ผู้เขียน หัวข้อ: ถ้าผมขับรถเร็วกว่าที่กำหนด กล้องจับหมายเลขทะเบียนได้ก็จะโดนตัดแต้มทันทีหรือเปล่า  (อ่าน 4052 ครั้ง)

ออฟไลน์ jbrc

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 319
ตัดแต้ม น่าจะใช้กับกรณี ด่านตรวจจับความเร็ว ส่อง  เรียกจอด  เรียกใบขับขี่  คีย์ข้อมูลใบขับขี่ลองคอม  พริ้นใบเสร็จออกมา   ถ้าเราไม่จ่าย  โดนตัดแต้มแน่นอน   ผมได้ใบเสร็จแบบนี้มาแล้ว  กลับบ้านมาตั้งหลัก 3-4 วันดูว่า จะพิมพ์เข้าระบบหรือเปล่า    เปิดตามเข้าไปเช็ค  เจอข้อมูลขึ้นเรียบร้อย  รีบจ่าย  500 บาทอย่างเร็วเลย

แต่ กับ การส่อง ป้ายทะเบียน   ผมยังไม่รู้จะไปตัดแต้ม ตรงไหน ได้  เพราะไม่รู้ว่า ใครเป็นคนขับรถ  คง จะลิงค์ ไปที่ขนส่ง ห้าม ต่อ ทะเบียน ประมาณนี้ครับ

ถ้ามีด่าน  เรียกจอด  แบบนี้ ตำรวจ คีย์ลองเครื่อง   เหมือนเครื่องรูดบัตรเครดิต  ข้อมูลใบขับขี่ เข้าระบบ ทันที  โดนแน่นอน ถ้าไม่จ่ายครับ

ไม่เกี่ยวครับ คุณไม่จำเป็นต้องจ่ายที่ด่านเลยด้วยซ่ำ คุณบอกไปว่าไม่สะดวกจ่าย ให้ส่งไปรษณีมาตามชื่อก็ได้. แบบนี้ 90%ไม่มีส่งมาครับ เพราะว่ามันเป็นด่านเถื่อน!! ผมไม่ได้บอกให้ขับเร็วนะ แต่คุณก็ต้องรู้กฎหมายและก็รู้สิทธิตัวเองด้วย.

กรณีกฎหมายใหม่ที่จะตัดแต้ม ถ้าเป็นกรณีด่านเรียกจอด ถ้าเร็วจริงและมีหลักฐาน ตรงนี้เอาที่ถูกต้องคือ หักแต้ม และออกใบสั่ง มันไม่ใช้ว่าจ่ายแล้วจบไม่โดนหักนะครับ. แต่ในความเป็นจริง ผมมั่นใจว่าตำรวจจะเอาตรงนี้มาเป็นข้อหากิน มันจะบอกประมาณว่าถ้าไม่จ่ายจะโดนหักแต้มทันที.
ด่านทุกวันนี้ไม่มีเถื่อนแล้วครับ   คีย์เข้าระบบ    ข้อมูลอยู่ในเว็บ ตำรวจจราจรทันที   ไม่จ่าย    โดนแน่นอน   ถึงใบสั่ง  ไม่มาที่บ้าน   แต่ ถ้าพริ้นออกมาจาก เครื่องบันทึกข้อมูล  ข้อมูลเข้าระบบแน่นอน 

ออฟไลน์ Nismo De Alpina

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,559
  • Whatever brews your coffee.
อย่างแรกที่ควรทำคือจับปรับรถที่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน
ป้ายทะเบียนไม่ชัดซีดจางหรือซ่อนทะเบียนไม่ให้เห็นชัดเจน
เรื่องง่ายๆแค่นี้ทำได้หรือเปล่าคุณตำรวยยยยยยยยยยยยย
Eventually i've made my home country,Thailand.

ออฟไลน์ PaPaMan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,179
ผมก็ว่าตรรกะแปลกนะ โอนลอยแต่แรกมันก็เทาๆอยู่แล้ว ถ้าคุณไม่ได้จัดการให้เรียบร้อยคุณซวยมันก็ถูกแล้วหนิครับ?

ผมว่าหลายที่บนโลกโดยเฉพาะประเทศที่พัฒนาแล้ว เขาก็ใช้วิธีนี้เอา ทะเบียนรถชื่อใคร กล้องจับได้มันก็เช็คกับฐานระบบแล้วก็ไปตัดแต้ม จบ

คือถ้ามันเรื่องที่รัฐผิด อย่างเส้นทึบมันไม่ชัดเจนแล้วระบบมันตีผิด อันนี้ผมจะเข้าข้างอยู่

ปล. เรื่องของเรื่องเขาไปเข้มกับกล้องมากกว่ามั้งครับ? ที่แบบใบสั่งไปถึงบ้านแล้วไม่ไปชำระกันนั่นแหละ เขาก็บอกไม่จ่ายไม่เป็นไร หักแต้มเอาละกัน
ส่วนพวกที่จับซึ่งหน้า อันนั้นก็คงไปกับใบขับขี่คนขับนั่นแหละ ยกเว้นคนขับไม่มีใบขับขี่ คนที่ซวยก็เจ้าของรถ (เจ้าของทะเบียน) นั้นแหละ

