ผู้เขียน หัวข้อ: แชร์ประสบการณ์ขับรถ RWD/FWD/AWD บนถนนเปียก ลื่น ฝนตก ครับ ผิดคาดจริงๆ  (อ่าน 6628 ครั้ง)

ออฟไลน์ Tien.W

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,195
    • อีเมล์
บ้านผมมี G3 2WD และ 4WD ซึ่งผมลองตั้งแต่ตอนออกรถใหม่ๆ วิ่งลุยฝน ปรากฎว่า 4WD นิ่งกว่าเยอะ นิ่งที่ไม่ใช่เพราะยางรีดน้ำดีนะ .. นิ่งแบบ CRV คือ ขับสี่ทำงาน พวงมาลัยหนักๆ คันเร่งหน่วงๆ ไปแบบหนักๆแน่นๆ ซึ่งหาไม่ได้ในตัวขับสอง ต่อให้ใส่ยางเทพแค่ไหน มันก็ไม่ได้อาการนั้น

แต่คนทั่วไป ยังชอบคิดว่า 4WD (ใน CRV ) เอาไว้ลุย วิ่งแค่ในเมือง 2WD ก็พอ ประหยัดด้วย (นี่คือ ที่ผมคิดผิด แล้วซื้อ 2WD ไง)

...........

นอกนั้น ที่มีผลมากๆ ก็คือ ยางครับ ยางคุณภาพดีๆ มันจะส่งผลชัดว่า รถคุณนิ่ง ไม่ว่อกแว่ก ครับ

ออฟไลน์ boogie2020

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,037
    • อีเมล์
ก็ถ้าขับเกิน limit รถและยาง  จะ FWD, RWD, AWD  ก็เสร็จหมดแหละคับ

สมัยก่อน ผมก็บ้า AWD นี่แหละคับ    ขับ 3000GT AWD คิดว่ายังไงก็เอาอยู่ สุดท้ายอุบัติเหตุที่แรงสุดในชีวิตผมก็มาจากเจ้าคันนี้เลย คือเข้าโค้งฝนตก เอาไม่อยู่กระเด็นข้ามเกาะกลางไปชนกะรถอีกฝั่ง

จากนั้น ผมก็เลิกสนใจ AWD - RWD - FWD ไปเลย 
สุดท้าย ขับให้มันช้าลง แค่นี้มันก็โอเคละคับ จะ vigo ที่ว่าร่อนๆ แพ้ฝน ก็ขับไปได้ทั่วไทยไม่มีปัญหา , fwd ก็ไม่มีปัญหา ไปได้หมดเหมือนกัน ขึ้นเขา ขึ้นดอย ,  pajero sport ที่ว่ามีโหมด awd ผมขับ เชียงใหม่-เชียงรายที่ว่าถนนลื่น หมุนกันบ่อย  ๆ  ก็หลายที ผมก็ลองทั้งโหมด ขับสอง กับขับสี่  มันก็ไม่ได้จะต่างกันขนาดนั้น ถ้าไม่ได้เหยียบระดับเกินร้อยในโค้ง

ผมเลยรู้สึกแปลก ๆ ว่า ทำไมถึงจะเลือก AWD เพื่อเอามา วิ่งเร็ว ๆ ลุยฝนกัน ..... ก็ขับให้ช้าลงดิคับ

-----------------------------------------------------------
There is no spoon
-----------------------------------------------------------

ออฟไลน์ REX

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,015
ผมคิดภาพของการขับเคลื่อน ดังนี้ครับ
ล้อที่หมุน ไม่ต่อเครื่องยนต์ จะมีแรงเสียดทานด้านข้าง เท่านั้น(ถ้าไม่เบรค)
แต่ล้อที่ขับเคลื่อนต่อกับเครื่องยนต์ จะมีแรงเสียดทานในแนวตรง ร่วมกับด้านข้าง จึงมีแรงต้านทุกทิศทาง

เนื่องจากรถออกแบให้เลี้ยวโค้งได้ จึงมีการถ่ายโอนแรงไปล้อด้านนอก ขณะเข้าโค้ง
กรณี ผ่านน้ำ แล้วล้อฟรีจะถ่ายแรงมายังล้อที่ฟรี  ซึ่งเมื่อล้อมาสัมผัสพื้นอีกครั้งหลัง
จะเกิดโมเนนตั้มจากการหมุนของล้อ แรงดึงรถที่กระทำในแนวตรงล้อนั้น จึงสูงขึ้น
แต่แรงมันเยื้อง ต่อ CG จึงมีแรงทั้งแนวตรง และแนวข้างเกิดขึ้น

ถ้าขับ 4 ล้อทั้ง 4 มีแรงเสียดทานควบคุมทุกทิศทางทั้ง 4มุม จึงบังคับง่ายที่สุด
ถ้าเป็นขับ 2 แรงเสียดทานทุกทิศทาง จะมี 2มุม  ส่วนอีก 2มุมจะเป็นแค่หมุนฟรี มีแค่แรงเสียดทายด้านข้าง
ขับ 4 จึงดีกว่า ด้วยสาเหตุแบบนี้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 06, 2021, 17:37:22 โดย REX »

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,363
ก็ถ้าขับเกิน limit รถและยาง  จะ FWD, RWD, AWD  ก็เสร็จหมดแหละคับ

สมัยก่อน ผมก็บ้า AWD นี่แหละคับ    ขับ 3000GT AWD คิดว่ายังไงก็เอาอยู่ สุดท้ายอุบัติเหตุที่แรงสุดในชีวิตผมก็มาจากเจ้าคันนี้เลย คือเข้าโค้งฝนตก เอาไม่อยู่กระเด็นข้ามเกาะกลางไปชนกะรถอีกฝั่ง

จากนั้น ผมก็เลิกสนใจ AWD - RWD - FWD ไปเลย 
สุดท้าย ขับให้มันช้าลง แค่นี้มันก็โอเคละคับ จะ vigo ที่ว่าร่อนๆ แพ้ฝน ก็ขับไปได้ทั่วไทยไม่มีปัญหา , fwd ก็ไม่มีปัญหา ไปได้หมดเหมือนกัน ขึ้นเขา ขึ้นดอย ,  pajero sport ที่ว่ามีโหมด awd ผมขับ เชียงใหม่-เชียงรายที่ว่าถนนลื่น หมุนกันบ่อย  ๆ  ก็หลายที ผมก็ลองทั้งโหมด ขับสอง กับขับสี่  มันก็ไม่ได้จะต่างกันขนาดนั้น ถ้าไม่ได้เหยียบระดับเกินร้อยในโค้ง

