ผู้เขียน หัวข้อ: Every car,Every brand all at once!  (อ่าน 2107 ครั้ง)

ออฟไลน์ solo

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 511
    • อีเมล์
Every car,Every brand all at once!
« เมื่อ: มีนาคม 19, 2023, 07:47:10 »
ไม่ใช่หนังออสการ์ แต่เป็นการแทนที่รถน้ำมันด้วยรถไฟฟ้า ไม่ทราบว่าผมแทรกแผ่นสไลด์ได้ถูกไหม, ขอให้ดูSlide แผ่นที่สามกับแผ่นที่สี่พอ

https://enconfund.go.th/content/knowledge/1/20181019163618_CLEAN%20DISRUPTION%20Why%20current%20energy%20and%20transportation%20will%20be%20obsolete%20by%202030.pdf

ออฟไลน์ เนื้อน่องไม่หนัง

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,691
Re: Every car,Every brand all at once!
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มีนาคม 19, 2023, 11:07:38 »
คือ ต้นทางอยากสื่อว่า 2030 รถน้ำมันจะหายจากกรุงเทพใช้ไหมครับ
เหมือน NYC ที่ 1900 รถม้าเต็มเมืองพอ 1913 เหลือรถม้าคันเดียว

ส่วนตัวผมว่า 2030 เร็วไปมากสำหรับกรุงเทพครับ(เอาแค่กรุงเทพพอไม่เอาทั้งประเทศ)
ช่วง 1900 รถม้า รถยนต์น่าจะเป็นของสำหรับคนมี ฐานะ จนถึงช่วง 1910 ทึ Ford Model T ออกมา ทำให้คนทั่วไปเข้าถึงได้หน่อย
"The average assembly line worker could purchase one with four months' pay in 1914."
ถ้าเงินเดือน 4 หมื่น ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานแล้ว ยังตัวให้เวลา เป็นปี กว่าจะจ่ายหมดสำหรับรถทั่วไป 1 คัน

การเปลี่ยนจากรถม้าเป็นรถยนต์อาจ สะดวกขึ้นด้วยนะครับ มีน้ำมันก็ขับได้แล้ว ไม่ต้องกลัวม้าป่วย ม้าไม่พร้อม
แต่การเปลี่ยนจากรถน้ำมันเป็นไฟฟ้า ณ ตอนนี้ผมว่ามันทำให้ลำบากขึ้นครับ รถน้ำมันถ้าน้ำมันใกล้หมดก็แวะเติม ส่วนรถไฟฟ้าแต่ลืมเสียบไฟทีบ้าน ต้องแวะหาที่ชาร์จซึ่งว่างไหม... ไม่รู้ได้
อย่างเทสล่าก็เริ่มขายมา 10 ปีแล้ว ใน NYC ตอนนี้ก็ใช้ว่าตอนนี้รถไฟฟ้าจะเต็มเมืองครับ

ออฟไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,896
    • อีเมล์
Re: Every car,Every brand all at once!
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มีนาคม 19, 2023, 11:36:01 »
เห็นด้วยกับคุณ Qwerty ครับและคิดว่า การแทนที่ด้วยรถไฟฟ้าทั้งหมดคงเป็นเรื่องยาก และแทบเป็นไปไม่ได้เลย

อุตสาหกรรมรถยนต์มีหลายมิติมากที่เกี่ยวข้อง และหลักๆเลยคือน้ำมัน การที่รถน้ำมันหายไป มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยเพราะกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันที่มีอิทธิพลสูงพอตัวในโลกใบนี้ คงไม่อยู่เฉยแน่

ดังนั้น สำหรับผม คงมองอเมริกา เป็นตัวบ่งบอกอนาคตของรถ EV เลย ถ้าประเทศนี้ มี EV 100% ได้เมื่อไร นั่นแหละถึงจะกล้าพูดได้ว่า EV จะมาแทนที่ ซึ่งตอนนี้ก็เห็นๆกันว่าเปอร์เซ็นรถ EV ในอเมริกาเทียบกับรถน้ำมัน มันน้อยนิดมากๆ

ออฟไลน์ Sit: )

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,453
    • อีเมล์
Re: Every car,Every brand all at once!
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มีนาคม 19, 2023, 14:59:17 »
การเปลี่ยนแปลงใดๆในโลกไม่สามารถมาใช้กับประเทศไทยได้ครับ  ถ้าอยากรู้ว่าคนไทยจะปลี่ยนไปใช้รถไฟฟ้ากันหมดเมื่อไร  ต้องมาเก็บข้อมูลจากคนไทยครับ  ลักษณะพิเศษของเมืองไทยที่ผมนึกออกคือ
> ตลาดเก๋ง กับกระบะ พอๆกัน
> มีโครงสร้าง สรรพสามิต ซับซ้อนซ่อนกล
> โครงสร้างราคาน้ำมันดี้เซล เบนซินที่แปลกๆ
> คนไทยซื้อรถดาวน์ 0% ก็ได้
> รถคันนึงใช้กันเฉลี่ยนานมากๆ  แต่ถ้ามีเงินก็ซื้อเพิ่มได้ไม่มีข้อห้าม
> รถใหม่แพง  แต่รถมือสองก็ถือว่าถ้าเป็นรุ่นยอดนิยมก็ขายได้ราคา
> ค่าซ่อมรถน้ำมันไม่แพง เพราะมีทางเลือก

