ผู้เขียน หัวข้อ: จ่ายรถจีนเริ่มมีผลให้ค่ายรถญี่ปุ่นในไทยปรับตัวแล้วหรือยัง ???  (อ่าน 3137 ครั้ง)

ออฟไลน์ xman2029

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,350
    • อีเมล์
จากที่เห็นค่ายญี่ปุ่นโดยเฉพาะเจ้าตลาด อย่าง H และ T ในรถเก๋ง เริ่มปรับตัวแล้ว โดยการให้ราคากับออฟชั่นที่สมน้ำสมเนื้อมากขึ้น คิดว่าค่ายจีนในไทยและที่กำลังจะเข้ามามีส่วนทำให้ค่ายญี่ปุ่นเริ่มปรับตัวหรือไม่ครับ

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,228
    • อีเมล์
ผมว่ามีแน่นอนครับ เพราะเขามาแข่งโดยตรงอยู่แล้ว ทางเลือกผู้บริโภคเยอะขั้น

ผมสังเกตุว่า แต่ก่อนหน้านี้ Mazda ใส่ออฟชั่น iActiveSense มาในทั้ง Mazda2, Mazda3, CX-5 แต่ Honda , Toyota ดูเฉยๆ

แต่ตอนนี้

Honda ใส่ Honda Sensing มายัน City

Toyota ใส่ Toyota Safety Sense มา Cross ก็มี แล้ว Alist ต้องมา เลย ผมว่าอีกหน่อยลงไปยัน Vios , Yaris แน่เลย

Isuzu ที่เคยว่ากั๊กออฟชั่นสุด ขนาดวันรับรถ ยังได้ถามน้ำหอมขวดเดียวก็เคยมาแล้ว ไม่ได้อะไรเลย ยังต้องงัด ADAS มาใส่เลย

ผมว่ารถจีนมา มันเป็นจุดเปลี่ยนๆ หลายอย่าง จากค่ายรถที่เคยเป็นเสือนอนกิน กลางเป็นต้องลงมาเป็นผู้ล่า กระโดดโลดเต้น บ้างแล้ว

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,431
ผมว่าอีก 12 เดือนน่าจะชัดกว่านี้ครับ เพราะยังไงค่ายญี่ปุ่น ต้องดูยอดขายจริงของค่ายจีนก่อนครับ

TheRealMeaw

  • บุคคลทั่วไป
เอาความจริงเลยนะครับ

1. การตัดสินใจใส่ออปชั่นอะไรบางอย่างเข้ามาในรถ มันไม่ได้ตัดสินใจกัน 1-2 หรือ 6 เดือนที่แล้ว มันตัดสินใจกันมาในระดับ 1 ปีขึ้นไปทั้งนั้น และบางรุ่นกำหนดสเปคมา 2 ปี ก่อนขายจริงเลยด้วยซ้ำ เพราะอย่างนั้นถ้าคุณเห็นกระแสรถบางรุ่นมาแรงในช่วงนี้ แล้วค่ายรถใส่ออปชั่นบางตัวมาให้ มันไม่เกี่ยวกันโดยตรงครับ สุดท้ายแล้วค่ายรถก็ได้แต่ Speculate ว่าผ่านไปเป็นปี การใส่ออปชั่นนั่นนี่มาให้ จะเป็นการกระตุ้นตลาดที่ได้ผล ทำให้ผู้ซื้อสนใจได้ แต่มันไม่ใช่ว่าพอเห็นยอดขายร่วงแล้วจะตัดสินใจใส่ออปชั่นนั้นภายใน 3 เดือน 6 เดือนเลย มันเป็นไปไม่ได้ครับ แค่ปรับไลน์ผลิตก็ไม่ทันแล้ว