ผมเลยรู้สึกแปลก ๆ ว่า ทำไมถึงจะเลือก AWD เพื่อเอามา วิ่งเร็ว ๆ ลุยฝนกัน ..... ก็ขับให้ช้าลงดิคับ

+1

ออฟไลน์ NoBiReacto

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 763
    • อีเมล์
ผมได้มีโอกาสขับ Fortuner โฉมก่อนที่เป็นขับ 4 ตลอดเวลา เวลาฝนตกนี่มั่นใจมากครับเจอน้ำขังรถแทบไม่เป๋ ให้ความรู้สึกที่ดีประมาณนึงเลย


ออฟไลน์ EVA01

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 527
ก็ถ้าขับเกิน limit รถและยาง  จะ FWD, RWD, AWD  ก็เสร็จหมดแหละคับ

สมัยก่อน ผมก็บ้า AWD นี่แหละคับ    ขับ 3000GT AWD คิดว่ายังไงก็เอาอยู่ สุดท้ายอุบัติเหตุที่แรงสุดในชีวิตผมก็มาจากเจ้าคันนี้เลย คือเข้าโค้งฝนตก เอาไม่อยู่กระเด็นข้ามเกาะกลางไปชนกะรถอีกฝั่ง

จากนั้น ผมก็เลิกสนใจ AWD - RWD - FWD ไปเลย 
สุดท้าย ขับให้มันช้าลง แค่นี้มันก็โอเคละคับ จะ vigo ที่ว่าร่อนๆ แพ้ฝน ก็ขับไปได้ทั่วไทยไม่มีปัญหา , fwd ก็ไม่มีปัญหา ไปได้หมดเหมือนกัน ขึ้นเขา ขึ้นดอย ,  pajero sport ที่ว่ามีโหมด awd ผมขับ เชียงใหม่-เชียงรายที่ว่าถนนลื่น หมุนกันบ่อย  ๆ  ก็หลายที ผมก็ลองทั้งโหมด ขับสอง กับขับสี่  มันก็ไม่ได้จะต่างกันขนาดนั้น ถ้าไม่ได้เหยียบระดับเกินร้อยในโค้ง

ผมเลยรู้สึกแปลก ๆ ว่า ทำไมถึงจะเลือก AWD เพื่อเอามา วิ่งเร็ว ๆ ลุยฝนกัน ..... ก็ขับให้ช้าลงดิคับ

ถ้าคิดแบบนี้กันหมดบริษัทรถก็ไม่ต้องขวนขวายพัฒนาระบบขับเคลื่อนให้ดีๆ หรอกมั้งครับ บางทีสำหรับคนขับรถสมมิตว่าขับรถคันนึง 80 กม./ชม. แล้วมาขับอีกคันที่เป็น 4wd ที่ 100 กม./ชม.  แล้วให้ความมั่นใจในการควบคุมที่พอๆกัน  หรืออาจะขับเท่ากันแต่บังคับควบคุมได้ดีกว่า แค่นี้มันก็โอเคแล้วครับ ไม่ได้ว่าไปถึงการขับเกินลิมิตอะไรขนาดนั้น

ออฟไลน์ lonely

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
ผมประสบการณ์คล้ายกับจขกท.ครับ
เพราะฉะนั้นทุกคนที่บ้านคือต้องมีขับสี่ทั้งหมด
เจอมาเยอะครับที่บอกขับหลังสเถียรกว่าขับหน้า ถ้าสกิลขับไม่ดียิ่งขะบกลังน่ากลัวกว่าครับ
ยางก็มีผลค่อนข้างมากเช่นกันครับ แต่สุดท้ายยังไงขับสี่ก็สเถียรกว่าอยู่ดีครับ
เคยเห็นมั้ยครับ yaris 1.2 วิ่ง170 สายเอเชียช่วงชัยนาทนครสวรรค์ตอนฝนตก
คันอื่นเค้าเบาความเร็วลงกันหมดแล้ว พี่ท่านยังไปแบบไม่กลัว ภาพวะนนั้นยังติดตามาถึงทุกวันนี้เลยครับ


 yaris 1.2 วิ่ง170 สายเอเชียช่วงชัยนาทนครสวรรค์ตอนฝนตก  = ทำได้เพราะคนขับไม่กลัว หรือใช้ยางเทพถนนเปียกครับ ??
My car and Driving is My Life = เวอร์ไปไหม ??

ออฟไลน์ IS2000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,183
    • อีเมล์
ขับปกติทางตรงๆผมว่ายางสำคัญกว่าระบบขับเคลื่อนอีกครับ ผมมีรถขับสี่ใส่ยางสปอร์ตที่ทำให้ผวามาหลายครั้งแล้วกับรถขับหลังยางทั่วไปที่ให้ความมั่นใจกว่า จะไปเห็นความแตกต่างอีกทีตรงทางโค้งเยอะๆถ้าขับไม่ระวังรถขับหลังอาจจะเป็นรองรถขับสี่กับขับหน้า หรือกรณีอยู่เมืองหนาวหิมะตกอันนั้นขับสี่กับขับหน้าเท่านั้นเลยครับ
1 3 5
├┼┼╕
2 4 6 R

PKS8

  • บุคคลทั่วไป
ก็ถ้าขับเกิน limit รถและยาง  จะ FWD, RWD, AWD  ก็เสร็จหมดแหละคับ

สมัยก่อน ผมก็บ้า AWD นี่แหละคับ    ขับ 3000GT AWD คิดว่ายังไงก็เอาอยู่ สุดท้ายอุบัติเหตุที่แรงสุดในชีวิตผมก็มาจากเจ้าคันนี้เลย คือเข้าโค้งฝนตก เอาไม่อยู่กระเด็นข้ามเกาะกลางไปชนกะรถอีกฝั่ง

จากนั้น ผมก็เลิกสนใจ AWD - RWD - FWD ไปเลย 
สุดท้าย ขับให้มันช้าลง แค่นี้มันก็โอเคละคับ จะ vigo ที่ว่าร่อนๆ แพ้ฝน ก็ขับไปได้ทั่วไทยไม่มีปัญหา , fwd ก็ไม่มีปัญหา ไปได้หมดเหมือนกัน ขึ้นเขา ขึ้นดอย ,  pajero sport ที่ว่ามีโหมด awd ผมขับ เชียงใหม่-เชียงรายที่ว่าถนนลื่น หมุนกันบ่อย  ๆ  ก็หลายที ผมก็ลองทั้งโหมด ขับสอง กับขับสี่  มันก็ไม่ได้จะต่างกันขนาดนั้น ถ้าไม่ได้เหยียบระดับเกินร้อยในโค้ง