ชอบความเห็นนี้ครับ สะท้อนคุณภาพคนขับรถในประเทศนี้ได้ 90%


ที่บอกว่าโอนลอยมันสีเทาๆ พูดแบบนี้มันเหมือนคนมีอคติครับ


เราขายให้เต๊นท์เค้าก็ให้เซ็นโอนลอยกันทั้งนั้นแล้วเค้าไปโอนกันเองตอนมีคนมาซื้อมันไม่ใช่สีเทาหรอกครับ แต่เป็นเพราะเราซื้อความสะดวกยอมโดนเต๊นท์กดราคารับซื้อเพราะต้องการความสะดวกให้เต๊นท์ไปดำเนินการให้ต่างหากครับ สำหรับบางคนเวลาในการทำมาหากินมีค่ามากกว่าจะเสียเวลาไปขายเองโอนเองนะครับ หรือบางคนก็ไม่สะดวกทำเองหรือทำไม่เป็นก็มีครับ


เรื่องโอนลอยมันก็ต้องแยกแยะด้วยครับ ไม่ใช่เหมารวมทั้งหมดว่าเป็นธุรกิจสีเทา

ออฟไลน์ kiwiwi

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,839
ผมก็ว่าตรรกะแปลกนะ โอนลอยแต่แรกมันก็เทาๆอยู่แล้ว ถ้าคุณไม่ได้จัดการให้เรียบร้อยคุณซวยมันก็ถูกแล้วหนิครับ?

ผมว่าหลายที่บนโลกโดยเฉพาะประเทศที่พัฒนาแล้ว เขาก็ใช้วิธีนี้เอา ทะเบียนรถชื่อใคร กล้องจับได้มันก็เช็คกับฐานระบบแล้วก็ไปตัดแต้ม จบ

คือถ้ามันเรื่องที่รัฐผิด อย่างเส้นทึบมันไม่ชัดเจนแล้วระบบมันตีผิด อันนี้ผมจะเข้าข้างอยู่

ปล. เรื่องของเรื่องเขาไปเข้มกับกล้องมากกว่ามั้งครับ? ที่แบบใบสั่งไปถึงบ้านแล้วไม่ไปชำระกันนั่นแหละ เขาก็บอกไม่จ่ายไม่เป็นไร หักแต้มเอาละกัน
ส่วนพวกที่จับซึ่งหน้า อันนั้นก็คงไปกับใบขับขี่คนขับนั่นแหละ ยกเว้นคนขับไม่มีใบขับขี่ คนที่ซวยก็เจ้าของรถ (เจ้าของทะเบียน) นั้นแหละ

ชอบความเห็นนี้ครับ สะท้อนคุณภาพคนขับรถในประเทศนี้ได้ 90%


ที่บอกว่าโอนลอยมันสีเทาๆ พูดแบบนี้มันเหมือนคนมีอคติครับ


เราขายให้เต๊นท์เค้าก็ให้เซ็นโอนลอยกันทั้งนั้นแล้วเค้าไปโอนกันเองตอนมีคนมาซื้อมันไม่ใช่สีเทาหรอกครับ แต่เป็นเพราะเราซื้อความสะดวกยอมโดนเต๊นท์กดราคารับซื้อเพราะต้องการความสะดวกให้เต๊นท์ไปดำเนินการให้ต่างหากครับ สำหรับบางคนเวลาในการทำมาหากินมีค่ามากกว่าจะเสียเวลาไปขายเองโอนเองนะครับ หรือบางคนก็ไม่สะดวกทำเองหรือทำไม่เป็นก็มีครับ


เรื่องโอนลอยมันก็ต้องแยกแยะด้วยครับ ไม่ใช่เหมารวมทั้งหมดว่าเป็นธุรกิจสีเทา

จริงๆการโอนลอย จะทำให้เล่มสวยขี้น
เช่นจากเจ้าของแรก ไปสู่ เจ้าของที่ 2 โดยตรง ไม่ต้องมีเต้นท์เข้ามาเกี่ยวข้อง มันก็ถือเป็นการ วินๆ ทั้ง 2 ฝ่าย

ถ้าต้องโอนให้เต้นท์เพื่อความตรงไปตรงมา สมมติขายรถแค่ 2 ครั้ง จะมีถึง 6 เจ้าของ ผมว่าคนซื้อครั้งที่ 2 และ 3 คงไม่ปลื้มแน่ๆ

การกระทำผิดโดยเต้นท์ น่าจะเป็นเรื่องมารยาทของทางเจ้าของเต้นท์มากกว่า ลูกค้ามาขายให้แล้ว แทนที่จะดูแลดีๆ กลับปล่อยให้พนักงานเอาไปกระทำความผิด(หรือบางครั้งเป็นเจ้าของเต้นท์ซะเอง)

ผมเองก็เคยเจอ ขายรถให้เพื่อน(เต้นท์)​ ลูกน้องขับไปเก็บสี ล่อซะ 160 ใบสั่งมาปั๊บ เพื่อนผมก็โอนให้ผมปุ๊บ แล้วก็ไล่พนง. คนนั้นออก

เคยคุยกับเพื่อนว่า ถ้าลูกน้องไปชนคนบาดเจ็บหรือตายจะทำไง เพื่อนบอกว่าไม่ต้องห่วง หลักฐานการซื้อขายรถจะช่วยให้เจ้าของรถรอดแน่นอน

ออฟไลน์ Zephyrs

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 913
ผมก็ว่าตรรกะแปลกนะ โอนลอยแต่แรกมันก็เทาๆอยู่แล้ว ถ้าคุณไม่ได้จัดการให้เรียบร้อยคุณซวยมันก็ถูกแล้วหนิครับ?