2. ต่อให้ไม่มีค่ายรถจีนเข้ามา ค่ายรถญี่ปุ่นก็ต้องอัดออปชั่นเพิ่มขึ้นมาให้เรื่อย ๆ ครับ เพราะแค่คู่แข่งในชาติเขาก็ใส่เพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ เช่นกัน ถ้าบริษัทไหนเป็นเสือนอนกินจริง ด้วยความก้าวกระโดดของเทคโนโลยีในปัจจุบันเหรอครับ? รับรองครับ Product Cycle เดียวก็เจ๊งแล้วครับ แล้วเห็นค่ายไหนเจ๊งกันหรือยังละครับ? ก็ยังเนอะ มันเป็นเรื่องของอนาคตเนอะ หึหึ แต่คำถามมันขึ้นอยู่กับปัจจุบันงั้นก็เจาะไปที่จุดปัจจุบันก่อนครับ

ทั้งหมดนี้ เราต้องตั้งอยู่บนความคิดที่ว่า เราไม่สามารถคิดภาพของอุตสาหกรรมรถญี่ปุ่น หรือจีน หรือชาติใดก็ตาม เป็นเพียง 1 entity ที่ทำงานทุกอย่าง เป็นก้อนเดียว ตัดสินใจเหมือนกันทุกอย่างด้วยนะครับ!!! เอาแค่ใน 1 บริษัท การตัดสินใจมันก็ขึ้นอยู่กับหน่วยย่อย ๆ แต่ละส่วน ทำงานร่วมกันมาเพื่อให้เกิดเป็นสินค้า 1 ตัว บางทีคนในก็ไม่เห็นด้วยกันเอง ต่อให้บริษัทจะพยายามสร้างความเป็น unity ของบริษัทแค่ไหนก็ตาม

หรือพูดง่าย ๆ คนในบริษัทรถ (ซึ่งในกรณีนี้ อาจจะหมายถึงคนส่วน local หรือ international ก็ได้ แต่ละบริษัท ระดับการตัดสินใจก็ไม่เหมือนกันอีก) บางคนอาจจะมองว่า ไม่ต้องสนใจรถจีนหรอก ขอแค่ทำโปรดักส์ของเราให้มันดีก็พอ ในขณะที่คนอื่นอาจมองว่ามันเป็นศัตรูยิ่งใหญ่ที่ต้องเตรียมตัวรับมือ ถ้าเราไม่ได้ไปอยู่ในหัวของคนคนนั้น เราก็ไม่มีทางรู้หรอกครับว่าเขาคิดยังไง

สิ่งเดียวที่แน่นอนคือ ตัวโปรดักส์ที่ออกมาให้คุณจับต้องและพบเห็นอยู่ทุกวันนี้ มันมาไกลกว่าขั้นตอนการตัดสินใจเย้อออออคร้าบบบบ

Nynewwy_JRW

  • บุคคลทั่วไป
ผมว่ามีแน่นอนครับ เพราะเขามาแข่งโดยตรงอยู่แล้ว ทางเลือกผู้บริโภคเยอะขั้น

ผมสังเกตุว่า แต่ก่อนหน้านี้ Mazda ใส่ออฟชั่น iActiveSense มาในทั้ง Mazda2, Mazda3, CX-5 แต่ Honda , Toyota ดูเฉยๆ

แต่ตอนนี้

Honda ใส่ Honda Sensing มายัน City

Toyota ใส่ Toyota Safety Sense มา Cross ก็มี แล้ว Alist ต้องมา เลย ผมว่าอีกหน่อยลงไปยัน Vios , Yaris แน่เลย

Isuzu ที่เคยว่ากั๊กออฟชั่นสุด ขนาดวันรับรถ ยังได้ถามน้ำหอมขวดเดียวก็เคยมาแล้ว ไม่ได้อะไรเลย ยังต้องงัด ADAS มาใส่เลย

ผมว่ารถจีนมา มันเป็นจุดเปลี่ยนๆ หลายอย่าง จากค่ายรถที่เคยเป็นเสือนอนกิน กลางเป็นต้องลงมาเป็นผู้ล่า กระโดดโลดเต้น บ้างแล้ว