ผมเลยรู้สึกแปลก ๆ ว่า ทำไมถึงจะเลือก AWD เพื่อเอามา วิ่งเร็ว ๆ ลุยฝนกัน ..... ก็ขับให้ช้าลงดิคับ

ถ้าคิดแบบนี้กันหมดบริษัทรถก็ไม่ต้องขวนขวายพัฒนาระบบขับเคลื่อนให้ดีๆ หรอกมั้งครับ บางทีสำหรับคนขับรถสมมิตว่าขับรถคันนึง 80 กม./ชม. แล้วมาขับอีกคันที่เป็น 4wd ที่ 100 กม./ชม.  แล้วให้ความมั่นใจในการควบคุมที่พอๆกัน  หรืออาจะขับเท่ากันแต่บังคับควบคุมได้ดีกว่า แค่นี้มันก็โอเคแล้วครับ ไม่ได้ว่าไปถึงการขับเกินลิมิตอะไรขนาดนั้น

+1

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,640
ขอฝากอีกนิด

สำหรับคนที่ขับรถ 4x4 แบบ Part-time (รถกระบะเกือบทุกรุ่น)

เวลาฝนตกห้ามใส่เกียร์ 4H ขับ เด็ดขาดนะครับ

ถึงคุณจะบอกว่า ใส่ตลอด มั่นใจกว่ากันเยอะก็ตาม

แต่ผมบอกได้เลยว่าเป็นแค่ความรู้สึกคุณเองล้วนๆ เพราะ 4H ไม่ได้ออกแบบมาให้ใช้งานบนถนนดำครับ

ความจริงคือ คุณกำลังทำให้ชีวิตตัวเองเสี่ยง เพราะ 4H นั้น มันจะล็อคเฟืองกลางไว้ ไม่มี Center diff ทำให้เวลาเลี้ยวแล้วรถขืน

ตอนนี้คุณแค่โชคดีไม่เกิดอุบัติเหตุครับ แต่พลาดเมื่อไหร่ หลุดง่ายกว่าใส่ 2H เยอะครับ

ถึงจะไม่เชื่อผมก็ลองหาข้อมูลเพิ่มดูครับ เรื่องของชีวิต อย่าเชื่อFeeling และความคิดตัวเองมากครับ ต้องลองดูข้อเท็จจริงประกอบ ที่ผู้รู้/บริษัทรถ/วิศวกร แนะนำครับ

ใช่ครับ คนทั่วไปเข้าใจผิดกันเยอะ
Ppv ตอนนี้ที่มีfulltime 4wdให้เลือก เหลือแค่ Everest กับ pajerosport
คนส่วนใหญ่ยังคิดว่า กระบะขับสี่part time ใส่4H วิ่ง ไม่ต่างกะบ 4wd fulltime อยู่เลย

จำได้มีกระทู้ในเว็บนึงด่ารถแทบตาย แต่สรุปใส่ 4H ลุยทับเบิกจนพัง
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ akewizard

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,614
ส่วนตัวไม่ได้มีประสบการณ์ในการขับรถแบบต่างๆ หรือพวกที่กำลังเครื่องสูงๆเท่าไหร่นะคับ ก็ขอตอบไปตามความเข้าใจล่ะกัน

ปัจจุบันผมใช้รถ Subaru อยู่ ซึ่งแต่เดิมเคยเป็นค่ายรถขับหน้ามาก่อน แต่หลังๆพัฒนา.การส่งกำลังไปล้อคู่หลังด้วยกลายเป็น AWD
ในเรื่อง Limited ของตัวรถไม่ได้ต่างจากรถ FWD อะไรนัก ขับเกิน 90 แล้วเจอแอ่งน้ำก็เหินได้ ขับเร็วเข้าโค้งแต่เจอขี้โคลนผสมน้ำฝนไหลมาก็ลื่นได้เหมือนกัน
แต่สิ่งที่ AWD ช่วยคือรักษาเสถียรภาพตัวรถให้ยังควบคุมตัวรถไปในทิศทางที่ต้องการได้

ในกรณีขับรถบนถนนช่วงฝนตก ธรรมชาติของวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่โดยปกติมันจะพยายามรักษาโมเมนตัมในการเคลื่อนที่ไปข้างหน้าเสมอ
ถ้าไม่เจออุปสรรคอะไร เราจะพบว่ารถที่มีระบบขับเคลื่อนแต่ละแบบมันก็วิ่งไปข้างหน้านิ่งๆได้เหมือนกัน โดยเฉพาะพวกที่หนักและใส่ยางที่ไม่ได้มีหน้ากว้างเกินไป จะรู้สึกว่ารถนิ่ง
แต่ถ้าอยู่ดีๆไปเจอแอ่งน้ำขังลึก หรือต้องหักเลี้ยวไวๆขึ้นมา หรืออะไรก็ตามที่ทำให้ทิศทางรถเปลี่ยนกะทันหัน ตอนนั้นล่ะที่ระบบขับเคลื่อนแต่ละแบบจะแสดงอาการที่ต่างกันออกมา

ในกรณีวิ่งแล้วแฉลบน้ำ ส่วนตัวผมรู้สึกว่ารถขับหน้ากับ AWD จะคล้ายๆกัน คือจะรู้สึกว่าอาการแฉลบจะมาจากล้อหลังซะเยอะ
แต่ด้วยความที่ล้อหน้ามันดึงไปเรื่อยๆ ทำให้ท้ายกลับมาตั้งตรงได้ง่าย ขับแล้วไม่น่ากลัวอะไรนัก
(Fulltime AWD ของ Subaru หลายๆรุ่นจะ Bias กำลังไปที่ล้อหน้าเยอะกว่าคู่หลังนิดหน่อย ทำให้อาการคล้ายขับหน้าแต่จะออกอาการแฉลบน้ำน้อยกว่า)

ออฟไลน์ shikimaru

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,313
    • อีเมล์
ฝนตก ยิ่งหน้าแคบ ยิ่งรีดน้ำไว โอกาสเกิด hydroplan น้อยลงเยอะ ผมลองเทียบหลายๆครั้ง คำตอบนี้ชัดเจนมาก ยิ่งเจอพวกรถเล็ก 195 นี่ไปง่ายกว่า 225 เยอะเลย ไม่ต้องนับรวมยางห่วย ยางดีด้วยนะ ที่ช่วยให้ดียิ่งขึ้นไปอีก

