พอดีพี่ข้างบนบอกเรื่องต้องแจ้งเรื่องดัดแปลงกับทางขนส่งพอดีเลย
และไม่ใช่แค่เรื่องแจ้งดัดแปลง แต่มันจะต่อเนื่องไปกับภาษีสรรพสามิตด้วย
เนื่องจากกระบะตอนเดียว กระบะแค็บ เสียภาษีตอนนออกจากโรงงานแค่ 5%
คิดเป็นเงินหลักน้อยๆ หมื่น และกระบะ 4 ประตูเสียภาษีแค่ 12% เท่านั้น
โดยมีข้อแม้สาระสำคัญประการหนึ่งคือช่วงล่างกระบะพวกนี้ต้องเป็นแหนบเท่านั้น
มิฉะนั้นต้องไปเสียภาษีสรรพสามิตในหมวดรถนั่ง 30%++
ถ้าพี่ จขกท ดัดแปลงช่วงล่างหลังรถกระบะให้เป็นสปริงแล้วก็จะต้องไปจ่ายภาษี
สรรพสามิตส่วนต่างนี้ด้วยครับ มีหลักแสนอ่ะ
ขอสอบถามครับ
ภาษีสรรพสามิตเป็นภาษีที่บริษัทรถเสียเพื่อกำหนดราคาขายมาจากโรงงาน
ทีนี้เรามาเปลี่ยนช่วงล่างทีหลัง เราต้องเสียส่วนต่างของภาษีหรอครับ
สมมุติ กระบะ 4 ประตูโดนภาษีสรรพสามิต 12% หลังจากเราซื้อมาแปลงเป็นคอล์ยสปริง
เราต้องเสียภาษีสรรพสามิตส่วนต่างอีก 18% จากที่ต้องเสีย 30% ตั้งแต่แรกหรอครับ
น่าจะเหมือนเอาlancerมาแปลงเป็นevoครับ
ตอนขายออกมาจากโรงงานเป็นlancer โรงงานมิตซูก็เสียสพม.ไปแล้ว
ทีนี้พออู่มาแปลงใส่ขับสี่จดเป็นอีโว ก็ต้องมาเสียสพม.อีกรอบหลายหมื่นแบบงงๆ
คนที่เสียเพิ่มเขาทราบเหตุผลมั้ยครับ
ถ้าตามที่ผมคิด รถ lancer ออกจากโรงงาน
จะเสียภาษีในอัตราลดหย่อนเรื่องมลพิษ CO2 ต่ำ + ใช้เชื้อเพลิงทดแทน
เพื่อลดมลพิษได้
อัตราลดหย่อนนี้จูงใจให้บริษัทรถยนต์จูนเครื่องให้เหมาะสม
ให้อากาศสะอาด ไม่ทำร้ายคนรอบข้าง
แต่พอแปลงรถเปลี่ยนเครื่องยนต์ที่สเปกค่ามลพิษเกินเกณฑ์ ใช้เชื้อเพลิงทดแทนไม่ได้
มาใช้ ก็ไม่สมควรจะได้รับอัตราลดหย่อนภาษี จะได้ไม่จูงใจให้คนไปดัดแปลงรถ
ไปในทางทำลายสิ่งแวดล้อมมั้งครับ