ถึงยังมีภาษีอื่นๆอยู่ยังไงก็ถูกลงกว่าไม่มี FTA แน่นอน ลองคิดดูว่าไม่มี FTA แล้วเกิดอะไรขึ้น? โดนกำแพงภาษีนำเข้าประสาทแดกแบบไทยๆเข้าไปจุกๆ ก้อนอื่นๆก็บวมด้วยเพราะมันเอามาคิดทบกันเป็นขั้นตอนทั้งสรรพสามิต, VAT, มหาดไทย
ภาษีนำเข้า = %อากรขาเข้า * ราคา CIF
ภาษีสรรพสามิต = %สรรพสามิต * ราคา SRP (ราคา CIF + ภาษีนำเข้า + ค่าบริหารจัดการ + กำไรมาตรฐาน)
ภาษีมหาดไทย = 10% * ภาษีสรรพสามิต
ภาษีมูลค่าเพิ่ม = 7% * (ราคา CIF+ภาษีนำเข้า+ภาษีสรรพสามิต+ภาษีมหาดไทย)
จะเห็นได้ว่ากำแพงภาษีนำเข้าประสาทแดกแบบไทยๆคือตัวแปรสำคัญหลักๆทำให้ก้อนภาษีทั้งหมดมันบวม ตัดไอ้นี้ไปได้ ลดภาระไปเยอะอยู่
ทีนี้มาดูว่าถ้าไม่มี FTA ได้เห็นราคาประมาณไหนสำหรับรถ BEV ที่นำเข้าจากจีน
Neta V คันละ 1.5 ล้าน
ZS EV, EP/ES, Goodcat, Atto 3 คันละ 2 ล้าน - 2 ล้านกว่าๆ
Maxus 9 คันละ 4-5 ล้าน
XC40/C40 คันละ 4-5 ล้าน
iX3 คันละ 5 ล้านกว่า - 6 ล้าน
Model 3 per, Model Y per คันละ 4 ล้านกว่าๆ
Lotus Eletre ได้เห็น 15 ล้าน++
ดังนั้น คนไทยโชคดีที่มี FTA ภาษีนำเข้า 0% แล้ว จงตักตวงโอกาสผลประโยชน์จากการค้าเสรีนี้ให้มากที่สุด
เงินประหยัดได้เป็นเท่าตัว เอาไปฟินขึ้นเรือบินได้รัวๆประมาณเกือบๆ 40 ครั้ง ใช้เป็นงบประมาณเปย์ได้ประมาณ 1 ปี