ถ้าถึงตอนนั้น น้ำมันถูก แต่ไฟฟ้าแพง มันจะเป็นไงหนอ
ถึงตอนนั้นคงต้องซื้อน้ำมันมาปั่นไฟบ้านใครบ้านมันอีกทีแน่ๆ
ผมยังมองว่าอนาคตของรถ EV คือ Fuel Cell มากกว่า ส่วนพวก BEV มันเหมือนกระแสทั่วโลกแต่พอเอาเข้าจริงมันจะทิ้งปัญหาเอาไว้ข้างหลังอีกมากมายเลย ไม่ได้โลกสะอาดแบบที่คิดกันหรอก รอรถไฟฟ้าที่ฮิตๆ กันในตอนนี้แบตเสื่อมพร้อมๆ กัน เมื่อถึงตอนนั้น...
ผมก็คิดแบบนี้นะ แต่กลายเป็นว่าโตโยต้าจะได้เปรียบยี่ห้ออื่นทันทีเพราะมีเทคโนโลยีอยู่ในมือหมดแล้ว
ประธาน Toyota ฟันธง รถยนต์ไฟฟ้าไม่มาแน่ก่อนปี 2030
Takeshi Uchiyamada ประธานแห่ง Toyota ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Nikkei Asian Review โดยพูดถึงประเด็นเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าไว้อย่างน่าสนใจว่า
หากรถยนต์ไฟฟ้ามาเร็วเกินไป ผู้ผลิตรถยนต์ส่วนใหญ่จะเจ๊งกันหลายราย ไม่เว้นแม้แต่แบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง Toyota
Uchiyamada ระบุว่า เป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นที่จะต้องลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) โดยการใช้พลังงานทดแทนไม่ว่าจะเป็นพลังงานแสงอาทิตย์หรือพลังงานลม สำหรับในวงการรถยนต์แล้ว รถยนต์ไฮบริดก็ยังตอบโจทย์เรื่องสิ่งแวดล้อมทุกประการ หรือถ้าขั้นกว่าหน่อยก็ไปเป็นรถยนต์ไฮโดรเจนก่อน ยังไม่จำเป็นจะต้องเร่งไปทำรถยนต์ไฟฟ้าแต่อย่างใด
ประเด็นคือ ถ้าผู้ผลิตรถยนต์แต่ละรายต้องหันมาผลิตรถยนต์ไฟฟ้ากันหมด จะทำให้ต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้นหลายเท่า เอาให้เห็นภาพ รถยนต์ Prius ที่เป็นปลั๊กอิน-ไฮบริดซึ่งท่านประธาน Uchiyamada เชียร์อยู่นั้น (แต่จะไม่ให้เชียร์ได้อย่างไร ก็เพราะท่านอยู่เบื้องหลังการผลิต หลายคนเรียกท่านประธานว่า บิดาแห่ง Prius เลยด้วยซ้ำไป)
การผลิตแบตเตอรี่ใน Prius ต้องใช้ต้นทุนเพิ่มขึ้น 3 เท่าเมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ในรถยนต์ทั่วไป แต่สำหรับแบตเตอรี่ในรถยนต์ไฟฟ้า ต้องใช้ต้นทุนเพิ่มขึ้นอีก 5 เท่าเมื่อเทียบกับการผลิตแบตเตอรี่ในรถยนต์ไฮบริด
ท่านประธานแห่ง Toyota ยังตอบโต้ข้อมูลที่ว่า ในปี 2030 รถยนต์ไฟฟ้าจะครองตลาดไปถึง 30% โดยบอกว่า
เร็วเกินไป
Toyota ขายรถยนต์อยู่ที่ 9 ล้านคันต่อปี และประมาณ 15% หรือ 1.4 ล้านคันเป็นรถยนต์ไฮบริด เราใช้เวลาตั้ง 20 ปีในการมาถึงจุดนี้ได้ เพราะฉะนั้นที่บอกว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะครองตลาด 30% ในปี 2030 มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ แต่ต่อให้เป็นไปได้ ก็ต้องมาจากการผ่อนปรนข้อกฎหมายในแต่ละประเทศ ซึ่งนั่นจะทำให้เกิดความวุ่นวายและผู้บริโภคจะไม่มีความสุขอย่างแน่นอน เพราะจะมีปัญหาที่ต้องตามแก้ไขกันอีกเพียบ เช่น ระยะเวลาในการชาร์ตแบตเตอรี่ อายุขัยของแบตเตอรี่ และอีกมากมายหลายประการ
โดยสรุปคือ วิสัยทัศน์ของท่านประธานแห่ง Toyota มองว่า รถยนต์ไฟฟ้าจะแจ้งเกิดจริงๆ คือนับตั้งแต่ปี 2030 เป็นต้นไป ส่วนตอนนี้ก็บริโภครถยนต์ไฮบริดกันไปก่อน ท่านประธานยังบอกว่า
รถยนต์ไฟฟ้าของ Toyota ก็ทำ แต่ไม่ได้ทำยิ่งใหญ่ ทำในสเกลแบบสตาร์ทอัพเท่านั้น แต่นอกจากตัวรถยนต์ไฮบริดที่ Toyota ดันให้เกิดอยู่แล้ว ขณะนี้ก็สนับสนุนรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ เช่น รถบัสหรือรถบรรรทุกด้วย โดย Toyota ในญี่ปุ่นตอนนี้ก็ได้ทำดีลกับทางเซเว่น อีเลฟเว่นเพื่อทำที่เติมเชื้อเพลิงไว้บริการด้วยในหลายจุด