ยางรถ suv+ ppv ร่องรีดน้ำจะกว้างและใหญ่ ลึก แม้หน้ายางจะกว้างก็ตาม

เวลาฝนตกผมชอบ awd 4wd มากสุดนะ รถมันพร้อมไปได้ ไม่น่ากลัว ลองลงมาก็ขับหน้า แล้วขับหลัง ขับหลังถ้าใน suv ppv กระบะสำหรับผมไม่น่ากลัว เท่าพวกรถเก๋งทั้งหลาย อันนี้แปลกดี ขับหน้าก็มีแค่บางจังหวะที่น่ากลัว แต่ขับหลังนี่ถ้ารถเก๋ง ผมเคยขับเส้นปกติทั่วไป รถมันสะบัดไม่หยุดเลย นิดๆหน่อยๆตลอดทั้งที่ไม่เกิน 100

ออฟไลน์ deertesla

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,245
ก็ถ้าขับเกิน limit รถและยาง  จะ FWD, RWD, AWD  ก็เสร็จหมดแหละคับ

สมัยก่อน ผมก็บ้า AWD นี่แหละคับ    ขับ 3000GT AWD คิดว่ายังไงก็เอาอยู่ สุดท้ายอุบัติเหตุที่แรงสุดในชีวิตผมก็มาจากเจ้าคันนี้เลย คือเข้าโค้งฝนตก เอาไม่อยู่กระเด็นข้ามเกาะกลางไปชนกะรถอีกฝั่ง

จากนั้น ผมก็เลิกสนใจ AWD - RWD - FWD ไปเลย 
สุดท้าย ขับให้มันช้าลง แค่นี้มันก็โอเคละคับ จะ vigo ที่ว่าร่อนๆ แพ้ฝน ก็ขับไปได้ทั่วไทยไม่มีปัญหา , fwd ก็ไม่มีปัญหา ไปได้หมดเหมือนกัน ขึ้นเขา ขึ้นดอย ,  pajero sport ที่ว่ามีโหมด awd ผมขับ เชียงใหม่-เชียงรายที่ว่าถนนลื่น หมุนกันบ่อย  ๆ  ก็หลายที ผมก็ลองทั้งโหมด ขับสอง กับขับสี่  มันก็ไม่ได้จะต่างกันขนาดนั้น ถ้าไม่ได้เหยียบระดับเกินร้อยในโค้ง

ผมเลยรู้สึกแปลก ๆ ว่า ทำไมถึงจะเลือก AWD เพื่อเอามา วิ่งเร็ว ๆ ลุยฝนกัน ..... ก็ขับให้ช้าลงดิคับ

ถ้าคิดแบบนี้กันหมดบริษัทรถก็ไม่ต้องขวนขวายพัฒนาระบบขับเคลื่อนให้ดีๆ หรอกมั้งครับ บางทีสำหรับคนขับรถสมมิตว่าขับรถคันนึง 80 กม./ชม. แล้วมาขับอีกคันที่เป็น 4wd ที่ 100 กม./ชม.  แล้วให้ความมั่นใจในการควบคุมที่พอๆกัน  หรืออาจะขับเท่ากันแต่บังคับควบคุมได้ดีกว่า แค่นี้มันก็โอเคแล้วครับ ไม่ได้ว่าไปถึงการขับเกินลิมิตอะไรขนาดนั้น

+1
บางทีถนนลื่นจนขับหลังรับไม่ได้ในความเร็วที่ไม่ได้สูงก็มีนะครับ  ยังไงขับสีกับกับขับหน้ามันไว้ใจได้มากกว่าขับหลังในถนนลื่นการเข้าโค้งทั้งหลาย ครับ ถ้าพูดเช่นนี้มันไม่แปลกหรอกที่บริษัทรถในประเทศไทยรวมหัวกันกั๊กตัดนู่นตัดนี่และขายรถราคาแพงเกินเหตุ
ขอฝากอีกนิด

สำหรับคนที่ขับรถ 4x4 แบบ Part-time (รถกระบะเกือบทุกรุ่น)

เวลาฝนตกห้ามใส่เกียร์ 4H ขับ เด็ดขาดนะครับ

ถึงคุณจะบอกว่า ใส่ตลอด มั่นใจกว่ากันเยอะก็ตาม

แต่ผมบอกได้เลยว่าเป็นแค่ความรู้สึกคุณเองล้วนๆ เพราะ 4H ไม่ได้ออกแบบมาให้ใช้งานบนถนนดำครับ

ความจริงคือ คุณกำลังทำให้ชีวิตตัวเองเสี่ยง เพราะ 4H นั้น มันจะล็อคเฟืองกลางไว้ ไม่มี Center diff ทำให้เวลาเลี้ยวแล้วรถขืน

ตอนนี้คุณแค่โชคดีไม่เกิดอุบัติเหตุครับ แต่พลาดเมื่อไหร่ หลุดง่ายกว่าใส่ 2H เยอะครับ

ถึงจะไม่เชื่อผมก็ลองหาข้อมูลเพิ่มดูครับ เรื่องของชีวิต อย่าเชื่อFeeling และความคิดตัวเองมากครับ ต้องลองดูข้อเท็จจริงประกอบ ที่ผู้รู้/บริษัทรถ/วิศวกร แนะนำครับ

ใช่ครับ คนทั่วไปเข้าใจผิดกันเยอะ
Ppv ตอนนี้ที่มีfulltime 4wdให้เลือก เหลือแค่ Everest กับ pajerosport
คนส่วนใหญ่ยังคิดว่า กระบะขับสี่part time ใส่4H วิ่ง ไม่ต่างกะบ 4wd fulltime อยู่เลย

จำได้มีกระทู้ในเว็บนึงด่ารถแทบตาย แต่สรุปใส่ 4H ลุยทับเบิกจนพัง
ใช่ครับ  มันใช้แทนกันไม่ได้

ออฟไลน์ Superpong

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 313
    • อีเมล์
ผมคิดอย่างนี้นะครับ การขับความเร็วคงที่ทางตรงลุยฝน ลุยน้ำ ระบบขับเคลื่อนแทบจะไม่เกี่ยวเลยครับ รถจะร่อนหรือจะเหินน้ำแค่ไหน อยู่ที่ความสามารถในการรีดน้ำของยาง รถ 330e G20 ที่จขกท.พูดถึงใส่ยางหน้ากว้างกว่า altis แน่นอน ซึ่งหน้ายางยิ่งกว้าง ยิ่งรีดน้ำออกจากหน้ายางได้ช้ากว่า ก็อาจเกิดอาการเหินน้ำได้ง่ายกว่าครับ ถ้ายางรีดน้ำไม่ดี จะขับหน้า ขับหลัง ขับสี่ วิ่งทางตรงยังไงก็ไม่มั่นใจครับ ระบบขับเคลื่อนไม่ค่อยเกี่ยว

