ผู้เขียน หัวข้อ: มีใครบ้างที่ไม่ซื้อ Mazda เพราะว่ามันเป็นรถเครื่อง 2.0-2.5 ค่อนข้างกินน้ำมันครับ  (อ่าน 6849 ครั้ง)

ออฟไลน์ Chicken Wings

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 252
มาสด้านี่เป็นอะไรที่มักโดนยกมาพูดทับถมเกินจริงตลอดแต่ไหนแค่ไรแล้ว ตั้งแต่สมัยมาสด้า3bkกัซีวิคfd เว็บนี้เองทำการทดลองขับความต่างอยู่ที่ไม่เกิน3กิโลลิตรแต่คนเอาไปพูดกันต่อว่าซดน้ำมันมากกกกกใช้ไม่ได้เลย มันไม่ได้ซดขนาด5กิโลลิตรอย่างฮัมเมอร์เนอะ เบาะหลังก็อีกพูดกันว่าแคบมากกกกกกกแคบจนนั่งไม่ได้เลยนั่งได้แต่เบาะหน้าผมใช้มาสด้า3มาหลายปีอยู่คนก็นั่งหลังกัน3คนไม่ได้มีใครบ่นเลยโอ้ยแคบมากอึดอัดนั่งไม่ได้เลย จนมาใช้ฟอร์ดโฟกัสที่พื้นฐานเกียวกันเด้ะก็ไม่ได้มีใครมาบ่นเลยว่าแคบมากอึดอัดนั่งไม่ได้ จนผมงงว่าจะด.จ.รกันไปทำไม? มันไม่ได้เล็กขนาด dog seat อย่างออดี้ tt เลย พวกพากันพูดเกินจริงไปมากมาย ผมเห็นด้วยกับที่มีคนว่ากินน้ำมันต่างกันไม่เกิน5กิโลลิตรมันก็มีคนที่ไม่ได้สนใจความต่างแบบกระสิดกระเมีเยนแบบนี้อ่ะครับ ตลาดเค้ามีของเค้า คนซื้อรถแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อต้องการไม่เหมือนกัน จะเกทับจะเหยียดกันเกินจริงทำไม?

แคบก็คือแคบ ไม่เห็นต้องอ้างเยอะ ที่เขาไม่บ่นอาจจะเพราะเกรงใจมากกว่า
ซื้อมาสด้าอย่าเอาคนไปนั่งหลังเลย ทรมานเขาเปล่าๆ




ออฟไลน์ Slow But Sure

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 780
ค่าน้ำมันไม่กลัว กลัวที่แคบ กับมันต่อยอดความแรงลำบาก

ออฟไลน์ wcr

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 54
สำหรับผมเรื่องเครื่องถือว่าเป็นปัจจัยรองครับ ที่ไม่ซื้อเพราะปัจจัยอื่นตามที่สมาชิกหลายท่านพิมพ์ไว้มากกว่า

แคบ, แข็ง (จะว่าสนุกมันก็ไม่ได้สนุกขนาดนั้น เหมือนไม่ลง sweet spot ของความสบายหรือความสนุก), ศูนย์บริการและการบำรุงรักษาที่ยังไม่ค่อยดี

ออฟไลน์ basst

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 80
 เรื่องกินน้ำมัน ผมว่ามีผลนะครับ ถ้าเปรียบเทียบ mazda3, cx-30 กับ corolla, corolla cross ราคาพอกัน แต่ได้เครื่อง hybrid
ใช้จนหมดอายุแบต น่าจะประหยัดไปได้เกือบแสน

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,190
    • อีเมล์
ถ้าคนบอกว่า ไม่แคร์เรื่องส่วนต่างค่าน้ำมัน อาจจะดูแปลกๆ เพราะรถแทบทุกค่าย เขายังมาทาง down sizing หมดเลย

จะมีเงินแค่ไหน ขนาดยี่ห้อใหญ่ๆ แพงๆ เขาต้องเข็น PHEV หรือ HEV ออกมา ขนาดค่ายดาวยังมีตัว NGT (ติดแก๊ซ) ออกมาเลย