ผมเคยคิดว่ารถ ev จะกินสัดส่วนได้เรื่อยๆ
แต่ตอนนี้เริ่มไม่แน่ใจ เพราะนับวันยิ่งมีอุปสรรค์ที่งอกออกมา

ออฟไลน์ Left lane driver

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 691
Re: Every car,Every brand all at once!
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มีนาคม 19, 2023, 17:43:04 »
นับตั้งแต่ Nissan Leaf ออกขายครั้งแรกในปี 2010
จนถึงตอนนี้ก็ผ่านไปแล้ว 13 ปี รถไฟฟ้าก็ยังไม่ได้แทนที่รถน้ำมันขนาดนั้นครับ
ส่วนแบ่งตลาดของรถ BEV ทั้งโลกในปี 2022 ยังอยู่ ที่เกือบๆ 10% เท่านั้น
กว่าจะเยอะจนเกิน 95% ผมว่าคงหลังปี 2040 ไปอีก

ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,043
Re: Every car,Every brand all at once!
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มีนาคม 20, 2023, 07:54:26 »
สิ่งที่น้ำมันทำได้ดีมากๆ และยังหาอะไรมาแทนไม่ค่อยได้ คือ การเก็บพลังงานในรูปแบบที่ง่ายและถูก (มีถังก็จบแล้ว)

แบต ยังคงเป็น challenge อันดับแรกของรถไฟฟ้า ซึ่งไม่ได้หมายถึงแค่แบตที่อยู่กับรถนะครับ ไฟฟ้าผลิตแล้วเก็บได้ยาก ถ้าไม่มีวิธีจัดเก็บไว้ใช้ทีหลังที่มีประสิทธิภาพมันก็ยากที่จะเกลี่ยกำลังการผลิต ไหนจะวิธีการส่งอีก (ใช้สายไฟ ซึ่งถ้าคนใช้กันเยอะๆก็ไม่พออีก เทียบกับท่อส่ง)

ยังมีอีกหลายโจทย์ที่ต้องแก้ครับ

ออฟไลน์ WASADM

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 567
Re: Every car,Every brand all at once!
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มีนาคม 20, 2023, 09:51:42 »
ยังไงก็ยากมากครับ เรียกว่าเป็นไปไม่ได้เลยจะดีกว่า ตอนนี้น้ำมันเบนซิลโซฮอล 95 ลิตรละ 34-37 บาทโดยประมาน มันเลยทำให้รถไฟฟ้าพอฟัดพอเหวี่ยงได้ เพราะคิดเป็น กิโลเมตร / บาท ได้ถูกกว่าแบบมีนัยสำคัญ ถึงแม้ว่าจะใช้เวลาชาจแบตนานก็ตาม

แต่ลองนึกภาพตาม หากน้ำมันมีราคาถูกลงเรื่อยๆ ไม่ต้องเอาถึงลิตรละ 20 บาทหรอกครับ เอาแค่เหมือนตอนโควิดก็พอ น้ำมันโซฮอล 95 ลิตรละ 28-30 บาท ผมคนนึงแหละที่จะกลับไปใช้รถ Hybrid อย่างแน่นอน เผลอๆตอนนั้นค่าไฟของรถไฟฟ้าจะแพงกว่าค่าน้ำมันเสียอีก แถมรถน้ำมันทำการเติมพลังงานแค่ 10 นาทีเท่านั้น ก็วิ่งได้ 600+ กิโลเมตรแล้วครับ

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,363
Re: Every car,Every brand all at once!
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มีนาคม 20, 2023, 09:55:11 »
เมืองใหญ่ คนอยู่ตึกกันเยอะ ไม่ว่าจะพักอาศัย หรือทำงาน ชีวิตต้องแข่งกับเวลา ถ้าการชาร์ตไฟยังไม่สะดวก หรือใช้เวลานานไป ยังไงรถใช้น้ำมันก็ยังอยู่ครับ