แต่ถ้าเป็นทางโค้งหรือจังหวะออกตัวเอง ระบบขับสี่อาจจะให้การยึดเกาะที่มากกว่าตอนเราเติมคันเร่งครับ เพราะแรงบิดมันถูกกระจายไปที่ล้อหน้าด้วย โอกาสการเกิด oversteer หรือท้ายปัดกลางโค้งก็น้อยกว่า แต่ถ้ามีทักษะการขับขี่ที่ดี ไม่เติมคันเร่งขณะเข้าโค้งมากเกินไป รถขับหลังก็สามารถเข้าโค้งได้ดีในทางเปียกเช่นเดียวกันครับ

ส่วนตัวผมใช้ 330e F30 ใช้ยาง Michelin PS4s วิ่งลุยฝนความเร็วสูงพอสมควรได้โดยไม่เคยมีปัญหาเลยครับ (อยู่ที่สภาพอากาศด้วย) แต่ก็รู้สึกว่าไปได้เร็วกว่ารถบนถนนส่วนมากครับ ลองเปลี่ยนยางเป็น PS4s ก่อนครับ ตัวนี้รีดน้ำดีกว่ายางติดรถ G20 จากโรงงานแน่นอน

PS4 นี่มีรายงานเหินน้ำจากสมาชิกในนี้ เยอะอยู่นะครับ มีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ

https://community.headlightmag.com/index.php?topic=80131.0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 06, 2021, 14:28:46 โดย Superpong »

ออฟไลน์ Superpong

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 313
    • อีเมล์
ผมไม่เห็นการถกประเด็นนี้เป็นข้อมูลภาษาไทยใน Google เลยครับ เลยอยากแชร์และถามประสบการณ์ ความคิดเห็นคนอื่นๆ
ว่าคนไทยสนใจประเด็นนี้ในการเลือกซื้อรถ หรือเป็นประเด็นที่ใส่ใจเวลาขับขี่กันไหม

ส่วนตัว ก่อนนี้ที่บ้านใช้แต่พวก CRV 4WD มาตั้งแต่เด็ก G1 จนมา G3 จนโตมาก็รับมรดกมาขับต่อทั้งสองคัน (ตั้งแต่อายุ 14 จน 31)
จึงไม่ได้รับรู้ประสบการณ์รถประเภทอื่นๆ มากนัก ตอนนั้นรู้สึกว่าการลุยฝนที่ความเร็ว 100-120+ เป็นเรื่องเฉยๆ
ค่อนไปทางสงสัยด้วยว่า ทำไมเวลาฝนตกรถทั่วๆไปเค้าถึงขับช้ากัน (คือมันเสถียรจริงๆ 10 กว่าปีที่ขับรถ ไม่เคยเจอเรื่องหวาดเสียว)
**Subaru เองก็โปรโมทระบบขับเคลื่อน AWD ของตนเองทางวิทยุ เกี่ยวกับความสามารถในการลุยฝน**
.
จนกระทั่งออก Altis Hybrid ที่เป็นรถ FWD มาปีที่แล้ว เลยถึงบางอ้อ ที่เค้าขับช้าๆกัน เพราะมันลื่น ฝืดฝาด กว่ามาก
และสัมผัสได้ถึงแรงต้านที่ล้อหน้าหน่วงกว่า 4WD (ใช้รอบสูงกว่าปกติ สูญเสียกำลัง เวลาลุยฝน)
รวมถึงการเสียอาการเป๋ แฉลบ ชัดกว่า ต้องคอยยกคันเร่งเวลาเจอแอ่ง และคอยเติมพวงมาลัย Counter เพื่อประคองรถมากกว่า เครียดกว่า
อันนี้คิดว่าผลจากล้อหน้าที่ขับเคลื่อนเกาะถนนไม่ 100% ประกอบกับไม่มีการส่งกำลังไปล้อหลัง รถจึงหน่วงเสียกำลังกว่าพวก 4WD
ที่มีการส่งกำลังไปล้อหลังที่มีแรงต้านน้อยกว่า เพราะน้ำถูกแหวกโดยล้อหน้าไปแล้ว
ภาพรวม สถานการณ์เดียวกัน ถ้า CRV ได้ 120 ถ้าขับ Altis ผมได้ 90-100 แค่นั้น ไวกว่านั้นเริ่มกลัวแล้วครับ
.
จนล่าสุดเพิ่งได้มีโอกาสซื้อ BMW 330e G20 ป้ายแดง(ยางใหม่) เป็นรถขับหลัง ตอนแรก คิดว่าขับล้อหลังน่าจะเสถียรกว่า
เพราะมีล้อหน้าแหวกน้ำให้แล้ว แต่ก็พบว่า มีทั้งคิดผิดและถูก
1.เรื่องที่คิดถูกคือ รถไม่เกิดแรงต้านสูญเสียกำลังเวลาเจอน้ำ เนื่องจากล้อขับเคลื่อนไม่ปะทะน้ำล้อหน้าแหวกทางให้แล้ว
2.แต่เรื่องที่ผิดคาดมันน่ากลัวกว่า คือรถมันเหมือนลอยร่อนไปบนถนน มันดิ้นหน้า ดิ้นหลัง และเป๋ออกง่ายกว่า เกือบจะเลื้อย ไม่รู้ว่าลมเกี่ยวไหม(อยู่บนบูรพาวิถี ฝนตกแรง)
เป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ว่าขับหลังยากสุด เพื่อ Proof เลยค้นข้อมูลเป็น Eng ก็พบว่าพวกฝรั่งมีความเห็นแบบนั้นเช่นกัน (RWD weaknest on rain and snow)
ด้วยความเป็น BMW เลยคาดหวังสูงว่าน่าจะเสถียรและเอาอยู่กว่า Altis มาก แต่กลายเป็นไม่ใช่ ขับช้าได้เท่าๆ กับ Altis และเครี่ยดกว่า
รวมไปถึงพอนึกว่า เจอ C-class ร่วมทางคลานเอื่อยๆ ตอนนั้นก็แอบสงสัยทำไม benz ขับช้าจัง
พอตัวเองแฉลบแล้วเป๋ออก ต้องรีบ Counter พวกมาลัยกลับก็แบบ อ่อออ ถึงว่าเค้าทำไมเค้าขับช้า เกือบไปละ
จนคุยกะแฟนว่าต่อไปนี้ฝนตกเอา BMW จอดไว้บ้านแล้วขับ Altis ดีกว่านะ (ขำแห้ง)
.
ทีนี้พอนึกๆไป มีช่วงนึงมีประสบการณ์ชวนสงสัย คือได้ขับ Vigo 4ประตูอยู่พักนึง เมื่อ 6-7 ปีก่อน
ลุยฝนหนักๆ เส้นมิตรภาพที่ความเร็ว 100-120 ในความทรงจำรู้สึกว่ารถเสถียรกว่า 330e ซะอีก ไม่มีอาการไถล ไถลื่นให้กังวลเลย
ทั้งที่ Vigo หนัก 1680กก. เบากว่า 330e ที่หนัก 1740กก. อีก ก็ไม่รุ้ว่ามีปัจจัยใดๆ อีกไหม
.
คิดว่าคันถัดไปน่าจะกลับไปซื้อรถ 4WD/AWD จริงๆ ละครับ เหมือนยิ่งซื้อยิ่งถอยห่างจากสิ่งที่คาดหวังไปเรื่อยๆ
แต่รถเมืองไทยหา spec AWD ยากจริงๆ ตัวเลือกน้อยมาก ถ้า 330e มี xDrive เหมือนตัวนอก ผมก็ออก xDrive นะ