คู่หู YARIS ตัวท็อปก็มี TSS-C ตั้งแต่ 2020 แล้วนี่ครับ? PCS + LDA

ออฟไลน์ zionzz

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 196
มันก็เป็นเรื่องปกตินะ ค่ายจีนเข้ามาแล้ว ดูยอดขายเขาก็ไม่ใช่พร้อมเจ๊งแบบทาทา มันขายดีเลยแหละ
ผู้บริโภคโหวตด้วยเงินในกระเป๋าแล้ว ถ้าไม่ปรับตัวก็โดนกินที่ไปเรื่อยๆแหละครับ

แล้วเขาปรับตัวมาตลอดนะ แต่ที่ผ่านๆมาค่ายเมกาทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ เลยไม่จำเป็นต้องปรับมาก
พวกเจ้าตลาดเขารู้ครับ ว่าให้แค่ไหนถึงจะชนะใจผู้บริโภคแบบ"พอดีๆ"

ออฟไลน์ GT3

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 499
เข้าใจว่าแม้ว่าราคาขายพอๆ กัน

แต่ต้นทุนทางฝั่งญี่ปุ่นสูงกว่ามาก จ้างคนแพงกว่า คุณภาพชิ้นส่วน  QC ต่างๆ  เหล่านี้มันแปลงเป็นออฟชั่นไม่ได้

ออฟไลน์ nin122

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 610
    • อีเมล์
ณ วันนี้ ยังอาจไม่เห็นความกดดันมากนัก แต่ยังไม่เห็นการปรับปรุงที่ชัดเจนจาก brand ญี่ปุ่น แต่ในอนาคตผมว่าจะมีผลมากขึ้นเรื่อยๆ

อาจเริ่มลองสังเกตุจากกลุ่ม B-SUV และ C-SUV ที่ Brand จีนลุยหนักทีเดียว
ว่า Brand ญี่ปุ่นจะงัดอะไรมาสู้บ้าง



ออฟไลน์ kiwiwi

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,863
เอาความจริงเลยนะครับ

1. การตัดสินใจใส่ออปชั่นอะไรบางอย่างเข้ามาในรถ มันไม่ได้ตัดสินใจกัน 1-2 หรือ 6 เดือนที่แล้ว มันตัดสินใจกันมาในระดับ 1 ปีขึ้นไปทั้งนั้น และบางรุ่นกำหนดสเปคมา 2 ปี ก่อนขายจริงเลยด้วยซ้ำ เพราะอย่างนั้นถ้าคุณเห็นกระแสรถบางรุ่นมาแรงในช่วงนี้ แล้วค่ายรถใส่ออปชั่นบางตัวมาให้ มันไม่เกี่ยวกันโดยตรงครับ สุดท้ายแล้วค่ายรถก็ได้แต่ Speculate ว่าผ่านไปเป็นปี การใส่ออปชั่นนั่นนี่มาให้ จะเป็นการกระตุ้นตลาดที่ได้ผล ทำให้ผู้ซื้อสนใจได้ แต่มันไม่ใช่ว่าพอเห็นยอดขายร่วงแล้วจะตัดสินใจใส่ออปชั่นนั้นภายใน 3 เดือน 6 เดือนเลย มันเป็นไปไม่ได้ครับ แค่ปรับไลน์ผลิตก็ไม่ทันแล้ว

2. ต่อให้ไม่มีค่ายรถจีนเข้ามา ค่ายรถญี่ปุ่นก็ต้องอัดออปชั่นเพิ่มขึ้นมาให้เรื่อย ๆ ครับ เพราะแค่คู่แข่งในชาติเขาก็ใส่เพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ เช่นกัน ถ้าบริษัทไหนเป็นเสือนอนกินจริง ด้วยความก้าวกระโดดของเทคโนโลยีในปัจจุบันเหรอครับ? รับรองครับ Product Cycle เดียวก็เจ๊งแล้วครับ แล้วเห็นค่ายไหนเจ๊งกันหรือยังละครับ? ก็ยังเนอะ มันเป็นเรื่องของอนาคตเนอะ หึหึ แต่คำถามมันขึ้นอยู่กับปัจจุบันงั้นก็เจาะไปที่จุดปัจจุบันก่อนครับ