ผมว่าหลายที่บนโลกโดยเฉพาะประเทศที่พัฒนาแล้ว เขาก็ใช้วิธีนี้เอา ทะเบียนรถชื่อใคร กล้องจับได้มันก็เช็คกับฐานระบบแล้วก็ไปตัดแต้ม จบ

คือถ้ามันเรื่องที่รัฐผิด อย่างเส้นทึบมันไม่ชัดเจนแล้วระบบมันตีผิด อันนี้ผมจะเข้าข้างอยู่

ปล. เรื่องของเรื่องเขาไปเข้มกับกล้องมากกว่ามั้งครับ? ที่แบบใบสั่งไปถึงบ้านแล้วไม่ไปชำระกันนั่นแหละ เขาก็บอกไม่จ่ายไม่เป็นไร หักแต้มเอาละกัน
ส่วนพวกที่จับซึ่งหน้า อันนั้นก็คงไปกับใบขับขี่คนขับนั่นแหละ ยกเว้นคนขับไม่มีใบขับขี่ คนที่ซวยก็เจ้าของรถ (เจ้าของทะเบียน) นั้นแหละ

ชอบความเห็นนี้ครับ สะท้อนคุณภาพคนขับรถในประเทศนี้ได้ 90%


ที่บอกว่าโอนลอยมันสีเทาๆ พูดแบบนี้มันเหมือนคนมีอคติครับ


เราขายให้เต๊นท์เค้าก็ให้เซ็นโอนลอยกันทั้งนั้นแล้วเค้าไปโอนกันเองตอนมีคนมาซื้อมันไม่ใช่สีเทาหรอกครับ แต่เป็นเพราะเราซื้อความสะดวกยอมโดนเต๊นท์กดราคารับซื้อเพราะต้องการความสะดวกให้เต๊นท์ไปดำเนินการให้ต่างหากครับ สำหรับบางคนเวลาในการทำมาหากินมีค่ามากกว่าจะเสียเวลาไปขายเองโอนเองนะครับ หรือบางคนก็ไม่สะดวกทำเองหรือทำไม่เป็นก็มีครับ


เรื่องโอนลอยมันก็ต้องแยกแยะด้วยครับ ไม่ใช่เหมารวมทั้งหมดว่าเป็นธุรกิจสีเทา

จริงๆการโอนลอย จะทำให้เล่มสวยขี้น
เช่นจากเจ้าของแรก ไปสู่ เจ้าของที่ 2 โดยตรง ไม่ต้องมีเต้นท์เข้ามาเกี่ยวข้อง มันก็ถือเป็นการ วินๆ ทั้ง 2 ฝ่าย

ถ้าต้องโอนให้เต้นท์เพื่อความตรงไปตรงมา สมมติขายรถแค่ 2 ครั้ง จะมีถึง 6 เจ้าของ ผมว่าคนซื้อครั้งที่ 2 และ 3 คงไม่ปลื้มแน่ๆ

การกระทำผิดโดยเต้นท์ น่าจะเป็นเรื่องมารยาทของทางเจ้าของเต้นท์มากกว่า ลูกค้ามาขายให้แล้ว แทนที่จะดูแลดีๆ กลับปล่อยให้พนักงานเอาไปกระทำความผิด(หรือบางครั้งเป็นเจ้าของเต้นท์ซะเอง)

ผมเองก็เคยเจอ ขายรถให้เพื่อน(เต้นท์)​ ลูกน้องขับไปเก็บสี ล่อซะ 160 ใบสั่งมาปั๊บ เพื่อนผมก็โอนให้ผมปุ๊บ แล้วก็ไล่พนง. คนนั้นออก

เคยคุยกับเพื่อนว่า ถ้าลูกน้องไปชนคนบาดเจ็บหรือตายจะทำไง เพื่อนบอกว่าไม่ต้องห่วง หลักฐานการซื้อขายรถจะช่วยให้เจ้าของรถรอดแน่นอน

ก็ตามนี้

คือเรื่องของเรื่องโอนลอยแต่แรกมันก็เทาอยู่แล้ว ละเรื่องอะไรที่มันเทาก็รับความเสี่ยงกันไป ถ้าบอกว่าขายเตนท์แล้วเกิดเรื่อง เต้นท์ก็ต้องรับผิดชอบ

ผมก็คงไปบีบคอบอกว่าผิดไม่ได้หรอกมั้ง? ในเมื่อมันสะดวกกว่าก็แล้วแต่