*ขอความกรุณาให้คุยกันในประเด็นเรื่องสมรรถนะระบบขับเคลื่อน งดทำนองตำหนิว่าฝนตกขับช้าๆนะครับ
อันนั้นเป็น common sense ที่ทราบกันอยู่แล้ว ถ้าให้ขับช้าๆขับรถเก่า 40ปี ก็ลุยฝนได้ครับ ไม่มีปัญหาเลย
ทุกสิ่งบนโลกพัฒนาให้เร็วขึ้นทุกวัน สิ่งประดิษฐ์อย่างรถยนต์ก็มีการพัฒนาการในแง่ความเร็ว ความปลอดภัย เพื่อผ่านอุปสรรคเส้นทางต่างๆได้รวดเร็วขึ้นเช่นกัน*

+1 เห็นด้วยกับคุณจขพ เลยครับ ประสบการณ์เดียวกับผมเลย ผมก็ใช้ CRV ขับสี่ พอเปลี่ยนเป็นบีเอ็มขับหลัง เจอฝนครั้งแรกเสียววาบ นึกว่าลงข้างทางซะแล้ว

ออฟไลน์ THX

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 20
ผมไม่เห็นการถกประเด็นนี้เป็นข้อมูลภาษาไทยใน Google เลยครับ เลยอยากแชร์และถามประสบการณ์ ความคิดเห็นคนอื่นๆ
ว่าคนไทยสนใจประเด็นนี้ในการเลือกซื้อรถ หรือเป็นประเด็นที่ใส่ใจเวลาขับขี่กันไหม

ส่วนตัว ก่อนนี้ที่บ้านใช้แต่พวก CRV 4WD มาตั้งแต่เด็ก G1 จนมา G3 จนโตมาก็รับมรดกมาขับต่อทั้งสองคัน (ตั้งแต่อายุ 14 จน 31)
จึงไม่ได้รับรู้ประสบการณ์รถประเภทอื่นๆ มากนัก ตอนนั้นรู้สึกว่าการลุยฝนที่ความเร็ว 100-120+ เป็นเรื่องเฉยๆ
ค่อนไปทางสงสัยด้วยว่า ทำไมเวลาฝนตกรถทั่วๆไปเค้าถึงขับช้ากัน (คือมันเสถียรจริงๆ 10 กว่าปีที่ขับรถ ไม่เคยเจอเรื่องหวาดเสียว)
**Subaru เองก็โปรโมทระบบขับเคลื่อน AWD ของตนเองทางวิทยุ เกี่ยวกับความสามารถในการลุยฝน**
.
จนกระทั่งออก Altis Hybrid ที่เป็นรถ FWD มาปีที่แล้ว เลยถึงบางอ้อ ที่เค้าขับช้าๆกัน เพราะมันลื่น ฝืดฝาด กว่ามาก
และสัมผัสได้ถึงแรงต้านที่ล้อหน้าหน่วงกว่า 4WD (ใช้รอบสูงกว่าปกติ สูญเสียกำลัง เวลาลุยฝน)
รวมถึงการเสียอาการเป๋ แฉลบ ชัดกว่า ต้องคอยยกคันเร่งเวลาเจอแอ่ง และคอยเติมพวงมาลัย Counter เพื่อประคองรถมากกว่า เครียดกว่า
อันนี้คิดว่าผลจากล้อหน้าที่ขับเคลื่อนเกาะถนนไม่ 100% ประกอบกับไม่มีการส่งกำลังไปล้อหลัง รถจึงหน่วงเสียกำลังกว่าพวก 4WD
ที่มีการส่งกำลังไปล้อหลังที่มีแรงต้านน้อยกว่า เพราะน้ำถูกแหวกโดยล้อหน้าไปแล้ว
ภาพรวม สถานการณ์เดียวกัน ถ้า CRV ได้ 120 ถ้าขับ Altis ผมได้ 90-100 แค่นั้น ไวกว่านั้นเริ่มกลัวแล้วครับ
.
จนล่าสุดเพิ่งได้มีโอกาสซื้อ BMW 330e G20 ป้ายแดง(ยางใหม่) เป็นรถขับหลัง ตอนแรก คิดว่าขับล้อหลังน่าจะเสถียรกว่า
เพราะมีล้อหน้าแหวกน้ำให้แล้ว แต่ก็พบว่า มีทั้งคิดผิดและถูก
1.เรื่องที่คิดถูกคือ รถไม่เกิดแรงต้านสูญเสียกำลังเวลาเจอน้ำ เนื่องจากล้อขับเคลื่อนไม่ปะทะน้ำล้อหน้าแหวกทางให้แล้ว
2.แต่เรื่องที่ผิดคาดมันน่ากลัวกว่า คือรถมันเหมือนลอยร่อนไปบนถนน มันดิ้นหน้า ดิ้นหลัง และเป๋ออกง่ายกว่า เกือบจะเลื้อย ไม่รู้ว่าลมเกี่ยวไหม(อยู่บนบูรพาวิถี ฝนตกแรง)
เป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ว่าขับหลังยากสุด เพื่อ Proof เลยค้นข้อมูลเป็น Eng ก็พบว่าพวกฝรั่งมีความเห็นแบบนั้นเช่นกัน (RWD weaknest on rain and snow)
ด้วยความเป็น BMW เลยคาดหวังสูงว่าน่าจะเสถียรและเอาอยู่กว่า Altis มาก แต่กลายเป็นไม่ใช่ ขับช้าได้เท่าๆ กับ Altis และเครี่ยดกว่า
รวมไปถึงพอนึกว่า เจอ C-class ร่วมทางคลานเอื่อยๆ ตอนนั้นก็แอบสงสัยทำไม benz ขับช้าจัง
พอตัวเองแฉลบแล้วเป๋ออก ต้องรีบ Counter พวกมาลัยกลับก็แบบ อ่อออ ถึงว่าเค้าทำไมเค้าขับช้า เกือบไปละ
จนคุยกะแฟนว่าต่อไปนี้ฝนตกเอา BMW จอดไว้บ้านแล้วขับ Altis ดีกว่านะ (ขำแห้ง)
.
ทีนี้พอนึกๆไป มีช่วงนึงมีประสบการณ์ชวนสงสัย คือได้ขับ Vigo 4ประตูอยู่พักนึง เมื่อ 6-7 ปีก่อน
ลุยฝนหนักๆ เส้นมิตรภาพที่ความเร็ว 100-120 ในความทรงจำรู้สึกว่ารถเสถียรกว่า 330e ซะอีก ไม่มีอาการไถล ไถลื่นให้กังวลเลย
ทั้งที่ Vigo หนัก 1680กก. เบากว่า 330e ที่หนัก 1740กก. อีก ก็ไม่รุ้ว่ามีปัจจัยใดๆ อีกไหม
.
คิดว่าคันถัดไปน่าจะกลับไปซื้อรถ 4WD/AWD จริงๆ ละครับ เหมือนยิ่งซื้อยิ่งถอยห่างจากสิ่งที่คาดหวังไปเรื่อยๆ
แต่รถเมืองไทยหา spec AWD ยากจริงๆ ตัวเลือกน้อยมาก ถ้า 330e มี xDrive เหมือนตัวนอก ผมก็ออก xDrive นะ