ทั้งหมดนี้ เราต้องตั้งอยู่บนความคิดที่ว่า เราไม่สามารถคิดภาพของอุตสาหกรรมรถญี่ปุ่น หรือจีน หรือชาติใดก็ตาม เป็นเพียง 1 entity ที่ทำงานทุกอย่าง เป็นก้อนเดียว ตัดสินใจเหมือนกันทุกอย่างด้วยนะครับ!!! เอาแค่ใน 1 บริษัท การตัดสินใจมันก็ขึ้นอยู่กับหน่วยย่อย ๆ แต่ละส่วน ทำงานร่วมกันมาเพื่อให้เกิดเป็นสินค้า 1 ตัว บางทีคนในก็ไม่เห็นด้วยกันเอง ต่อให้บริษัทจะพยายามสร้างความเป็น unity ของบริษัทแค่ไหนก็ตาม

หรือพูดง่าย ๆ คนในบริษัทรถ (ซึ่งในกรณีนี้ อาจจะหมายถึงคนส่วน local หรือ international ก็ได้ แต่ละบริษัท ระดับการตัดสินใจก็ไม่เหมือนกันอีก) บางคนอาจจะมองว่า ไม่ต้องสนใจรถจีนหรอก ขอแค่ทำโปรดักส์ของเราให้มันดีก็พอ ในขณะที่คนอื่นอาจมองว่ามันเป็นศัตรูยิ่งใหญ่ที่ต้องเตรียมตัวรับมือ ถ้าเราไม่ได้ไปอยู่ในหัวของคนคนนั้น เราก็ไม่มีทางรู้หรอกครับว่าเขาคิดยังไง

สิ่งเดียวที่แน่นอนคือ ตัวโปรดักส์ที่ออกมาให้คุณจับต้องและพบเห็นอยู่ทุกวันนี้ มันมาไกลกว่าขั้นตอนการตัดสินใจเย้อออออคร้าบบบบ

ส่วนตัวผม ผมไม่เคยมองว่าค่ายญี่ปุ่นเค้าแข่งกันเองเลยครับ เค้าเหมือนมี conductor ที่คอยกำกับว่าค่ายไหนควรจะเป็นอย่าง ไปทางไหน ไปแลกอะไรมา ส่งอะไรออกไป

สภาพที่ค่ายรถญี่ปุ่นถือหุ้นกันเอง ไขว้ไปไขว้มา ถือหุ้น supplier ซ้ำๆซ้อนๆกัน ย่อมบ่งบอกได้อยู่แล้ว

เวลาต่างชาติเข้ามาแต่ละที ญี่ปุ่นก็ต้องปรับตัวตาม

ก็เท่านั้น

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,338
ถ้าจีนขายราคานี้ ผมว่านิดหน่อย

ออฟไลน์ Sazabi

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 330
ถ้าหมายถึงรถญี่ปุ่นที่ออกมาตอนนี้และกำลังจะออกในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า ไม่มีผลเลยครับ

ทำไม? ก็เพราะ Spec. ต่างๆ รวมทั้งชิ้นส่วนต่างๆเค้า Fix กันตั้งแต่เมื่อราว 2 ปีก่อนแล้วไม่ใช่เพิ่งจะมาทำกันตอนนี้หรือ 5-6 เดือนก่อนหน้านี้

