะไร ระทึกนิดนึง
- เปลื่ยนยางหุ้มโชคไปรอบ ผุแบบเห็นๆตอน 1.3แสนโล
- แบต ตามที่ข้างบนบอก
- รุ่นแรก เสาไม่ใช่ครีบฉลาม ยางหุ้มเสาวิทยุเริ่มเสื่อม
- เสียงเริ่มเข้าตามขอบประตู ยางขอบประตูเริ่มเสี่อมตามอายุ ... แต่ส่วนตัวคิดว่าดีกว่า Jazz อีกคันที่บ้าน คันนั้น 3ปีดังหมด(ดังแต่ไม่พัง)
- เปลื่ยนสายพาน ตอน 1.1แสนโล
- เปลื่ยนน้ำมันเกียร์ ครั้งแรกที่ 1.3แสนโลครับ(ระทึกดี) เพราะนโยบายเก่านั่นละ...โชคดีมากที่ไม่ลาโลก แนะนำให้เปลื่ยนสัก 6หมื่นโลก็ได้นะ เปลื่ยนแล้วรู้สึกดีขึ้น แต่ก่อนเปลื่ยนก็ไม่ได้แย่อะไร
- ประหยัดน้ำมันจริง แต่ควรเติมพรีเมี่ยมยูโร5 สุดท้ายด้วยค่าน้ำมัน 34บาทต่อลิตร .... ใช้คันอื่นเติม E20 25บาทต่อลิตร จ่ายก็พอๆกันรึเปล่า..แต่แรงบิดตอนขึ้นเขานี่แซบจริง คันเล็กๆ ไต่ดอยนี่สนุกมาก(ถ้าหาไม่ได้ หรือแพง ยูโร4 B7 ก็ได้ครับ หาไม่ได้จริงๆ B10 ก็ได้ ไม่พังแต่ควรเติมพรีเมียมสลับบ้าง)...ผมเติมบางจากตลอดเท่าที่พอหาได้
- รถแอบแข็ง ชอบรถนิ่มๆ ผ่านไป
- ยางถ้าตัว top ขอบ16 หายากและแอบแพง ยางติดรถ dunlop รุ่นนี้บางคนว่าห่วย ผมว่าเฉยๆ ไม่แย่ เกาะพอประมาณ ประหยัดและทนด้วย
- ศูนย์ ตามสภาพจ้า ค่าแรงต่อ ชม.แพงจริง แต่ไม่ค่อยลากงาน พอรับได้ราคาไม่โดดมาก 5ปีผ่านมาก็ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่อย่าไปเทียบกับเจ้าใหญ่
- อะไหล่แพงกว่ายี่ห้อตลาดนะ แต่งานผลิตดี ข้อนี้ไม่ดีไม่แย่
- navi แอบโง่ แต่จับสัญญาณดีไม่มีหลุด พารอดตายมาหนนึง
- พวงมาลัยลอกนิดๆ ผมมีเหงื่อที่มือเยอะด้วย
OK.นะ ซื้อได้ แต่ไม่เสียดายคันเดิมเหรอ ไม่ค่อยได้ใช้ .... ส่วนตัวถ้าขับคนเดียว หรือนั่งสอง เน้นการขับสนุกๆ เลาะตามเขา มันเป็นรถที่ดีมากแต่ด้านอื่น เฉยๆนะ

คันเดิมยอมรับเลยว่าเสียดายครับ เพราะแต่งจาก City เป็น Grace ทั้งคันเลย  :-X

ออฟไลน์ ซวEจsิJลิJเปulnw

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 126
Re: Mazda 2 1.5 Diesel มือสอง ตอนนี้ยังน่าเล่นไหมครับ
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2021, 18:02:07 »
4ปี กำลังจะ 5ปี
ไมล์ 13x,000 km

ปัญหาที่เจอ
- ลอครถแล้วมีเสียงกลอนดังอิ๊ดๆ เป็นเฉพาะเวลาหลังล้างรถ
- กระจกพับไม่สุด เป็นเฉพาะเวลาหลังล้างรถ ฉีด Sonax ทุกครั้งถึงจะหาย
- แบตอายุสั้นมากๆ ผมเฉลี่ยเปลี่ยนปีละ 1 ลู

พึ่งเอาไปอุด DPF ตัด จูน ไปเมื่อเดือนก่อน
ถึงแม้จะไม่เคยเจอปัญหาเครื่องสั่นเลย
เหมือนได้รถใหม่ แรงขึ้นพอสมควร
จากเดิมๆที่เร่งแซงในเมืองสบายมากไม่ต้องเค้น
ตอนนี้ขับ 100 กด เต็มๆ ก็ยังรู้สึกถึงแรงดึงถึง 160-170

ข้อเสียอีกอย่างคือทำให้เราขับรถเร็วและมุดมากขึ้น เพราะช่วงล่างมันถือว่าดี ในรถระดับเดียวกัน(เน้นว่าระดับเดียวกันนะครับ อย่าคาดหวัง)

แต่สำหรับโจทย์คุณแล้ว ถ้าขายคันเก่ามาคันนี้ไม่ต้องเพิ่มเงิน ก็น่าสนใจ
แต้ถ้าต้องเพื่มเงิน ผมอาจจะไม่สนับสนุน

ลองหาคันที่ตัดอุดจูนมาแล้ว จากสำนักดีๆ ก็น่าจะจบเลยครับ