*ขอความกรุณาให้คุยกันในประเด็นเรื่องสมรรถนะระบบขับเคลื่อน งดทำนองตำหนิว่าฝนตกขับช้าๆนะครับ
อันนั้นเป็น common sense ที่ทราบกันอยู่แล้ว ถ้าให้ขับช้าๆขับรถเก่า 40ปี ก็ลุยฝนได้ครับ ไม่มีปัญหาเลย
ทุกสิ่งบนโลกพัฒนาให้เร็วขึ้นทุกวัน สิ่งประดิษฐ์อย่างรถยนต์ก็มีการพัฒนาการในแง่ความเร็ว ความปลอดภัย เพื่อผ่านอุปสรรคเส้นทางต่างๆได้รวดเร็วขึ้นเช่นกัน*



เรื่องลมก็น่าจะมีส่วนนะครับ เคยดูคลิปของคุณจิมมี่ที่บอกว่า X5 ขับบนบูรพาวิถี ช่วงลมแรงๆรถยังวูบวาบเลยครับ แต่ ในกรณี 330e นี่ ผมว่ายางติดรถมีส่วนเลยนะครับ และยางหน้าหลังขนาดไม่เท่ากัน หน้าสัมผัสกับพื้นถนนก็เพิ่มขึ้น เวลาเกิดอะไรขึ้นมันเลยรับรู้ได้มากกว่า ผมใช้ 525d F10 ขยับมาจาก ACV 30 ตอนซื้อมาใช้แรกๆขับไม่เป็นเลยครับ สัมผัสได้ว่ารถมันดูดถนนมากขึ้น สัมผัสพื้นถนนได้มากกว่าเดิม แต่ใช้เวลาปรับตัวสักระยะก็ชินครับ
ปล ACV30 ไม่ว่าจะถนนแห้ง ถนนเปียก ผมขับ 120 นี่หลอนแล้วครับ ลอยเกินแบบจะหลุดให้ได้

ออฟไลน์ The_Wizard

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 258
ผมเคยวิ่งบนโทลเวย์ขาเข้าเมืองช่วงก่อนถึงทางลงตรงอนุสรณ์สถานแห่งชาติ ก่อนหน้านั้นฝนตกหนัก ทางมืดมากเพราะไฟถนนไม่ติดเลย ผมขับ Captiva AWD มาความเร็วร้อยนึง วิ่งเข้าหาแอ่งน้ำที่ขังอยู่เต็มๆเพราะมองไม่เห็น ตอนนั้นตกใจจนเผลอเหยียบเบรคแรงเหมือนกัน แต่รถแทบไม่เสียอาการ คิดว่าน่าจะเป็นผลพวงของการที่มันขับสี่ และมี ABS ESP ไม่งั้นน่าจะเป๋จนหมุนไปแล้วก็ได้ แต่หลังจากนั้นเวลาฝนตกผมก็ขับช้าลงไปเยอะ เพราะอาจจะไม่ได้โชคดีเหมือนครั้งนั้นแล้วก็ได้
ใดๆก็ตามผมว่ายางก็มีผลนะครับ แม้นระบบรถดี แต่ถ้ายางไม่ดี ก็รอดยาก

ออฟไลน์ madboy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,345
    • อีเมล์
ผมขับวีโก้ยางเดิมตอนฝนตก เหยียบ 160-170 ไม่เห็นเป็นไรเลยครับ......สักพักก็ตื่น  ;D


เอาจริงๆ จะแบบไหน ผมก็ๅๅค่อนข้างช้าไว้ก่อนเหมือนกันทุกแบบครับ เพราะฉะนั้น คำว่า common sense นั้น ผมว่าก็ต้องย้ำตามนั้นว่า "อย่าเร็ว"  ;) ;) ;)

ออฟไลน์ CMaN20

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 678
รถดี ยางดี ระบบดี ก็ช่วยได้มากครับ. เคยดู clip ฝรั่งที่ทดลองขับเร็วๆระหว่างฝนตก แล้วรถมันเหิน Hydro Planning แต่ระบบรถมันก็ช่วยไว้ได้. แต่มาดูที่เมืองไทย มันไม่ใช่แค่น้ำฝนบนพื้นถนน แต่มันแทบจะเป็นเอ่งน้ำ แบบนี้ระบบไหนก็ไม่น่ารอดครับ.
# BMW    520d E60   
# BENZ   E250CDI W212
# BMW    520d G30
# VOLVO  XC90 D5 Y2020