รถที่ทำ Concept Styling กันอยู่ในวันนี้คือรถที่จะออกขายในอีก 5-6 ปีข้างหน้า
รถที่ทำ Styling Design กันอยู่ในวันนี้คือรถที่จะออกขายในอีก 4-5 ปีข้างหน้า
รถที่เริ่มทำ Engineering Layout กันในวันนี้คือรถที่จะออกขายในอีก 3-4 ปีข้างหน้า
ชิ้นส่วนที่บริษัทรถยนต์กับ Supplier กำลังตกลงราคากันในวันนี้ก็สำหรับรถที่จะออกขายในอีก 3-4 ปีข้างหน้า
รถที่ทำ Product Engineering Design ในวันนี้คือรถที่จะออกขายในอีก 2-3 ปีข้างหน้า
รถที่ทำ Prototype กันในวันนี้คือรถที่จะออกขายในอีก 2 ปีข้างหน้า
รถที่ทำ Tooling Design กันในวันนี้คือรถที่จะออกขายในอีก 2 ปีข้างหน้า
รถที่มีชิ้นส่วนที่ได้จากการผลิตจริงและมาลองประกอบกันเป็นครั้งแรกในวันนี้คือรถที่จะออกขายในอีก 1 ปีข้างหน้า

เพราะฉะนั้นถ้าจะบอกว่าการมาของค่ายจีนมีผลต่อรถญี่ปุ่นที่เพิ่งออกในไทยมั้ย ก็ต้องย้อนกลับไปดูครับว่าเมื่อ 2 ปีก่อนรถจีนเป็นอย่างไรบ้าง

ออฟไลน์ Sazabi

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 330

ส่วนตัวผม ผมไม่เคยมองว่าค่ายญี่ปุ่นเค้าแข่งกันเองเลยครับ เค้าเหมือนมี conductor ที่คอยกำกับว่าค่ายไหนควรจะเป็นอย่าง ไปทางไหน ไปแลกอะไรมา ส่งอะไรออกไป

สภาพที่ค่ายรถญี่ปุ่นถือหุ้นกันเอง ไขว้ไปไขว้มา ถือหุ้น supplier ซ้ำๆซ้อนๆกัน ย่อมบ่งบอกได้อยู่แล้ว

เวลาต่างชาติเข้ามาแต่ละที ญี่ปุ่นก็ต้องปรับตัวตาม

ก็เท่านั้น

ไม่จริงครับ แม้ค่ายญี่ปุ่นจะถือหุ้นซ้ำซ้อนกันอย่างไร แต่อย่างน้อยที่สุดก็ยังมี 3 ก๊กคือ
1. NISSAN-MITSUBISHI
2. HONDA
3. TOYOTA และลูกน้องที่เหลือ

อยู่ดี

กลุ่ม 3 มี Supplier เยอะอยู่แล้ว แต่กลุ่ม 1 และ 2 ก็ไม่อยากใช้บริการของ Supplier ที่กลุ่ม 3 มีหุ้นอยู่มากนักจะใช้เท่าที่จำเป็นเท่านั้นเพราะมันเท่ากับเอาแผนงานรถของตัวเองไปบอกกลุ่ม 3 จนหมด ดังนั้นกลุ่ม 1 และ 2 จึงมีกลุ่ม Supplier ของตนเองด้วย หรือไม่ก็พยายามไปใช้บริการ Supplier จากฝั่งยุโรปและอเมริกาเพิ่มเติม

เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะอย่างไรบรรดารถญี่ปุ่นก็ยังแบ่งเป็น 3 ก๊กนี้ในทุกตลาดอยู่ดี ซึ่งมันก็ถือว่ามีการแข่งขันที่เพียงพอแล้วทั้งด้านราคาและเทคโนโลยี

ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,705
แต่ที่น่าคิด และถามกลับไปที่ตัวเองคือ “ถ้าค่ายรถญี่ปุ่นปรับตัว” แล้วเรายังจะซื้อค่ายญี่ปุ่นอยู่หรือไม่

ลองนึกดูดีๆ นะครับ ว่าถ้าคำตอบคือเราใช้ค่ายจีนเป็นสะพาน เพื่อจะได้ซื้อค่ายญี่ปุ่นที่คุ้มราคามากขึ้น
แบบนี้ทางญี่ปุ่นเองก็รู้ว่าตัวเองมีจุดแข็งที่ยังครองใจคนซื้ออยู่ และค่ายจีนก็รู้ว่าที่เชียร์กันอยู่นี้ ใช่ว่าจะ
อุดหนุนซื้อหากันจริงจัง

