แพงก็ต้องจ่ายครับ มันเป็นของซื้อขาย เราก็ได้แต่บ่น
ผมว่า ถ้าติดเรื่องงาน เรื่องการเงิน แค่ออกไปซื้อกับข้าว(น่าจะไม่ไกล) หันไปใช้มอเตอร์ไซต์แทนรถยนต์ จะประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกพอสมควรนะครับ
ก่อนที่น้ำมันจะราคามาขนาดนี้ ช่วงก่อนสงคราม ผมคุยกับเพื่อนว่า ถ้าน้ำมันแพง รถโล่งแน่นอน เราจะขับรถมาทำงานกันไม่สายแล้ว ..
สุดท้ายกลายเป็นผมคิดผิดครับ ราคาน้ำมันไม่มีผลกับผู้ใช้รถในกรุงเทพฯเลย
รถติดเหมือนเดิม แถมติดมากกว่าเดิมด้วย น้องที่ office ที่เคยนั่งรถไฟฟ้ามาทำงาน ก็ซื้อรถขับมาทำงานแทน บอกว่าไม่อยากเสี่ยงโควิท ..
ผมว่า รถยนต์ มันเป็นปัจจัยที่ 5 สำหรับคนใช้รถประจำวัน อยู่แล้วครับ
ในช่วงที่เคยแพงสุด 2 ลิตรร้อย ก็ผ่านมาแล้ว
ยังไงซะก็ซื้อเขา ไม่ได้จ่ายฟรี มันเพราะรายจ่ายที่พึงจ่าย ต่อให้ไม่เต็มใจ หรือ กังวลไป ก็ต้องจ่าย มันเลยอยู่ในภาวะจำใจ ครับ
ถ้าเลือกได้ จ่ายในราคาที่ถูกกว่า มันก็ดี แต่ตอนนี้เราเลือกไม่ได้เลย
ถ้าจะขายรถน้ำมันไปซื้อรถ EV ก็ยังกล้าๆ กลัวๆ แถมอยู่คอนโด ไม่มีที่ชาร์จ ไม่มีส่วนกลางที่ติดตั้งแท่นชาร์จให้ด้วย เพราะส่วนกลางคือส่วนกลาง ต้องใช้ร่วมกันได้ทั้งรถยนต์น้ำมัน และ EV จะมาทำช่องให้เฉพาะรถ EV คนที่มีรถน้ำมันเขาก็ด่าตายเลย เพราะเสียค่าส่วนกลางเท่ากัน(ยกเวันคนใช้ EV ที่เสียค่าส่วนกลางมากกว่า เพื่อให้ได้สิทธิ์ใช้พิ่้นที่จอดตรงนั้น)