ออฟไลน์ Carnival911

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 69
ฝนตกหนัก ถนนลื่น แอ่งน้ำเยอะ ผมให้
70% ยาง
30% ช่วงล่าง

ตอนขับรถฝ่าฝนตกหนัก และมีแอ่งน้ำเยอะ ผมใช้ยาง Goodyear assymetrics ผมว่ามันลุยน้ำและเกาะถนนดีมากๆ ความเร็วไม่เกิน 150 เอาอยู่สบายๆ(bmw serie5)​

ออฟไลน์ kriz

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 398
ผมเคยวิ่งบนโทลเวย์ขาเข้าเมืองช่วงก่อนถึงทางลงตรงอนุสรณ์สถานแห่งชาติ ก่อนหน้านั้นฝนตกหนัก ทางมืดมากเพราะไฟถนนไม่ติดเลย ผมขับ Captiva AWD มาความเร็วร้อยนึง วิ่งเข้าหาแอ่งน้ำที่ขังอยู่เต็มๆเพราะมองไม่เห็น ตอนนั้นตกใจจนเผลอเหยียบเบรคแรงเหมือนกัน แต่รถแทบไม่เสียอาการ คิดว่าน่าจะเป็นผลพวงของการที่มันขับสี่ และมี ABS ESP ไม่งั้นน่าจะเป๋จนหมุนไปแล้วก็ได้ แต่หลังจากนั้นเวลาฝนตกผมก็ขับช้าลงไปเยอะ เพราะอาจจะไม่ได้โชคดีเหมือนครั้งนั้นแล้วก็ได้
ใดๆก็ตามผมว่ายางก็มีผลนะครับ แม้นระบบรถดี แต่ถ้ายางไม่ดี ก็รอดยาก

ผมมี Captiva 2wd อยู่ใช้มาตั้งแต่ป้ายแดง ขับ 100-120 ผ่านมาทุกน้ำนิ่งมากๆ เลยครับ ไม่ว่าจะยางเดิมติดรถ (Hankook) หรือยาง Continental Cross Contact ที่เปลี่ยนมาทีหลัง

ปัจจุบัน X3 ยางหน้ากว้าง p zero รู้สึกว่านิ่งมากกว่า Captiva อยู่นิดๆ แต่ไม่หนีกันมากเลยครับ แต่เวลาเข้าโค้งนี่ใส่เต็มได้มากกว่าชัดเจน น่าจะเพราะระบบขับ 4

ออฟไลน์ XMSL

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 827
ความรู้สึกว่ามันเกาะ มันลื่น มันนิ่ง หรือจะหลุด อาจจะแค่ความไม่คุ้นเคยในสถานการณ์ที่ต่างไป..ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆก็ได้ โดยเฉพาะคนที่ไม่ใช่มืออาชีพที่อยู่กับเส้นขอบเขตลิมิตในสถานการณ์ต่างๆอยู่ตลอดเวลา

ออนไลน์ tom46

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,698
รถผมก็รถขับหลังนะครับ

ส่วนตัวผมว่ามาจาก ยางหน้ากว้าง ด้วยละครับ อย่างของผมเดิมเป็นล้อ 16 ยางเบอร์ 205/55/16 ทั้งสี่ล้อ ขับทางฝนอะไรก็ไม่ค่อยจะรู้สึกอะไรกับเขาเท่าไร ก็ไปได้เรื่อยๆ

แต่พอตอนหลังเปลี่ยนล้อมาเป็นขอบ 18 ยางหน้าเบอร์ 225/40/18 ยางหลังเบอร์ 255/35/18 เจอทางฝนก็ย่องเอาเหมือนกันครับ เท่าที่ถามๆพวกๆกันที่ใช้ยางหน้ากว้าง ส่วนมากจะตอบแบบเดียวกันหมดว่า ย่อง เอาเหมือนกันครับ

ที่เคยใช้ยางไซส์นี้มาก็มี pzero advansport ps4 s001 ผมกลับว่า ps4 ทางฝนกลับดูดีสุดครับ แต่ทางแห้งผมไม่ค่อยชอบเท่าไรนะครับ ถ้า จขกท อยากลองเรื่องยาง ลองหาพวก มิชลิน ตัวบนๆหน่อย อย่าง PSS หรือ PS4S ใช้ดูครับ (4s นะครับไม่ใช่ ps4 เฉยๆ) 

M52TUB30 NA TUNING
STROKER M54B30
SCHRICK CAM 248/248
aa tuning software custom
K&N performance air intake kit
Exhaust systems thailand hand made
Rear exhaust EISENMANN

ออฟไลน์ Lusifer007

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 17
    • อีเมล์
ผมก็ขับ 4wd เป็นหลักมาตลอดเหมือนกัน

เลยม่ีปัญหา กับ รถที่อากได้มาก ดันขับหลัง ซะอีก (เล็ง ไว้ mustang)

แต่พอได้ไปขับ ยังไงก็ยังชอบ ขับ4 มากวก่า

ออฟไลน์ bingoman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,367
เทียบข้ามรุ่น และระบบขับเคลื่อนขอไม่พูดถึงนะครับ

แต่ที่เจอกับตัวเอง BMW ซีรี่3   ยางติดรถ Bridgestone Potenza S001  วิ่งทางเปียกผมวิ่ง 110-120 แบบไม่เสียวนะครับ

พอยางเก่า  ผมอยากลองของ  เลยจัด Maxxis I-Pro มา  (ทางแห้งไม่มีปัญหา)  พอเจอทางเปียก  ต้องวิ่งแค่ 90-100 เอง  เพราะมันลื่นเหมือนเล่นสเก็ต  มันไม่มี grip เท่าอันแรก   

อีกทีนึง ไปใช้ Goodyear Excellence ROF  ทีนี้ทางเปียกมั่นใจกว่าทั้ง S001, IPro  เพราะ Excellence ROF นี้วิ่งทางเปียก  grip มันมา พวงมาลัยคุมได้เหมือนทางแห้งเลย   เทียบกับ S001 อันนั้นตอนเปียกพวงมาลัยคุมได้แค่ซ้ายขวาแต่ไม่ค่อย progressive แล้ว แต่ Excellence ROF คือยังคม  ทางเปียกยอดจริงๆ ครับ