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,338
แต่ที่น่าคิด และถามกลับไปที่ตัวเองคือ “ถ้าค่ายรถญี่ปุ่นปรับตัว” แล้วเรายังจะซื้อค่ายญี่ปุ่นอยู่หรือไม่

ลองนึกดูดีๆ นะครับ ว่าถ้าคำตอบคือเราใช้ค่ายจีนเป็นสะพาน เพื่อจะได้ซื้อค่ายญี่ปุ่นที่คุ้มราคามากขึ้น
แบบนี้ทางญี่ปุ่นเองก็รู้ว่าตัวเองมีจุดแข็งที่ยังครองใจคนซื้ออยู่ และค่ายจีนก็รู้ว่าที่เชียร์กันอยู่นี้ ใช่ว่าจะ
อุดหนุนซื้อหากันจริงจัง

ยอดขายมันก็สะท้อนอยู่ครับ

ซึ่งผมมองว่า คนบางส่วนคิดแบบนั้น แต่ก็มีคนบางส่วนเค้าซื้อจริง ก็มันมียอดขายอยู่
ยอดขายนั่นแหละบอกว่าคนปันใจมีเท่าไหร่

ล่าสุด h6 ก็ขายดีสุด แต่ไม่รู้ว่าจะดีได้กี่เดือนเพราะรถยังใหม่
ถ้าเค้าซื้อเจ้านึง 1คัน แสดงว่ายอดมันหดของค่ายอื่นหายไปแล้ว1คันแน่นอนแต่ไม่รู้ค่ายไหน
อันนี้มันข้อเท็จจริง

ออฟไลน์ 2k

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,755
คนไทยควรจะเลิกทำตัวเป็นสาวกยี่ห้อนั้นเพื่อด่าทอยี่ห้อนี้กันได้แล้วนะครับ เพราะสุดท้ายค่ายรถก็เอาเปรียบพงกเรามาตลอด   :-X esp ม่านนิรภัย cruise control ระบบกดปุ่มสตาทที่เคยพูดกันว่าไม่มีทางเอามาใส่ในรถบ้านๆได้เพราะต้นทุนต่อคันมันจะสูงมาก สุดท้ายก็มีมาให้พร้อมและขายในราคาที่อยู่ในระดับของมันเองได้ด้วย แม้รถจีนจะไม่ได้คุณภาพดีแต่อย่างน้อยมันก็ช่วยให้รถญี่ปุ่นลดต้นทุนร้อยลงเพื่อเรียกความสนใจจากคนไทยมากขึ้น ไม่ใช่ว่ามันจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย และชาติไทยเองก็ไม่ได้ผลิตรถขายเองมีแต่รับจ้างเค้าประกอบ ปล่อยให้ค่ายรถต่างขาติตีกันลดราคาขายให้เราดีที่สุด  ::)
หมาเฝ้าบ้านแจกฟรีจ้า www.dogfindhome.com


ออฟไลน์ REX

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,015
ถ้าตลาด มีคนซื้อ เท่าเดิม
แต่มี หลายเจ้า มาขาย  มันก็จะต้องเกิดการแข่งขัน แน่ๆอยู่แล้ว
เพียงแต่สมัยก่อน  ชั้นคุณภาพรถจีน ยังห่างไกลรถญี่ปุ่นลิบ  เลยแข่งไม่ได้
แต่ตอนนี้ ถือว่าระยะห่าง ไม่ไกลมากมาย
ถือเป็นคู่ต่อสู้สมน้ำสมเนื้อแล้ว