ออฟไลน์ mongolias

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,368
Re: Every car,Every brand all at once!
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มีนาคม 20, 2023, 09:58:23 »
ถ้าต้องขับทางไกลบ่อยๆ ผมว่ารถน้ำมันยังตอบโจทย์ดีกว่ารถไฟฟ้า ไม่ต้องมาเสียเวลากับการรอชาร์จแบตฯ
ส่วนตัวเชื่อว่า ภายใน 10 ปีนี้ ยังไงรถน้ำมันก็ยังมีสัดส่วนมากกว่ารถไฟฟ้า แต่หลังจากนั้นค่อยมาดูมาตรการของทางภาครัฐ รวมถึงการพัฒนาระบบจ่ายไฟ การเก็บพลังงานของรถไฟฟ้าว่าจะทำได้ดีขึ้นขนาดไหน

ออฟไลน์ wooot

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 304
    • อีเมล์
Re: Every car,Every brand all at once!
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: มีนาคม 20, 2023, 15:22:48 »
ปี 2030 ยากครับ ลึกๆแล้วผมเชื่อว่าปัจจัยที่จะทำให้คนส่วนใหญ่ในประเทศเปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้ามากที่สุดคือ

1) ราคารถ
2) ค่าใช้จ่าย  บาทต่อกิโลเมตร
3) ความสะดวก
4) ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา

หรือไม่ก็เป็นนโยบายออกไปเลย เช่น รับซื้อคืนและให้เปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้าตามประเภท
20xx รถยนตืนั่งทั้งหมด
20xx มอเตอร์ไซค์
20xx รถเพื่อการพาณิชย์

โดยส่วนตัวผมยังไม่เห็น critical factor ที่จะทำให้ต้องเปลี่ยนเป้นรถไฟฟ้าในเร็วๆนี้ นอกจากแรงจูงจต่างๆ ซื่งก็ยังไม่ impact พอ

ในแง่มลภาวะหรือพลังงาน ผมก็ยังมีคำถามประมาณนึง เช่น
- กระบวนการผลิตรถไฟฟ้า ใช้พลังงานอย่างไร และปล่อยมลพิษเท่าไหร่
- กระบวนการผลิตแบตเตอรี่ใช้พลังงานอย่างไรและปล่อยมลพิษเท่าไหร่
- กระบวนการกำจัดแบตเตอรี่หรือการปรับปรุงให้สามารถเอากลับมาใช้ได้ใหม่ ใช้พลังงานอย่างไร และปล่อยมลพิษเท่าไหร่
- กระบวนการผลิตไฟฟ้า ใช้เชื้อเพลิงจากไหน ใช้พลังงานอย่างไร และปล่อยมลพิษเท่าไหร่

ทั้งหมดที่กล่าวมาแตกต่างกับรถน้ำมันแค่ไหนอย่างไร

ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,699
Re: Every car,Every brand all at once!
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: มีนาคม 20, 2023, 15:44:19 »
เชื่อเถอะว่า ประเทศต่างๆ ที่ตั้งเป้าแบนรถ ICE ในปี 2030 น่ะ
พอใกล้ถึงวันนั้นจริงๆ ก็ต้องประกาศเลื่อนการบังคับใช้ หรือไม่ก็ออกข้อยกเว้น
เพิ่มเติมให้ เพราะทางฝั่งตะวันตกเองก็ใช่ว่าจะมีแนวโน้มว่าพร้อม
เมื่อถึงเวลานั้นน่ะครับ

ออฟไลน์ InBkk

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,112
Re: Every car,Every brand all at once!
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: มีนาคม 20, 2023, 16:42:21 »
เชื่อเถอะว่า ประเทศต่างๆ ที่ตั้งเป้าแบนรถ ICE ในปี 2030 น่ะ
พอใกล้ถึงวันนั้นจริงๆ ก็ต้องประกาศเลื่อนการบังคับใช้ หรือไม่ก็ออกข้อยกเว้น
เพิ่มเติมให้ เพราะทางฝั่งตะวันตกเองก็ใช่ว่าจะมีแนวโน้มว่าพร้อม
เมื่อถึงเวลานั้นน่ะครับ

ถ้าให้แบนการขายหน่ะ คงพอทำได้ แต่ถ้าจะแบนการใช้ด้วยนี่ คงเกิดจลาจลแน่ๆ เว้นเสียแต่ว่าตอนนั้นรถไฟฟ้ามันคุ้มและสะดวกกว่าในทุกๆ ด้านแล้วจริงๆ

ออฟไลน์ NoName__???

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,133
Re: Every car,Every brand all at once!
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: มีนาคม 20, 2023, 17:40:08 »
คนรอบข้างหลายๆคนจะถอยEV แต่เจอรายจ่ายในอนาคตหลายอย่าง ก็เริ่มลังเลกันแล้วเหมือนกัน  ยิ่งถ้าใช้รถน้อยจุดคุ้มทุนก็นาน

ออฟไลน์ AgentMolder

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,408
Re: Every car,Every brand all at once!
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: มีนาคม 23, 2023, 16:45:17 »
เป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด พอๆกับนกว่ายน้ำได้