จะบอกว่า เครื่อง 2.0 หรือ 2.5 ดีแล้ว ไม่สน ผมว่าอันนี้เหมือนอวยเกินไปหน่อย

ผมว่า เขาอยากทำแหละ ไม่งั้นจะยอมหนีจากโรตาลี่ มาทำสันดาบ 4 สูบ หรือ จนคิดคิดคน SkyactivX หรือ Mazda PHEV ใน CX-60, CX-90 ในเมืองนอกเช่นกัน (แต่ช้ากว่าคนอื่นเขามาก)

อีกอย่าง คือ ตัวรถแคบ ผมลองนั่งดู ลองใช้ดู ก็ไม่ได้ปลื้มนะ แล้วยิ่งการแคบ มันตกแต่งให้กว้างไม่ได้ มันคือ จุดที่คนหันหน้านีกันไปเยอะ

ช่วงล่างไม่ดี(มาก) ยังทำให้ดีขึ้นได้ แต่ ตัวถังแคบ จบเห่เลย

ราคาค่าซ่อมบำรุงแพง ยังพอถูๆ ไถๆ ไปได้อยู่ ถึงจะถูกด่า ถูกเทียบ ก็ยังกล้อมแกล้มไปวันๆ ได้

ออฟไลน์ Chicken Wings

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 252
ถ้าคนบอกว่า ไม่แคร์เรื่องส่วนต่างค่าน้ำมัน อาจจะดูแปลกๆ เพราะรถแทบทุกค่าย เขายังมาทาง down sizing หมดเลย

จะมีเงินแค่ไหน ขนาดยี่ห้อใหญ่ๆ แพงๆ เขาต้องเข็น PHEV หรือ HEV ออกมา ขนาดค่ายดาวยังมีตัว NGT (ติดแก๊ซ) ออกมาเลย

จะบอกว่า เครื่อง 2.0 หรือ 2.5 ดีแล้ว ไม่สน ผมว่าอันนี้เหมือนอวยเกินไปหน่อย

ผมว่า เขาอยากทำแหละ ไม่งั้นจะยอมหนีจากโรตาลี่ มาทำสันดาบ 4 สูบ หรือ จนคิดคิดคน SkyactivX หรือ Mazda PHEV ใน CX-60, CX-90 ในเมืองนอกเช่นกัน (แต่ช้ากว่าคนอื่นเขามาก)

อีกอย่าง คือ ตัวรถแคบ ผมลองนั่งดู ลองใช้ดู ก็ไม่ได้ปลื้มนะ แล้วยิ่งการแคบ มันตกแต่งให้กว้างไม่ได้ มันคือ จุดที่คนหันหน้านีกันไปเยอะ

ช่วงล่างไม่ดี(มาก) ยังทำให้ดีขึ้นได้ แต่ ตัวถังแคบ จบเห่เลย

ราคาค่าซ่อมบำรุงแพง ยังพอถูๆ ไถๆ ไปได้อยู่ ถึงจะถูกด่า ถูกเทียบ ก็ยังกล้อมแกล้มไปวันๆ ได้

ไม่ต้องดูที่ไหนไกล ข่าวน้ำมันขึ้นหลักสตางค์ที่เอามาลง ยังเห็นบนกันระงม แล้วบอกไม่สนส่วนต่างค่าน้ำมัน

 ;D ;D ;D ;D

ออฟไลน์ mark_pro

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 132
    • อีเมล์
ผมไม่ชอบ บริษัทแม่ ครับ นโยบายแปลกๆ
รถเพื่อน M2 เบนซิน ขับมาจะ 5 ปี ยังไม่เคยเปลี่ยนน้ำมันเกียร์เลย มันบอกเป็นนโยบายบริษัท
ถ้าเปลี่ยนต้องเซ็นยอมรับ ก็เลยไม่เปลี่ยนเดี๋ยวประกันเกียร์หมด