....ยังไง
 ค่ายญี่ปุ่น ไม่ปรับตัว ก็โดนแย่งเค๊กไปกินก้อนใหญ่ สิครับ

Gunther

  • บุคคลทั่วไป
น่าจะมีผลต่อค่ายรถญี่ปุ่น 50:50 ครับ ถ้าค่ายรถจีนมาทำตลาดในไทย

Forty Five

  • บุคคลทั่วไป
การมาของ ORA Good Cat ในไทยนั้น ทำให้รถญี่ปุ่นและรถยุโรปที่จำหน่ายในไทย ปรับภาษีรถยนต์ไฟฟ้า (เฉพาะรถญี่ปุ่นและรถยุโรป) ให้น้อยลง ประมาณ 10% (เพราะภาษีเดิมในปัจจุบัน รถญี่ปุ่น ภาษี 20% และรถยุโรป ภาษี 80% รถจีน ภาษี 0%) ซึ่งน่าจะมีผลในปีหน้าครับ และในอนาคตข้างหน้า Porsche Taycan จะราคาเริ่มต้น 5 ล้านบาท Lexus UX300e ราคา 2 ล้านบาท BMW iX ราคา 4 ล้านบาท น่าจะเป็นไปได้สูงมากๆ



ดูจากในรูป ข้อ 3 ได้เลยครับ

ออฟไลน์ TeslaX

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,765
ด้วยราคาและศูนย์ที่ยังไม่ครอบคลุม ยังยากมากที่ทำให้ค่ายตลาดเบอร์ต้นสะเทือน นอกจากค่ายรองมากกว่าที่อาจไม่ได้ผุดได้เกิด

ออฟไลน์ MyName

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 8,145
  • I'm............................
มีผลกระทบพอให้ญี่ปุ่นได้กระตุ้นบ้างแหละครับ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องลดตัวมาอัดออพขั่นอัดราคาแข่งก็ยังขายได้

แค่ทำรถให้ลูกค้ายังเชื่อใจได้ และจ่ายราคานี้ไปได้ของสมน้ำสมเนื้อขึ้น ก็จบแล้ว

นี่ยังแอบคิดเล็กๆ เลยว่า CR-V ที่ออก 2.4 Black Edition 2WD ที่คล้ายว่าจะเป็นแค่ชุดแต่งของดำตามชื่อ
แต่ก็ยัดสารพัดออพชั่นใน AWD มาลงให้เพิ่มด้วย
นี่ก็เป็นผลพวงจาก 2 ค่ายจีนนั่น
ปกติไม่เคยเห็น Honda มาอัดของลงในรุ่นพิเศษอะไรกันแบบนี้เลย
Cars
2022 - Nissan Almera 1.0 Turbo VL
2016 - Mazda 2 1.5XD High Plus L
2008 - Mitsubishi Space Wagon 2.4 GLS Ltd. !User'Review Click here!
1997 - Daihatsu Mira

Motorcycles
2023 - Vespa Sprint S 150 i
2012 - Yamaha Mio 125 GTX

ออฟไลน์ rvsmart

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 672
ผมคิดว่ารถยุโรปก็เดือดร้อนไม่น้อยครับ
พอญี่ปุ่นใส่optionสู้จีน แต่มันก็ทำให้คุณภาพเขยิบขึ้นไปสู้รถยุโรปได้ระดับหนึ่งเลย


ออฟไลน์ Floppy-T

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 969
ยังไม่เห็นผลชัดเจนครับ เพราะ รถคันนึงอยากใส่อะไรก็ใส่ได้ครับ แต่ต้องทดสอบกันเป็นหลายๆเดือน หลายๆหัวข้อ
บางชิ้นส่วนทดสอบกันเป็นร้อยๆข้อ รวมรถทั้งคันอาจจะทดสอบกันเป็นพันๆหัวข้อ
หลังจากนี้ไม่แน่ โดยเฉพาะพวกรถที่จะ All New ในอนาคต น่าจะมีการจัด Spec ที่สูงขึ้นครับ

ออฟไลน์ sudlor_gang

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 565
มีผลแหล่ะ ดูออก
CR-V รุ่นใหม่คงจะมีระบบความปลอดภัยมากขึ้นแหล่ะ ยอดขายแพ้ h6 แล้วนิ
black edition เป็นไงล่ะ ดำมืดเลย ยอดขาย h6 สว่างเลย

ออฟไลน์ locomotive

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 792
จ่ายรถจีนคือ???